บทที่ 38 : หน่วยใบมีด
บทที่ 38 : หน่วยใบมีด
"ชูโจว นายมันเเย่มาก นายเพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้ปลุกพลัง ทำไมสนามพลังของเจ้าถึงเป็นระดับ 17 เเล้วอีกอย่างพลังต่อสู้ของนายยังมากถึง 2300 เเต้ม…….นายทำได้อย่างไร?"
ระหว่างทางออกจากสมาคมโทมาฮอว์ก ซีเหมิงจ้องมองชูโจวด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าเขากำลังมองสัตว์ประหลาดจากยุคดึกดำบรรพ์
".......ฉันก็เเค่ฝึกฝนอย่างตั้งใจ" ชูโจวหัวเราะเบาๆ
"ชูโจว กำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนายในครั้งนี้...ไม่ใช่เงินทุนเริ่มต้นหรือค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้ออาวุธแต่เป็นการได้ทำความรู้จักกับผู้อำนวยการเฉิน"
ดูเหมือนหลี่ชิงฉีจะรู้จักผู้อำนวยการเฉินเป็นอย่างดี เธอจึงอธิบายให้ชูโจวฟังต่อ "สำนักงานใหญ่ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเราในมณฑลกวางตุ้ง สถานะสูงสุดคือประธาน ใหญ่รองลงมาคือผู้อำนวยการสามคน"
"สี่คนนี้คือบิ๊กโฟร์ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กในเมืองหลักกวางตุ้ง พวกเขามีพลังที่น่าทึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเครือข่ายของพวกเขาก็กว้างขวางมาก ไม่ว่าจะเป็นแวดวงของกองทัพ รัฐบาล กลุ่มการเงิน ตระกูลใหญ่...ล้วนมีส่วนได้ส่วนเสียกับพวกเขา ดังนั้นหากนายได้รับความชื่นชมจากผู้อำนวยการเฉิน เส้นทางของนายจะราบรื่นกว่าคนอื่นมาก" หลี่ชิงฉีกล่าว
ชูโจวยิ้มรับ แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดที่จะพึ่งพาผู้อำนวยการเฉินในอนาคตเลย แต่การที่ผู้อำนวยการเฉินมองเขาในแง่ดี นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเขาจะไม่ปฏิเสธมัน
"หลี่ชิงฉี ปกติแล้วคนธรรมดาจะไม่มีทางได้รับข่าวแบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ธรรมดาเหมือนกับพวกเขาเลย" ชูโจวมองไปที่หลี่ชิงฉีด้วยรอยยิ้ม
"ฮิฮิ นายก็ลองเดาดูสิ" หลี่ชิงฉีกระพริบตาอย่างสนุกสนานและทำการปัดผมบนหน้าผากของเธอเบาๆ
ชูโจวพูดไม่ออกและเลิกสนใจเรื่องนี้ จากนั้นเขามองไปที่หลิงซานเเละถามออกมา "บอกฉันหน่อยสิ แผนการในอนาคตของนายคืออะไร"
หลิงซานมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดอย่างใจเย็น "เราสามคนร่วมมือกันมาหลายปี เราเคยชินกับมันเเล้วดังนั้นเราจึงไม่ต้องการแยกจากกัน"
"เพราะเหตุนี้...เราจึงเข้าร่วมโรงยิมโทมาฉฮอว์กด้วยกันเเละจะจัดตั้งทีมเพื่อปฏิบัติภารกิจและล่ามอนสเตอร์ด้วยกันในอนาคต"
"พวกนายทั้งสามคน กำลังวางแผนที่จะจัดตั้งทีมที่มีเเค่สมาชิกสามคน…..ดูเหมือน คนจะน้อยไปหรือเปล่า" ชูโจวถามด้วยความสงสัย
หลังจากเลื่อนระดับเป็นนักรบ ถ้ายังต้องการพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา มันจะต้องมีการผลาญทรัพยากรในการฝึกฝนมากมาย เเละทรัพยากรการฝึกฝนต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อ
ยิ่งกว่านั้น ทรัพยากรการฝึกฝนที่สำคัญมากมาย เช่น น้ำยาเสริมประสิทธิภาพยีนเเค่มีเงินอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ เเต่จะต้องผลงานอย่างเพียงพอด้วย
การล่ามอนสเตอร์เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการรับเงินและคะแนนสะสมจำนวนมาก…… หลังจากที่เกือบทุกคนกลายเป็นนักรบแล้ว พวกเขาสามารถจะไปที่ถิ่นทุรกันดารเพื่อล่ามอนสเตอร์ได้
เเต่อย่างไรก็ตาม การเข้าไปในถิ่นทุรกันดารคนเดียวเพื่อล่ามอนสเตอร์นั้นอันตรายเกินไป ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้วนักรบจะทำการจัดทีมเเละค่อเข้าไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อล่ามอนสเตอร์หรือทำภารกิจต่างๆ เเละทีมทั่วไปมักจะมีสมาชิกสี่หรือห้าคน
พวกหลิงซานที่กำลังจะตั้งทีมเเต่มีสมาชิกมีเพียงสามคน…..มันดูน้อยเกินไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต่างก็เป็นมือใหม่
"ใช่ ทีมของเราขาดแคลนคนจริงๆ..." จู่ๆ ซีเหมิงก็ขัดจังหวะการสนทนาของหลิงซานกับชูโจวจากนั้นกอดคอชูโจวแล้วพูดว่า "ผู้เฒ่าชู นายยังไม่ได้เข้าร่วมทีมใหนใช่ไหม งั้นมาเข้าร่วมทีมของเราสิ"
ดวงตาของหลิงซานและหลี่ชิงฉีเป็นประกายเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของซีเหมิง
… มันคงจะดีมากถ้าได้ชูโจวมาเข้าร่วมทีมของพวกเขาได้
เพราะด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ด้วยกันในการทดสอบชั้นยอด พวกเขาและชูโจวมีพื้นฐานมาจากความไว้วางใจซึ่งกันและกันเเละด้วยศักยภาพของชูโจว เขาจะต้องเติบโตไดเอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาทีม
"ชูโจว มาเข้าร่วมกับเราเถอะนะ" หลี่ชิงฉีกล่าวเสริมซีเหมิง ส่วนหลิงซานไม่ได้พูดอะไรเเค่มองไปที่ชูโจวด้วยความจริงใจเท่านั้น
ด้วยวิธีนี้ชูโจวก็เริ่มคิดหนักเช่นกัน เพราะถ้าหากเขาไม่เข้าร่วมทีมของพวกหลินซาน อาจารย์หยางเฟิงและหัวหน้าอาจารย์ชุยไฮ่เชา น่าจะจัดการหาทีมให้เขาอยู่ดี และอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นทีมที่มีประสบการณ์เเล้ว
แต่…. ชูโจวมีความลับอย่างแผงคุณสมบัติสิ่งนี้ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนและอัพเกรดในอนาคตของเขาจะต้องยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นหากร่วมทีมกับคนแปลกหน้า แน่นอนว่าจะทำให้เกิดการคาดเดามากมายและอาจนำไปสู่การล่อลวงต่างๆ แม้ว่าเขาจะไม่กลัวมันแต่เขาก็พบว่ามันค่อนข้างลำบากเช่นกัน
ยิ่งกว่านั้นการระมัดระวังให้มากขึ้นก็เป็นเรื่องดีเสมอ หลังจากคิดดูเเล้วการเข้าร่วมทีมของพวกหลิงซานดูจะเป็นทางเลือกที่ดี ด้วยพื้นฐานคนที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกันย่อมเชื่อถือได้มากกว่าคนแปลกหน้าเสมอ
"ตกลง ฉันจะเข้าร่วมทีมของพวกนาย" ชูโจวพยักหน้าให้กับหลิงซานและคนอื่นๆ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยอดเยี่ยมจริงๆ ด้วยการเพิ่มคุณเข้ามาความแข็งแกร่งของทีมเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก...แม้ว่าจะมีเพียงสี่คนมันก็จะไม่ด้อยกว่าทีมนักรบรุ่นเก๋าเหล่านั้นเลย" ซีเหมิงหัวเราะเสียงดัง ตื่นเต้นมาก
"ยินดีต้อนรับ" หลิงซานเเละหลี่ชิงฉีกล่าวพร้อมกัน
"เเล้วทีมของเราจะใช้ชื่ออะไรดี" ชูโจวถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ... ทีมของเราเพิ่งก่อตั้งและเรายังไม่มีชื่อ" ซีเหมิงลูบหัวด้วยความเขินอายเล็กน้อย
"พวกฉันก็อยากได้ชื่อเหมือนกัน แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้ด้วยว่าใครจะเป็นกัปตัน... เเละข้อมูลทั้งหมดนี้จำเป็นต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์ก...เเละก่อนหน้านี้ในทีมของเรามีคนเพียงสามคน พวกฉันจึงกลัวว่าทีมของเราจะไม่ผ่านการตรวจสอบหากเราไปลงทะเบียน…..อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นายได้เข้าร่วมทีมของเราแล้ว ดังนั้นการผ่านการตรวจสอบจะไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน" หลี่ชิงฉีหัวเราะ
"สำหรับทีมนักรบ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมคือกัปตัน ผู้เฒ่าชูนายแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นนายต้องเป็นกัปตัน"
"เเละทักษะฝ่ามือมีดและเท้าใบมีดของนายได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้ใบมีดนั้นคมและไม่มีใครเทียบได้...ฉันว่าเราควรตั้งชื่อทีมของเราว่า หน่วยใบมีด!" ซีเหมิงแนะนำ
"หน่วยใบมีด….เป็นชื่อที่ดีฉันเห็นด้วย" ดวงตาของหลี่ชิงฉีเป็นประกายและพยักหน้าเห็นด้วย
" ฉันไม่คัดค้าน" หลิงซานกล่าวเห็นด้วยเช่นกัน
"เอาล่ะซีเหมิง...จากนี้ไปนายควรเรียกข้าว่ากัปตันชู" ชูโจวตบไหล่ซีเหมิงและพูดหยอกล้อ
"เรียกได้เลย กัปตันชู" ซีเหมิงยิ้มกว้างและตะโกนออกไป
"กัปตันชู" หลี่ชิงฉีก็ตะโกนตามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อมองไปที่พวกหลิงซานทั้งสามคน จู่ๆชูโจวก็รู้สึกถึงความรับผิดชอบของตัวเอง….. ในฐานะกัปตันของหน่วยใบมีด จากนี้ไปเขาจะไม่สนใจเเค่ตัวเองได้เท่านั้นแต่ยังต้องคิดถึงหลิงซานและคนอื่นๆ ด้วย
"เอาล่ะ! ตอนนี้ทีมของเราได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว ก็ได้เวลาไปเตรียมตัวเพื่อออกล่ามอนสเตอร์ในถิ่นทุรกันดารกันเเล้ว"
"หลี่ชิงฉีโปรดช่วยฉันลงทะเบียนข้อมูลของทีมของเราบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเรา นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าทุกคนควรใช้ประโยชน์จากเงินทุนเริ่มต้นเพื่อซื้ออาวุธ ยาวิเศษ เเละสิ่งต่างๆที่พวกเราต้องการ"
"เราจะเจอกันอีกครั้งในหนึ่งสัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ถ้ามีอะไรโปรดติดต่อฉันโดยตรง" ชูโจวกล่าว
"เข้าใจเเล้ว" พวกหลิงซานทั้งสามพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นชูโจวก็แยกจากทีมของเขาและเดินไปที่สถานีขนส่งเพื่อเตรียมขึ้นรถเมล์กลับบ้า เเต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ชูโจวจะไปถึงป้ายรถเมล์ รถสีดำคันหนึ่งก็มาจอดข้างๆ เขา
"ชูโจว ฉันโจวหยุนชานจากตระกูลโจว เรามาคุยกันหน่อยดีไหม"
…………………….