บทที่ 37 : เข้าร่วมโรงยิมศิลปการต่อสู้
บทที่ 37 : เข้าร่วมโรงยิมศิลปการต่อสู้
ชูโจวครุ่นคิดอย่างจริงจัง….. โดยปกติแล้วนักรบจะมีทางเลือกสี่ทาง
หนึ่ง เข้าร่วมกองทัพ!
สอง เข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้!
สาม เข้าร่วมสมาคม!
สี่ เป็นทหารรับจ้าง!
กองทัพเป็นสถานที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเเละไม่มีเสรีภาพในชีวิตมากนัก……การเข้าร่วมกองทัพไม่เหมาะกับเขาเท่าไรนักเพราะเขามีความลับอย่างแผงคุณสมบัติในตัว
ทางเลือกที่สอง การเข้าร่วมสมาคมจะทำให้ได้เงินจำนวนมหาศาล แต่ก็ต้องคอยทำงานของสมาคมอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งมอบชีวิตและความตายให้สมาคม...
ส่วนทางเลือกที่สาม ทหารรับจ้างนั้นถือได้ว่าเป็นอาชีพพิเศษ เป็นอาชีพที่เข้าร่วมในสงครามเพื่อเงินหรือก็คือมีส่วนร่วมในความขัดแย้งและสงครามเพื่อผลกำไรเเละชูโจวไม่ต้องการเป็นทาสของเงินและผลประโยชน์ทางเลือกนี้จึงถูกปัดออกไป
ดังนั้น…. จากการครุ่นคิดอย่างรอบคอบ เส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาคือการเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้……. แก่นแท้ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้คือการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ แต่มันก็ค่อนข้างบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่โรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กเท่านั้น แต่ยังมีโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งธรรมชาติและโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณอีกด้วย
โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามแห่งก่อตั้งขึ้นโดยชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกสามคน
โรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์ก ก่อตั้งโดยชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก "ดราก้อน"
โรงยิมศิลปะป้องกันตัวเเห่งธรรมชาติ ก่อตั้งโดยชายผู้แข็งแกร่งอันดับสองของโลก "ธอร์"
เเละสุดท้ายโรงยิมศิลปการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณก่อตั้งโดย "อาปาซา" ผู้แข็งแกร่งอันดับสามของโลก
ดราก้อน , ธอร์, และอาปาซา คนเหล่านี้คือสามคนที่ก่อตั้งโรงยิมหลักทั้งสามนี้และพวกเขายังเป็นสามคนที่ทรงพลังที่สุดในโลกด้วย
โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามแห่งที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นล้วนเป็นกองกำลังที่อยู่ในระดับเดียวกับกองกำลังของห้าประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
"ฉันมีพรสวรรค์แผงคุณสมบัติ ดังนั้นมันไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนักว่าฉันจะเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้ใด... อย่างไรก็ตาม 'ดราก้อน' มาจากเจียงเฉิงดังนั้น เราจะเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กที่เขาก่อตั้งขึ้น" เมื่อคิดเช่นนี้ ฉู่โจวก็ได้ทพการตัดสินใจในใจแล้ว
“ตกลง ผมจะเข้าร่วมโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์ก” ชูโจวพยักหน้าให้หยางเฟิง
"ฮ่าฮ่าฮ่า เธอจะไม่ผิดหวังที่เลือกโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเรา" หยางเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นชูโจวตอบตกลง
…..
รอสักครู่ ฉันจะติดต่อหัวหน้าอาจารย์ทันที เพื่อแจ้งสถานการณ์ของเธอ"
หลังจากพูดจบหยางเฟิงก็กดคอมพิวเตอร์ออปติกแบบนาฬิกาที่ข้อมือขวา จากนั้นภาพสามมิติ 3 มิติของชายชราวัย 50 ปรากฏขึ้นในอากาศทันที
"หยางเฟิง มีเรื่องอะไรถึงติดต่อฉัน?"
"หัวหน้าอาจารย์ ฉันพบอัจฉริยะชั้นเยี่ยมที่นี่..."
จากนั้นหยางเฟิงรีบรายงานสถานการณ์ของชูโจวให้ชายชราทราบในทันที
"คุณเตรียมสัญญาให้พร้อมเเละตอนนี้ผมจะไปที่นั่นทันที" หลังจากที่ชายชราทราบสถานการณ์ของชูโจว เขาก็ตอบอย่างรวดเร็วและตัดการติดต่อทันที
"ชูโจว รอสักครู่หัวหน้าอาจารย์กำลังมาที่นี่"
ชูโจวพยักหน้า… เเละหลังจากนั้นห้านาทีชายชราที่เพิ่งติดต่อกับหยางเฟิงก็ได้มาพบชูโจวและคนอื่นๆ
"เธอคือชูโจวใช่ไหม ฉันชุยไฮ่เชาหัวหน้าอาจารย์ของโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์ก ฉันยินดีอย่างยิ่งที่คุณเข้าร่วมโรงยิมของเรา"
ชุยไฮ่เชาอายุประมาณห้าสิบปี แต่ใบหน้าของเขาสดใสและรอยยิ้มของเขาก็ดูใจดีมาก ทันทีที่เขาเข้ามาเขาก็จับมือกับชูโจวอย่างกระตือรือร้น
…..
"ชูโจว ได้ยินหยางเฟิงพูดถึงพรสวรรค์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ฉันยังต้องยืนยันสิ่งนี้ด้วยตัวเอง เเละหากได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ฉันจะรายงานสถานการณ์ของคุณไปยังสำนักงานใหญ่ที่เมืองหลักกวางตุ้งและพยายามหาเงินทุนเพิ่มเติมให้คุณ" ชุยไฮ่เชาพูดอย่างจริงจัง
"ตกลง" อีกฝ่ายต้องการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ที่มากขึ้นสำหรับเขา แน่นอนว่าชูโจวต้องเต็มใจให้ความร่วมมือ
ชูโจวจึงทำการทดสอบสนามพลังและวัดพลังต่อสู้อีกครั้ง จากนั้นเมื่อชุยไฮ่เชาเห็นขอบเขตสนามพลังของชูโจวถึงระดับ 17 และพลังการต่อสู้ของเขาสูงถึง 2300…ชุยไฮ่เชาก็ยังรู้สึกตกตะลึงแม้ว่าเขาจะรู้คำตอบนี้อยู่แล้วก็ตาม
ด้วยผลการทดสอบเเบบนี้ เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะติดต่อผู้อำนวยการของสำนักงานใหญ่ในเมืองกวางตุ้ง เเละในไม่ช้าการฉายภาพสามมิติ 3 มิติของชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าสี่เหลี่ยมเเละมีคิ้วเหมือนดาบก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน
"ผู้อำนวยการเฉิน…… ชายหนุ่มคนนี้คือชูโจวอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ที่เราค้นพบในวันนี้…"จากนั้นชุยฮุ่ยเชาก็เล่าถึงพรสวรรค์ของชูโจว
"อะไรนะ แค่เลื่อนขั้นเป็นระดับนักรบผู้ปลุกพลัง ขอบเขตสนามพลังก็ทะลุไปถึงระดับ 17 แล้วเเถมพลังการต่อสู้ยังสูงถึง 2300 เเต้มอีกด้วย?"
เมื่อผู้อำนวยการเฉินได้ยินรายงานของชุยไฮ่เชา เขาก็เลิกคิ้วทั้งสองข้างและใบหน้าทีของเขาก็แสดงอารมณ์ตกตะลึง….. นี่มันสุดยอดอัจฉริยะชัดๆ! อัจฉริยะระดับสุดยอดเช่นนี้ แม้แต่ในตระกูลใหญ่เหล่านั้นก็อาจจะหาไม่ได้เลย
ผู้อำนวยการเฉินมองไปที่ชูโจวพูดอย่างชื่นชมว่า "ชูโจว ยินดีต้อนรับเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมอฮอว์กของเรา"
"เอาล่ะ ฉันจะให้สัญญาระดับอัจฉริยะสูงสุดแก่เธอ….ทุนเริ่มต้นของเธอตั้งไว้ที่ 25 ล้านเหรียญ นอกจากนี้คุณยังสามารถไปที่ห้างสรรพสินค้าของนักรบ เพื่อซื้อสิ่งของต่างๆ เช่น เทคนิคการหายใจ ทักษะการต่อสู้ เทคนิคการฝึกฝนร่างกาย เทคนิคการทำสมาธิรวมไปถึงเครื่องแบบต่อสู้เเละอาวุธต่างๆ…….ตราบเท่าที่ยอดรวมราคาไม่เกิน 30 ล้านเหรียญทางเราจะจัดหาให้ทันที”
"เเละคุณยังสามารถเลือกวิลล่าในเจียงเฉิง หรือกวางตุ้งได้ แน่นอนว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่ในวิลล่านี้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในการขาย"
"อืม ข้างต้นคือสัญญาของระดับอัจฉริยะขั้นสูงสุดที่ฉันสามารถหาได้จากโรงยิมศิลปะการต่อสู้ของเรา"
ผู้อำนวยการเฉินมองไปที่ชูโจวด้วยรอยยิ้มและพูดต่อ "อย่างไรก็ตาม... ชูโจวฉันชอบพรสวรรค์ของเธอมากและฉันจะสนับสนุนเธอเป็นการส่วนตัวด้วยเงิน 100 ล้านเหรียญ!"
ทุกคนที่นี่ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อำนวยการเฉิน….. สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้ว่าผู้อำนวยการเฉินให้คุณค่ากับอัจฉริยะอย่างฉู่โจวเป็นอย่างมาก
หลิงซานเเละคนอื่นๆก็ตกตะลึงเช่นกัน…..ค่าตอบแทนที่อาจารย์หยางเฟิงมอบให้พวกเขานั้นไม่ต่ำเลย แต่เมื่อเทียบกับค่าตอบแทนของฉู่โจวแล้วก็ยังถือว่ายังตามหลังอยู่มาก
"เป็นช่องว่างระหว่างคนกับหมาจริงๆ! เงินทุนเริ่มต้นของฉันคือ 5 ล้านเหรียญ และฉันสามารถใช้เงิน 2 ล้านสำหรับการซื้อทักษะและอาวุธ...ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าสัญญาของฉันค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับของชูโจวแล้วมันเหมือนสวรรค์กับนรกเลย" ซีเหมิงพึมพำด้วยเสียงต่ำ หลิงซานและหลี่ชิงฉีไม่ได้พูดอะไร เเต่การปฏิบัติของพวกเขาก็คล้ายกับของซีเหมิง
ด้านเซี่ยหยูก็พูดไม่ออกเช่นกัน ในฐานะอัจฉริยะที่หวังฉวนคัดเลือกมาเป็นพิเศษในการเข้าร่วมโรงยิมศิลปการต่อสู้เเห่งธรรมชาติ สัญญาที่เขาได้รับนั้นก็ดีมากเช่นกัน
เงินทุนเริ่มต้นของเขาคือ 12 ล้านเหรียญ ซื้ออาวุธหรือทักษะได้อีก 5 ล้านเหรียญ ซึ่งเขาพอใจกับสัญญาแบบนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมาเทียบกับสัญญาของชูโจวมันยังห่างไกลอยู่มาก
…..
"ขอบคุณมากครับ ผู้อำนวยการเฉิน" ชูโจวที่ได้ยินว่าผู้อำนวยการเฉินไม่เพียงแต่ให้สัญญาระดับอัจฉริยะสูงสุดเเก่เขา แต่ยังให้เงินทุนเป็นการส่วนตัวเเก่เขาถึง 100 ล้านเหรียญ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณอย่างมากกับผู้อำนวยการเฉิน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในวันนี้จู่ๆเขาก็มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 125 ล้านเหรียญและสามารถซื้ออาวุธหรือทักษะอื่น ๆ ได้อีก 30 ล้านเหรียญ….. นี่เเหละที่เรียกว่าการรวยข้ามคืน
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่ากังวลกับเงินเล็กน้อยเเค่นี้เลย เมื่อเธอเติบโตขึ้นในอนาคต เธอจะเข้าใจหนึ่งหรือสองร้อยล้านนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย” ผู้อำนวยการเฉินกล่าว
"ยังไงก็ตามชูโจว ฉันชื่อเฉินปาโจวเเละฉันหวังว่าในอนาคตคุณจะมีอะไรให้ฉันเซอร์ไพรส์อีกเมื่อเราเจอกันอีกครั้ง" ผู้อำนวยการเฉินด้วยรอยยิ้มและตัดการเชื่อมต่อไป
หลังจากการเชื่อมต่อของผู้อำนวยการเฉินหายไป หัวหน้าอาจารย์ชุยไฮ่เชา และอาจารย์หยางเฟิงต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ทุกครั้งที่เห็นผู้อำนวยการ ผมอดไม่ได้ที่จะประหม่าทุกที" หยางเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
"ฉันก็เหมือนกัน" ชุยไฮ่เชาก็หัวเราะเช่นกัน
"ผู้อำนวยการเฉินคนนี้เป็นใครหรอครับ?" ชูโจวถามอย่างสงสัย
"ฮ่าฮ่าฮ่า ชูโจว เธอโชคดีมากที่ได้รับการชื่นชมจากผู้อำนวยการ…..ผู้อำนวยการเฉินเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเราในเมืองกวางตุ้ง ปกติเป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับความสนใจจากเขา" หยางเฟิงกล่าว
"ผู้อำนวยการเฉินช่วยให้เธอได้สัญญาระดับอัจฉริยะสูงสุดและยังให้เงินสนับสนุนอีก 100 ล้านเหรียญ เเต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้รับความสนใจจากผู้อำนวยการเฉิน... จากนี้ไป เธอจะรู้ว่ามีประโยชน์มากมายเพียงใด" ชุยไฮ่เชาก็กล่าวเเบบเดียวกัน
ชูโจวอาจจะไม่เข้าใจว่าความโปรดปรานของผู้อำนวยการเฉินหมายถึงอะไร แต่พวกเขาซึ่งเป็นอาจารย์ของโรงยิมศิลปการต่อสู้นั้นสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน
เเละพวกเขายังเข้าใจด้วยว่าทำไมผู้อำนวยการ เฉินถึงให้ทุนกับชูโจวเป็นการส่วนตัวถึง 100 ล้านเหรียญ เหตุผลก็คือศักยภาพของชูโจวนั้นน่าทึ่งมาก ตราบใดที่เขาไม่ล้มลง ความสำเร็จในอนาคตของเขาจะต้องน่าอัศจรรย์อย่างเเน่นอน
ผู้อำนวยการเฉินกำลังลงทุน 100 ล้านในตัวชูโจว เเละเมื่อชูโจวเติบโตขึ้นและตอบแทนเขา มันจะต้องห่างไกลกับเงิน 100 ล้านเหรียญนี้เเน่นนอน
จากนั้นในไม่ช้าหยางเฟิงก็เปิดสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ให้ชูโจวดู เมื่อชูโจวอ่านสัญญาอย่างระมัดระวังและไม่พบปัญหาอะไรเขาจึงเซ็นมันทันที
"ชูโจว ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวโทมาฮอว์กของเรา" เมื่อเห็นชูโจวลงนามในสัญญาเสร็จแล้วหยางเฟิงและชุยไฮ่เชาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก……ทุกอย่างเรียบร้อย ชูโจวเป็นของโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์กแล้ว
"ชูโจวในตอนนี้เธอเตรียมตัวย้ายไปที่วิลล่าได้เลย โรงยิมศิลปะการต่อสู้ของเราได้ร่วมมือกับรัฐบาลเเละได้สร้างวิลล่า 5-6 แห่งในเจียงเฉิง เธอสามารถเเจ้งอยางเฟิงได้เลยว่าเธอต้องการย้ายเข้าไปอยู่หลังไหน"
"เเละแน่นอน ถ้าเธอไม่ต้องการอาศัยอยู่ในเจียงเฉิง แต่ต้องการอาศัยอยู่ในเมืองเย่ไฮ่ก็ไม่มีปัญหา เพราะเรามีวิลล่าในเมืองเย่ไฮ่เช่นกัน" ชุยไฮ่เชากล่าว
"ไม่ย้ายหรอกครับผมจะอยู่ที่เจียงเฉิงนี่เเหละ” ฉู่โจวกล่าว
"ตกลงตามนี้นะ…ฉันจะส่งข้อมูลของวิลล่าต่างๆ ให้เธอเพื่อที่เธอจะสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองนอกจากนี้ ฉันจะส่งหมายเลขนักรบของคุณให้….. เงินทุนเริ่มต้นจะถูกโอนไปยังบัญชีที่ตรงกับหมายเลขนักรบของเธอ เเละด้วยวิธีนี้เธอสามารถใช้หมายเลขนักรบเพื่อเข้าสู่ระบบห้างสรรพสินค้านักรบสำหรับซื้ออาวุธ ยา และอื่นๆได้ทันที" หยางเฟิงกล่าวและทำการดำเนินการทุกอย่างทันที
"ตืดดดดด"
โทรศัพท์ของชูโจวสั่นและเมื่อเขาเปิดโทรศัพท์ดู เขาก็ได้เห็นสถานที่ รูปภาพ คำอธิบายข้อความและข้อมูลอื่นๆของวิลล่าในชุมชนทั้งหก……. นอกจากนี้ยังมีหมายเลขนักรบของเขาด้วย
…..
ในตอนนั้นเอง หวังฉวนที่สลบมาตลอดก็ลืมตาตื่นขึ้นอย่างเงียบๆ "หัวหน้าอาจารย์ชุยทำไมคุณถึงมาที่นี่" ทันทีที่เขาตื่นขึ้นและเห็นชุยไฮ่เชาเขาก็รู้สึกแย่ทันที
"ชูโจว เธอเลือกโรงยิมศิลปะการต่อสู้ไปแล้วหรือยัง" จาดนั้นเขาหันไปถามชูโจวในทันที
"อาจารย์หวังฉวนผมได้เซ็นสัญญาและเข้าร่วม โรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กเเล้ว" ชูโจวตอบตามความเป็นจริง
"อะแฮ่ม...เฒ่าหวัง ชูโจวเป็นสมาชิกของโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์กแล้ว ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้" หยางเฟิงกล่าวและยิ้มเล็กน้อย
"หยางเฟิง…..คุณน่ารังเกียจมาก คุณลอบโจมตีฉันเเละฉวยโอกาสดึงชูโจวไปเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของคุณ"
หวังฉวนพุ่งเข้าหาและบีบคอของหยางเฟิงด้วยมือทั้งสองข้าง
"ผู้เฒ่าหวัง คุณเป็นคนที่มีอารยธรรมดังนั้นคุณต้องรักษาคำพูด คุณได้พูดไปแล้วจะยกโทษให้ฉัน... ทำไมคุณยังมาโจมตีฉันอีก!"
"อารยธรรมแบบไหนที่คุณพูดถึง คนป่าเถื่อนอย่างคุณที่ชอบลอบโจมตีคนอื่น ยังไงวันนี้ฉันจะกัดคุณให้ตาย!"
จากนั้นหวังฉวนและหยางเฟิงก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดในห้องทดสอบ
"ชูโจว ถึงเวลาที่พวกเราควรจะกลับแล้ว" ชุยไห่เชาตบไหล่ชูโจวแล้วพาเขาเดินลงไปข้างล่าง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ยกนิ้วให้กับหยางเฟิง วันนี้หยางเฟิงจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสวยงาม
หากชูโจวอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ถูกหวังฉวนเเย่งไปในวันนี้ มันจะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของโรงยิมโทมาฮอว์กของพวกเขา
………………………