ตอนที่ 935 ตลกนักใช่ไหม?
สองพี่น้องกระทิงเถื่อนมีจิตใจที่เรียบง่าย
พลังไม่เลว ร่างกายแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยความกล้าหาญแต่น่าเสียดายที่สมองมีแต่กล้ามเนื้อแต่ไม่มีรอยหยัก
ราชาจื่อฟงยังไม่ปรากฏตัวและคาดว่าการรุกรานจากยอดฝีมือระดับนี้คงปลุกเขาตื่นเรียบร้อยแล้ว นักสู้ปราณฟ้าเกือบสิบคนได้ทราบข่าวและเข้ามารุมล้อมต่อยตีกับสองพี่น้องกระทิงเถื่อนอย่างดุเดือด อาคารบ้านเรือนในถนนใกล้เคียงถูกทำลายประชาชนผู้หิวโหยและทหารรับจ้างที่หลบหนีไม่ทันถูกฆ่าตายหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย ในที่สุดมนุษย์เผ่าจิ้งจอกเคราขาวเสนอให้ย้ายไปสู้กันนอกเมืองหลีกเลี่ยงการทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่...เย่ว์หยางเห็นแล้วรู้สึกมึนงง พี่น้องกระทิงเถื่อนเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
“ในเมื่อเจ้าเป็นสหายของเทวีเสรีภาพนางทำสิ่งที่ดีงามต่อสู้เพื่อชีวิตผู้คนทุกคนที่ประสบภัยทนทุกข์ทรมานในภูมิภาคสวนสวรรค์ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าเป็นอย่างไรเพียงแต่เมื่อครู่นี้มีผู้คนบริสุทธิ์กี่คนที่ต้องบาดเจ็บล้มตายจากการพลั้งมือของเจ้า? ถ้าเจ้ายังคงสู้ต่อไปเจ้าจะต้องทำร้ายคนบริสุทธิ์อย่างแน่นอน นี่ถ้าเทวีเสรีภาพรู้ว่าเจ้าพยายามช่วยนาง แต่ก็ทำร้ายผู้คนมากมายนางจะทนรับได้อย่างไร” คนเผ่าจิ้งจอกเคราขาวพูดโน้มน้าวไว้ก่อน
“พวกเจ้าต้องส่งคนมามิฉะนั้นเราจะไม่จากไป” สองพี่น้องกระทิงเถื่อนหยุดมือจริงๆ แต่โชคดีที่พวกเขาโง่ และยังยืนกรานความคิดว่าต้องช่วยเทวีเสรีภาพ
“อย่าบังคับให้ข้าต้องลงมือ ข้าไม่ต้องการทำร้ายผู้คนจริงๆ พวกเจ้าต้องปล่อยเทวีออกมา” กระทิงเถื่อนคนน้องพูดเสียงแผ่วเบา
ความจริง เขาทรงพลังที่สุด
ลงมือด้วยความกร้าวแกร่งรุนแรง
เหมือนกับว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังในร่างได้อย่างสมบูรณ์
บุรุษเผ่าจิ้งจอกเคราขาวฉวยโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายประลองกันอย่างยุติธรรมนอกเมืองใครชนะ ผู้นั้นได้เทวีเสรีภาพไป
พี่น้องกระทิงเถื่อนผู้มีกล้ามเนื้อมากกว่าสมองตื่นเต้นยอมตกลงด้วยเมื่อเห็นการตกลงแบบนี้เย่ว์หยางเกือบจะฟันเจ้าพวกนี้ให้แดดิ้นกับพื้น เจ้าพวกนี้โง่จนเกินเยียวยา รอให้ออกไปนอกเมืองฝ่ายตรงข้ามมิน่าเล่าถึงถูกอีกฝ่ายหนึ่งหลอกให้ไปสู้นอกเมืองอย่างยุติธรรม! มันเป็นเพราะกลัวว่าการล้อมจับของพวกเขาจะก่อให้เกิดการสูญเสียมากขึ้น ดังนั้นคนที่มีปัญญาฉลาดกว่าก็คงคาดไม่ถึงว่าเจ้าโง่ทั้งสองคนนี้จะถูกหลอกได้
หมิงลี่ฮ่าวได้แต่ลอบส่ายหน้า
