ตอนที่ 37 โทรศัพท์มือถือ? [ฟรี]
ตอนที่ 37
โทรศัพท์มือถือ?
เมื่อซูไป๋ตื่นขึ้นมาวันรุ่งขึ้นเขาก็พบว่าดอตตี้ได้ลุกออกไปก่อนแล้ว และเมื่อเขาเดินลงมาด้านล่างและถามกับแม่บ้านเขาก็ได้รู้ว่าเพ็กกี้และดอตตี้ได้ออกไปตั้งแต่เช้า เพ็กกี้ขับรถบรรทุกที่มีระเบิดโมเลกุลกลับไปที่ SSR เพื่อที่จะพิสูจน์ความสามารถของเธอให้คนพวกนั้นรู้ว่าเธอไม่ได้เสิร์ฟได้แค่น้ำและชาเท่านั้น แถมยังช่วยจัดการเรื่องของฮาวเวิร์ดได้อีกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวมันคงไม่เพียงพอ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี
ส่วนดอตตี้ก็น่าจะออกไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิเวียธาน
หลังจากที่ซูไป๋ฝึกใช้ความสามารถอยู่สักพักหนึ่งจนเขาพอใจ หลังจากนั้นเขาก็เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์
เบนนิสถูกขังอยู่ที่นี่!
มือเท้าและคอของเขาทั้งสองข้างถูกใส่กุญแจมือเหล็กหนาที่แข็งแรงเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเบนนิสจะยินดีที่จะติดตามเขา แต่ซูไป๋ก็ยังไม่เชื่อใจเขาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นซูไป๋จึงใช้วิธีการป้องกันแบบนี้เอาไว้ก่อน หลังจากกลับมาเมื่อวานนี้ซูไป๋ก็ได้ถามกับดอตตี้ว่าเบนนิสคนนี้สามารถเชื่อใจได้หรือเปล่า และเขาก็ได้ฝังฟันทองเอาไว้ในปากของเบนนิส เพื่อเอาไว้บอกตำแหน่งและสามารถตามหาตัวเขาได้ตลอดเวลา
แน่นอนว่าถ้าเกิดว่าเบนนิสเกิดตุกติกอะไรขึ้นมา ซูไป๋ก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
เปรียบเสมือนกับกล่อง ๆ หนึ่งที่ซ่อนระเบิดเวลาเอาไว้ภายใน
ซึ่งเบนนิสก็เข้าใจได้ว่าทำไมซูไป๋ถึงทำแบบนี้ ทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากพูดคุยกันสองสามคำซูไป๋ก็ได้ถามขึ้นมาว่าเขาต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการทำระเบิดโมเลกุล ต้องบอกเลยว่าเบนนิสคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถมาก เขาสามารถทำการวิจัยด้านฟิสิกส์และการสื่อสารได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขามีความคิดแบบนี้หลังจากเห็นสูตรระเบิดโมเลกุล ถ้าหากว่าเขาไม่มั่นใจว่ามันจะสำเร็จจริง ๆ เขาคงไม่กล้าทรยศองค์กรแบบนี้
"คุณเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารมาก่อนด้วยใช่ไหม?"
"ใช่ ฉันค่อนข้างเก่งใน ... " ในขณะที่เบนนิสกำลังจะบรรยายความสามารถของเขาให้ซูไป๋ฟัง แต่ซูไป๋ก็ขัดจังหวะเขาขึ้นมาก่อน
"คุณไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดให้ผมฟัง ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าเกิดคุณมีทรัพยากรและเงินเพียงพอคุณจะสามารถค้นคว้าและทำโทรศัพท์ขึ้นมาได้ไหม?"
"โทรศัพท์? ไม่ใช่ว่าคุณมีโทรศัพท์อยู่แล้วไม่ใช่หรอ?"
"ผมกำลังพูดถึง ... โทรศัพท์มือถือ!"
"โทรศัพท์มือถือ?"
"ใช่ ใช้ตัวรับสัญญาณของโทรศัพท์เป็นรากฐาน และใช้หลักการของเครื่องรับส่งวิทยุและรูปทรงของมันในการพัฒนาขึ้นมาเป็นโทรศัพท์มือถือ คุณทำได้ไหม?"
ความคิดนี้ของซูไป๋ผุดขึ้นมาหลังจากติดตั้งโทรศัพท์ ในยุคนี้เครื่องโทรเลขยังไม่ได้ถูกแทนที่จนหมด และโทรศัพท์ก็เพิ่งปรากฏขึ้นมา ทำให้มีโอกาสมากมายทางธุรกิจ! นอกจากนี้วิทยาศาสตร์ในโลกมาเวลก็เปิดกว้างเป็นอย่างมาก ทำให้มีเทคโนโลยีสีดำปรากฏขึ้นมามากมาย แต่ถึงอย่างนั้นเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพยากรบางอย่างยังไม่พร้อมเท่าไหร่ จึงทำให้ไม่สามารถผลิตโทรศัพท์มือถือขึ้นมาได้ในทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถเป็นผู้นำในเรื่องนี้ได้ แล้วเขาจะไปกังวลเรื่องเงิน ... อีกทำไมจริงไหม?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการพวกนี้เท่าไหร่ แต่เขาก็สามารถมองเห็นทิศทางและอนาคตที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าก็เพียงพอแล้ว
"ฉัน ... ไม่ค่อยแน่ใจ" เบนนิสรู้สึกประหลาดใจกับความคิดในการทำโทรศัพท์มือถือขึ้นมา มันจะต้องใช้ความรู้ขั้นสูงและยากที่จะทำมันขึ้นมาในทางเทคนิค
"ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ไม่มีวันหยุดนิ่ง ไม่ช้าก็เร็วโทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าคุณจะใช้เวลาทำการวิจัยนานขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าคุณประสบความสำเร็จความมั่งคั่งและชื่อของคุณจะถูกจดจำไปตลอดกาล กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลกผู้คิดค้นโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และผมจะพยายามเปิดบริษัทขึ้นมาให้เร็วที่สุด และช่วยสร้างห้องปฏิบัติการให้คุณ ... นอกจากนี้ผมจะเอาเทคโนโลยีหลักของโทรศัพท์มาให้ และคุณจะต้องสร้างระเบิดโมเลกุลมาให้ผมสักสี่ห้าลูก แต่คุณจะต้องแก้ปัญหาเรื่องระบายความร้อนและความปลอดภัยด้วย แต่ถึงอย่างนั้นคุณจะต้องเน้นเกี่ยวกับการสร้างโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเป็นเรื่องแรก"
"ตกลง!"
เบนนิสไม่ทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง และนอกจากนี้ .... โครงการนี้มันยังดูท้าทายเป็นอย่างมาก!?
เวลาผ่านไปจนถึงประมาณเที่ยงตรงดอตตี้ก็กลับมา
ซูไป๋เลือกสถานที่ตั้งบริษัท และมอบหมายงานการก่อตั้งบริษัทและสร้างห้องปฏิบัติการให้กับเธอ ในฐานะที่เป็นสายลับชั้นยอดคุณจะต้องมีความเชี่ยวชาญในทุกด้านของการทหารและธุรกิจ ทำให้งานเหล่านี้ที่มอบหมายให้ดอตตี้จึงไม่ยากลำบากอะไรเลย และดอตตี้ก็ใช้เวลาไม่นานในการจัดการ
ซึ่งบริษัทที่เขาจะสร้างขึ้นก็ไม่ได้ทำเกี่ยวกับการสร้างโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเป็นหลัก เพราะว่ามันยังมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น นั่นก็คือ เซรุ่มต่อต้านริ้วรอย มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการมันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเซรุ่มของสถาบันห้องแดงหรือเลือดของกัปตันอเมริกาสิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการเอามาทำการวิจัย ซึ่งซูไป๋ก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่ต้องการที่จะศึกษาเกี่ยวกับมันด้วย เพราะว่าการเรียนรู้เรื่องพวกนี้มันน่าเบื่อเกินไป
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มประกาศรับสมัครนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถ
ซึ่งการจ้างงานจะถูกส่งมอบให้ดอตตี้เป็นคนจัดการ
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีข้อดีข้อเสียเพราะว่าในยุคนี้เป็นยุคของการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ คนผิวดำไม่ได้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานสำหรับที่นี่และสามารถทำงานได้แค่เป็นแค่ช่างซ่อมบำรุงระดับต่ำเท่านั้นหรืออาจจะเป็นอาชญากร แต่ถึงอย่างนั้นความฉลาดก็ไม่ได้มีผลกับสีผิว ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์ผิวดำมากมายที่ต้องการได้รับโอกาสในการพัฒนาความเป็นอยู่ในชีวิต ถึงแม้ว่าการให้งานที่ดีกับพวกเขาทำจะไม่ได้รับความเคารพจากพวกเขามาง่าย ๆ แต่ถ้ายังพยายามต่อไปสิบครั้ง หรือแม้กระทั่งร้อยครั้งผลตอบแทนมันจะแสดงออกมาให้เห็นเอง
หลังจากทำบัญชีค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เขาก็ออกไปด้านนอกกับดอตตี้ และมุ่งหน้าไปที่เฮลไฟร์คลับ หลังจากลงจากรถเขาก็จัดเสื้อผ้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน
โปรดติดตามตอนต่อไป …