ตอนที่แล้วตอนที่ 926 เจ้ารวดเร็วมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 928 ใช้กำลังก่อน มารยาทตามหลัง

ตอนที่ 927 ความสำนึกและเชื่อใจ


“พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?” ทหารเมืองลู่หลิวมองดูอดีตนายกองที่หลบหนีออกมาจากเมืองเฮยหลิง

“....” อดีตนายกองเมืองเฮยหลิงมีสีหน้าอึดอัด

ถ้าบอกว่าไม่รู้จักกันแต่เจ้าบ้านี่กลับมาทักทายเขาเองด้วยความกระตือรือร้นเหมือนกับเป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกัน  ถ้าเขาบอกว่าไม่รู้จักก็คงไม่มีใครเชื่อ!  แต่ถ้าบอกว่ารู้ก็เท่ากับยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มขโมยนี้ด้วยไม่ใช่หรือ?  นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจจดจำได้แน่นอน  ผลที่ตามมายากจะคาดคิด

ไม่มีทางเลือกนอกจากทำเป็นไม่ได้ยิน

อย่างไรก็ตามขโมยที่ทำหน้าที่เบิกทางยื่นถุงเงินค่าธรรมเนียมให้ทหารเมืองและพยักหน้าสรรเสริญ  “ใช่แล้ว เราอยู่ด้วยกัน!”

เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมานายกองเมืองเฮยหลิงนึกอยากจะฆ่าเขา

น่าเสียดายที่พลังของเขาด้อยกว่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด  ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือก

นอกจากแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

อย่างไรก็ตามเป็นการไม่ฉลาดเลยแทนที่จะรออยู่ในเมืองลู่หลิว เขามองหาหนทางหลบหนี!

อดีตนายกองทหารเมืองเฮยหลิงเบียดฝูงชนเข้าไปในเมืองผ่านไปตามถนนที่มีผู้คนหนาแน่นเขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทุ่มกำลังหนีกลุ่มคนค้าทาสที่ตามมาข้างหลังเขา  ถ้าเป็นไปได้เขาต้องการวิ่งไปที่ประตูเมืองอีกด้านหนึ่งให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้และออกไปจากที่นั่นหนีไปทุกวัน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับเมืองลู่หลิวเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วม!  แม้ว่าราชาจื่อฟงจะมีพลังปราณฟ้าระดับห้า ถือว่าทรงพลังมากและมีนักรบบริวารระดับปราณฟ้าหลายคน แต่ในช่วงไม่กี่วันนี้เมืองสิบเมืองที่ใกล้เคียงที่สุดในอาณาจักรจื่อฟงมีกลุ่มคนจับทาสที่น่ากลัวใช้รถคุมขังนำทาสเข้าเมือง  รวมทั้งเมืองลู่หลิว อดีตนายกองทหารยามไม่ได้มองราชาตนเองในแง่ดีแม้แต่น้อย

ถ้าไม่มีพลังที่เฉียบขาด  ใครเล่าจะทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์?

กลุ่มค้าทาสนี้กล้าพิสูจน์ความมั่นใจของพวกเขา

ถ้ามองไปที่รถคุมขังนักโทษดีๆจะเห็นว่าเป็นเจ้าเมืองและขุนพลทหารรักษาการณ์ เขารู้สึกเยียบเย็นจับใจ

เว้นแต่จักรพรรดิแดนดินแล้วจะเอาชนะเจ้าเมืองมากมายขนาดนี้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?  เมืองหยางถี, ซาเหยียน, เกอปี้, จิงจี๋, หูเถา,สุ่ยหนิวและเฮยหลิง เจ้าเมือง เจ้าแคว้นและขุนพล ทุกคนถูกพันธนาการอยู่ในรถจองจำ  นี่คือพลังแบบไหนกัน?

นอกจากนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้มีพลังระดับจักรพรรดิแดนดินแล้วแค่ใช้มังกรเดินดินจะสามารถไล่ตามทันกริฟฟินที่บินอย่างรวดเร็วและผ่านรอยแยกมิติได้อย่างไร?

แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังที่แข็งแกร่งเท่าใดนัก  แต่นายกองทหารยามประจำประตูเมืองเฮยหลิงเป็นนายทหารมานาน  เคยพบเห็นผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน.....เขาไม่เคยเห็นนักสู้อย่างนักรบเกราะเงินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทอง  เขาไม่อาจตัดสินความเข้มแข็งและอ่อนแอจากสายตาของเขาได้  แต่เมื่อเขารู้สึกลึกๆ ได้ในใจ  เขาจะยิ่งพบความน่าสงสัยนี่ใช่คู่รักในสามจักรพรรดิแดนดิน จักรพรรดิแห่งความแค้นใช่หรือไม่? มีแต่จักรพรรดิแห่งความแค้นที่ให้ความเมตตาสงสารพวกทาส!  แต่จักรพรรดิแค้นปรากฏตัวในอาณาจักรจื่อฟงได้อย่างไร?  บึงหยุดลมซึ่งเป็นภูมิภาคควบคุมของจักรพรรดิแค้นอยู่ไกลเกินไป  และนี่ไม่ใช่เขตสงคราม!

อดีตนายกองทหารยามเมืองเฮยหลิงไม่เข้าใจที่มาของกลุ่มค้าทาสนี้เลยจริงๆ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนี้ถึงมาที่นี่

อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาคิดถึงปัญหาเหล่านี้

สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือรีบหนีออกไปจากเมืองลู่หลิวและหลบหนีไปให้ไกลไม่ยอมให้กลุ่มค้าทาสนี้ไล่ตามได้ทัน

“เฮ้, รอเดี๋ยว”ขโมยผู้ขับขี่กิ้งก่าขายาวไล่ตามเขามาอีกครั้งพร้อมกับพูดยิ้ม  “แม้ว่าพลังของเจ้าจะแย่  และห่วยกว่าข้ามากมายนัก  แต่สายตาของเจ้านับว่าไม่เลว  ข้าขอแนะนำให้เจ้าอยู่ในกลุ่มหน่วยคุ้มกันของเราดีไหม? สัญญาได้เลยในฐานะคนเก่าข้าจะต้อนรับเจ้าเข้าร่วมกลุ่มอย่างอบอุ่น! อ๊ะ, ลืมไป ข้าชื่อฟงจี เจ้าล่ะ ชื่ออะไร?”

“ฟงจี? เดิมเจ้าเป็นเจ้าเมืองหยางจินไม่ใช่หรือ?” นายกองทหารยามเมืองเฮยหลิงรู้สึกว่าเจ้าขโมยที่ทำหน้าที่เบิกทางดูคุ้นอยู่บ้าง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นเจ้าเมืองและเป็นเจ้าเมืองหยางเจินที่เกือบจะกลายเป็นตำนานเพราะอดหยากตาย!

“เรื่องนั้นผ่านมาสิบวันแล้ว  ตอนนี้ข้ามีคุณสมบัติเป็นหน่วยคุ้มกันผู้ภักดีแล้ว”  ฟงจียอมรับอย่างไม่เห็นแก่ตัว!

“ไม่อยากเป็นเจ้าเมือง  แต่เจ้าอยากเป็นหน่วยคุ้มกันอย่างนั้นหรือ?”นายกองทหารยามเมืองเฮยหลิงคิดว่าเจ้าเด็กนี่สมองมีปัญหาแต่ในใจของเขาคงคิดว่าได้เป็นหน่วยคุ้มกันของจักรพรรดิแดนดินดีกว่าเป็นเจ้าเมืองและพื้นที่เมืองหยางจินนั้นยากจนและไม่มีอะไร ข้าวยากหมากแพงได้ย้ายไปทำหน้าที่หน่วยคุ้มกันไม่ใช่เรื่องน่าอายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่ไม่ยอมเป็นหน่วยคุ้มกันจะกลายเป็นเชลยถูกคุมขังอยู่ในรถข้างหลังการทำหน้าที่ของฟงจีผู้นี้น่าจะดีมากอย่างแน่นอน! นายกองทหารเมืองเฮยหลิงพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น  “นายท่าน, โปรดละเว้นข้าเถิด  อย่าลงโทษข้ารุนแรงเลยข้าเพียงแค่ต้องการมีชีวิตอยู่รอดเท่านั้น ข้าจะไม่มีวันพูดถึงการต่อสู้ของผู้ปกครองระดับสูงนี่ไม่เกี่ยวข้องกับข้าและมดแมลงอื่นๆ โปรดยกโทษให้ข้าเถอะ!”

