ตอนที่แล้วตอนที่ 920 มุ่งสู่เมืองแม่น้ำขาวความลับซ่อนเร้น?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 922 รับน้องใหม่และประเพณีดีงาม

ตอนที่ 921 ขาดไม่ได้


เจ้าเมืองจินหยางชื่อฟงจี มีบุคลิกเหมือนนักสู้เพียงแต่มีพลังระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น

พลังระดับนี้ นอกจากภูมิภาคสวนสวรรค์แล้ว ถ้าเขาไปเป็นเจ้าเมืองที่อื่นคาดได้ว่าเขาคงจะถูกกลุ่มโจรฆ่าตายเป็นแน่  แต่เมืองหลายสิบเมืองโดยรอบพลังอย่างเขาอาจกล่าวได้ว่าเป็นห้าสุดยอดฝีมือในแถบนี้ ในภูมิภาคสวนสวรรค์ยิ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ราชานั่นจะเป็นเขตสงครามอย่างเป็นทางการ และมีเจ้าเมืองที่มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่า แนวเขตที่สองแนวเขตที่สามจะเป็นเจ้าเมืองที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามโดยตรงส่วนใหญ่มีพลังระดับต่ำกว่าปราณฟ้า พลังปราณดินระดับหกก็มี

ฟงจีไม่ใช่เจ้าเมืองคนเก่าของเมืองจินหยาง

เขาเป็นนักเดินทางที่เข้ามาฝึกฝนในภูมิภาคสวนสวรรค์  เพราะเจ้าเมืองจินหยางคนเก่าถูกฆ่า  องครักษ์และพ่อบ้านของเจ้าเมืองถูกฆ่าจึงไม่มีใครรับผิดชอบทำหน้าที่เจ้าเมือง  ดังนั้นเขาจึงรับหน้าที่นี้ไว้เอง

นักผจญภัยอย่างเขาประสบความสำเร็จไม่ใช่ว่าจะหาได้ยากในภูมิภาคสวนสวรรค์

แม้ว่าพลังและคุณสมบัติของเจ้าเมืองรอบนอกภูมิภาคสวนสวรรค์จะไม่สูงมาก แต่ยังมีตำแหน่งเจ้าเมืองสองสามแห่งที่ยังว่างอยู่และไม่มีใครยอมรับภาระความยุ่งเหยิงไว้ดูแล  ตัวอย่างเช่นไม่ไกลจากเมืองจินหยางยังมีเมืองหยางถี เพราะขาดแคลนแร่ธาตุ เป็นดินแดนกันดารเกิดภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น ประชาชนถูกรีดนาทาเร้นอย่างหนักต้องตกอยู่ในสภาพแร้นแค้นฝืดเคือง  ดังนั้นไม่มีใครต้องการไปปกครองที่นั่น  มีแค่กองทหารเล็กๆทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมาย หากกลุ่มพ่อค้าธุรกิจจากภายนอกจะส่งตัวแทนมารับหน้าที่เจ้าเมืองนั่นเป็นเรื่องที่นิยมทำกันมากในภูมิภาคสวนสวรรค์ ความแข็งแกร่งยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการรบ นอกจากนั้นฝ่ายปกครองเหนือกว่านั้นจะไม่ก้าวก่ายถึงการกระทำของเจ้าเมืองระดับล่างๆ

อาจกล่าวได้ว่าสถานที่อย่างเมืองจินหยางและเมืองหยางถีทั้งสองเมืองรอบนอกนี้ขาดแคลนรายได้พิเศษและถูกลืมเลือนมานานแล้ว

“เจ้าจะให้ข้าไปแลกเปลี่ยนอาหารมากมายขนาดนั้นได้ที่ไหน?  ข้าเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน!”  ฟงจีโมโหพ่อบ้านซาทง  “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากสนใจพลเมืองเหล่านั้น  แต่มันไม่มีทาง!  ข้าวชุดสุดท้ายมอบให้พวกเขาไปเพาะปลูกแล้ว  ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนพวกนี้ไม่รู้วิธีทำการหว่านไถหรือเพราะเมล็ดพันธุ์พืชทั้งตระกูลของข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าเองเป็นทหารรับจ้าง เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ที่นี่  ข้าไม่ต้องการทำงานเป็นเจ้าเมือง  แต่ที่นี่สับสนเกินกว่าข้าจะทนดูอยู่เฉยๆ ข้าถึงได้ยอมมีส่วนร่วมในเมืองนี้  ตอนนี้เจ้าต้องการให้ข้าหาอาหารหาเมล็ดพันธุ์พืช เจ้านึกว่าข้าเป็นเทพเจ้าหรือ? เจ้ารู้ไหมว่าข้ามีเงินเหลืออยู่ในคลังเท่าไหร่ เงินก้อนสุดท้ายส่งให้พ่อค้าหน้าเลือดซื้อเมล็ดพันธุ์พืชมาไงเล่า  ตอนนี้เมล็ดพันธุ์พืชหายไปแล้วแม้แต่ต้นกล้าก็ยังไม่เห็น นี่ยังตำหนิข้าอีกหรือ?  เจ้าจะทำยังไงก็ทำไปเถอะ ส่วนข้าพอแล้ว!”

“นายท่าน, ถ้าไม่มีอาหารข้ากล้าพูดได้ว่าอย่างน้อยเดือนหนึ่ง เมืองจินหยางจะมีคนอดตายกว่าครึ่ง!”  พ่อบ้านซาทงฝืนใจพูด  และเขารู้ถึงความยากลำบากของเจ้าเมือง   แต่นอกจากแบมือขอจากเขา  เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก?  ที่สำคัญฟงจีเป็นเจ้าเมืองและเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด!

“ก็ข้าไม่รู้ว่าต้องทำยังไง!”  ฟงจีโวยวาย  “ข้าเองก็กินดื่มอย่างประหยัดมาถึงสามเดือนแล้วข้าไม่เคยกินอาหารได้เต็มมื้อ เจ้าเมืองที่อัตคัดอย่างนี้ไม่มีทางทำอะไรได้อีก  เจ้าไปเลือกเจ้าเมืองอื่นที่เจ้าชอบใจมาทำงานเถอะ ข้าไม่มีความสามารถช่วยให้คนเป็นแสนได้อิ่มท้องได้!”

“เรื่องนี้...”  พ่อบ้านซาทงได้แต่ถอนหายใจ

เขารู้ความยากลำบากของฟงจี เพราะเขาไม่มีความสามารถเลี้ยงปากท้องของคนเป็นแสนๆ ได้

ปัญหาขาดแคลนอาหารไม่ใช่แค่ปัญหาในเมืองจินหยาง  แต่เป็นปัญหาทั้งภูมิภาคสวนสวรรค์  ยกเว้นบางพื้นที่ที่งดงามของภูมิภาคสวนสวรรค์  ทุกแห่งล้วนยากจนแร้นแค้น

ในสงครามบุรุษผู้ใช้แรงงานล้มหายตายจากในสนามรบที่เหลืออยู่ในพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นคนคนชรา เด็กและสตรีอ่อนแอ  นอกจากผู้พิการหรือคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง  ผู้ใหญ่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี  ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดตราบใดที่มีกำลังรบได้จะถูกส่งไปยังค่ายทหารในพื้นที่สงครามเพื่อทำการรบ  ไม่รู้ว่าการรบชิงดินแดนของจักรพรรดิแดนดินจะสิ้นสุดลงเมื่อใด

อาหารกำลังจะหมด และไม่มีพืชพันธุ์นั่นหมายความว่าการเก็บเกี่ยวต่อไปจะเป็นศูนย์

หนึ่งเดือนต่อมา เปลือกไม้และปศุสัตว์จะถูกนำมากินหมด ในที่สุดผู้หิวโหยนับแสนคนจะต้องผจญกับทุพภิกขภัยที่โหดร้ายเช่นเดียวกับเมืองหยางถี

มิคสัญญีคนกินคน... สถานการณ์น่ากลัวแบบนั้นซาทงไม่เคยเห็นสักครั้ง

หรือว่าเมืองจินหยางจะกลายเป็นสถานที่กองไปด้วยซากศพและโครงกระดูก?

