ตอนที่ 40 ความเจ็บปวดและความสุข! [ฟรี]
ตอนที่ 40
ความเจ็บปวดและความสุข!
ซูไป๋ปล่อยมือออกจากพวงมาลัย ส่วนเพ็กกี้ก็รีบเอามือไปจับพวงมาลัยเอาไว้เพื่อควบคุมทิศทางของรถ
เนื่องจากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อมากมายทำให้ร่างของซูไป๋และเพ็กกี้ชนกันไปมา ทำให้พวกเขาไม่สามารถขยับตัวได้ถนัดมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกของพวกเขาในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสุข
"คุณอย่าเพิ่งขยับ เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ ขยับตัวและย้ายไปฝั่งนู้น!" ซูไป๋อ้าปากหายใจเข้าออกอยู่สองสามครั้งพร้อมกับหันไปพูดกับเพ็กกี้ จากนั้นเขาก็เอามือจับเอวของเพ็กกี้เอาไว้และพยายามประคองร่างของเธอให้มั่นคง
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ทุกอย่าง การที่จะรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่หลุมและบ่อมากมายขนาดนี้มันไม่สามารถทำได้โดยง่าย ทำให้เกิดเป็นภาพ ... ที่ดูแปลกประหลาดปรากฏขึ้น
ถ้ามีคนมองจากด้านนอกคงจะมองเห็นว่าเพ็กกี้กำลังนั่งอยู่บนตักของซูไป๋ ส่วนซูไป๋ก็เอามือจับเอวของเพ็กกี้เอาไว้ พร้อมกับร่างของพวกเขาทั้งสองคนที่ขยับขึ้นลงไปมา
"คุณช่วยจัดการซูไป๋น้อยของคุณหน่อยได้ไหม!" เพ็กกี้ตะโกนขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ
ซูไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสาว่า "คุณจะโทษผมแบบนั้นไม่ได้ มันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าผมเลือกได้ผมก็หวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนี้ ดังนั้นตอนนี้ผมจึงไม่สบายใจเป็นอย่างมาก!"
"คุณอยู่นิ่ง ๆ เลย เดี๋ยวฉันจะพยายามควบคุมรถเอง"
ความเพลิดเพลินและความสุขแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ซูไป๋ต้องการ
หลังจากพูดจบซูไป๋ก็เริ่มใช้ความสามารถของเขาในการควบคุมรถ หลังจากนั้นรถก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นอย่างช้า ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่สูงมาก แต่มันก็ไม่ได้ติดพื้นอีกต่อไปและความเร็วของรถก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยและดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าเก่าด้วยซ้ำ
"คุณ ..." ถึงแม้ว่าเพ็กกี้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบริเวณด้านนอกรถ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่ารถไม่ได้ตกหลุมอีกต่อไปและความเร็วของรถก็เร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีเลยว่ารถคันนี้มันไม่ได้ถูกควบคุมโดยเธอ
"เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง"
ซูไป๋พูดขึ้นมาพร้อมกับควบคุมรถให้ลอยไปข้างหน้า
"เฮ้อ!!" ในที่สุดหลังจากนั้นไม่นานซูไป๋ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและเพ็กกี้ก็นั่งลงบนที่นั่งฝั่งคนขับได้อย่างมั่นคง
"เฮ้! ดูเหมือนว่ารถคันหน้าจะเริ่มชะลอลงแล้วนะ"
เพ็กกี้ที่กำลังขับรถอยู่จ้องมองไปยังรถคันข้างหน้าที่เริ่มชะลอความเร็วลงราวกับว่ามีอะไรบางอย่างเหนี่ยวรั้งมันเอาไว้จากด้านหลัง ทันใดนั้นเธอก็ได้หันฉากที่น่าอัศจรรย์ราวกับเวทมนตร์ปรากฏขึ้นกับตัวรถ รถบรรทุกคันนั้นค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นจากพื้น ก่อนที่เธอจะรีบหันหน้าไปมองทางซูไป๋ด้วยควาประหลาดใจ และเห็นว่าซูไป๋กำลังยื่นมือออกไปข้างหน้าชี้ไปยังตัวรถ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนทำมัน
"พยายามที่จะขัดขืน?" เมื่อเห็นว่ารถบรรทุกคันข้างหน้าเหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว ซูไป๋ก็พำพัมขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะตะครุบเข้าหากัน
รถบรรทุกหยุดกลางอากาศอย่างกะทันหันพร้อมกับพลิกคว่ำลงกับพื้นเสียงดังตูม
"เกิดอะไรขึ้น …"
เพ็กกี้พูดขึ้นมาด้วยความตกใจและรีบเหยียบเบรกรถทันที เธอเหยียบจดมิดจนไม่สามารถเหยียบได้อีกแล้ว แต่รถก็ยังไม่หยุดสนิท
และในขณะที่จะชนเข้ากับรถบรรทุกจู่ ๆ รถก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
"เฮ้อ!! …" เพ็กกี้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะเหลือบมองไปทางซูไป๋เล็กน้อยพร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาและก้าวลงจากรถ
ทันทีที่เพ็กกี้ออกมาจากรถเธอก็เห็นประตูรถบรรทุกเปิดออกมาพร้อบกับชายคนหนึ่งที่กระโดดออกมาจากตัวรถและยิงไปที่เพ็กกี้อย่างกะทันหัน
"ปัง!"