“น่าเบื่อจริงๆ แต่ข้าก็ยังคิดว่าเจ้ามีสายตาที่ไม่เลว คิดว่าจะใช้การได้นึกไม่ถึงเลยว่าจะขลาดเขลาอย่างนี้!” ฟงจีโบกมือเบื่อหน่าย  “ไสหัวไป!”

“ขอบคุณนายท่าน, ผู้ต่ำต้อยจะหนีไปทันทีและจะไม่โผล่มาให้เห็นอีก!” นายกองทหารยามเมืองเฮยหลิงใจฟู เขาสงบอารมณ์และหลับตา  อีกฝ่ายไม่ได้ดูถูกสถานะต่ำต้อยของเขา

ขณะที่นายกองทหารเมืองเฮยหลิงเตรียมจะออกเดินทางให้เร็วที่สุดในชีวิตของเขา

ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

เป็นหนึ่งในสองนักรบเกราะเงินที่อยู่บนหลังมังกรเดินดินบุรุษลึกลับที่เคยกล่าวว่าเหล้าประตูหงส์และเนื้อมีกลิ่นแรง และเส้นทางทำให้หลังขดหลังแข็ง  เขาได้ยินบุรุษลึกลับถามฟงจี  “ทำไมเจ้ายังไม่ไปอีก?”

ฟงจีหันมากล่าว “นายท่านเรื่องเป็นเช่นนี้ ข้าพบคนที่น่าทึ่งคนหนึ่งต้องการแนะนำให้เขาเข้ากลุ่มหน่วยคุ้มกัน แต่ว่าเขามีความกล้าหาญไม่มากพอข้าไม่รู้จะทำอย่างไร” เมื่อเขาพูดเสร็จเขาหันกลับไปชี้ที่นางกองทหารเมืองเฮยหลิง ฟงจีกล่าว “เกือบไปแล้ว เขายังไม่ได้ไป”ทำให้นายกองทหารยามเมืองเฮยหลิงร้องไห้ทันที จบกัน

นักรบสตรีเกราะเงินบนบัลลังก์ทองตอบปฏิเสธ  “ขี้ขลาด แต่มีสายตามองการณ์ไกลเราไม่ต้องการคนขี้ขลาด”

ได้ฟังเสียงนางนายกองตะลึงเหมือนกับได้รับอภัยโทษเขาคุกเข่าขอบคุณนางอย่างสุภาพ

อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการ

อยู่ต่อหน้านักสู้นี้ถ้าเขาพูดผิดทำให้เกิดการเข้าใจผิดอาจจะนำความตายมาสู่เขาก็ได้

เขากำลังรอการตัดสินใจสุดท้ายของบุรุษลึกลับผู้ที่เขาสงสัยว่าอาจเป็นจักรพรรดิแดนดินฟู่โฉว (จักรพรรดิแค้น)หวังว่าเขาจะเป็นนักรบสตรีลึกลับที่ไม่ชอบคนขลาดกลัวและขับไล่ให้หนีไป

“แน่นอนว่าเราไม่ต้องการคนขี้ขลาด”  เขาเห็นบุรุษลึกพยักหน้าและพูดต่อ  “อย่างไรก็ตาม, ความกล้าหาญของคนผู้หนึ่งมองผิวเผินย่อมมิอาจเห็นได้แน่นอน  มันซ่อนเร้นอยู่ในตัวบุคคลต้องได้รับการกระตุ้นต่อเนื่องถึงจะตื่นขึ้น โดยปกติความกล้าจะมีสัดส่วนสัมพันธ์กับความแข็งแกร่ง ยิ่งมีความสามารถมากก็ยิ่งมีความกล้ามากขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนเกิดมาเป็นคนกล้า โดยเฉพาะคนฉลาดความกล้าจะน้อยกว่าความฉลาดเสมอ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ให้โอกาสเขาจัดการภารกิจ  ถ้าเขาทำได้สำเร็จก็ให้เขาทำหน้าที่เป็นหน่วยคุ้มกันชั่วคราว พยายามฝึกฝนให้ดี”