“ท่านเจ้าเมือง! มีข่าวดีมีข่าวดีมาบอก!” โอโบ้พ่อค้าข้าวที่ยากจนที่สุดในโลกวิ่งเข้ามาชนซาทงจนล้มลงกับพื้น

“โอโบ้,มีพ่อค้าเข้ามาหรือ? มหัศจรรย์จริงๆยังมีพ่อค้ายินดีเข้ามาในพื้นที่ยากจนของเราอีกหรือ?” ซาทงยังไม่ทันลุกขึ้นก็คลานไปฉุดขาของโอโบ้โดยตรง

“พ่อค้านั้นอยู่ที่ไหน?” ฟงจีดีใจ แต่หลังจากถามประโยคนี้แล้ว เขามีสีหน้าขมขื่นปวดร้าว  “เราไม่มีเงินแล้ว”

“ไม่มีเงิน แต่พวกเขาไม่ได้ต้องการเงิน!” โอโบ้ส่ายหน้าและโบกมือ

“โลกนี้ยังมีพ่อค้าที่ไม่ต้องการเงินอีกหรือ?”  ฟงจีไม่เชื่อ 100% ว่าจะมีพ่อค้าที่ไม่ชอบเงินถ้าเป็นเช่นนั้นจริงสุกรทั่วโลกคงปีนต้นไม้ได้กันหมด!

“ใช่ ใช่แล้วพวกเขาไม่ต้องการทองของพวกเราสักเหรียญ ไม่ได้ต้องการผลึกปีศาจ บอกตามตรงผลึกปีศาจของเราคุณภาพต่ำ ให้ฟรีๆ ก็ไม่มีใครต้องการเจ้าไม่มีทางนึกภาพออกได้เลยว่ากลุ่มธุรกิจแบบไหนที่มาหาเรา มีเรือบรรทุกธัญพืชถึงห้าสิบลำและสิบลำเต็มไปด้วยเหล้าชั้นดี  พระเจ้า! ถ้าสินค้าเหล่านั้นสามารถเข้าไปในเขตสงครามได้  ข้ากล้าพูดได้เลยว่าแม้แต่ราชาก็อาจกระอักเลือดได้...ข้าพูดจบแล้ว ตอนนี้กลับไปทำการค้ากันเถอะ พวกเขาไม่ต้องการเงินของเรา ตราบเท่าที่เราเอาอาวุธต่างๆ ในสนามรบกลับมาได้”  โอโบ้พูดอย่างมีความสุขและคำพูดของเขาไม่ปะติดปะต่อ

“เจ้าโง่หรือเปล่า?  เราอยู่ในเมืองรอบนอก ไม่ได้อยู่ในเขตสงคราม เราจะได้อาวุธมาจากที่ไหน?  นอกจากนี้นั่นยังเป็นสินค้าต้องห้าม  ผู้ใดทำการค้าขายจะต้องถูกประหาร”  ซาทงปฏิเสธความเป็นไปได้กับข้อตกลงเช่นนั้น

“ถูกแล้ว เจ้าพูดถูก แต่สิ่งที่ข้าต้องการพูดก็คือพวกเขาต้องการอาวุธ  เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร?  แร่ดอกไฟฟ้า อาวุธธรรมดาพวกเขาไม่สามารถมองออกได้ เราใช้แร่ดอกไฟฟ้าในการแลกเปลี่ยนอาหารและธัญญพืช  ท่านเจ้ามืองกับพ่อบ้านซา  พวกท่านคิดดูเรือสินค้าห้าสิบลำแต่ละลำกว้างร้อยเมตร ถ้าเราได้มาจะไม่มีปัญหาอะไรในเมือง!” โอโบ้รีบอธิบายโดยเร็ว

“ข้าบอกแล้วโอโบ้  เจ้าพูดเบาลงอีกนิด แร่ดอกไฟฟ้าเป็นของต้องห้ามซื้อขายจากจักรพรรดิแดนดิน....”ซาทงคิดว่าเวลานี้หัวใจเต้นเหมือนกลอง แต่เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาตื่นเต้น

จะมีอะไรน่ากลัวยิ่งไปกว่าอดจนตาย?

ไม่มีเลย!

ยอมถูกตัดหัวก็ยังดีกว่ากินอิ่มท้องแล้วกลายปีศาจร้าย!

โอโบ้มองดูซาทงผู้ซื่อสัตย์อ่อนเสียงลงเล็กน้อย เขารีบตีเหล็กขณะที่ยังร้อน “เราไม่ได้ทำการค้า, ท่านเจ้าเมือง เราแค่แสดงน้ำใจต่อแขกชั้นสูงเป็นการสร้างมิตรภาพ เราแค่ให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แก่อีกฝ่ายหนึ่ง  และอีกฝ่ายก็จะบริจาคอาหารและพืชพันธุ์ที่จำเป็นต่อเรา  แม้ว่าท่านจะทราบข้อมูลจากเบื้องบน  แต่ข้าเชื่อว่าจะไม่มีการสงสัยอะไรมากมายที่สำคัญมีการขาดแคลนอาหารและพันธุ์พืชไปทั่วทุกหัวระแหง แม้แต่ราชาก็ยังปวดหัวกับเรื่องนี้!”

ฟงจีคิดว่าแนวคิดเช่นนี้ไม่เลว

ก็แค่ห่วงว่าคลังของเมืองจินหยางมีแร่ดอกไฟฟ้าอยู่เพียงเล็กน้อยจะสามารถแลกอาหารได้มากน้อยเท่าใด?

ไม่ว่ายังไงทำให้ฝ่ายตรงข้ามมั่นใจเสียก่อน  ถ้าอีกฝ่ายออกเรือจากไป  อย่างนั้นทุกอย่างเป็นอันจบ

ทั้งสามคนตัดสินใจเสี่ยงและดึงพ่อค้าอื่นในเมืองเข้ามาร่วมอีกสองสามคนพวกเขายากจนผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกพอๆ กันและร่วมกันเดินทางไปเยี่ยมหัวหน้ากลุ่มธุรกิจพร้อมกัน  อย่างไรก็ตามนี่เป็นธุรกรรมเสี่ยงตายทุกคนตกลงใจว่าตายก็ตายด้วยกัน รอดก็รอดด้วยกัน จะไม่มีผู้ใดตกหล่นไปได้

เมื่อพวกเขาเห็นเรือสินค้าห้าสิบลำแม้แต่ฟงจีเจ้าเมืองจินหยางยังอดน้ำลายหกไม่ได้ แม่มันเถอะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นเจ้าเมือง

ถ้าก่อนนี้เขาเป็นโจรก็นับว่าได้พบแกะอ้วนแล้ว

ไม่ต้องทำการค้า

การค้าที่ต้องเสี่ยงยิ่งกว่าโดนประหารชีวิต

เมื่อเขาเห็นผู้คุ้มกันของฝ่ายตรงข้ามมีนักสู้ปราณฟ้าถึงห้าคน เขาตกใจกลัวในทันที นี่ถ้าเขาปล้นจริงๆ คงถูกถลกหนังเป็นแน่!  เรือสินค้าห้าสิบลำกับนักสู้ปราณฟ้าอีกสองสามคนแม้ว่าจะได้รับการคุ้มกันจากราชโองการของจักรพรรดิแดนดินก็ไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่กลางสมรภูมิได้ อย่างไรก็ตามกลุ่มการค้าไตตันนี้โผล่มาจากไหน?มีนักสู้ปราณฟ้าถึงห้าคนเป็นคนคุ้มกันถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่มากไม่ด้อยไปกว่าสิบสุดยอดกลุ่มการค้าใหญ่!