เพ็กกี้ที่ระมัดระวังตัวอยู่แล้วรีบหลบลูกกระสุนอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นเธอก็พบว่าลูกกระสุนมันหยุดอยู่กลางอากาศ และหลังจากนั้นไม่นานลูกกระสุนก็พุ่งย้อนกลับด้วยความเร็วสูง
ฉึก!
ลูกกระสุนพุ่งทะลุเข้าที่น่องของชายคนนั้น ทำให้ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เพ็กกี้รีบวิ่งไปเตะปืนทิ้งก่อนที่จะกดชายคนนั้นให้นอนหมอบลงกับพื้น
ชายคนนั้นจ้องมองไปที่ซูไป๋ด้วยความเครียดแค้น ส่วนซูไป๋ก็เดินไปที่ด้านหลังรถบรรทุกอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะเปิดมันออก ซึ่งมันก็เป็นตามที่คาดเอาไว้ด้านในมีระเบิดโมเลกุลอยู่มากมาย ซูไป๋หันไปมองชายคนนั้นก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า "ทำไมนายถึงได้มาขโมยระเบิดโมเลกุลพวกนี้? ภารกิจของนายคือการเอาสูตรโมเลกุลกลับคืนมาไม่ใช่หรอ?
เมื่อได้ยินคำพูดของซูไป๋ดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที เขา ... เขารู้ภารกิจที่ฉันได้รับมาได้อย่างไร? เขา ... เขาคนนี้เป็นใครกันแน่?
"โอ้! ฉันลืมไปว่านายพูดไม่ได้ ไม่เป็นไรเพราะยังไงฉันก็ไม่สนใจคำพูดไร้สาระของนายอยู่แล้ว" ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ในขณะเดียวกันหลังจากนั้นไม่นานก็มีรถสองคันขับเข้ามาและจอดอยู่ด้านหลังของพวกเขา
"ผู้อำนวยการดอลลี่ ทอมป์สัน" เพ็กกี้หันไปพูดทักทายคนที่เพิ่งมาถึง นี่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานของเพ็กกี้ในหน่วย SSR
ผู้อำนวยการดอลลี่จ้องมองไปยังชายที่ถูกจับตัวเอาไว้ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่รู้เลยว่าสองคนนี้จับชายคนนี้ได้อย่างไร
"เขาคือ?" ผู้อำนวยการดอลลี่หันไปสั่งลูกน้องให้คุมตัวชายคนนั้นไป ก่อนที่จะหันไปมองทางซูไป๋พร้อมกับถามขึ้นมา
"เขาเป็นเพื่อนของฉันและเป็นคนที่ช่วยฉันจับชายคนนั้นเอาไว้"
"เขาชื่อ ซูไป๋"
"สวัสดีคุณซูไป๋และก็ขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการจับตัวคนร้ายในครั้งนี้" ผู้อำนวยการดอลลี่ยื่นมือออกมา
ซูไป๋ยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า "มือของผมมีไว้ให้เพ็กกี้จับเท่านั้น"
ผู้อำนวยการดอลลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่โกรธที่ซูไป๋แสดงท่าทางไม่สุภาพแบบนั้น ก่อนที่เขาจะยิ้มขึ้นมาและพูดว่า "เพ็กกี้ คุณทำงานได้ดีมาก พรุ่งนี้เช้าเข้ามาพบฉันที่สำนักงานด้วย เอาล่ะ! ตอนนี้เราได้ตัวคนร้ายและสิ่งของกลับมาแล้ว งั้นฉันไม่ขอรบกวนเวลาของคุณอีกต่อไป"
"ผู้อำนวยการดอลลี่ ฉันขอเป็นคนสอบปากคำเขาได้ไหมคะ?" แน่นอนว่าเพ็กกี้มีความสุขสำหรับรางวัลนี้ แต่ในตอนนี้เธออยากที่จะสอบปากคำนักฆ่ามากยิ่งกว่า
"นี่ ... " ผู้อำนวยการดอลลี่ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า "ปล่อยเรื่องการสอบปากคำให้คนอื่นทำเถอะ"
"ผู้อำนวยการ ...!"
เพ็กกี้ต้องการจะพูดอีกครั้ง แต่ซูไป๋ก็หยุดเธอเอาไว้ก่อน
เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการและคนอื่น ๆ ขึ้นรถจากไปเพ็กกี้ก็หันไปมองทางซูไป๋ก่อนที่จะถามขึ้นมาว่า "ทำไมคุณถึงหยุดฉัน? ฉันอาจจะถามเขาเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ ได้มากมาย ถ้าหากทางองค์กรรู้ว่าคนถูกจับไป เขาจะต้องถูกฆ่าทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานอย่างแน่นอน ... "
"หัวหน้าของคุณยังไม่ไว้วางใจในความสามารถของคุณ!" ซูไป๋พูดขึ้น ทำให้เพ็กกี้ที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับพูดไม่ออกทันที
โปรดติดตามตอนต่อไป …