“ถ้าภารกิจไม่สำเร็จ ก็ฆ่าทิ้งไปเลย  ข้าเกลียดคนขี้ขลาดและไร้ความสามารถ!” สตรีนักรบเสริม

นายกองเมืองเฮยหลิงรู้สึกหน้ามืด

จบกัน

จบสิ้นแน่

นี่มันโอกาสแบบไหนกันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ!

ตอนนี้แม้เขาไม่เต็มใจเข้าร่วมงานเป็นผู้คุ้มกัน  เขาได้แต่รักษาชีวิต ถ้าเขาทำภารกิจไม่สำเร็จก็คงต้องถูกประหาร นี่มันเป็นกรรมแต่ปางไหนกันหนอ? เขาเคยเรียกเก็บภาษีแพงมาก่อนหรือว่านี่เป็นกรรมสนอง?

บุรุษลึกลับโยนผลึกปีศาจให้  นายกองทหารประตูเมืองเฮยหลิงรับไว้ด้วยความกลัวโดยไม่รู้ตัว

พระเจ้า,นี่คือผลึกมังกรตะกละอสูรปราณฟ้าระดับสามที่อยู่รอบบึงหยุดลม  นอกจากนี้ยังผ่านการกลั่นชำระจากพลังที่เขาไม่รู้จักจนบริสุทธิ์  การจะได้สมบัติอย่างนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นราชาจื่อฟงมอบให้เจ้าเมืองย่อมไม่มีปัญหา  แต่อีกฝ่ายเป็นอะไรกลับมอบของวิเศษร้อนแรงนี้ให้กับเขา?

“ภารกิจของเจ้าก็คือ เอาของสิ่งนี้ไปมอบให้เริ่นอี้จือหนึ่งในสามพ่อบ้านใหญ่บริวารของราชาจื่อฟงบอกฝ่ายตรงข้ามว่าหอการค้าไตตันของเราต้องการเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดพระสนมที่ 88ของราชาจื่อฟง” บุรุษลึกลับมอบภารกิจให้อดีตนายกองทหารเมืองเฮยหลิง

“.......” อดีตนายกองทหารไม่กล้าปฏิเสธ เขาจำต้องฝืนใจรับงานเอาไว้

รอจนกลุ่มค้าทาสผ่านไปเจ้าขโมยฟงจีเข้ามาตบไหล่อดีตนายกองทหารทันทีเหมือนกับลูกพี่ทักลูกน้อย“งานนี้ง่ายมาก  ตอนข้าอยู่ในเมืองเฮยหลิงสุ่ยหนิวและเมืองจิงจี๋ ข้าก็ทำงานนี้ ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถของเจ้างานนี้สำเร็จได้ไม่มีปัญหา เจ้าจงพยายามให้หนัก ต่อสู้เพื่อโอกาสก็จะได้ร่วมกลุ่มกับหน่วยคุ้มกันของเรา”

อดีตนายกองอยากจะฆ่าเขานักถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าเด็กนี่รั้งเขาไว้ เขาคงหนีไปนานแล้ว

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดที่ค้างคาอยู่ในใจของเขา

ความจริงฟงจีอดีตเจ้าเมืองหยางจินเป็นนักสู้ระดับเตรียมปราณฟ้า  จะเอาชนะนักสู้ปราณดินระดับเจ็ดก็แค่เหมือนหยอกเล่น

ในที่สุดด้วยพลังที่ด้อยกว่าอดีตนายกองประตูเมืองเฮยหลิงจำต้องฝืนยิ้มที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้  “ข้าจะลองดู!”