เทวีเสรีภาพมีแต่คนเช่นนี้อยู่รอบตัวไม่แปลกใจที่นางถูกจับ
กล่าวกันว่าเทวีเสรีภาพยืนหยัดได้ด้วยตนเองจนกระทั่งถูกจับเดี๋ยวนับว่ายิ่งใหญ่ไม่เบา...แต่จากนั้นถ้าไม่ใช่เพราะตัววุ่นวายอย่างสองพี่น้องกระทิงเถื่อนผู้คอยติดตามเทวีเสรีภาพไปทั่วภูมิภาคสวนสวรรค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั่นจะเป็นเรื่องยอดเยี่ยมเพียงไหน
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพี่น้องกระทิงเถื่อนถูกควบคุมตัวด้วยสภาพโชกเลือด
ทั้งสองเหน็ดเหนื่อยอย่างหนักถูกล่ามด้วยโซ่มังกร
ในรถนักโทษ
นอกจากทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำและแผลอาวุธมีคมพวกเขายังถูกวางยาบนผิวหนังส่งผลให้สองพี่น้องกระทิงเถื่อนร่างอ่อนแรงไม่สามารถต้านทานได้
“เจ้าทุกคนมันพวกต้มตุ๋นหลอกลวงไม่ต่างอะไรกับพวกเหลือบแมลงดูดเลือด ถ้ามีความสามารถก็ปล่อยเราสองพี่น้องแล้วมาสู้กันอีกครั้ง! เจ้าสุนัขขี้ขโมยไร้ยางอาย สักวันคนโกงอย่างเจ้าจะถูกเทพในภูมิภาคสวนสวรรค์ลงทัณฑ์อย่างหนักหนาสาหัส!” สองพี่น้องกระทิงเถื่อนต่างสบถด่าด้วยความโกรธมาตลอดเส้นทาง
“ฮือๆๆ...” พี่น้องกระทิงเถื่อนร่ำร้องอย่างพวกเขาเศร้าเสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ร้องให้ดังกว่านี้อีก เอาให้ดังเลย ฟังแล้วมันสะใจเป็นบ้าง!” มนุษย์เผ่าจิ้งจอกเคราขาวพูดด้วยความพอใจ
“บัดซบ!”
นักสู้ปราณฟ้าเกือบสิบคนที่รุมล้อมโจมตียังสู้มนุษย์เผ่าจิ้งจอกคนเดียวไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่อยุติธรรมอย่างสิ้นเชิงและเป็นการวางแผนอย่างไร้ยางอายแต่น่าที่งที่พลังของพี่น้องกระทิงเถื่อนมีมากมายเกินคาดด้วยกำลังโจมตีเก้าต่อสองคนกว่าจะปราบได้สำเร็จ แต่ทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บแม้หลังจากพิชิตกระทิงเถื่อนผู้พี่ได้ แต่ดูเหมือนผู้น้องจะคลุ้มคลั่งและฆ่าสหายของพวกเขาไปคนหนึ่งถ้าไม่ใช่เพราะคุกคามกระทิงเถื่อนคนพี่ให้พ่ายแพ้ อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะกระทิงเถื่อนคนน้องที่กำลังบ้าคลั่งได้
เห็นได้ชัดว่าเป็นการต่อสู้ที่ง่าย แต่ตอนนี้พวกเขาละอายใจที่เกือบทำให้ภารกิจล้มเหลว
เจ้านักสู้กระทิงเถื่อนทั้งสองคนนี้สัตว์ประหลาดชัดๆ!
เย่ว์หยางเดินลงบันไดและโบกมือให้หมิงลี่ฮ่าวว่าเขากำลังยุ่งและจะขอแยกตัวไปก่อน หมิงลี่ฮ่าวเงียบไปชั่วครู่เด็กน้อยเจ้าจะไปก่อเรื่องยุ่งในเวลานี้หรือ? นักสู้กระทิงเถื่อนสองคนก่อความวุ่นวายเจ้าก็ยังอยู่นิ่ง แต่พอคนถูกจับเจ้าจะไปทำอะไร?
นอกจากนี้เจ้าสองคนนี้มีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้สมอง ต่อให้ช่วยออกมาได้ นอกจากเป็นแค่สัดใส่ข้าวพวกมันจะทำอะไรได้?
