ตอนที่แล้วตอนที่ 922 ค้นหาช่องโหว่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 924 ขุนพลวิญญาณกำเนิดใหม่

ตอนที่ 923 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


ในที่สุดถังเทียนก็รู้ได้ว่าความคุ้นเคยที่ไม่เหมือนใครนี้มาจากไหน  ห่วงต้องห้าม!

ห่วงต้องห้ามคือวิชาแรกที่ปลุกความสนใจของถังเทียนหลังจากเข้าทวีปกวงหมิง  ห่วงต้องห้ามเป็นวิชาที่แฮงค์องครักษ์ของคลอเดียสร้างขึ้นเอง  ในทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แม้ว่าแฮงค์จะไม่ค่อยรู้ดีนัก  แต่งานสร้างของเขาห่วงต้องห้ามนั้นน่าทึ่งอัศจรรย์ทำให้ถังเทียนให้ความสนใจ

มันสามารถเปลี่ยนความหนาแน่นของพื้นที่ซึ่งใช้สร้างที่จองจำได้ ระดับพลังงานต่ำทำให้เกิดผลกว้างขวางเพิ่มผลสะท้อนสองอย่างเข้าด้วยกัน จึงสร้างประสิทธิภาพในการจับกุมนักสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้

ถังเทียนเข้าใจได้ชัดยิ่งขึ้นเมื่อเขาศึกษาเรียนรู้ดังนั้นจึงทำให้เขาได้เปรียบมาก  เขาสามารถสร้างห่วงต้องห้ามเหมือนพื้นที่รอบตัวเขาและป้องกันไม่ให้เกิดพลังผันผวนในตัวเขาเอง เขาใช้ความรู้แจ้งจากห่วงต้องห้ามเคลื่อนไหวผ่านสนามรบได้เหมือนภูตพราย

ด้วยพลังในปัจจุบันของถังเทียนมีคู่ต่อสู้เพียงไม่กี่คนที่ต้องให้เขาใช้วิชานี้ แม้แต่จำนวนคนที่มีความแข็งแกร่งเหนือเขาก็แทบนับได้ การค้นคว้าห่วงต้องห้ามของเขายิ่งทำให้เขาสนใจเกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น  แต่เขายังยากจะใช้ออก  ดังนั้นเมื่อเขาศึกษาลำแสงลงทัณฑ์  เขาไม่เคยวางความคิดไว้ในห่วงต้องห้าม

นอกจากนี้พลังของทั้งสองฝ่ายยังต่างระดับโดยสิ้นเชิง  เมื่อถังเทียนถูกผนึกอยู่ในห่วงต้องห้ามมันค่อนข้างง่ายสำหรับเขา

หลังจากเขาพิสูจน์พลังของลำแสงลงทัณฑ์แล้วแรงกดดันที่น่ากลัวที่ปลดปล่อยออกมาจากท้องฟ้าทำให้เขารู้สึกกลัว  มีพลังน้อยมากที่ทำให้ถังเทียนรู้สึกกลัวและเมื่อเทียบกันแล้ว ห่วงต้องห้ามอาจจะเป็นวิชาสร้างสรร แต่ในแง่คุณภาพไม่ต้องพูดถึงมากนัก

อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองนั้นมีระดับพลังแตกต่างสิ้นเชิง  แต่เมื่อถังเทียนเชื่อมโยงทั้งสอง  เขาตระหนักได้ทันทีถึงความคล้ายคลึงกัน

แน่นอนว่าลำแสงลงทัณฑ์มีความซับซ้อนมากกว่าห่วงต้องห้ามมาก  ในความรู้สึกบางอย่าง ทั้งสองมีหลักการทั่วไปหลังจากแยกส่วนถอดรหัสห่วงต้องห้ามแล้ว ถังเทียนก็ได้รับผลบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ในตอนเริ่มต้นเขาคิดว่าผนึกของลำแงลงทัณฑ์ในท้องฟ้าถูกสร้างโดยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  แต่จากที่ประสบกับห่วงต้องห้าม  เขาไม่ยึดติดกับบทสรุปนี้

ระบบผนึกสร้างขึ้นโดยวิหารมีสามส่วน  ลำแสงลงทัณฑ์,เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่ในอากาศ

ลำแสงลงทัณฑ์ห้าร้อยถือเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การใช้งานที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่มากมาย  แต่เป็นพลังสะท้อน

พลังสะท้อนกันระหว่างเพลิงศักดิ์สิทธิ์

ลำแสงลงทัณฑ์ทั้งห้าร้อยที่ปล่อยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ สร้างพลังงานสะท้อนเหมือนกันที่คลุมไปทั้งทวีปเซียนได้ นั่นคือวิธีที่มันสามารถสร้างม่านพลังทั่วท้องฟ้าทวีปเซียน