ฟงจีมองดูสีหน้าเขาตอนนี้ได้แต่ส่ายหัว “อย่าลอง, เจ้าต้องทุ่มเทเต็มร้อยมิฉะนั้นข้าบอกได้เลยว่าเจ้าจะต้องตายอย่างน่าอนาถ  ความจริงแล้วเจ้าได้รับการยอมรับมีคนมากมายที่หนีไปต่อหน้าเรา มีเจ้าคนเดียวที่รอดถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านคิดว่าเจ้าสามารถฝึกได้เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีออกจากเมืองลู่หลิวได้หรือ? เพราะพลังอย่างเจ้าไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่ข้าคนเดียวก็สามารถฆ่าเจ้าได้ด้วยมือข้างเดียว!  มาเถอะเจ้าอาจได้เป็นกลุ่มผู้คุ้มกันที่แท้จริงก็ได้ นายท่านจะมอบอสูรปราณฟ้าให้เจ้าเมื่อเจ้าเป็นพวกเราแล้ว...แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ ข้าเองก็ยังเป็นลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้นส่วนเจ้ายังห่างไกล ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พอเจ้าเด็กนี่ไปไกลแล้วอดีตนายกองทหารเฝ้าประตูเมืองพบว่าตัวเขาหลั่งเหงื่อเปียกโชกจนถึงกางเกง

เป็นหรือตาย ดูเหมือนต้องลองดูสักตั้งจริงๆ!

จะบอกความลับดีไหม?

ถ้าราชาจื่อฟงรู้ความจริงเขาจะต้องดำเนินการรับมืออย่างแน่นอน ถ้าราชาชนะเขาจะได้ความดีความชอบ

แต่ถ้าเด็กหนุ่มลึกลับเป็นจักรพรรดิฟู่โฉวจริงๆจะเกิดผลตามเช่นไรกับเขา ไม่ต้องพูดถึงราชาจื่อฟง พวกเขาคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้!

เขาต้องเชื่อฟัง ถ้ามัวลังเลอีกเขาเกรงว่าจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต!

พระเจ้าคงรู้ว่ามีคนจับตามองเขาในที่ลับ...อดีตนายกองประตูเมืองมองดูรอบๆ และรีบไปข้างหน้า ตรงไปยังวังเขียวเมืองลู่หลิว

สิบนาทีต่อมา

น่าเศร้า เขาถูกจับโยนออกมาจากข้างใน

ผลึกอสูรมังกรตะกละอสูรปราณฟ้าระดับสามถูกรับไว้แน่นอน นอกจากนี้ยังได้รับสัญญาให้เข้าร่วมงานวันเกิดแต่เขารู้ว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว  เพราะพ่อบ้านทั้งสามไม่ปรากฏตัวคนที่รับไว้เป็นเพียงองครักษ์ธรรมดา ไม่มีบัตรเชิญ คำสัญญาขององครักษ์ผู้นั้นไม่ชอบ และผลึกปีศาจที่เป็นบรรณาการกลับถูกคนผู้นี้ยักยอก

เรื่องนี้ไม่ใช่เกิดแค่เมืองลู่หลิวเท่านั้น

ยังคงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองเฮยหลิง

ถ้าคนที่ถูกส่งไปไม่ใช่นักสู้ปราณดินระดับเจ็ดแต่เป็นนักสู้พลังระดับเตรียมปราณฟ้า วายร้ายพวกนี้ก็คงไม่กล้า

เพราะคนส่งของขวัญมีพลังอ่อนแอเกินไปคุณภาพของผลึกปีศาจสูงเกินไป ดังนั้นฝ่ายตรงข้ามจึงเกิดความโล�

ผลึกปีศาจมังกรตะกละจะไม่ถูกส่งจนถึงมือของพ่อบ้านทั้งสามแน่นอนภารกิจของเขาล้มเหลว

อดีตนายกองทหารเมืองเฮยหลิงเอามือต่อยหน้าตนเองเขาลุกจากพื้นอย่างสิ้นหวัง ที่เขาทำไปทุกอย่างไร้ความหมายเขาใช้ศักดิ์ศรีตัวตนที่แท้จริงของเขาในฐานะนายกองเมืองเฮยหลิงกล่าวย้ำว่าเขาได้รับความไว้วางใจจากหอการค้าไตตันที่ยิ่งใหญ่ให้มามอบของขวัญและแสดงให้เห็นว่าเขารู้จักพ่อบ้านเริ่นอี้จือ เขาหวังว่าจะได้รับคำเชิญไปงานเลี้ยงวันเกิดพระสนม  แต่คนผู้นั้นไม่ใส่ใจ กลับพูดขึ้นว่า“ถ้าเจ้ายังโผล่มาอีก แล้วเจ้ายังมีปัญหาข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง” จากนั้นให้ทหารโยนเขาออกมา

ทั้งนี้เป็นเพราะพลังของเขาอ่อนแอเกินไปอ่อนแอจนอีกฝ่ายรู้สึกว่าสามารถรังแกได้

ต่อให้ถูกชิงสมบัติเอาไปก็ไม่มีทางทำอะไรได้

หากไม่ได้รับความเชื่อใจจากหอการค้าเขาคงถูกฆ่าและทำลาย!

“......” อดีตนายกองส่ายหน้าข่มความโกรธไอ้วังหลวงบ้านี่ ช่างมืดมนเสียจริง บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ ใครให้เขาอ่อนแอมีกำลังไม่เพียงพอเล่า!  ถ้าเขามีพลัง เขาคงจะฆ่าเจ้าสวะนั่นและจุดไฟเผาวางเพลิงให้เหลือแต่กระดูก ไอ้วังนรก!

“หลายอย่างดูเหมือนจะไม่ราบรื่นใช่ไหม?”ฟงจีไม่รู้ว่ามาอยู่ข้าหลังอดีตนายกองตั้งแต่เมื่อไหร่

“ข้าล้มเหลว” อดีตนายกองประจำประตูเมืองหลับตารอความตาย

“ตอนนี้เข้าใจหรือยังว่าไม่มีอะไรช่วยได้นอกจากพลัง?คนๆ หนึ่งไม่เพียงแต่ต้องมีสายตามองการณ์ไกล แต่ต้องมีพลังและความกล้าด้วยเมื่อมีทั้งหมดนี้จึงจะมีคุณสมบัติได้เป็นองครักษ์ของนายท่าน”ฟงจีตบไหล่ของอีกฝ่ายหนึ่ง “นายท่านรู้ก่อนแล้วว่าเจ้าจะล้มเหลว แต่เขาเห็นว่าเจ้ามีความพยายาม และคิดว่าเจ้าคงตั้งหลักได้  เขาจึงมอบภารกิจที่สองให้เจ้า

“ภารกิจที่สอง?” อดีตนายกองทหารมีความรู้สึกในใจเหมือนได้เกิดใหม่ เขาปลาบปลื้มน้ำตาคลอเบ้า

ในท่ามกลางความสิ้นหวังเขาเห็นรุ่งอรุณแห่งความหวังอีกครั้ง

ถ้าอย่างนั้นเขาจะไม่ยอมล้มเหลวอีก

ความพยายามในภารกิจที่สอง แม้ต้องสู้อย่างหนักเขาจะต้องทำให้สำเร็จ!

ไม่มีอะไรอื่นแค่เพียงต้องการแสดงความกตัญญูและเชื่อใจต่อนายเหนือแม้ล้มเหลวแต่พวกเขาก็ยังไว้ใจให้ทำภารกิจที่สอง

ใครจะยอมเชื่อใจในชีวิตของเขา?  ใครยินยอมให้โอกาสที่สองแก่เขา?

มีแต่เพียงบุรุษหนุ่มลึกลับผู้แข็งแกร่ง  มีแต่เขาที่รู้สึกว่าเขาเชื่อใจได้

วีรบุรุษยอมตายเพื่อสหาย!

อดีตนายกองทหารกำหมัดแน่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเขาเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างไม่เคยมีมาก่อน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด