2145 - เรื่องราวในอดีตที่ขมขื่น
2145 - เรื่องราวในอดีตที่ขมขื่น
ฮู้!
ในดินแดนต่างมิติก็มีเสียงคำรามดังขึ้น อันหลานที่เปลี่ยนร่างกายตัวเองให้มีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อกำลังคำรามอยู่ในแม่น้ำแห่งกาลเวลาอันยิ่งใหญ่ด้วยความไม่ยินยอม
“ลืมมันไปเถอะ อาณาจักรทะเลกำลังจะเกิดความไม่เสถียรพวกเราต้องเก็บเรี่ยวแรงไว้จัดการทางฝั่งนั้น” มีเสียงเตือนมาจากท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่
นี่คือจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญอีกคน ตอนนี้เขากำลังสังเกตการณ์อาณาจักรทะเล ไม่มีใครสามารถประมาทสถานที่แห่งนั้นได้ ในตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่นั่นกำลังจะบุกฝ่ามาแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะอาณาจักรต่างมิติมีการเสริมกำลังอย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็คงไม่สามารถเผชิญกับสถานการณ์นี้ได้อย่างสงบเช่นกัน
“จักรพรรดิไม่สามารถขายหน้าได้ เราต้องฆ่าเขาในอนาคต” คำพูดของอันหลานเย็นชามาก หอกสีทองนั้นค่อยๆถอนออกจากโลกที่แตกแยกและบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวถูกขจัดออกไป
ในตอนนี้ วิญญาณของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในเก้าสวรรค์สิบพิภพกำลังสั่นสะเทือน พวกเขาล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ไม่สามารถทนต่อแรงกดที่ไร้รูปร่างแบบนั้นได้
นี่คือจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญอย่างแม่นยำ ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพียงคนเดียวก็สามารถกวาดล้างทุกชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย!
ฮู้!
รากขนาดใหญ่ของต้นไม้โลกถอนตัวกลับเข้าไปสู่ด้านบนของจักรวาล
มันหดจากใหญ่ไปเล็ก เมื่อมันใหญ่ มันสามารถครอบคลุมทั้งโลก เมื่อมีขนาดเล็กมันสูงน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว มันพุ่งเข้าไปในอวกาศ ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางนั้น
สือฮ่าวเห็นชัดเจนว่ายังมีวังโบราณอยู่บนยอดไม้ที่ปลดปล่อยพลังแห่งความโกลาหลออกมาไม่สิ้นสุด!
ตอนนั้นเขาเคยเห็นมันมาก่อน เขาจำได้ว่ากระดูกสัตว์ร้ายที่มีญาณวิเศษโบราณบันทึกไว้ได้ตกลงมาจากบนนั้น อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านไปหลายปี เขาก็ยังไม่เคยพบมันเลย
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เห็นว่าหญิงสาวปีกทองยืนอยู่ที่ทางเข้าวัง เส้นผมสีทองของนางเปล่งประกายดูราวกับเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ แม้แต่ดวงตาของนางก็เป็นสีทอง มองลงมายังทุกสิ่ง
“เจ้านั่นเอง!”
ดวงตาของสือฮ่าวหดตัว ย้อนกลับไปเมื่อต้นไม้สุริยะเทพเบ่งบาน ของเหลวสีทองที่หยดลงมาที่กลีบดอกไม้ก็เต็มไปด้วยความโชคดีตามธรรมชาติ ในขณะเดียวกัน นี่ก็คือหญิงสาวที่นั่งอยู่บนดอกไม้ดอกนั้น
นางคือสิ่งมีชีวิตโบราณที่ถือกำเนิดขึ้นมาในโลกนี้มาเป็นระยะเวลาไม่สิ้นสุด เพียงแต่สือฮ่าวไม่ทราบว่าระดับบ่มเพาะของนางอยู่ที่ระดับใดกันแน่
หลังจากนั้น ต้นไม้โลกก็หายไป มันหดตัวอย่างรวดเร็ว นำแสงที่ส่องมาไม่รู้จบหายไปในอวกาศ!
สวรรค์และปฐพีกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แดนร้างเงียบสงบลง
เดิมทีพวกเขาคิดว่าจะมีการต่อสู้นองเลือดชีวิตและความตาย สือฮ่าวกำลังจะล้มเหลวและเสียชีวิต แม้แต่ราชันย์ดินแดนปิดผนึกก็ยังถูกเชิญมาที่นี่ แต่ทุกอย่างก็จบลงอย่างสงบ
จบแบบนี้ก็ดีเช่นกัน หากมีการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆผลลัพท์ที่คาดเดาได้ยาก
แม้ว่าร่างกายที่แท้จริงของอีกฝ่ายจะข้ามมาไม่ได้ แต่ก็ยังมีตัวแปรมากเกินไป ท้ายที่สุด เขาเป็นถึงจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญคนหนึ่ง เขาคือ อันหลาน!
“เจ้าต้องเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไม่ให้เวลาเจ้ามากเกินไป” ราชันย์ดินแดนปิดผนึกกล่าว
เปลวไฟในกระโหลกแก้วสั่นไหว ตอนนี้ก็พูดออกมาเช่นกัน
“เจ้าเกิดมาผิดยุคสมัยแล้ว!”
พวกเขาถอนหายใจ ในใจคิดว่าสือฮ่าวไม่ได้เกิดมาในยุคที่ไม่มีเวลา ถ้าเขามีเวลาอีกสักระยะ เขาก็ไม่ต้องกลัวศัตรูคนไหน!
สือฮ่าวพยักหน้า เขาต้องผงาดขึ้นอย่างแรง ต้องบุกทะลวงให้กลายเป็นราชาอมตะให้เร็วที่สุด!
ถ้าเขายังคงฝึกฝนเหมือนคนอื่นๆเขาจะต้องตายโดยไม่มีที่กลบฝังอย่างแน่นอน! แม้ว่าตอนนี้เขาจะพยายามฝึกฝนตัวเองให้ดีที่สุดแล้วแต่เขาก็ต้องพยายามมากขึ้นไปอีก
ดินแดนรกร้างสงบลง อย่างไรก็ตาม หัวใจของสือฮ่าวไม่ใช่
เขากลับไปที่ราชสำนัก ปล่อยฮั่วหลิงเอ๋อและมองดูนางด้วยความขมขื่นในใจ
อ่าว…
หมาป่าสีดำขนาดยักษ์นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการค้นวิญญาณ ในเวลานี้มันยังส่งเสียงคำรามออกมาต้องการจะสู้ตายกับเขา
เป้ง!
สือฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่น เพียงเขายกมือขึ้นทั้งสองก็ถูกกดไว้ไม่สามารถขยับได้
หมาป่าสีดำยักษ์แลดปล่อยคำราม มันหดตัวอย่างรวดเร็ว ร่างของมันหดตัวลงสูงแค่ครึ่งจ้าง
ฮั่วหลิงเอ๋อก็ลงมือเช่นกัน เปลวไฟสีดำที่มีรัศมีอมตะปรากฏขึ้น รอบๆตัวของนาง มีนกอมตะที่สร้างขึ้นจากแสงสีดำที่ลุกเป็นไฟ ปลดปล่อยรัศมีพลังที่น่าสะพรึงกลัว
สือฮ่าวไม่ได้ปล่อยให้พวกนางทำตามใจของตัวเองอีกต่อไปเขาใช้รัศมีพลังของตัวเองในการบดขยี้พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกนางจนหมดสิ้น
สือฮ่าวมองดูพวกนางอย่างเงียบๆเวลาช่างไร้ความปราณี มันลบเลือนหลายสิ่งหลายอย่างออกไปจากใจของเขารวมทั้งความทรงจำในอดีตด้วย ผู้หญิงที่คุ้นเคยแต่ไม่คุ้นเคยคนนี้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว
สือฮ่าวกระตุ้นตัวเองอยู่ข้างใน สิ่งนี้ไม่ใช่ฮั่วหลิงเอ๋ออีกต่อไป จิตวิญญาณดั้งเดิมของนางถูกสร้างขึ้นใหม่!
อา…
สือฮ่าวระงับเสียงคำรามที่สะท้อนผ่านวิหาร ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกผนึกไว้ สวรรค์คงจะสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน
“ฆ่าข้าหรือปล่อยข้าไป…”
ฮั่วหลิงเอ๋อมองมาที่เขา เผยให้เห็นการแสดงออกที่แปลกประหลาด นางไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ที่ชื่อฮวงถึงมีท่าทีเจ็บปวดเช่นนี้
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา มันไม่ได้เสแสร้ง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเขา นางเริ่มรู้สึกสงสัย สับสนอย่างมาก
“เจ้าชื่อฮั่วหลิงเอ๋อเคยเป็นองค์หญิงของอาณาจักรไฟ เราพบกันครั้งแรกในภูเขาร้อยยอดที่แตกเป็นเสี่ยงๆ …”
เสียงของสือฮ่าวแหบแห้ง เขานั่งอยู่ที่นั่น เริ่มพูดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่แรกพบ
"เจ้ากำลังพูดอะไร?!" ใบหน้าของฮั่วหลิงเอ๋อเต็มไปด้วยความโกรธ ไม่เชื่อเรื่องนี้
สือฮ่าวไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของนาง เพียงแค่เดินเตร่และพูดถึงรายละเอียดทุกอย่างโดยไม่มีส่วนใดข้ามไป
“ข้ามาถึงอาณาจักรที่สูงกว่า พบเจ้าที่แคว้นบาปวันที่เราจากกัน ตะวันลับฟ้าเหมือนเลือด ต้นไม้หม่อนไฟสีแดงเข้ม กลีบดอกไม้บานเต็มท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ข้าเคยสัญญาว่าจะกลับมาหาเจ้าสักวันหนึ่งเพื่อบอกเจ้าว่าความรู้สึกของข้าไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
เมื่อสือฮ่าวพูดขึ้นที่นี่ ดวงตาของเขาก็ลึกลงไป ย้อนกลับไปพวกเขาไม่เต็มใจที่จะจากกัน ฮั่วหลิงเอ๋อยืนอยู่ข้างต้นหม่อนไฟเพียงลำพัง โบกมืออย่างต่อเนื่อง น้ำตาไหลเพียงลำพัง
ราวกับว่านางรู้ว่านี่จะต้องพรากจากกันด้วยความตายนางยืนอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยวไม่เต็มใจที่จะจากไป แม้ว่านางเกือบจะมองไม่เห็นเขาแล้ว แต่นางก็ยังเรียกชื่อเขาอย่างเงียบๆ
“อย่างไรก็ตาม ข้ากลับไปไม่ได้จึงไม่ได้พบเจ้าอีก!”
ตาของสือฮ่าวเริ่มแสบร้อน เขามองไปยังหญิงชุดดำที่อยู่ข้างหน้าเขาและเกือบจะร้องไห้ออกมา การพรากจากของพวกเขานั้นเป็นการพรากจากชั่วนิรันดร์
บุคคลที่อยู่ตรงหน้านี้แม้ว่าจะมีใบหน้าเหมือนกันแต่แล้วจิตวิญญาณล่ะ? มันอยู่ที่ไหน?!
ตั้งแต่เขายืนอยู่บนจุดสูงสุด หัวใจของเขาแข็งกระด้างราวกับเหล็ก ยากที่สิ่งภายนอกจะส่งผลกระทบต่อเขา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความขมขื่นและความเจ็บปวด
ในปีนั้น วันนั้น การพลัดพรากนั้นทำให้นางเหงาและเศร้ามาก นางไม่เต็มใจที่จะเห็นเขาจากไป นางยืนอยู่ที่นั่นคนเดียวใครที่รู้ว่านานแค่ไหน
หลังจากพระอาทิตย์ตกดินและดอกไม้ร่วงหล่น น้ำตาก็ไหลออกมา ในเวลานั้นนางเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด
สือฮ่าวหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำของตัวเอง เขากล่าวช้าๆด้วยน้ำเสียงที่มืดมน แบกรับความเศร้าโศกอันยิ่งใหญ่ ใครจะคิดว่าการพบปะของพวกเขาจะเป็นไปในรูปแบบนี้
เมื่อเขาพูดถึงเหตุการณ์ที่มือของอันหลานเอื้อมไปบนท้องฟ้า เมื่อแขนนั้นข้ามพรมแดนที่รกร้างว่างเปล่าและยึดแคว้นบาป ลมหายใจของสือฮ่าวก็เริ่มถี่เร็ว
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกว่าหมื่นปีที่แล้ว แต่มันก็ยังชัดเจนอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา ดวงตาของเขาแดงก่ำ หมัดกำแน่น
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ที่เจ้าพูดมาข้าไม่เชื่อ”
ฮั่วหลิงเอ๋อกล่าว นางจ้องไปที่สือฮ่าวและพูดว่า
“ใครสามารถพิสูจน์ได้? มันเป็นเพียงคำพูดข้างเดียวที่เจ้าพูดเพื่อหลอกลวงข้า”
สือฮ่าวอยากจะพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปหนึ่งหมื่นปี โลกทั้งโลกก็สงบนิ่ง ในบรรดาคนรุ่นเดียวกันนั้นเหลืออยู่กี่คน? ทั้งหมดตายไปตามกาลเวลาแล้ว!