แม้ว่าจะรู้สึกปวดหัวแต่เขาก็ไม่ห้ามเย่ว์หยาง
ไม่ว่าเจ้าเด็กนี่จะทำอะไรหมิงลี่ฮ่าวจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นเขาเฉียดออกไปอีกทางด้านหนึ่งไม่ต้องการจะสนใจเรื่องอย่างนี้
“เฮ้,, นี่มันเรื่องยุ่งยากใหญ่สำหรับตระกูลข้าไม่ใช่หรือ?พวกเจ้าถูกจับได้อย่างไร? ตอนแรกข้าบอกไว้ว่าให้ทำอะไร เมื่อข้าคุณชายบอกให้เจ้าพาน้องชายไปเฝ้าประตู ไม่ให้ทำอะไรแค่ให้เฝ้าประตู เจ้าทำงามหน้านัก หนีไปกับน้องชายปล่อยให้คนจับพวกเจ้าไปเป็นทาสยืนขึ้น พวกเจ้าช่างเหลวไหลจริงๆ น่ารำคาญ ข้าตัดสินใจปล่อยเจ้าตามลำพังแล้ว รีบขอโทษข้าเสียดีๆมิฉะนั้นข้าจะตัดหางลอยแพพวกเจ้า” เย่ว์หยางหยุดรถคุมขังสองพี่น้องกระทิงเถื่อน และทำเหมือนกับว่าสองคนเป็นยามเฝ้าบ้านของเขา
“มันเรื่องอะไรกัน?” ขณะที่มนุษย์จิ้งจอกเคราขาวสับสนแต่เขาไม่เคยได้ยินว่าสองพี่น้องนี้เคยเป็นผู้คุ้มกันของใคร?
“ไม่ทราบว่า....” นักรบปราณฟ้าที่ยังเหลืออีกแปดคนมองหน้ากันและ
“น้องเรา, เจ้ารู้จักเขาไหม?” กระทิงเถื่อนคนพี่ความรู้สึกช้ามากและมองคนแปลกหน้าอยู่นาน “ดูเหมือนว่าเราไม่เคยเป็นผู้คุ้มกันใครนะ?เจ้าล่ะเคยเป็นบ้างไหม?”
“ไม่ ไม่เลย” กระทิงเถื่อนคนน้องปฏิเสธครั้งนี้บรรยากาศเงียบ
“นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด...” จินฟันทองเพิ่งออกมาทำหน้าที่ต้อนรับทันทีที่เย่ว์หยางออกมาขวางรถคุมนักโทษ เขาหวาดกลัวแทบตาย ทันทีที่เขาเห็นเขาเข้าใจว่าคุณชายไตตันคงรู้สึกอยากช่วยด้วยใจเป็นธรรมจึงรีบออกมาช่วยเจ้ากระทิงเถื่อนสองคน แต่เขาไม่รู้จักกาละและเทศะ แน่นอนว่าคุณชายไตตันเด็กหนุ่มสูงศักดิ์ไม่ได้เกี่ยวข้อง หัวหน้าจินฟันทองไม่อาจเฉยได้มิฉะนั้นก็เท่ากับผลักดันคุณชายไตตันไปเป็นฝ่ายตรงข้ามราชาจื่อฟง
“เข้าใจผิด?” มนุษย์จิ้งจอกเคราขาวรู้เรื่องอยู่บ้าง
“เข้าใจผิดอะไร ข้าคิดว่าเป็นการหักหลังต่อกลุ่ม!”มีนักสู้ปราณฟ้าที่อยู่ในอารมณ์เสียใจเพราะคนที่ตายในการต่อสู้เป็นสหายของเขาแม้ว่าเขาจะไม่ทราบรายละเอียดของอีกฝ่าย แต่เขาอดแค่นเสียงไม่พอใจเมื่อพูดถึงเจ้าเด็กนี่
“หัวหน้าจินฟันทอง! เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หัวหน้าผู้ดูแลมาแต่ไกลเขาเป็นชายชราผอมแต่งกายในรูปแบบคนยุคเก่า
“ความจริงคุณชายไตตันท่านนี้เป็นตัวแทนผู้นำของหอการค้าไตตัน หลังจากมีชื่อเสียงเขามาร่วมคารวะงานวันเกิดสนมจูกวงด้วยความจริงใจ....คุณชายไตตันรักความซื่อสัตย์และยุติธรรม นอกจากนี้คุณชายไตตันยังมีอารมณ์ขันชอบเล่นสนุก” หัวหน้าจินฟันทองรีบรายงานหัวหน้าพ่อบ้านผู้ดูแลและหาข้อแก้ตัวให้เย่ว์หยางที่กำลังมีปัญหา
“กลับกลายเป็นเรื่องล้อเล่นนี่เอง! ฮ่าฮ่ามาเถอะคุณชายไตตัน เชิญเข้าสู่วังหลวงพร้อมกับนักรบผู้มีชื่อ ราชาของเราในฐานะเจ้าภาพได้จัดเตรียมงานเลี้ยงและส่งเสนาบดีมาคอยต้อนรับท่าน วันนี้เราเอาชนะศัตรูได้ สมควรจะได้ฉลองกัน ไม่เมาไม่เลิกรา!” หัวหน้าผู้ดูแลเมื่อได้ยิน ยังไม่ต้องการมาในตอนนี้ ตามคำพูดของจินฟันทอง หัวหน้าผู้ดูแลสามารถเข้าใจเรื่องราวได้ คุณชายผู้นี้คงเป็นคนโปรดของตระกูล เขาไม่เห็นนักสู้ปราณฟ้าเกือบสิบคนอยู่ในสายตากลับจะคุ้มครองสองพี่กระทิงเถื่อนผู้น่ารังเกียจ ดังนั้นเขาจึงยืนหยัดเรียกร้องความเป็นธรรม
“เรื่องตลกแบบนี้ไม่สนุกแม้แต่น้อย!” ชายชราเผ่าจิ้งจอกเคราขาวหัวเราะ
“ข้ารู้, นี่ไม่ใช้เรื่องตลกแม้แต่น้อย!” นักสู้ปราณฟ้าผู้มีชื่อเสียงออกันอยู่ที่ทางออก
“เฮ้, จะจับเจ้าเด็กนี่ง่ายๆต่อให้ไม่ใช่อยู่ในกลุ่มกบฏ ข้าเกรงว่าคงไม่อาจตัดสัมพันธ์ได้” มีความไม่พอใจปรากฏอยู่ในสายตาของหมิงลี่ฮ่าวนักสู้ปราณฟ้าผู้รู้จักเย่ว์หยาง
“พวกเจ้าต้องไม่โกรธอาคันตุกะของพวกเจ้า นี่เป็นเพียงความเข้าใจผิด...” หัวหน้าจินฟันทองรีบเข้ามาขอโทษโดยไม่ยอมให้อีกฝ่ายกล่าวโทษ
“แล้วจะเป็นยังไงถ้าข้าบอกว่าไม่ใช่การเข้าใจผิด?” นักสู้ปราณฟ้าผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อหมิงลี่ฮ่าวและมีพลังปราณฟ้าระดับสามและเขาเป็นคนเดียวที่จับพี่ใหญ่ของสองพี่น้องกระทิงเถื่อน ถ้าเย่ว์หยางไม่เรียกหมิงลี่ฮ่าวเมื่อวานนี้ เขาคงไม่ตกเป็นเป้าหมาย แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจเล่นงานเจ้าเด็กนี่ก่อน ต่อให้เขาไม่สามารถทำอะไรเจ้าเด็กนี่ได้เขาจะต้องสร้างความอับอายทำให้หมิงลี่ฮ่าวเสียหน้าในกลุ่ม
“เรื่องนี้...” หัวหน้าจินฟันทองไม่กล้าพูด
นักสู้ปราณฟ้าระดับสามไม่ใช่ผู้ที่เขาควรล่วงเกิน
แต่เขายังคงยืนยันอยู่ฝ่ายเย่ว์หยาง ที่สำคัญตระกูลที่อยู่เบื้องหลังคุณชายนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง เขาอยากจะต่อต้านนักสู้ปราณฟ้าแต่ถ้าเขาไม่ยอมถอยในเวลานี้ มิฉะนั้นเขาจะตายเหมือนหญ้าที่ถูกเหยียบย่ำแหลกราญ
หัวหน้าพ่อบ้านผู้ดูแลต้องการจะโน้มน้าว แต่นักสู้ปราณฟ้าผู้ดื้อรั้นแค่นเสียงเย้ย “พ่อบ้านเย่ ตอนนี้เป็นเรื่องของข้ากับเขา!”
หัวหน้าพ่อบ้านมีแววขุ่นเคืองใจ
แม้ว่าเขาจะมีพลังไม่เลวแต่ในฐานอาคันตุกะคนหนึ่ง ควรจะเห็นแก่หน้าเจ้าบ้าน ไม่ควรก่อเรื่องครึกโครม
แต่เขาคุ้นชินกับโลกแล้วไม่แสดงอารมณ์โกรธหรือพอใจเขาเผชิญหน้ากับนักสู้ปราณฟ้าผู้ดื้อรั้นและพูดประโยคหนึ่งเบาๆ “ดี. เราผู้เฒ่ากำลังรอ ราชาเราไม่เพียงแต่อัธยาศัยดีแต่ยังอดทนได้เสมอ อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมีเรื่องส่วนตัวต้องจัดการเราผู้เฒ่าคงต้องหลีกทาง คุณชายไตตัน เป็นเพราะผู้เฒ่าไม่สุภาพ เราต้องขออภัยก่อน”
มองผิวเผินหน้าของเขาเหมือนวางตัวเป็นกลางแต่เขาค่อนข้างลำเอียงไปทางเย่ว์หยาง
ที่สำคัญเมื่อกวาดตามองที่นั่นเย่ว์หยางคุณชายผู้มีชื่อ เป็นอาคันตุกะที่เจ็บตัวเพราะบริวารของเขาเอง
“พ่อบ้านเย่, ไม่ต้องห่วง สุนัขมันเห่า แค่โดนตบปาก เดี๋ยวมันก็หยุดไปเอง” ทัศนคติที่หยิ่งผยองของเขาทำให้บรรยากาศของผู้ชมดูเหมือนกันคือชมดูด้วยความตื่นเต้นหนาวสะท้าน
ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี่ยากจะตอแย
นักสู้ปราณฟ้าที่เริ่มหาเรื่องก่อนลอบลำบากใจ
แม่มันเถอะหมิงลี่ฮ่าวรู้จักกับเจ้าเด็กนั่นและดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนั่นรับมือไม่ได้ง่ายเลย ถ้ามีตระกูลแข็งแกร่งหนุนหลังเขา อย่างนั้นคงมีเรื่องเดือดร้อน
สิ่งที่ทำให้เขากดดันมากที่สุดก็คือทุกคนเฝ้ามองด้วยความตื่นเต้น และเป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกรากลางครัน ตอนนี้เขาต้องลุยเดินหน้าต่อรอจนกว่าได้เวลาเหมาะจากนั้นค่อยหาทางถอย
“เจ้าเด็กน้อย, เจ้าเป็นใคร?ทำไมถึงได้หยิ่งผยองนัก?” นักสู้ปราณฟ้าโกรธและถามรายละเอียดเย่ว์หยาง
“อย่างเจ้าไม่มีคุณสมบัติถามข้า...ออกมานี่ คว่ำเจ้าผู้นี้ซะ หลังจากครึ่งเป็นครึ่งตายค่อยบอกเขาว่าเราคุณชายเป็นใคร!” เย่ว์หยางดีดนิ้ว แต่มีเพียงฟงจีและจินหวินโดดออกมา ฟงจีปาดเหงื่อรายงาน“รายงานคุณชาย หัวหน้าจงกวนยังไม่กลับมา ถ้าท่านต้องการทุบตีผู้คนท่านคงต้องให้ขโมยน้อยอย่างเราทั้งสองร่วมมือกัน”
“อะไรนะ?” ทุกคนตกตะลึง นี่ล้อเล่นกันหรือเปล่า?มีแค่ขโมยสองคน พวกเขาจะสู้กับนักสู้ปราณฟ้า” ทุกคนถอนหายใจเฮือก!
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเจ้าจะเล่นตลกก็ไม่บอกฮ่าฮ่าฮ่า!”
ตอนนี้นักสู้ปราณฟ้านั้นถอนหายใจโล่งอก แต่โชคดีที่เจ้าเด็กนี่เก่งแต่ปากแต่ไม่มีความกล้าอยู่จริง
เขาหัวเราะอยู่นานและแค่ต้องการเดินไปตบหน้าเจ้าขโมยทั้งสองให้กระเด็นและจากนั้นข่มขู่เจ้าเด็กนี่บอกไม่ให้เขาหยิ่งผยองอีกในอนาคต เขาคาดไม่ถึงเมื่อพบว่ามีความเคลื่อนไหวเขารู้สึกว่ามีบางคนอยู่ที่ด้านหลัง และมีมากกว่าหนึ่งคน อย่างน้อยสามคน เขาไม่รู้ว่าพวกนี้ลอบเข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อใดและเตรียมพร้อมโจมตี
อย่างไรก็ตามหน่วยคุ้มกันเหล่านี้อยู่ตรงนั้นตลอดเวลาแต่จงใจแสดงความอ่อนแอเพื่อไม่ให้เขาสนใจ
แล้วตกลงมาในกับดัก
“ตลกนักใช่ไหม? หัวเราะอีกสิทำไมเจ้าไม่หัวเราะ? หัวเราะต่อไป!” มีเสียงเย็นชาดังลั่นขึ้นทำให้นักสู้ปราณฟ้าผู้นั้นหลั่งเหงื่อเยียบเย็น