ตอนที่ 924 ร้ายมาร้ายไป
“เร็วเข้า, เร็วเข้า! หนี หนีเร็ว!”
“ถ้าพวกเจ้าอยากมีชีวิตรอด พวกเจ้าต้องวิ่งเร็วๆ!”
ในป่าทึบมีผู้ประสบทุพภิกขภัยเกือบพันคนนุ่งผ้าขาดรุ่งริ่งวิ่งเท้าเปล่าทุกคนมุ่งมั่นจะวิ่งขึ้นหน้าเป็นคนแรกและกลัวจะอยู่ท้ายสุด มีทหารรับจ้างหลายสิบคนสวมรองเท้าคอยออกคำสั่งควบคุมดูแลความเรียบร้อย คนนำเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาถือขวานขนาดใหญ่และควงขวานต่อเนื่องคอยต้อนคนผู้หิวโหยให้วิ่งเร็วขึ้นไม่ให้หยุดแม้ชั่วขณะ
ที่ป่าทึบด้านหลังมีหมาป่าสีแดงตาแดงตัวขนาดใหญ่บัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวหายไป
ตราบใดที่ทหารรับจ้างไม่ระมัดระวังพวกมันจะซ่อนตัว และโจมตีด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าปากขนาดใหญ่จะคาบเหยื่อและลากเข้าไปกินข้างในอย่างง่ายดาย
พวกมันมีเต็มที่20-30 ตัว
และเจ้าเล่ห์มาก
พวกมันรู้วิธีจัดการกับทหารรับจ้าง ทหารรับจ้างจะต้องคอยระมัดระวังไว้ประมาทเพียงเล็กน้อยพวกมันจะเข้าโจมตีทันที!
“บัดซบ, ไปให้พ้นจากข้า!” หัวหน้าทหารรับจ้างเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต้านทานหมาป่าแดงนี้ อย่างไรก็ตามแม้แต่ขวานยักษ์ของเขาก็ไม่สามารถฆ่าหมาป่าแดงนี้ได้ ได้แต่ฟันสร้างบาดแผลให้กับหมาป่ากระหายเลือดหนังหนาตัวนี้
ขวานเงินแหวกฝ่าอากาศและฟันลงทันที
ในปากของมหาป่าแดงมีศีรษะของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคอและหนังฉีกขาดเลือดสาดกระจาย
มันคำรามและปล่อยเหยื่อในปากหันหลังวิ่งหนีเข้าไปในป่า
คนผู้เคราะห์ร้ายถูกเหวี่ยงลงพื้น เขาตายแล้ว ศีรษะของเขาเป็นแผลเหวอะแม้แต่มือและเท้าของเขากระตุกเล็กน้อย แต่ช่วยเหลือไม่ได้แล้ว หัวหน้าทหารรับจ้างไม่มองดูเขา เขารู้ว่าหมาป่าแดงนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต แม้ว่ามันไม่สามารถโยนอาหารในปากทิ้งแต่มันจะฆ่าศัตรูก่อน ยกเว้นมีพลังเหนือกว่าหมาป่าแดงไม่มีใครที่โดนหมาป่าแดงกัดแล้วจะรอด
เขาส่ายศีรษะและโบกมือ “วิ่ง ทุกคน วิ่งให้เร็วอีกนิด หนีออกไปจากป่าของหมาป่าแดง วิ่งให้เร็วขึ้น!”
เมื่อเขาไปได้สองสามก้าวหมาป่าแดงบาดเจ็บก็สร้างบาดแผลที่ศีรษะเขาได้อีก
ภายใต้การสังเกตการณ์ของหมาป่าเจ้าเล่ห์มันลากศพผู้เคราะห์ร้ายเข้าไปกินในพุ่มไม้ มันไม่ยอมแพ้ ที่สำคัญมันแข็งแกร่งมาก ไม่มีใครทำอะไรมันได้
ขณะที่หมาป่าแดงฉีกกินอาหาร ฝูงหมาป่าแดงยังคงว่ายน้ำอยู่ด้านหลังและมองหาโอกาสโจมตี
โดยปกติในป่ามักจะขาดแคลนอาหาร คราวนี้มีเหยื่อผ่านมาพวกมันไม่ยอมพลาดเหยื่อเหล่านี้เป็นธรรมดา
ตุ้บ ตุ้บ!
มีเถาวัลย์นับสิบสายห้อยระโยงระยางขัดขวางผู้หิวโหยที่กำลังหนี
ตอนแรกมีเพียงไม่กี่คนที่ล้มลงบนพื้น
แต่คนที่ตามมาด้านหลังเพียงแต่วิ่งตามอย่างเดียวพวกเขามองไม่เห็นข้างหน้า แม้ว่าพวกเขาจะเห็นได้ชัด แต่พวกเขายั้งเท้าไม่ทันก็ดึงลากเถาวัลย์ติดลงมาด้วยยกเว้นคนไม่กี่คนที่มีความแข็งแรงอยู่บ้างก็ข้ามผ่านไปได้ ผู้หิวโหยที่เหลือสะดุดล้มกันต่อเนื่อง
เมื่อหัวหน้าทหารรับจ้างเห็นเช่นนั้นเขาวิ่งเข้าไปดูและเห็นชายที่เหนื่อยล้าล้มลง
ผู้หิวโหยบางคนไม่ได้สะดุดแต่ห่วงเพื่อนที่ล้มจะพบเจอกับหมาป่าแดง
พวกเขาไม่กล้าวิ่งอีก ได้แต่จับกลุ่มอยู่ข้างๆ ด้วยความกลัว
เป็นเพราะกลุ่มคนที่วิ่งผ่านพื้นที่ต้นไม้และเถาวัลย์ไปแล้วเมื่อพวกเขาหันกลับไปดู ไม่รู้จะทำอย่างไร? ถ้าพวกเขาวิ่งหนีต่อไปก็รู้สึกไม่สบายใจ หากกลับไปสมทบกลุ่มอาจปลอดภัยในเวลานี้ แต่กลุ่มพวกที่ไล่ล่าอยู่เบื้องหลังฝูงหมาป่ายังเป็นศัตรูที่น่ากลัวยิ่งกว่า! ถ้าถูกศัตรูเหล่านั้นไล่ทันจะน่าอนาถยิ่งกว่าตายภายใต้คมเขี้ยวสุนัข ตอนนี้จะทำอย่างไรดี จะไปต่อหรือหยุดพัก
“เจ้าโง่! ถ้ายังไม่วิ่งให้เร็ว เดี๋ยวศัตรูตามมาทันก็จบกัน!” มีผู้หิวโหยจำนวนหนึ่งลุกขึ้นและเตรียมไปต่อ
พวกเขาเป็นบุรุษทั้งหมด แม้ว่าร่างกายจะผ่ายผอม แต่ในฐานะที่เป็นบุรุษเขามีการตัดสินใจที่ดีกว่าสตรี
ในกลุ่มคนหลายพันส่วนใหญ่เป็นคนชราและอ่อนแอ
หากพวกเขาไม่สามารถตัดสินใจได้พวกเขาจะมองดูหัวหน้าผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของครอบครัว พวกเขาหวังว่าเขาจะมีความคิดที่ดี!
,……
บุรุษหลายคนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าถูกหมาป่าแดงจัดการ พวกเขาส่งเสียงร้องโหยหวน
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
มีฝูงหมาป่าข้างหน้าพวกเขาควรทำอย่างไร?
“วิ่ง! หมาป่าไม่สำคัญ ถึงเราต้องเจอพวกมัน เราก็ต้องวิ่งต่อไป ศัตรูแท้จริงกำลังตามหาเรา ถ้ามันตามเราได้ทัน พวกเราจะตายกันหมด!” หัวหน้าทหารรับจ้างสั่งให้สมาชิกทั้งห้าคนรีบตามมาให้ทันเพื่อคุ้มครองคนข้างหน้า เขาตะโกนอย่างกระวนกระวายไม่ให้ใครหยุดพัก ทุกคนต้องทุ่มเทกำลังวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่รอด
“ช่วยข้าด้วย, ช่วยด้วย......”
ชายชราคนหนึ่งถูกหมาป่ากระโจมใส่จนล้ม เขาจับเถาวัลย์ตะโกนขอความช่วยเหลือ
หมาป่าแดงพยายามจะลากเขาไปแต่ลากไปไม่ได้ มันรำคาญหงุดหงิดจึงใช้กรงเล็บหน้าฉีกร่างชายชราขาดครึ่ง
ชายชรายังไม่ทันขาดใจตายร่างครึ่งหนึ่งร่วงหล่นลงพื้นส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสยดสยอง หัวหน้าทหารรับจ้างหลับตาแล้ววิญญาณเขาก็หลุดลอย เรื่องแบบนี้เขาเห็นมามากเกินไปแล้ว
เมื่อตอนเริ่มเดินทางหลบหนีมีคนเกือบหมื่นคน
ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่พันคน
เขารีบโบกมือและตะโกน “ทุกคน! เข้ามาอยู่ใกล้ๆ กันให้มากขึ้น แต่เราจะต้องไปกันต่อ ข้าจะไม่รอคนที่รั้งอยู่ หากพวกเจ้าไม่สามารถไปได้ ข้าจะทิ้งพวกเจ้าไว้แน่นอน ถ้าพวกเจ้าต้องการอยู่รอดก็จงไปต่อที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองจินหยาง ถ้าพวกเจ้าไปถึงที่นั่นได้พวกเจ้าจะมีโอกาสรอดชีวิต พวกเจ้าวิ่งหนีมาหลายพันกิโลเมตรแล้ว แค่อีกนิดเดียว พวกเจ้าจะยอมทิ้งชีวิตไว้ที่นี่หรือ?คนที่ยังมีกำลังให้อุ้มเด็ก คนไม่มีกำลังจงกัดฟันลุก! หลังจากพ้นไพรหมาป่าแดงแทบจะไม่มีอสูรเหลือให้เห็นอีกแล้วถึงตอนนั้นค่อยพัก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!”
“ฮัวเอ๋อ!, จำเอาไว้ดูแลน้องชายเจ้าให้ดี รู้ไหม?” หญิงชราส่งทารกในอ้อมแขนให้เด็กหญิงตัวผอมที่อยู่ข้างๆนาง
“ยายจ๋า...” เด็กหญิงตัวสั่นสะท้านรับทารกมาอุ้มไว้แล้วกอดไว้แน่น
“เจ้าโตแล้ว รับรู้รับผิดชอบได้แล้ว จงดูแลน้องชายเจ้าให้ดียายขยับไปไหนไม่ได้อีกแล้ว เจ้าต้องรอดต่อไปให้ได้ในอนาคต” หญิงชรายิ้ม นางก้มจูบที่หน้าผากสาวน้อย “หลานรัก! เจ้าต้องมีชีวิตรอดพระเจ้าในสวรรค์จะตามดูแลพวกเขา ไม่ว่าเวลาไหน จงอย่าทิ้งความหวังความหวังของครอบครัวทั้งหมดตกอยู่กับเจ้าแล้ว จงพยายามมีชีวิตรอดให้ได้ ฮัวเอ๋อ!”
เด็กสาวหลั่งน้ำตานองหน้า นางได้แต่พยักหน้านางรู้และเข้าใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ถ้าหญิงชราทำเช่นนี้แสดงว่านางไม่ใช่คนเดียวที่ทำ แต่มีคนแก่คนชราอีกนับสิบนางจะมอบทารกให้กับญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเองรั้งอยู่เป็นอาหารหมาป่า
เช่นเดียวกับการเสี่ยงภยันอันตรายในพื้นที่อสูรดุร้ายที่ผ่านๆมา บางคนต้องสังเวยตัวเองเพื่อให้คนที่เหลือหนีรอด
มีฝูงหมาป่าเพียง20-30 ตัวยังนับว่าน้อย
คนจำนวนหลายสิบยังเติมท้องให้พวกมันอิ่มได้อย่างน้อยพวกมันจะไม่ติดตามไล่ล่าคนที่หนีตายอีกต่อไปเพราะมัวสนใจกับอาหารสดใหม่ของพวกมัน เมื่อเห็นกลุ่มคนผู้หิวโหยจากไป หัวหน้าทหารรับจ้างไม่ห้าม ความจริงเขาเองไม่มีวิธีการที่ดีกว่า การเสียสละนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด! เขาไม่มีกำลังแข็งแกร่งมากพอแม้แต่หมาป่าแดงก็ยังฆ่าไม่ได้ แล้วจะหยุดโศกนาฏกรรมนี้ได้อย่างไร
ตามเส้นทางไม่ทราบว่าต้องมีผู้คนเท่าใดยืนยันเสียสละชีวิตตนเองแลกกับการให้คนที่พวกเขารักได้มีชีวิตอยู่รอดได้ต่อไป
เพราะขาดบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่ ตอนแรกคนบาดเจ็บจึงต้องรับเคราะห์
จากนั้นก็เป็นคนชราที่ไม่มีคนให้ห่วงใยดูแล
เมื่อไม่มีคนที่จะเสียสละได้แต่ก็ยังมีคนยืนยันเสียสละตนเอง กลุ่มทั้งหมดที่มีอัตรารอดชีวิตสูงสุดก็เป็นทารกกับเด็กผู้หญิง เพราะพวกเขาคือความหวังสุดท้ายของกลุ่มทั้งหมด
ถ้าพวกเขาตายการหนีก็ไร้ความหมาย!
“ยายขอไปก่อน!”สตรีชราชักมีดออกมาเล่มหนึ่งมองดูหมาป่าแดงที่อยู่ห่างออกไปกำลังวิ่งเข้ามา เมื่อหมาป่าแดงตะปบร่างนางลงกับพื้นนางใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายแทงมีดเข้าที่นัยน์ตาข้างหนึ่งของหมาป่าจากนั้นยิ้มปล่อยให้หมาป่าแดงตะกุยอก ท้องฉีกอวัยวะภายในของนาง
นางไม่เคยคิดว่าจะสามารถฆ่าหมาป่าแดงได้ แต่นางหวังว่านางจะใช้กำลังที่น้อยนิดถ่วงเวลาให้หลานของนางได้
ผู้เคราะห์ร้ายที่ยอมสละตนเองแทบไม่สามารถทำร้ายพวกมันให้บาดเจ็บ
แต่คนเหล่านี้กลับถูกไล่ล่าอย่างรวดเร็ว
ถูกฉีกกระจายเป็นชิ้นๆ.... ผู้ลี้ภัยวิ่งหนีไปตามเส้นทางน้ำตานองหน้าในท่ามกลางกลุ่มคน หน้าตาของเด็กสาวนองด้วยน้ำตาไหลเป็นทาง แต่นางไม่ร้องออกมา นางกัดฟันกอดน้องชายแน่นวิ่งตามกลุ่มผู้คนไปติดๆ
นางไม่รู้ว่าการหนีนี้จะดำเนินต่อไปได้นานเท่าใด แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำให้นางฮึดครั้งแล้วครั้งเล่า
“ขณะที่หมาป่าแดงกำลังกินเหยื่อ เราต้องรีบออกจากไพรหมาป่าแดงให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ต้องมีความปลอดภัยรออยู่ รีบเข้า รีบหนีไป!” หัวหน้าทหารรับจ้างกังวลเพราะศัตรูที่น่ากลัวที่แท้จริงไม่ใช่หมาป่าแดงแต่มันน่ากลัวยิ่งกว่าหมาป่าแดงถึงร้อยเท่า ถ้าศัตรูตามมาทัน คงจะถูกฆ่าตายกันหมด จะไม่เหมือนกับฝูงหมาป่าแดง ที่ยังมีผู้รอดเหลือผ่านออกไปได้หลายร้อยคน
“น่าซาบซึ้งใจจริงๆ ข้าเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วเชียว” เสียงแหลมเล็กดังก้องไปทั้งป่า
“ความตายมาพรากชีวิตดีๆ ไปข้าชอบละครฉากนี้จริงๆ ถ้าพวกเจ้าตายเพิ่มอีกสักเล็กน้อย อย่างนั้นก็จะรู้สึกดีขึ้นบ้าง” มีเสียงดังก๊อกเหมือนเคาะประตู และเสียงดังเหมือนสายฟ้าฟาดตามมาเหนือศีรษะของทุกคน
เมื่อได้ยินเสียงนี้ผู้อพยพลี้ภัยที่พยายามดิ้นรนหนีถึงกับเข่าอ่อนทุกคน
มันน่ากลัวยิ่งกว่าตอนที่มีคนสะดุดเถาวัลย์ล้มลงกับพื้นเสียอีก
กลัวจนสั่นไปทั้งตัว
ภาพที่เห็นนั้นน่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าเห็นผีสาง!
อย่าว่าแต่คนชราและสตรีอ่อนแอเลย แม้แต่หัวหน้าทหารรับจ้างผู้เยือกเย็นก็ยังหน้าซีดเผือด
ทหารรับจ้างผู้คอยคุ้มกันผู้ลี้ภัยให้หลบหนีนับสิบคนทิ้งอาวุธและร้องขอความเมตตาทหารรับจ้างบางคนทิ้งผู้ลี้ภัยพยายามหลบหนี พวกเขาตั้งใจจะหนีไปให้พ้นจากที่นี่... มีใบไม้พุ่งหวีดหวิวทะลุลำคอของทหารรับจ้างที่กำลังหลบหนี
เมื่อทหารรับจ้างเหล่านั้นร่วงลงพื้นพวกเขามีอาการเหมือนกันทุกคน
ตายทันที!
ไม่มีพลังต่อต้านทั้งที่เป็นแค่ใบไม้ไม่กี่ใบก็สามารถฆ่าทหารรับจ้างเหล่านี้ซึ่งมีพลังปราณดินระดับห้า
“น่าผิดหวังมากเกินไป ข้าคิดว่าจะมีสักสองสามคนที่หนีพ้นทำให้ข้าพอใจได้บ้าง คิดไม่ถึงเลยว่าไม่มีเลยสักคน”บุรุษผู้มีเสียงแหลมเหมือนนกแสกลอยตัวลงมาคล้ายค้างคาว เมื่อเห็นพลังกดดันของคนผู้นี้แม้แต่หมาป่าแดงที่หิวโหยก็ยังหวาดกลัว พวกมันไม่กล้าวิ่งเข้ามากินเลือดเนื้อที่อยู่ที่อยู่บนพื้น
แน่นอนว่าผลลัพธ์ของพวกมันหลายตัวก็คงไม่ต่างไปจากทหารรับจ้างที่ลี้ภัยหนีไป
ไม่เห็นเลยว่าบุรุษแปลกประหลาดนี้ใช้ท่าทางยังไง เหมือนกับว่ามีลมหมุนหอบรอบตัวของเขาและมีใบไม้หมุนอยู่รอบตัว ใบไม้หลายสิบยิงสังหารหัวหน้าทหารรับจ้างแต่เขายังไม่ตาย
หมาป่าแดงถูกตัดหัวในสภาพต่างกัน
พวกมันเคยเป็นผู้ล่าและตอนนี้พวกมันตายหมด
หัวหน้าทหารรับจ้างสิ้นหวัง....พลังของบุรุษผู้นี้แข็งแกร่งมากกว่าที่ร่ำลือกันเสียอีก เขาไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
เขาถอนหายใจยกขวานยักษ์ในมือเตรียมฆ่าตัวตาย เขารู้ว่าถ้าเขาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนผู้นี้ เขาคงต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นแน่ ตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ ตายเร็วเสียยังดีกว่าไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน!
“ข้าไม่เห็นด้วย, คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าตายง่ายๆหรือ? เจ้าคิดหรือวว่าฉายา ‘หัตถ์วิถี’ เป็นชื่อไร้สาระ มือของข้าไม่เพียงแต่ควบคุมความเป็นของศัตรู แต่ยังควบคุมความตายของศัตรูได้” บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกรูปร่างเหมือนค้างคาวซัดกระสุนใบไม้ตัดขวานยักษ์ในมือของของหัวหน้าทหารรับจ้างขาดเป็นสองท่าน
“พวกเจ้าหนีมาได้ไกลมากแล้ว ถ้าหากจะมายอมแพ้กันง่ายๆ มันน่าเบื่อเกินไปดังนั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้า ข้าจะนับหนึ่งถึงร้อยใครสามารถหนีไปพ้นสายตาข้าได้ อย่างนั้นข้าผู้เป็นเจ้าเมืองจะปล่อยพวกเขาไป! ทุกคนยืนขึ้น แล้วหนีไปฮ่าฮ่าฮ่า นี่ข้าใจดีแล้วนะ!” เสียงดังราวกับฆ้องปากแตกดังขึ้นบุรุษสูงศักดิ์นั่งอยู่บนเสลี่ยงที่มีบัลลังก์ทองคำแบกหามโดยทาสสิบแปดคนสวมชุดคลุมสีแดง มือถือแก้วเหล้า มีทาสที่เปลือยกายนั่งคุกเข่าคอยรินเหล้าให้เขา
“....” เมื่อเห็นบุรุษผู้นี้ปรากฏตัว หัวใจของผู้ลี้ภัยทุกคนต่างสิ้นหวัง
บุรุษที่ประกาศว่าตนเองเป็นคนใจดีนี้ชั่วช้ายิ่งกว่า‘หัตถ์วิถี’ ถึงสิบเท่าถ้าจะนับเขาว่าเป็นคนโหดอำมหิตที่สุดในภูมิภาคสวนสวรรค์เชื่อได้ว่าไม่มีใครคัดค้าน
ไม่มีใครหลบหนีเพราะทุกคนรู้
หนีไปก็ไร้ประโยชน์
อย่าว่าแต่นับถึงร้อยเลยคนผู้นี้ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา
ในกลุ่มผู้คนที่เงียบสนิทมีเพียงเด็กสาวที่อุ้มน้องชายนาง?ก้มหน้าเบียดเสียดฝูงชนแยกออกมาและวิ่งไปข้างหน้าอย่างหมดแรง “ฮ่าฮ่าฮ่า, ใช่แล้ว, อย่างนั้นแหละวิ่งให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ข้าจะนับแล้วนะพวกเจ้าไม่ต้องการเอาชีวิตรอดเหมือนนางหรือ? ข้าให้โอกาสนี้กับพวกเจ้าแล้วนะ! ทุกคนหนีไป ตอนนี้ข้าเพิ่งจะนับหนึ่งเท่านั้น โปรดทราบ..ขณะนี้ข้าเพิ่งจะนับหนึ่งเมื่อข้านับถึงร้อย ใครก็ตามที่หนีรอดพ้นสายตาข้าไปได้ ข้าจะเว้นโทษตายให้ อะไรกันไม่มีใครตอบรับข้อเสนอของข้าเลยหรือ! พวกเจ้าทำให้เจ้าเมืองอย่างข้าอารมณ์เสียถ้าพวกเจ้าดิ้นรนกันไม่ไหว ก็ช่วยให้ข้ามีอารมณ์สนุกหน่อยได้ไหม? โชคดีที่มีแม่เด็กหญิงตัวน้อยเล่นสนุกกับข้า ฮ่าฮ่าฮ่า, ใช่แล้วข้าชอบเล่นสนุกกับคนที่ยึดติดกับความหวังเสมอ หากกำจัดความหวังในใจพวกเจ้าได้ นั่นจะมีความสุขมากเพียงไหน ตอนนี้ข้าจะเริ่มนับสองแล้วนะสาม..สี่...ห้า...หก แม่หนูน้อยเจ้าต้องวิ่งเร็วมากกว่านี้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า เจ็ด.. แปด...เก้า..? อ๋อ แน่นอน ก็ต้องเป็น ร้อย.. ! แม่หนูน้อย เจ้าก็รู้ข้าอ่อนวิชาคณิตศาสตร์ น่าเสียดายจริงๆ ข้านับร้อยแล้วเจ้าก็ยังหนีไม่พ้นสายตาข้า เจ้าน่าจะวิ่งให้เร็วมากกว่านี้”
“ไปได้” มีทาสคนหนึ่งพอร่างกระพริบวาบ ก็จับเด็กสาวพร้อมทารกกลับมาแล้วโยนลงใกล้บัลลังก์ทอง
ผู้ลี้ภัยไม่สามารถทนหันกลับไปดูได้
พวกเขารู้ว่าคนผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือแต่จะทำอะไรได้เล่า? ไม่มีอำนาจ ก็ไม่มีสิทธิเห็นแย้งว่าผิดหรือถูก!
เด็กสาวร้องไห้นางกอดน้องชายในอ้อมแขนสะอื้น “หลังจากนับเก้าก็ต้องเป็นสิบ ไม่ใช่ร้อยสักหน่อย...” ตอนนี้นางยังยึดถือความจริงมากกว่า แม้ว่านางจะรู้เดียงสา แต่นางก็ยังเป็นเด็กนางไม่เข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามทำไมถึงผิดสัญญา
บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งบนบัลลังก์ทองหัวเราะจนน้ำตาไหล
เขาตบบัลลังก์“ใช่แล้ว, จากนับเก้าก็ต้องเป็นสิบ ไม่ใช่ร้อย แต่ข้าชอบนับร้อยล่วงหน้า มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ข้าไม่จำเป็นต้องนับทั้งหมดก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าเจ้าเมืองอย่างข้าน่าเกลียดน่าชังเป็นพิเศษหรือเปล่าเจ้ารู้สึกว่าข้าผิดมากใช่ไหม? จงเศร้าเข้าไป จงโกรธแค้นเข้าไป ข้าชอบมองตาที่พูดไม่ได้ของเจ้า ฮ่าฮ่าหนอนน้อยน่าสมเพชเวลาพวกเจ้าตกตะลึงนี่ทำให้เราเจ้าเมืองมีความสุขอย่างที่สุด เมื่อเห็นคนอ่อนแออย่างพวกเจ้าถูกทรมานอยู่ใต้เท้าข้ามันทำให้ข้ารู้สึกอิ่มใจ พวกเจ้าไม่มีวันเข้าใจ นี่คือความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนใคร ความแข็งแกร่งคืออะไร? หมายถึงอะไรก็ตามที่สามารถควบคุมชีวิตของคนอื่นได้ตามใจนึก!”
“เจ้าต้องการแสดงบทบาทใช่ไหม?” บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกตัวเหมือนค้างคาวเหมือนกับขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครมาที่นี่ นอกจากนี้เขตนี้กลายเป็นดินแดนที่ราชาทอดทิ้งไปแล้วถ้ามีมดแมลงอ่อนแอตายเพิ่มขึ้น ใครเล่าจะสนใจ? เป็นการยากที่จะทราบเรื่องได้เราจะกลับทันที และจะไม่ยอมทำให้เสียโอกาส เราต้องรู้ว่าจะไม่มีใครกล้าหลบหนีไปได้อีกนาน!” บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวเราะลั่น
“อย่างนั้นก็....” เสียงที่เหมือนกับนกแสกดังขึ้นบุรุษที่เหมือนค้างคาวส่ายหน้าและหันไปด้านข้าง
“เจ้ามานี่ ถลกหนังของเด็กหญิงนี่ออกมาก่อนระวัง! ห้ามทำเสียหายแม้แต่น้อย ส่วนทารกนั้นผอมเกินกว่าจะกินได้ ควักหัวใจออกมา นอกจากนี้ข้าอยากกินสมองหวานๆอย่าปรุงให้เค็มเหมือนครั้งก่อนเล่า” บุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองกล่าว
“อย่าฆ่าข้า, ขอร้อง ไว้ชีวิตเราด้วย!” เด็กหญิงหวาดกลัวจนทรุดร่างลงกับพื้น ทาสเดินเข้ามาโดยตรง นางต้องการจะควักหัวใจทารก เธอกรีดร้องแล้วตรงเข้าหาทาสหญิงแล้วใช้ฟันอาวุธเพียงอย่างเดียวของนางกัดศัตรู
นางมีพลังต่อต้านได้เพียงเท่านี้
แม้ว่าจะไร้ประโยชน์แต่ก็ยังถือว่าได้ดิ้นรนต่อต้านไม่เหมือนผู้ลี้ภัยและทหารรับจ้างอื่นที่ได้แต่รอความตาย
หัวหน้าทหารรับจ้างลอบชักมีดแต่ก่อนที่เขาจะใช้ฆ่าตัวตาย เขาพบว่าตนเองกลายเป็นอัมพาต แข็งไปทั้งตัว แม้แต่กระพริบตาก็ยังทำไม่ได้
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เมื่อตกอยู่ภายใต้‘หัตถ์วิถี’ การฆ่าตัวตายย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขาไม่สามารถตายได้ น่ากลัวว่าจุดจบของเขาคงไม่ดีไปกว่าเด็กสาวที่ถูกถลกหนัง... เมื่อเขาตายทุกอย่างก็จบสิ้น
“ข้าซาบซึ้งต่อการต่อต้านแบบนี้ ถ้าทุกคนเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นข้าผู้เป็นเจ้าเมืองก็คงไม่เบื่อ ก่อนถลกหนังมนุษย์ของนาง ให้เลาะฟันนางออกมาทีละซี่ระวังอย่าให้รากฟันเสียหาย เลาะออกมาให้หมดและต้องสวยงาม ข้าจะได้เลือกดู!” บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งบนบัลลังก์ทองซดเหล้าในแก้วด้วยความเบิกบานใจจากนั้นจากนั้นขยับเปลี่ยนท่าเล็กน้อยเขาจะได้ฟันที่ถูกเลาะออกมาและหนังถลกเป็นของเก็บสะสมสองชิ้น
ขณะที่ทาสชักมีดออกมาเตรียมเลาะฟันของเด็กหญิง
ร่างของนางสั่นเล็กน้อย
และล้มลงกับพื้นทันที
หลังจากทาสรับใช้ล้มลงกับพื้นไม่กี่วินาทีร่างแยกเป็นสองส่วนตั้งแต่ศีรษะลงไป
“เกิดอะไรขึ้น?” บุรุษวัยกลางคนผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองตะลึงเหล้าที่อยู่ในมือกระฉอกหก ฝีมือใครกัน?ฆ่าคนของเขาต่อหน้าอย่างคาดไม่ถึง สามารถพรางตัวเงียบเสียง ฆ่าคนได้โดยมองไม่เห็น!
เงาร่างสายหนึ่งบินมาจากระยะไกลและลงยืนอยู่ข้างเด็กหญิงต่อหน้าทุกคน นางยื่นมือประคองเด็กหญิงให้ลุกขึ้น“โชคดีที่ไม่บาดเจ็บ ไอ้ที่บ้าๆนี่น่ารำคาญจริงๆ เทเลพอร์ตไม่ได้ดังใจเลย คนบ้า! เกือบสายไปแล้ว เจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก รีบไปฆ่าเจ้าพวกนี้ทันที ข้าโมโหจริงๆ!”
คนที่มาถึงก็คือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเวลาแม่เสือสาวโกรธ ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ตอนนี้บอกได้ว่านางโกรธจัดจริงๆ!
เงาร่างด้านหลังไม่ใช่เย่ว์หยางแต่เป็นฟงจีที่อ้างว่าตนเองเร็วเหลือเชื่อ แต่ยังห่างไกลกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนราวกับขี่ม้าแกลบ
ขณะที่เย่ว์หยางไม่ทราบว่าไปนั่งบนพนักพิงบนบัลลังก์ทองเมื่อไหร่ เขานั่งบนพนักพิงของคนอื่นไม่พอเขายังยกขาพาดไหล่บุรุษวัยกลางคนโดยตรง “กักพื้นที่ด้วยสมบัติวิเศษหรือ?สิ่งนี้ทำให้เราคุณชายมาสายเป็นครั้งแรกในชีวิต เจ้าจะชดใช้ยังไง?ฟันและหนังมนุษย์ไม่เหมาะกับรสนิยมอันสูงส่งของเราคุณชาย ต่างกันลิบลับกับสวะอย่างเจ้า!”
“อะไรนะ?” บุรุษวัยกลางคนโกรธทันทีมีคนกล้าเหยียบไหล่ของเขาหรือ? หาที่ตายชัดๆ!
เขากระโจนขึ้นเต็มกำลัง
และพุ่งไปหาเย่ว์หยาง