ตอนที่ 936 ผลพลอยได้ของถังเทียน
ร่างของถังเทียนอยู่ในสภาพทรงประสิทธิภาพสุดขีด และไม่ด้อยไปกว่าทุกตำนานในประวัติศาสตร์ ร่างที่แข็งแกร่งคงกระพันของเขาเป็นรากฐานของเกราะเทพเจ้า และการควบคุมเกราะของเขายิ่งโดดเด่นมากขึ้นทุกทีไกลเกินกว่าจะพิสูจน์ได้
เทียบกับร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาแล้วการขัดเกลาวิญญาณของเขายังไม่ถึงระดับเดียวกัน
การฝึกจิตวิญญาณในปัจจุบันของเขายังเป็นระดับจิตเสมือนกระจก สภาวะจิตเสมือนกระจกมีความเป็นเอกลักษณ์ช่วยให้เขาสามารถทะลุผ่านทุกอย่างในสภาวะที่สงบเย็นได้ แต่เทียบกับร่างที่แกร่งกร้าวไร้เทียมทานของเขาแล้ว นับว่ายังด้อยสมดุลอยู่
ความจริงเมื่อกลับมาสวรรค์วิถี ถังเทียนใช้เวลาและความพยายามมากมายเพื่อปรับสภาพจิตวิญญาณยุทธของเขา แต่เป็นเพราะอิทธิพลของกลุ่มดาวคนคู่เขากับเสี่ยวเอ้อใช้ร่างร่วมกัน ดังนั้นวิญญาณของเขาจึงแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง เมื่อเสี่ยวเอ้อแยกออกจากเขา วิญญาณพวกเขาแยกออกเป็นสอง และเขาไม่เคยฟื้นจากการบาดเจ็บ(ทางวิญญาณ)ดังนั้นจิตและวิญญาณของเขาไม่เคยตามทันความก้าวหน้าของร่างหยาบเขาเลย
ภายในวังวนพายุกหมุนกระบี่ที่สร้างขึ้นโดยพลังงานกลวงสภาพใจเสมือนกระจกของถังเทียนแตกกระจายเพราะรังสีกระบี่
นี่ทำให้เขาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก ร่างของเขาไร้อันตราย แต่ความเจ็บปวดดูเหมือนจะมาจากส่วนลึกของใจของเขา และดูเหมือนแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา เขาไม่สามารถหลบหรือซ่อนเร้นจากมันได้ ความเจ็บปวดจากความบาดเจ็บในความรู้สึกทำให้ถังเทียนไม่สามารถคิดได้และถ้าใครมองดูอย่างระมัดระวัง ก็จะสังเกตได้ว่าตาของถังเทียนสูญเสียประกาย
ในตอนแรก ความเจ็บปวดที่ฟาดฟันใส่เขาทำให้เขารู้สึกเหมือนปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นใหญ่จากนั้นก็เป็นชิ้นที่เล็กลง และเล็กลงอีก แต่ในเวลาอันรวดเร็ว ความเจ็บปวดของเขาเปลี่ยนแปลง และเขารู้สึกเหมือนกับว่าพลังของเขาเหมือนหินที่ถูกฝนและขัดสี
เป็นความเจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเสียดสีไปทุกซอกมุมตัวของเขาแล้วขัดเป็นครั้งคราว สติของเขาเหมือนกับจะหยุดชั่วขณะ เขาเข้าใจผิดว่าตัวเขาขยายไปตามพายุหมุน เขารู้ว่าเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากร่างของเขาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และเขารู้ว่าเขายังโจมตีใส่กฎธรรมชาติเทียมอย่างเมามัน
เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังแหวกว่ายออกห่างจากตัวของเขาและกลายเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ มองดูตนเองเคลื่อนไหวไวกว่าสายฟ้าและกฎธรรมชาติเทียมทั้งหมดไม่สามารถหลบได้พ้น แต่ความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนมาก และความรุนแรงเพิ่มขึ้นหลายเท่า และเขายังคงคิดว่าเขากำลังจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
แต่กลุ่มกระบี่หนาแน่นหมุนวนด้วยความเร็วสูงส่งเสียงหวีดหวิวอยู่รอบตัวเขา ไม่มีอะไรสำหรับเขา
เขาไม่ได้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงไหนก็ตามไม่ว่าเขาจะถูกเชือดเฉือนกี่ครั้งก็ตาม เขาก็ไม่กลายเป็นเถ้าถ่าน ต่อให้เขารู้สึกว่าสภาวะใจเสมือนกระจกของเขาปี้ป่นเหมือนทรายก็ตาม
แต่รังสีกระบี่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและยังคงบดป่นเม็ดทรายเกิดจากสภาพใจกระจกให้แหลกละเอียดยิ่งขึ้น
ความเจ็บปวดยังคงมีอยู่ไม่สิ้นสุด ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาดิ่งลึกลงไปในทะเลนรกที่โหดร้ายทุกที เหมือนกับการจมดิ่ง
จากมุมมองของเขาเองร่างกายของเขาเองดูเหมือนกับว่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไม่เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้นเท่านั้น แต่เขาไม่เคยพลาดเป้าเลย และเหมือนกับเครื่องจักรนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบนอกจากปากของเขาที่ยังส่งเสียงโหยหวน
เขาทนทุกข์ทรมานขณะที่ชื่นชมความกล้าหาญของเขาเอง วังวนพายุหมุนกระบี่กรีดเสียงหวีดหวิวไม่ด้อยไปกว่าเสียงโหยหวนของเขาเอง ทั้งสองคือความรู้สึกที่แตกต่างกันจากมุมมองของเขาและในร่างกายของเขาปนเปกันซึ่งเป็นความขัดแย้งตามปกติ
ถังเทียนในมุมมองของเขาเองยังสามารถสังเกตเห็นอาซิ่นและคนอื่นๆได้
เสี่ยวม่านอยู่สภาพดีที่สุดพลังนางเติบโตอย่างรวดเร็ว นางมีความคิดที่บริสุทธิ์ที่สุด ในฐานะขุนพลวิญญาณ พรสวรรค์นี้ถูกนำมาจากเมื่อครั้งนางยังมีชีวิต พรสวรรค์ของนางโดดเด่นซึ่งช่วยให้พลังของนางเติบโตกล้าแข็งขึ้น ร่างของนางค่อยชัดเจนมากขึ้นทุกที พลังงานกลวงปรับแต่งร่างกายของนางจนดูชัดเจนไม่ต่างจากคนธรรมดา แต่มีชั้นเงาเลื่อมพรายทำให้ร่างกายนางดูเหมือนแก้วผลึกงามอย่างน่าทึ่ง ดาบยักษ์ในมือนางก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงกลับกลายเป็นว่ายาวขึ้นบางขึ้นและดูสมส่วนขึ้น ตัวดาบดำสนิทและแข็งมาก และมีความบริสุทธิ์เป็นเงาเลื่อมพราย
อาซิ่นก็อยู่ในสภาพที่ดี ร่างของเขากำลังปรับเปลี่ยนแต่เขายังช้ากว่าเสี่ยวม่านเล็กน้อย ‘เอ่?’ ถังเทียนสังเกตว่ากระบี่อมตะในมือของอาซิ่นเมื่อใดก็ตามที่พลังงานกลวงเข้าไปใกล้กระบี่อมตะ ก็จะแตกสลายทันทีและเปลี่ยนเป็นหมอกบางถูกดูดซับโดยตัวกระบี่เอง กระบี่อมตะเหมือนกับฟองน้ำแห้งคอยดูดซับพลังงานกลวงโดยรอบอย่างกระหาย
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงภายในกระบี่อมตะ และรัศมีของการถือกำเนิดเกิดขึ้นในกระบี่อมตะนับครั้งไม่ถ้วน
ปริมาณของพลังงานกลวงที่กระบี่อมตะกำลังดูดซับอยู่เหนือกว่าที่อาซิ่นและเสี่ยวม่านดูดซับรวมกันเสียอีก
เมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้ว สำนึกของถังเทียนสั่นสะท้านทันที ตลอดทั้งร่างของเขากลายเป็นเบา เหมือนกับว่ามีโซ่มองไม่เห็นภายในร่างของเขาแตกสลายออกทันที และเขารู้สึกเบามากความเจ็บปวดในตัวเขาหายไป และความปีติยินดีทะลักเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้
ในขณะนั้นถังเทียนที่สงบได้แล้วก็ตระหนักว่าสภาวะใจเสมือนกระจกของเขาเปลี่ยนแปลงไปเหมือนจะคล้ายกับเมฆหรือขนมปุยสายไหม เมื่อพลังงานกลวงยิงรังสีกระบี่ใส่ นอกจากเกิดระลอกเบาๆ แล้วเขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย
ถังเทียนได้รับความรู้แจ้ง สภาวะใจกระจกของเขาแตกกระจายไปอย่างละเอียดยิ่งกว่าเม็ดทราย และรังสีกระบี่ไม่แตกกระจายอีกต่อไป
เป็นความรู้สึกที่มิอาจอธิบายได้ความรู้สึกแบบใหม่ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าร่างของเขาเบากว่าเดิม และเขารู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจกลับคืนได้ เขาไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย แต่จากลักษณะปัจจุบันที่เห็น มันเป็นเรื่องดี
ทันใดนั้นเขารู้สึกกระหายมาก และอ้าปากหายใจโดยไม่รู้ตัว
วืดดดดด!
พลังงานกลวงปริมาณมหาศาลเปลี่ยนเป็นกระแสไหลทะลักเข้าไปในปากของเขา พลังงานกลวงที่สูบเข้ามาเป็นเหมือนหยดน้ำที่เข้ามาในเนินทรายแห้ง มันเข้าไปในร่างของถังเทียนเหมือนกับว่าเขากำลังกินลูกอมปุยฝ้าย(น้ำตาลสายไหม)
ความสุขที่สุดจะพรรณนาพลุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกสุดของวิญญาณถังเทียน
สภาวะใจเสมือนกระจกเปลี่ยนเป็นลูกอมปุยฝ้ายมหาศาลและเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับพลังงานกลวงอย่างหิวกระหาย ไม่เพียงแต่เป็นความกระหายที่ได้รับการคลี่คลายเท่านั้น แต่กลับรุนแรงขึ้น ถังเทียนดูดซับราวกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน พลังงานกลวงปริมาณมากเหมือนกับหมอกที่ทะลักเข้าไปในร่างของเขา
เวลาคืบคลานไปอย่างช้าๆ แต่สภาวะใจกระจกน้ำตาลสายไหมไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะพอใจแต่อย่างใด
ถังเทียนไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานเท่าใด แต่ในทันใดนั้นความเร็วในการซึมซับก็ช้าลงสภาวะน้ำตาลสายไหมดูเหมือนจะเต็มอิ่มแล้ว และเริ่มหนักขึ้น ขณะนั้นมีน้ำหยดหนึ่งหยดลงมาจากสภาวะน้ำตาลสายไหม
ติ๋ง!
เสียงเหมือนหยดน้ำกระทบกันภายในพื้นถ้ำ
ร่างของถังเทียนสะท้านเฮือก หยดน้ำที่เหลือภายในปุยสายไหมถูกเปลี่ยนเป็นกลุ่มหมอกกระจายไปทั่วร่างทุกส่วนของถังเทียน
ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าร่างที่เป็นเหมือนทะเลทรายแห้งแล้งของเขาถูกหล่อเลี้ยงด้วยฝน และความรู้สึกปีติยินดีแผ่กระจายไปทั่วร่าง ถังเทียนรู้สึกว่าร่างของเขาเบาโหวง เขารู้ว่าเป็นความรู้สึกหลอน ร่างของเขาใกล้จะสมบูรณ์แบบไม่มีอาการบาดเจ็บทางวิญญาณแม้แต่น้อยแล้ว
มันคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงวิญญาณเขา
เป็นไปตามคาด เขาเห็นภาพเงาเลือนรางที่ปรากฏอยู่ในร่างของเขา
หยดน้ำที่กลั่นจากขนมสายไหมกลายเป็นหมอกและกระจายเป็นรูปเงาลวงตาจากนั้นเขาตระหนักได้ว่ารูปนั้นมีจุดแสงสลัวมากมาย และเขารู้ว่าจุดเหล่านั้นคืออาการบาดเจ็บ กลุ่มดาวคนคู่มีวิญญาณคู่ และทั้งคู่เชื่อมโยงกันและกัน ถ้าพวกเขาต้องแยกกันพวกเขาจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณ
อาการบาดเจ็บทางวิญญาณรักษาได้ยากมากยากยิ่งกว่ารักษาขุนพลวิญญาณเสียอีก ขุนพลวิญญาณไม่มีร่างเนื้อดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัว แต่วิญญาณคนเป็นและร่างเนื้อมีความเป็นอันเดียวกันและไม่สามารถแยกกันได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสวรรค์วิถีหรือดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณเป็นดินแดนที่ไม่รู้จักและไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าพวกเขาให้ความสนใจความลับเรื่องวิญญาณอย่างแท้จริง
เป็นครั้งแรกของถังเทียนเมื่อเห็นวิญญาณของตนเอง
ความรู้สึกของวิญญาณของเขาชุ่มชื่นต่างจากความปีติยินดีที่เขาได้รู้สึกครั้งก่อน เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามีอิสระมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าร่างของเขาเป็นกระจกที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่น แต่ความชื้นขจัดคราบสกปรกออกไปได้เล็กน้อย และเขาสามารถรู้สึกถึงสภาวะใจของเขามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเหมือนกับบ้านที่มืดมิดพอเปิดหน้าต่างออกและปล่อยให้แสงอาทิตย์ฉายเข้ามาก็มองเห็นสิ่งต่างๆในบ้านได้
หลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเข้าใจได้ยากเมื่อในอดีตที่ผ่านมากลับดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับลำคลองถูกสร้างมาระบายน้ำไหลออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ เขาได้รับประกายความรู้ความเข้าใจ
ร่างและวิญญาณของเขาเป็นหนึ่งเดียวโดยสมบูรณ์ และหัวใจของถังเทียนได้รับความเข้าใจ
โดยไม่รู้ตัววิญญาณของเขาได้รับการรักษาและด้วยการคิดสภาวะขนมน้ำตาลสายไหมก็หยุดสูบพลังงานกลวง ผลที่ถังเทียนได้รับยิ่งใหญ่มหาศาลจนเขาเองแปลกใจความตั้งใจเดิมของเขาก็เพื่อช่วยอาซิ่น เสี่ยวม่านและพวกขุนพลวิญญาณที่เหลือ แต่ใครจะรู้กันว่าเขาเป็นคนได้รับผลกำไรมากที่สุด หลายอย่างที่เขาเข้าใจยากในอดีตทั้งหมดกลับเข้าใจทะลุปรุโปร่งอย่างสิ้นเชิง
พลังงานกลวงความจริงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างวิญญาณและเป็นสิ่งเฉพาะตัวจากพลังงาน
หลังจากรักษาเยียวยาวิญญาณของเขาแล้ว เขาไม่ได้ดูดซับพลังงานกลวงเหมือนเสี่ยวม่านและพวกที่เหลืออีกต่อไปไป พวกเขาสามารถได้ประโยชน์จากพลังงานกลวงปริมาณมหาศาลเพราะพวกเขาไม่ถูกจำกัดด้วยร่างเนื้อ ถังเทียนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ วิญญาณและกายของเขาเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วและถ้าวิญญาณแข็งแกร่งเกินไป ก็อาจจะทำลายสมดุลระหว่างทั้งสองได้
‘เมื่อวิญญาณและกายหยาบกลายเป็นหนึ่งจะไม่มีปัญหาอะไรมาก’
‘ถึงอย่างนั้น ตั้งวิแต่ญญาณข้าไม่สามารถเพิ่มที่น้ำหนักได้ ข้ายังสามารถพัฒนาคุณภาพได้ เชื่อว่านี่คือวิถีและหนทางการฝึกฝนของมนุษย์’
ของเดิมไร้ประโยชน์ต่อวิญญาณ แม้แต่วิชาขัดเกลาวิญญาณวังวนกระบี่ที่เขาเคยใช้ในอดีต ถ้าเป็นรังสีกระบี่ธรรมดา ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขา นี่เป็นเพราะพลังงานกลวงมีผลต่อวิญญาณของถังเทียน
นี่คือที่ดีที่สุดสำหรับให้ถังเทียนได้ขัดเกลาวิญญาณ และจะไม่มีที่อื่นที่ดีไปกว่านี้อีก ‘ที่ไหนเล่าจึงจะมีพลังงานกลวงไม่มีที่สิ้นสุดนี้? ต่อให้วิญญาณข้าได้รับบาดเจ็บขณะปรับสภาพ ข้าก็สามารถฟื้นขึ้นได้ทันที’ ด้วยอาการอย่างนั้นตอนนี้กังวลกับการรั้งพลัง
โดยไม่ลังเลใจถังเทียนเริ่มปรับสภาพและฟื้นฟูวิญญาณของเขา แม้ว่าเขาจะต้องพบกับประสบการณ์เจ็บปวดอีกครั้ง แต่ผลที่ได้รับมากมายเกินกว่าอาการเจ็บปวด
นอกจากนี้ถังเทียนยังตัดสินใจปรับสภาวะจิตที่เหมือนน้ำตาลสายไหมในตัวเขาโอว ไม่, มันแตกกระจายเหมือนสภาวะใจกระจกของเขา
พลังงานกลวงที่มีไม่สุดสิ้นทำให้เขาได้ลองดูหลากหลายวิธี จะมีที่ไหนเป็นที่ทดลองได้ดีกว่านี้เล่า?
ทันใดนั้นถังเทียนผู้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้รู้สึกว่าพายุหมุนรังสีกระบี่กลายเป็นสวรรค์สำหรับเขา
‘ข้าต้องขอบคุณประมุขผู้อาวุโส...โอวไม่.. ทำอย่างนั้นไม่ถูกต้อง นี่มันน่ากลัว! แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พลเมืองของข้า แต่พวกเขาก็เป็นคนมีชีวิต’
‘อย่างนั้น ข้าจะทำทั้งหมดเท่าที่ข้าทำได้ เพื่อแก้แค้นให้พวกเจ้าก็แล้วกัน!’
‘ด้วยการกำจัดประมุขผู้อาวุโสซะ!’