“ท่านคือเจ้าเมืองใช่ไหม?  ข้าจะไม่พูดอะไรเกินจำเป็นต่อไปความต้องการของเรานั้นง่ายมาก ตราบใดที่ท่านเอาแร่ดอกไฟฟ้ามาได้เราสามารถจัดหาอาหารและเพิ่มด้วยเมล็ดพืชพันธุ์ธัญญาหารอีกด้วย!”  เปากู่แสดงจุดยืนตราบใดที่ได้แร่ดอกไฟฟ้า เรื่องอื่นๆ ไม่ใช่เรื่องยาก

“พืชพันธุ์” ฟงจีได้ยินถึงกับหัวใจเต้นแรงในภูมิภาคสวนสวรรค์ พืชพันธุ์คือรากฐานของชีวิต ชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเมล็ดพืชพันธุ์

“แร่ไฟฟ้าของเราไม่ค่อยบริสุทธิ์นัก  และราชาจะรวบรวมแร่นี้ทุกๆ สามเดือนคลังเก็บของเราอาจจะมีไม่พอ” พ่อบ้านซาทงโค้งศีรษะคำนับ

เขาต้องก้มศีรษะ

เพราะเขาเห็นแล้วฝ่ายตรงข้ามเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ดูโอ่อ่าเป็นพิเศษน่ากลัวว่าเขาจะไม่สนใจสินค้าในคลังของเมืองจินหยาง

ตราบเท่าที่เรือเหาะแล่นเข้าไปในเขตสงครามราชาคงต้องทะเลาะกันแย่งกันซื้อขายแร่ดอกไฟฟ้าอยู่ดี

แม้จะเป็นข้อห้ามของจักรพรรดิแดนดิน  ทุกอย่างก็ควรมีข้อยกเว้นไม่ใช่หรือ?

อย่างกลุ่มการค้าใหญ่ที่มั่งคั่งนี้โดยทั่วไปจะได้รับการอนุมัติเงื่อนไขจากจักรพรรดิก็ยังได้  “เราไม่ชอบของคงคลังเล็กๆ น้อยๆเราต้องการแร่ดอกไฟฟ้าจำนวนมาก!” เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์พูดกับฟงจี, โอโบ้ ซาทงจนแทบจะหมดหวัง  พวกเขาขอร้อง เจ้ากบอ้วนโบกมือและทำตามแผนต่อ “มิฉะนั้นก็ให้เราลงทุนทำเหมืองแร่ที่นี่ พวกเจ้ารับผิดชอบหาแรงงานให้เราจะจัดอาหารให้เจ้า ใช้ค่าจ้างแลกเปลี่ยนข้าว  ในระหว่างนี้เราสามารถช่วยจัดเมล็ดพันธุ์พืชบางส่วนให้เจ้า  ในทางกลับกัน เจ้าส่งคนมาช่วยให้มากที่สุดสำหรับความบริสุทธิ์ของแร่ดอกไฟฟ้า ไม่รบกวนให้พวกเจ้าเป็นห่วง”

“ไม่มีปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรามีกำลังคนที่นี่!”  โอโบ้เกรงว่าฟงจีและซาทงจะลังเล จึงรีบตอบตกลงด้วยตนเอง

“เมืองจินหยางแห่งนี้ ข้าขอยกให้เจ้าข้าเป็นเจ้าเมืองที่ไร้ความสามารถ นอกจากนี้พวกเจ้าทุกคนแข็งแกร่งมากกว่าข้าเจ้าส่งใครก็ได้มาเป็นเจ้าเมืองจินหยาง เจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร?  ฟงจีรู้สึกว่าคนผู้นี้มีเงินมากพอจะเป็นเจ้าเมืองเขายังไม่มีแม้กระทั่งเกราะทองเหมือนกับฝ่ายตรงข้าม

เขาถอดแหวนเจ้าเมืองเครื่องแสดงสถานะเจ้าเมือง และส่งมอบให้เจ้ากบจั๊ดด์

เขาจับมือเปากู่อีกครั้ง  “หัวหน้า! ข้าขอสมัครเป็นหน่วยคุ้มกันของท่านในที่นี้ได้ไหม?”

ความเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าแล่บของคนผู้นี้ทำให้เปากู่และจั๊ดด์จ้องมอง

อย่างนี้ก็มีด้วยหรือ?

ซาทงและโอโบ้ร้องลั่นเหมือนคนคับแค้น  “ท่านเจ้าเมือง!ท่านอย่าได้ทอดทิ้งเรา  ถ้าท่านจากไป  ต่อไปเราจะทำยังไง?”

ฟงจีโบกมือ  “พอๆๆ พอเลย ตอนนี้ข้าไม่ใช่เจ้าเมืองของพวกเจ้าอีกแล้ว! ข้าเป็นเจ้าเมืองที่นี่มาพอแล้ว! ข้าไม่มีความสามารถและข้าไม่อยากต้องมากังวลเรื่องอาหารการกินของผู้คนเป็นแสน  ตั้งแต่ข้ามาเป็นเจ้าเมืองที่นี่  ข้าไม่เคยมีความสุขเลยสักวันเดียว!  เมื่อตอนในอดีตข้าใช้ชีวิตตามลำพังตกต่ำอย่างที่สุด  ข้าก็ยังไม่เคยอดอยากยากแค้นเท่านี้มาก่อนตอนนี้ข้าไม่เพียงแต่ยากจน ไม่เพียงอดอยาก ถ้าข้าต้องมาอดตาย แล้วข้าจะเป็นเจ้าเมืองไปทำไม? ทำไมข้าไม่เป็นหน่วยคุ้มกันหรือเป็นทหารรับจ้างเหมือนเมื่อก่อนเล่า  อย่างน้อยก็ยังมีอาหารกิน!”

“เด็กน้อย!เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติได้เป็นผู้คุ้มกัน!” จงกวนและพวกหัวเราะจนเจ็บท้องมีคนกี่คนที่อยากเป็นเจ้าเมือง แต่ตอนนี้ในฐานะที่เป็นเจ้าเมืองและนักสู้กับกังวลว่าจะอดตายนี่เป็นเรื่องตลกของวันนี้จริงๆ

“พลังของข้าเกือบได้อยู่แล้ว  แต่ฝีมือกับทักษะแฝงเร้นไม่เลว  แม้ว่าจะไม่เก่งในเรื่องทำการเกษตรแต่ข้าเชี่ยวชาญในเรื่องตามแกะรอย!” ฟงจีรบเร้า

“ปัญหาก็คือ แม้ว่าข้าจะเป็นหัวหน้า  แต่ก็มีนายเหนือของข้าอยู่”  เปากู่ยิ้มและกล่าว  “นอกจากข้าได้รับอนุญาตจากนายท่านแล้ว  เจ้าขอไปก็ไร้ประโยชน์มีนักสู้หลายคนที่ไม่มีสมองก็ต้องการเป็นบริวารของเขานักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ก็ยังมี แต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติ  ที่นี่นอกจากความสามารถแล้วยังต้องการความซื่อสัตย์สุจริต บอกตามตรงข้าสงสัยในความภักดีของเจ้า เพราะความหิวของเจ้า เจ้าจึงยอมทิ้งเมืองของเจ้า!”

“ท่านยังมีนายเหนืออีกหรือ?”ฟงจีถึงกับตะลึง  พวกที่มาถึงที่นี่เป็นกลุ่มการค้าแบบไหน?  เจ้านายของนักสู้ปราณฟ้านั่นเป็นนักสู้ระดับราชาหรือเปล่า? หรือว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่า?

“นายท่านบอกว่า ถ้าเจ้าสามารถหาทางข้ามบึงหยุดลมได้เจ้าจะได้ทดลองงานเป็นผู้คุ้มกันชั่วคราวสามเดือนแรกก่อน”

เย่ว์หยางอยู่บนเรือเหาะสำราญสั่งให้สาวมนุษย์มังกรแดนสวรรค์มาส่งข้อความ

แม้ว่าฟงจีจะไม่ยินดีเป็นเจ้าเมืองหุ่นแต่ดูเหมือนความภักดีของเขาจะมีปัญหาเล็กน้อย

แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งจะพบว่าบุรุษเผ่ามนุษย์แมวผู้นี้ความจริงไม่เลว ถ้าต้องเปลี่ยนไปเป็นเจ้าเมืองคนอื่นเขาจะยอมทนหิวอยู่ในเมืองที่ยากจนนี้หรือ? อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าฟงจีมีคุณธรรม ไม่เอาเปรียบพลเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง  เขาอาจจะไม่มีคุณสมบัติดีพอเป็นเจ้าเมืองแต่ในฐานะผู้คุ้มกันสำรวจเส้นทาง น่าจะไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ให้เปากู่และจั๊ดด์ปกครองเมืองจินหยางย่อมดีกว่าฟงจี

ในภูเขาใกล้เมืองจินหยางมีเหมืองแร่ดอกไฟฟ้าไม่เลว เพียงแต่ขุดขึ้นมายาก

ปัญหาที่นี่ก็คือกำลังคนและอุปกรณ์เครื่องมือไม่ทันสมัยเพียงพอเป็นผลทำให้ผลผลิตต่ำ  ถ้ามีเทคโนโลยีของป้อมสายฟ้ามาเปิดทำเหมืองที่นี่บวกกับคนจำนวนมาก แร่ดอกไฟฟ้าจะถูกใช้เป็นอาวุธในสนามรบ อาจจะไม่เพียงพอ  แต่พอให้เย่ว์หยางใช้สร้างกำไลอสูรแน่

“บึงหยุดลม นั่นคือกับดักมรณะ!” ฟงจีเมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

“เราไม่ต้องการคนขี้ขลาด!” เจ้าอ้วนจั๊ดด์ใช้วิธีกระตุ้นที่เด็ดขาด

“ใครว่าข้าขี้ขลาด  เจ้ามองหาถูกคนแล้ว  ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่สามารถผ่านบึงหยุดลมได้แน่  ข้าเคยหลบเข้าไปในบึงหยุดลม  และมีความมั่นใจ 30% เจ้าคงไม่รู้ว่ามันน่ากลัว มันเป็นความตายที่คาดไม่ได้ การผ่านไปที่บึงหยุดลม ต้องมีความแข็งแกร่งและประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดก็คือโชค!” ฟงจียังรอการตอบรับจากสาวมังกรแดนสวรรค์ สายตาของเขาไม่เลว  เขารู้ว่าสาวมังกรแดนสวรรค์มีพลังสูงส่ง อย่างน้อยก็สูงกว่าผู้คุ้มกันธรรมดาที่มีพลังระดับปราณฟ้า  ฟงจีกล่าวด้วยความเคารพและจริงใจ  “ถ้าท่านต้องการรู้เรื่องบึงหยุดลมท่านต้องหาอีกคนที่นอกจากข้า  เราทั้งคู่ต่างเป็นคู่หูที่ขาดกันไม่ได้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด