ตอนที่ 925 ตบหน้าขั้นสูง
ผู้ที่เร็วที่สุดไม่ใช่บุรุษวัยกลางคนที่เย่ว์หยางเอาเท้าพาดไหล่อยู่แต่เป็นบุรุษประหลาดที่มีเสียงเหมือนนกแสก รูปร่างเหมือนค้างคาว
เขาเหยียดมือ
มีสายลมหมุนรอบตัวเขาแผ่วเบา ใบไม้ที่หมุนอยู่รอบๆตัวของเขาคล้ายกับสัตว์ร้ายเร่งความเร็วพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางทันที อย่างไรก็ตามฝีมือที่ไม่เคยพลาดเป้าล้มเหลวทันที เหมือนกับหุ่นเชิดที่ถูกกรรไกรตัดสายเชื่อมต่อและสูญเสียการควบคุมบินมาได้ครึ่งทางก็หมดแรงตกลงบุรุษผู้มีฉายาหัตถ์วิถีควบคุมความเป็นตายของคนอื่นตกตะลึงมีสีหน้าเหมือนกับถูกต่อยหนึ่งหมัด
ขณะเดียวกันเขามีสีหน้าโกรธอับอายรู้สึกเหมือนโดนดูถูกอย่างแรง
เขาจ้องมองเย่ว์หยาง
บุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองผู้อ้างว่าเป็นเจ้าเมืองมีแววตาที่โกรธ เขาปล่อยหมัดใส่เย่ว์หยางทันที
“ยินต้อนรับเจ้าสู่เกมสนุกของข้า! ข้าให้สัญญาได้เลยว่าเจ้าจะมีความเพลิดเพลินอย่างแน่นอน!” หากเย่ว์หยางปล่อยให้เขาโจมตีได้ นั่นคงไม่ใช่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่แม้แต่จักรพรรดินีฟ้าและชี่เทียนเหอก็ยังพ่ายแพ้ ถ้าเขาเอาจริง เขาสามารถฆ่าศัตรูได้ทันที แต่เย่ว์หยางกลับไม่ทำ เพราะเขาต้องการสร้างความตกใจให้กับศัตรูผู้ชอบเล่นเกมกับชีวิตผู้คน
ถ้าเย่ว์หยางจัดความสามารถในชีวิตทั้งหมด คาดกันว่าทักษะเกี้ยวหญิงคงไม่ถูกจัดไว้ในอันดับแรก
แต่ยังมีความสามารถพิเศษที่จัดไว้เป็นอันดับสองคาดได้ว่าไม่มีใครเหนือกว่าเขา
นั่นคือกลั่นแกล้งผู้คน
เพราะเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจอย่างพระโพธิสัตว์ ทั้งหนังหน้าก็หนาฉลาดเป็นกรด มีความคิดพิเศษไม่เหมือนใคร แน่นอนว่าเย่ว์หยางแตกต่างออกไป เขาเลือกจัดการศัตรูได้ราบรื่นมากกว่าใครเมื่อผ่านการต่อสู้มาอย่างต่อเนื่องและสำรวจตัวเองอย่างต่อเนื่องเจ้าเด็กจากมิติอื่นค่อยๆ สร้างบุคลิกลักษณะจำเพาะของตน..และรูปแบบของเย่ว์หยางก็คือ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่หลายคนสามารถทำได้ตบหน้าข้างซ้ายและจากนั้นยื่นหน้าข้างขวาให้อีกฝ่ายตบหลายที ทั้งพร่ำบ่นเรื่องคุณธรรมต่อศัตรู หลายคนที่ไม่เก่งแต่ใจกว้างและมีน้ำใจแม้สุนัขกัดก็ไม่กัดตอบ อย่างมากก็เดินอ้อมหลีกไปและไม่ใช้วิธีเยี่ยงสุนัขแน่นอน!
ความจริงเย่ว์หยางก็เข้าใจเรื่องเหล่านี้เช่นกัน
แต่เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำ
ตามรูปแบบของเย่ว์หยางในการกระทำต่างๆ หากมีคนตบหน้าซ้ายของเขา อย่างนั้นเขาจะตบอีกฝ่ายหนึ่งคืนอีกสิบครั้งถ้าไม่อย่างนั้นก็ทุบผู้นั้นจนร่วง แต่บางครั้งเขาก็ไม่เห็นด้วย ถ้าสุนัขกัด เย่ว์หยางไม่มีทางกัดสุนัขตอบสิบครั้งแน่ แต่จะทุบหัวสุนัขโดยตรง
ที่สำคัญคนกับสุนัขในใจของเย่ว์หยางยังมีข้อจำกัดแตกต่างกันบางอย่าง
เมื่อครู่นี้บุรุษวัยกลางคนชอบการละเล่นพอเขามาพบกับเย่ว์หยางนับว่าเป็นโชคของเขา เพราะเย่ว์หยางตัดสินใจเล่นกับเขา
เล่นเกมใช่ไหม?
ใครจะไม่เล่นเล่า?
“อันที่จริงข้าไม่ชอบวิธีกินหัวใจร้อนๆ เลย สมองหวานก็งั้นๆ แต่ถ้าเจ้าไปโรมต้องลองทำเหมือนอย่างที่พวกโรมันทำ เจ้ามั่นใจได้เลยว่าจะได้กินสิ่งนี้ ต่อไปข้าจะประกาศกับพวกพ้องมิตรสหาย หากพวกเขาต้องการลอง ข้าจะแนะนำให้กับญาติสนิทมิตรสหายพวกเขา เจ้าก็เหมือนกัน จะได้รับการต้อนรับอย่างนี้”เย่ว์หยางหลบฉากจากพลังหมัดกระแทกที่หนักหน่วงจากนั้นถอยกลับไปที่บัลลังก์ทองและนั่งลง
บุรุษวัยกลางคนต่อยผิดก็ยิ่งคำรามด้วยความโกรธ
เขากระโจนขึ้นไปบนอากาศและระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในร่าง
แรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั้งไพรสุนัขป่าแดงพลังรุนแรงปานภูผาถล่ม
ผู้ลี้ภัยที่อยู่บนพื้นแทบหายใจไม่ออกถ้าไม่เพราะอยู่เป็นกลุ่มกอดกันแน่นต้านทานไว้ ด้วยพลังคนๆ เดียวเกรงว่าคงถูกพลังที่น่ากลัวกดบดทับบี้แบนเป็นแน่ บุรุษวัยกลางคนต้องการทำลายสถานที่ทั้งหมดร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศหลายร้อยเมตรและระดมหมัดต่อยลงมาข้างล่างอย่างหนักหน่วง คนที่ปล่อยพลังหมัดยังลอยอยู่ในอากาศ แต่ผู้ลี้ภัยทุกคนถูกแรงกดจนกระอักโลหิตถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเด็กหญิงและทารกไว้ วิ่งไปหากลุ่มผู้ลี้ภัยและเพิ่มระดับพลังของสนามพลังวิญญาณของกลุ่มผู้ลี้ภัยและทหารรับจ้างคงหลุดลอยจากร่าง พวกเขาตกใจกลัวคลื่นระเบิดจากพลังหมัดจะบดขยี้พวกเขาจนเลือดเนื้อสาดกระจาย
บัลลังก์ทองอยู่ในศูนย์กลางของพลังหมัดโจมตี
ถูกแรงกดลงไปที่พื้น
ทาสสิบเจ็ดคนที่หามวอบัลลังก์ทองกระดูกแหลกหักทุกคน ในท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนดังลั่นทุกคนเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดร่างระเบิดตายไปในที่สุด
เป็นสาวใช้สตรีที่มีปฏิกิริยารวดเร็วหลบหนีจากศูนย์กลางพลังโจมตีและร่างนางเหมือนผลไม้แดงตกร่วงไปในโคลน
เมื่อเห็นว่าหมัดกำลังโจมตีใส่ร่างของเขา เย่ว์หยางยังคงนั่งอยู่บนพนักบัลลังก์ทองอย่างสบายใจ
ราวกับว่าเขาไม่เห็นว่าใครกำลังโจมตี
เสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวข้างหน้า
นัยน์ตางดงามของเธอจ้องตอบ
เมื่อพลังหมัดอยู่ห่างหนึ่งเมตรจะโจมตีถูกศีรษะเย่ว์หยางตลอดทั้งร่างของบุรุษวัยกลางคนพลันหยุดนิ่งกลางอากาศ
บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกร่างเหมือนค้างคาวเห็นภาพนี้ตะลึงงันไม่อยากเชื่อสายตาเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของสหายของเขา แม้ว่าเขาจะมี ‘หัตถ์วิถี’ แต่เมื่อเทียบกันแล้วเขาไม่ได้เปรียบ.... อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตามสหายที่ทรงพลังเช่นนี้ปล่อยพลังหมัดเต็มกำลัง ยังถูกอีกฝ่ายหนึ่งใช้สายตาตรึงเขาไว้ได้หรือ? ทักษะแฝงเร้นนี้น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า? หรือว่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้... แย่แล้วนี่คืออสูรเทพ นี่ไม่ใช่ปีศาจอสรพิษธรรมดา!
เขาพบว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีอสูรเทพ และรู้สึกกลัวจนอยากจะหลบหนีทันที
ล้อเล่นแน่ๆ
สู้กับอสูรเทพ มีกี่ชีวิตก็ไม่พอ!
บุรุษผู้มีเสียงเหมือนนกแสกร่างเหมือนค้างคาวหันหลังและเตรียมเร่งความเร็วหนีเข้าไพรหมาป่าแดง
อย่างไรก็ตามข้างหลังของเขา ไม่รู้ว่ามีปีศาจอสรพิษน้ำแข็งถือดาบคู่มายืนจ้องเขาตั้งแต่เมื่อไหร่...บุรุษประหลาดร่างเหมือนค้างคาวเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งพยายามจะหลบหนี แต่เมื่อเขาหันกลับไปเขาพบว่าที่ด้านข้างเขามีนาคาสายฟ้า เขาหันมองไปรอบๆ พบว่าตนเองถูกล้อมในอีกสองด้านมีนางเงือกวายุผู้งดงาม และเมดูซ่าศิลา
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนี้ไม่รู้ว่าพวกนางมาถึงตั้งแต่เมื่อใดไวมากจนหัตถ์วิถีอย่างเขาผู้ควบคุมสมรภูมิไม่ทันเห็น
อย่าเพิ่งหนี ไม่งั้นตาย!
บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวรู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ถ้าสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ผนึกกำลังกัน ถ้าโชคดีไม่ตายก็คงบาดเจ็บร่วงลงกับพื้น
หนี, เขาต้องหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้...บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวใช้พลังทั้งหมด เขาเหาะขึ้นไปในท้องฟ้าพยายามฝ่าลงล้อมหนีไปให้ได้ เพื่อให้หนีรอดเขายอมเสียทุกอย่างแม้กระทั่งสหาย ปล่อยให้สหายรักตาย ไม่ใช่ว่าเขาโกรธนักสู้ แต่เขาไม่ได้รับผลอะไรจากการนี้
เปรี้ยง!
ที่เหนือท้องฟ้าสายฟ้าขนาดเท่าถังใหญ่ฟาดลงที่ศีรษะของบุรุษประหลาดโดยตรง
บุรุษประหลาดตัวไหม้เกรียมร่วงลงกระแทกพื้น
สายฟ้ามีพลังน่ากลัวระเบิดใส่ศีรษะของเขาพลังสายฟ้ากร้าวแกร่งทำให้เขาร่างไหม้เกรียมร่างชักกระตุก
“อา.......” บุรุษประหลาดร่างเหมือนค้างคาวบิดมือแทบไม่ทันมีสายลมพัดผ่านร่างของเขาเงียบๆ ดูเหมือนว่ามีเชือกที่มองไม่เห็นถูกโยนเข้าไปในป่าไกลจากนั้นร่างของบุรุษประหลาดก็ฟื้นขึ้นและถูกดึงไปในที่ไกล
เฟี้ยววว
ธนูดอกหนึ่งปักเข้าที่มือของบุรุษประหลาดนั่นเป็นผลงานของเมดูซาศิลา
มือนั้นกลายเป็นสีเทาและแข็งทันที
ขณะเดียวกันลามไปถึงศอก
ในทางกลับกันหัตถ์วิถีที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นร่องรอยมาก่อนก็ถูกเปิดเผย... พลังของคำสาปเป็นหินไม่เพียงแต่ส่งผลต่อมือของบุรุษประหลาดเท่านั้น แต่ยังคงสาปให้ความสามารถของเขากลายเป็นหินไปด้วย
เส้นบางๆ ห้าเส้นสายปรากฏในมือของบุรุษประหลาดและขยายไปถึงป่าที่อยู่ห่างออกไป
สิ่งเหล่านี้แต่เดิมจะมองไม่เห็น
ตอนนี้ภายใต้ทักษะฝีมือของเมดูซาศิลามันกลายเป็นสายใยหิน!
ขณะที่บุรุษวัยกลางคนที่โจมตีเย่ว์หยาง ยังคงลอยนิ่งอยู่ในกลางอากาศไม่สามารถเคลื่อนไหวได้! ชี่เทียนเหอกับร่างเทพของเขาถูกเสี่ยวเหวินหลีตรึงได้หนึ่งวินาที สำหรับอสูรเทพใช้ทักษะพันธนาการก็เอาชนะบุรุษวัยกลางนี้ที่เป็นเจ้าเมืองนี้ได้ ถ้าเธอต้องการก็สามารถตรึงเขาไว้ได้ถึงสองหรือสามชั่วโมง.. เย่ว์หยางไม่สนใจเงยหน้ามองแต่หงุดหงิดเล็กน้อย บุรุษประหลาดบังอาจหลบหนี “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก ทำแบบนี้ได้ยังไง? ถ้าเจ้าอยากหนี ทำไมจะต้องแอบหนีด้วย?”
ทุกคนที่ได้ยินถึงกับตัวสั่น
จำเป็นต้องหลบหนีต่อหน้าด้วยหรือ ใครๆ ก็ต้องแอบหนีแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?
บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวสิ้นหวัง เวลานี้เขารู้สึกว่าชีวิตเหลือน้อยนิด เป็นไปได้หรือว่าอีกฝ่ายหนึ่งต้องการปล่อยตัวเขาเอง?
หน้าของเย่ว์หยางจริงจังมากขึ้นทุกทีและเขายกนิ้วกรีดกราย “ความจริงแล้วการพยายามหลบหนีนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ แต่ตรงกันข้ามข้าขอแนะนำให้หนี! เมื่อครู่นี้เป็นแค่เกม! ฟงจี, อย่าลืมนับแบบมาตรฐานระวังอย่านับขาด ถ้าเจ้าหนีพ้นสายตาข้าได้ภายในการนับถึงร้อยอย่างนั้นเจ้าจะเป็นอิสระ!”
ขณะที่ฟงจีนับ เขาดีดนิ้วตาม
บุรุษวัยกลางคนที่ร่างลอยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศพอเสียงริ้งงงดังก็ร่วงร่างกระแทกกับพื้น คลื่นแรงกระแทกทำให้ป่ารอบด้านแทบพัง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่มีใครตกใจพลังน่ากลัวที่เกิดจากบุรุษวัยกลางคน
และทุกคนเริ่มเข้าใจว่าปีศาจทั้งสอง บุรุษประหลาดและบุรุษวัยกลางคนกำลังเผชิญกับอะไร...นี่เป็นรางวัลและการลงโทษที่น่ากลัวยิ่งกว่าของนักสู้ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน! และเป็นการละเล่นที่นำเสนอโดยศัตรูแต่ก็เป็นการหยามหยันชื่อเสียงอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
“นายท่านจะให้ข้านับยังไง? ข้านับได้หรือ?” ฟงจีตื่นเต้นและอึดอัดเล็กน้อย เขาควรจะทำยังไง ถ้าเขาต้องทำเอง
“ถ้าทำไม่ได้ ข้าจะไล่เจ้าออก!” เย่ว์หยางไม่เคยห้ามคนของเขาไม่ให้ปฏิเสธ
“ไม่,ข้าจะนับได้จริงๆ หรือ? ข้าจะนับได้จริงๆหรือ?” เขามองดูองค์เชียนเชียนอีกครั้ง เขามีความฉลาดพอจะพบว่าท่านหญิงมีสิทธิ์พูด นายใหญ่ไตตันโปรดปรานนางราวกับภรรยาของผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ธรรมดา
“เรื่องมากจริงๆ!” แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมักจะทะเลาะกับเย่ว์หยางเป็นการส่วนตัวบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีใครสงสัยในตัวเขา
“หนีไป,ไม่มีชีวิตก็หนีไม่ได้ ถ้าเจ้าไม่ต้องการ อย่างนั้นฟันและหนังของเจ้าจะกลายเป็นของสะสมของข้า ตอนนี้เริ่มวิ่งได้แล้ว! คุณชายผู้เมตตาการุณย์ให้โอกาสนี้แก่เจ้า! ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่พวกเจ้าเพิ่งพูด เจ้าหนอนน่าสมเพชความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคุณชายก็คือการได้เห็นคนอ่อนแอมีชีวิตอยู่แทบเท้าข้า นั่นจะทำให้ข้ามีความรู้สึกเติมเต็มความสำเร็จ... เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจนี่คือความรู้สึกที่ได้สัมผัสความสำเร็จของนักสู้คนหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร นักสู้คือคนที่สามารถควบคุมชะตาชีวิตของผู้อื่นได้ดังใจนึกไงเล่า!”
เย่ว์หยางทบทวนคำพูดที่บุรุษวัยกลางคนเคยพูดไว้ด้วยความหยิ่งผยอง
การหักหน้าเช่นนี้ แย่ยิ่งกว่าตาย!
ปัญหาก็คือบุรุษวัยกลางคนและบุรุษประหลาดทั้งสองคนไม่มีโอกาสโต้แย้ง
ก็เหมือนความห่างชั้นของผู้ลี้ภัยกับพวกเขา ความห่างชั้นของทั้งสองฝ่ายแม้จะเป็นนักสู้ปราณฟ้าแต่พวกเขามิอาจต้านทานเย่ว์หยางได้ ไม่ว่าเย่ว์หยางต้องการอะไร พวกเขาได้แต่น้อมรอ
“โครม...” บุรุษประหลาดคุกเข่าลงกับพื้นอย่างไร้พลังและบุรุษวัยกลางคนหน้าซีดสั่นสะท้านตอนนี้พวกเขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของคนลี้ภัยผู้หิวโหยและเริ่มเข้าใจถึงความกลัวของมดแมลงที่ถูกฆ่ามาก่อนนั้น เขาได้รู้ว่าชะตากรรมที่น่าสมเพชนั้นเป็นอย่างไร ถ้าหากเขาย้อนกลับไปได้พวกเขาจะไม่ไล่ล่าผู้ลี้ภัยผู้หิวโหยที่หลบหนีและจะไม่ฆ่าหนอนน้อยผู้น่าสงสารผู้คุกเข่าอยู่ใต้เท้าด้วยความสำราญต่อไป ถ้าเขาย้อนกลับไปได้พวกเขาจะเสียใจทุกอย่างที่ทำก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้โลกไม่หวนกลับอีกแล้ว!
“อั้ก!!!” ยิ่งเขาคิดถึงคนที่เขาฆ่าในอดีต ให้เลาะฟันคนควักหัวใจและสมองที่เคยทำให้บุรุษวัยกลางคนมีความสุข เขากลัวจนกระอักโลหิต
“ข้านับแล้วนะ นับจริงๆ นะ หนึ่ง สอง สาม....”ฟงจีกลัวว่าเย่ว์หยางเจ้านายใหม่จะโกรธ เขารีบนับอย่างรวดเร็ว
ล้อเล่นหรือเปล่า เขาเพิ่งจะได้รับเป็นลูกจ้างชั่วคราวถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ จะมีอาหารดีๆ กินได้อย่างไร
แล้วสองคนที่เคยมีชื่อเสียงนี้ก่อเรื่องเลวร้ายสาหัสมากเกินไป
เมื่อร้ายมาก็ร้ายตอบ
สองคนนี้เจอคนร้ายกาจกว่าอย่างนายใหญ่ไตตันนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ คาดว่าพวกเขาทำเรื่องเลวร้ายมามากผู้คนสาปแช่งมากเกินไป เวลานี้ถึงเวลาชดใช้การกระทำ
บุรุษประหลาดที่กำลังตัวสั่นยกมือขึ้นทันทีเตรียมเชือดคอตนเอง เขาต้องการฆ่าตัวตาย
มีใบไม้สองสามใบพุ่งวาบเหมือนใบมีดทันที
แต่ช่วงเวลาที่ใบไม้กำลังจะปาดที่คอเย่ว์หยางใช้พลังดรรชนียิงใส่ใบไม้จนเผาไหม้กลายเป็นควันหายไปไม่เหลือร่องรอยผิวของบุรุษประหลาดไม่มีรอยแผล ยังดีเหมือนเคย
เขาต้องการตายแต่การตัดสินใจนั้นไม่อยู่ในมือของเขาอีกต่อไป
“ข้าไม่อนุญาต เจ้านึกว่าจะฆ่าตัวตายได้หรือ?เจ้านึกว่าชื่อของ ‘นายใหญ่ไตตัน’ มันไร้สาระหรือ? มือของข้าไตตันไม่เพียงแต่กำชีวิตศัตรู แต่ก็กำหนดความตายของศัตรูได้เช่นกัน!” เย่ว์หยางพูดเลียนแบบบุรุษประหลาดอีกครั้ง
แน่นอนว่าด้วยพลังระดับเขาย่อมทำได้
ความจริงนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเย่ว์หยางสามารถทำให้ศัตรูคลั่งใจจนกระอักโลหิตได้ และไม่สนใจว่าศัตรูจะเป็นยังไง!