ถังเทียนรู้สึกชื่นชมต่อประมุขผู้อาวุโส  ทวีปเซียนเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มากและยังผนึกทวีปเซียนไว้ได้ ตำแหน่งของลำแสงก็มีความสำคัญมาก

ทุกตำแหน่งของลำแสงถูกเลือกขึ้นอย่างพิถีพิถันหลังจากวางแผนและเลือกคัดสรรซึ่งหมายความว่าวิหารวางแผนมานานแล้ว

แผนการขนาดใหญ่และเลือดเย็นอย่างนั้นไม่ได้เริ่มต้นเพราะมีแรงกระตุ้น แต่ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบและทุกอย่างที่ประมุขผู้อาวุโสทำก็ถูกโยงเข้ากันได้  ความเลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ของประมุขผู้อาวุโสนั้นน่ากลัวมาก

นั่นคือเหตุผลที่ตั้งแต่ประมุขผู้อาวุโสเริ่มเคลื่อนไหว  เขาได้เปรียบในการสู้รบ

เนื่องจากความผันผวนพลังที่พวกเขาสร้างขึ้นจากพลังสะท้อนของลำแสง  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าไม่เคยจางหายไป  แต่ลอยอยู่ในท้องฟ้าและสร้างผนังกั้นเพลิง การสร้างผนังกั้นด้วยเพลิงเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งกองทัพใดที่มีความแข็งแกร่งก็สามารถทำสำเร็จได้ แต่จากรูปแบบที่สามารถควบคุมทั้งทวีปเซียนได้ขนาดใหญ่กว้างขวางเป็นเรื่องที่ถังเทียนไม่เคยได้ยินมาก่อน

แม้ว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์จะลอยเต็มอยู่ในอากาศเป็นปัจจัยสำคัญในการผนึกทวีป  และวิชาสังหารที่ประมุขผู้อาวุโสได้วางไว้แล้ว

ตอนแรกถังเทียนคิดว่าพวกเขาแค่ทำเพื่อขุนพลวิญญาณ หลังจากนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าเขายังประเมินประมุขผู้อาวุโสต่ำเกินไป เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแปลงพลังงานไปเป็นพลังแสงสว่างต่อเนื่องและสำหรับศิษย์ที่ฝึกในวิทยายุทธของตระกูลหรือได้รับมรดกถ่ายทอดต่อลงมา  ปริมาณพลังงานที่พวกเขาจะเข้ากันได้จะน้อยกว่า ซึ่งจะคล้ายกับการทำงานพลังงานระดับต่ำของห่วงต้องห้าม

แต่เขาต้องยอมรับว่าการออกแบบมานั้นทำให้ไม่อาจต้านทานและทำให้แน่นหนา

ไม่มีใครต้องกลัวคนบ้า  แต่ทุกคนต้องกลัวคนบ้าที่ฉลาดรอบคอบ

ความจริงตระกูลต่างๆไม่มีโอกาสกลับขึ้นมาบนโต๊ะอีกต่อไป พวกเขาไม่มีทางคิดว่าแม้ว่าก่อนนั้นพวกเขาจะวางกลยุทธไว้ได้ดี แต่ศัตรูของเขาได้วางแผนมายาวนานเพื่อกำจัดพวกเขา จำนวนเพลิงศักดิ์สิทธิ์มากมายยังคงเปลี่ยนแปลงในอากาศไปเป็นแสงยังคงต่อเนื่อง  พวกเขาจะรู้สึกเหมือนปลาที่กระโดดออกมาจากน้ำรู้สึกอึดอัด และแม้แต่ม่านพลังธรรมดาที่พวกเขาสามารถใช้ได้ง่ายก็กลายเป็นตึงเครียดและยากลำบาก

ภายในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งพลังงานมีความหนาแน่นมาก  90% ของคนไม่เคยพบกับประสบการณ์ที่บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังงานเบาบาง มาตรการของประมุขผู้อาวุโสสร้างผลกระทบต่อจุดอ่อนพวกเขาทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้

คนที่มีความกล้าหาญน้อยเริ่มร้องไห้แล้ว และฉากภาพของเพลิงศักดิ์สทธิ์เผาทั่วทุกสถานที่สร้างแรงกระทบต่อกำลังใจพวกเขา

สิ่งที่ประมุขผู้อาวุโสมองพลาดและไม่เคยคาดมาก่อนก็คือถังเทียนและกลุ่มคนของเขา

ถังเทียนและกลุ่มคนของเขาได้นำตัวแปรเข้ามาในแผนการที่สมบูรณ์และรอบคอบของเขา

ถังเทียนและพวกรู้สึกได้ถึงแรงกดดันพอกัน  ยิ่งพวกเขาถ่วงเวลาลากยาวออกไป  พวกเขาก็ยิ่งเสียเปรียบมากขึ้น  ถ้าพวกเขาไม่สามารถคลี่คลายความลับของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จก่อนที่ประมุขผู้อาวุโสจะสร้างขุนพลวิญญาณออกมา  พวกเขาคงจะต้องตาย

แม้แต่ถังเทียนผู้ไม่กลัวอะไร เมื่อนึกถึงว่ากลุ่มขุนพลวิญญาณที่สามารถดูดซับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในอากาศได้ทั้งหมดก็ทำให้เขาหนังหัวชาด้วยความกลัวแล้ว

‘สัตว์ประหลาดแบบไหนกันที่จะเกิดขึ้นจากชีวิตของผู้คนในทวีปเซียนเป็นล้าน?’  ถังเทียนไม่สามารถนึกภาพนั้นได้!

เขาโยนความคิดเหล่านี้ออกไปทั้งหมดและเผชิญหน้ากับปัญหา  เขาหาความชัดเจนเกี่ยวกับระบบที่ใช้ผนึกทวีปเซียน  แต่เขาตระหนักได้ว่าเขาทำอะไรไม่ได้  ระบบของประมุขผู้อาวุโสยังมีความฉลาดมากกว่าห่วงต้องห้ามและใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณสูงนับเป็นความน่ากลัวอย่างแท้จริง

ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพไปเป็นความเปลี่ยนแปลงทางปริมาณอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจนถึงช่วงที่วิกฤติ ก็จะผ่านการเปลี่ยนแปลง  นอกจากนี้ยังเป็นวิชาที่มีอันตรายและมีระดับที่สูง อย่างเช่นเพลิงศักดิ์สิทธิ์

มีข้อบกพร่องมากมายระหว่างลำแสงลงทัณฑ์และม่านพลังในท้องฟ้าแต่ทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์กลับทำได้สมบูรณ์แบบ

ทันใดนั้นถังเทียนตระหนักได้ถึงปัญหาทั้งหมดกลับมารวมอยู่ที่เดียว  เพลิงศักดิ์สิทธิ์!

ถ้าพวกเขาไม่ติดอยู่ภายในเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ถังเทียนจะต้องหลีกหนีภาพแรกของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก่อน  เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สิ่งธรรมดาและถ้าใครต้องเผชิญกับการต่อสู้ ไม่ว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์จะทรงพลังเพียงไหน  ถังเทียนจะไม่กังวลขณะต่อสู้ แต่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ต่อหน้าเขาสร้างขึ้นจากชีวิตผู้คนในทวีปเซียนทำให้จำนวนของเพลิงศักดิ์สิทธิ์กว้างไกลราวมหาสมุทร ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณมากได้  เป็นเหมือนทะเล และมีแค่คลื่นอย่างเดียวถังเทียนก็อาจจะถูกทำลายได้ และถ้าเพลิงศักดิ์สิทธิ์เกิดระเบิดกะทันหัน  ทั่วทั้งทวีปเซียนจะถูกแผดเผาเป็นจุล  มันอาจเป็นสิ่งที่ทะเลพลังงานไม่สามารถคงอยู่ได้ซึ่งถ้าเกิดขึ้น  ทะเลพลังจากการเผาไหม้และการระเบิดที่ไม่สามารถควบคุมได้จะกลายเป็นการระเบิดของพลังงานครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนกวาดไปทั่วทวีปกวงหมิง ไม่มีใครรู้ว่ามีทวีปอยู่มากเท่าใดจะรอดพ้นจากระเบิดขนาดใหญ่นั้น

แค่คิดถึงฉากภาพนั้นก็ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว

ถังเทียนสูดหายใจลึก  เขาเริ่มมีความรู้สึกวิตกกังวล  ‘ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ข้ารู้สึกกังวลมาก?’ เขาลืมไปนานแล้ว  แต่ในวันนี้เขารู้สึกถึงความเร่งด่วน แม้ว่าเขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสจะไม่กระตุ้นแรงระเบิดของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  แต่เขารู้ว่าทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่ประมุขผู้อาวุโสเองก็ไม่สามารถควบคุมได้

‘ใช่แล้ว,ทำไมข้าต้องกังวลเรื่องทั้งหมดนี้,ความจริงข้ากำลังกังวลเรื่องประมุขผู้อาวุโสไม่ใช่หรือ?’

ถังเทียนหัวเราะเยาะตนเอง  แต่ความกังวลในใจของเขาลดลงเล็กน้อย  เขาเริ่มเพ่งความสนใจมากกว่าเดิมและทิ้งความคิดที่ซับซ้อนทั้งหมดออกไป  ‘เพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นแค่เพลิงศักดิ์สิทธิ์, ข้าเคยเห็นสิ่งแปลกประหลาดมามากแล้วเช่นกัน  มากกว่าแค่เพลิงศักดิ์สิทธิ์นี่เสียอีก’

หลังจากสู้กับอัศวินกวงหมิงถังเทียนได้ศึกษาเรื่องเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างมาจากพลังงานแสงบริสุทธิ์  และในวิหาร การเรียนรู้เรื่องเพลิงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นข้อกำหนดที่เข้มงวดพวกเขาอยู่ในทวีปเซียน แผ่นดินของวิหาร และเป็นหัวใจของทวีปกวงหมิง ที่ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับวิหารที่ใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์  ในทวีปอื่น เป็นไปไม่ได้ที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะกระจายไปอย่างกว้างขวาง

เพลิงศักดิ์สิทธิ์คือสัญลักษณ์ของความภักดีและถูกมองว่าเป็นพลังที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดดังนั้นการใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์คลุมรอบจึงกลายเป็นกลยุทธวิชาฆ่าและระบบต่อสู้ขนาดใหญ่

‘เนื่องจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานมันก็ยังเป็นพลังงานไม่ใช่หรือ? หรือเป็นกฎธรรมชาติรูปแบบหนึ่ง?’

ถังเทียนคิดลึกขณะที่เขานั่งอยู่ข้างลำแสงลงทัณฑ์

บรรยากาศในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ตึงเครียดมาก

กองพลเกราะเทพเจ้าพยายามฝืนทนควบคุมม่านพลังงาน  แรงกดดันที่กดทับใส่พวกเขาหนักขึ้นทุกที  ทำให้สมาชิกบางคนรู้สึกเหนื่อยล้า  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปด้วยดี  จี๋เจ๋อกัดฟันพูด “นี่ไม่ใช่หนทางที่ควรเป็นไป”

“เจ้ามีความคิดอะไรอยู่ในใจบ้าง?”  ฝูเจิ้งจือเข้าใจแล้ว พรสวรรค์ของเขายังห่างนักเมื่อเทียบกับจี๋เจ๋อ  และเขายังแก่กว่ามาก  ขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ในช่วงลมหายใจอึดสุดท้าย  พลังของกฎธรรมชาติที่ใช้ไปมากเกินไป  ทำให้เลือดในตัวเขาข้น  และเขาหมิ่นเหม่จะสูญเสียการควบคุม

จี๋เจ๋ออยู่ในสภาพที่ดีกว่าฝูเจิ้งจือมากเขาสามารถคิด  “พลังงานอื่นน้อยกว่า  แต่พลังแสงรังสีกำลังเพิ่มขึ้น  เราสามารถใช้พลังงานรังสีแทนได้ไหม?”

ฝูเจิ้งจือตกใจ  เขาตะลึงกับความคิดบ้าบิ่นของจี๋เจ่อ

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาเชียนฮุ่ยตาเป็นประกาย  “เจ้ามีความคิดว่าไงบ้าง?”

จี๋เจ๋อไม่สนใจมารยาทและพูดขึ้น  “ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิชาของพวกกวงหมิงและกฎธรรมชาติของพวกเขา  แต่มีกฎธรรมชาติบางอย่างอยู่แน่นอนอาจจะมีการปลดปล่อยกฎธรรมชาติแห่งแสง? เสี่ยวเหยาเจ้าฝึกมาทางกฎแห่งแสงไม่ใช่หรือ?”

สมาชิกที่ชื่อเสี่ยวเหยาฝืนหัวเราะ  “ลูกพี่, ข้าฝึกมาในกฎธาตุแสง  แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าพวกนี้เลย”

“ถ้าเจ้าไม่ลองแล้วเจ้าจะรู้ได้ยังไง?”  จี๋เจอ๋ตอบโดยไม่ลังเล ในเวลาอย่างนั้นพวกเขาจะต้องลองดูอย่างสิ้นหวังโดยไม่ต้องสนใจอะไรมาก  พวกเขาต้องทำสิ่งที่เกินความสามารถของพวกเขา

เสี่ยวเหยารู้ว่าพวกเขาอยู่ในช่วงวิกฤติหัวเลี้ยวหัวต่อ

เขาไม่สนใจอะไรมากเสี่ยวเหยาตะโกน “อย่างนั้นข้าจะลองดู แต่ข้าทำตามลำพังไม่ได้ ขอให้มีคนช่วยข้าเพิ่มสักสองสามคน”

จี๋เจ๋อพูดทันที“พาคนไปกับเจ้าห้าคน!”

สมาชิกอีกห้าคนที่ยังมีกำลังเดินมาหาเสี่ยวเหยาพอคนลดลงทำให้ม่านพลังสั่นไหว และสมาชิกอีกคนหนึ่งผู้ค้ำม่านพลังไว้รู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักขึ้นขณะที่แรงกดดันถมทับใส่พวกเขา

สายตาทุกคนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวเหยาและกลุ่มของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด