ตอนที่ 920 มุ่งสู่เมืองแม่น้ำขาวความลับซ่อนเร้น?
ภูมิภาคสวนสวรรค์
จากภูมิภาครกร้างที่แปดเข้าสู่ภูมิภาคสวนสวรรค์ผ่านไปตามประตูเทเลพอร์ตใช้เวลาครึ่งวัน
อย่างไรก็ตามจากภูมิภาคสวนสวรรค์ไปเมืองแม่น้ำขาวไม่มีประตูเทเลพอร์ตเข้าโดยตรงกล่าวกันว่าเป็นเพราะสภาวะสงคราม พื้นที่ปกครองในภูมิภาคสวนสวรรค์มีเขตปกครองเป็นพันเขตและมีเมืองน้อยใหญ่เป็นหมื่นเมืองและทำสงครามกันเป็นส่วนใหญ่ทำให้เย่ว์หยางนึกไม่ถึงว่าความสับสนนี้มีมาเกือบสามพันปีก็ยังไม่ลดลง
นักรบตายไปนับไม่ถ้วนแต่สงครามก็ยังไม่หยุด ความจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดสงคราม
เว้นแต่คนในภูมิภาคสวนสวรรค์จะตายกันหมด
ยิ่งคนตายมากความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาก
ยิ่งหลากหลายเชื้อชาติเข้าร่วมในความวุ่นวายนี้ผลประโยชน์ความขัดแย้งจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในภูมิภาคสวนสวรรค์ไม่มีประเทศและกองทัพที่ชอบธรรม ไม่มีนักรบผู้มีใจเป็นธรรมทุกคนเป็นเหยื่อของสงคราม... มีทหารรับจ้างนับไม่ถ้วน
กองกำลังนักรบแดนสวรรค์ที่มีอิทธิพลได้รับคำเชิญให้มาช่วยรบที่นี่
หากพวกเขาเอาโครงกระดูกมากองรวมกันคาดว่าคงมีกองกระดูกพอกพูนเป็นแนวเทือกเขายาวเหยียดหลายร้อยกิโลเมตร
แต่เพื่อให้ได้รับประโยชน์ในทันทีหรือเทคนิควิทยายุทธในสนามรบ ทุกๆวันยังคงมีนักรบนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามายังภูมิภาคสวนสวรรค์แห่งนี้!
“ขอต้อนรับพ่อค้าผู้มั่งคั่งและกล้าหาญ” ในวันนี้ทั่วทั้งแดนสวรรค์ไม่มีพ่อค้าที่ไหนจะได้รับความนิยมมากไปกว่าที่ภูมิภาคสวนสวรรค์ เพราะเมื่อพวกเขากล้ามาภูมิภาคสวนสวรรค์ก็นับได้ว่าเป็นพ่อข้าที่กล้าผจญภัยมากที่สุดในโลก แม้ว่าสามจักรพรรดิแดนดินของภูมิภาคที่ต่อสู้กันอย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่ขณะที่สงครามยังดำเนินต่อไปพวกเขาออกคำสั่งโดยไม่ต้องปรึกษากันว่า ห้ามมิให้ผู้ใดปล้นฆ่าพ่อค้านักธุรกิจโดยไม่มีเหตุผล ผู้ใดที่อยู่ในระดับต่ำกว่าราชาลงไปฝ่าฝืนจะต้องถูกตัดศีรษะ สินค้า ชีวิตและตัวพ่อค้าถือว่าถูกปกป้องโดยภูมิภาคสวนสวนสวรรค์ ไม่อนุญาตให้ยึดหรือกักกันสินค้าโดยไม่มีเหตุผล... พ่อค้าพลเรือนที่ถูกจับในสงคราม จะต้องมีชีวิตต่อไป
กองทัพต้องการเสบียงมากกว่า
และผู้นำทั้งสามฝ่ายมีความสามารถแข่งขันเพื่อช่วงชิงภูมิภาคปกครองและสถานปนาตนเป็นจักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาคสวนสวรรค์ แดนสวรรค์ภายในภูมิภาคเดียวถ้ามีจักรพรรดิครองภูมิภาคที่แข็งแกร่งทรงพลังเกิดขึ้นนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้ามีจักรพรรดิครองภูมิภาคเกิดขึ้นสองคนนั่นเป็นเรื่องแย่ ถ้าสามจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ประจำภูมิภาคเกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นเป็นฝันร้ายที่สิ้นหวัง!
ก่อนจะมายังภูมิภาคสวนสวรรค์เย่ว์หยางเข้าใจสถานการณ์ของภูมิภาคนี้บ้าง และเช่นเดียวกับหลายๆ คน เขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าและเข้าสู่ดินแดนยุ่งเหยิงอย่างเป็นทางการ ด้วยสถานะหน้าฉากเป็นนักธุรกิจเขาสามารถไปที่ใดก็ได้ แน่นอนว่าเป็นเมืองไป๋เหอ
แน่นอนว่าในเมื่อเป็นพ่อค้าสินค้าจึงเป็นของสำคัญ
โดยเฉพาะคนอย่างเย่ว์หยางพอมาถึงภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นครั้งแรกมีสินค้าไม่มากนักที่ใช้เป็นใบเบิกทางได้ ทหารชายแดนจะไม่ยอมให้บุคคลต้องสงสัยเข้ามาอย่างแน่นอน การลอบเข้าไปเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนตัวที่นี่เหมือนกับหนู การเข้ามาอย่างเปิดเผยและใช้สินค้าสร้างรายได้ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ? ภูมิภาคสวนสวรรค์มีแร่ไฟฟ้าชั้นสูงและนั้นเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่เย่ว์หยางต้องการใช้ผลิตกำไลอสูร
เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้โดยสารเรือเหาะเลิศหรูมุ่งไปข้างหน้า
นอกจากนี้เรือเหาะเลิศหรูลำนี้ไม่ได้บรรทุกสินค้าที่ตามมาข้างหลังเป็นกองเรือที่บรรทุกสินค้าร่วมห้าสิบลำจากเมืองอู๋เย่แดนสวรรค์ใต้ เปากู่กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มพ่อค้า...ในแง่การรักษาความปลอดภัยกลุ่มโจรวัวป่าเดิมกลับเข้ามาเมืองอู๋เย่แต่คราวนี้พวกเขาสมัครเป็นบริวารของเฟยหวงและฮัวปัน
นอกจากนี้ยังมีสามสหายที่ยอมแพ้ไปก่อนนั้นอย่างจงกวนไป๋หม่าและเฮยถู ต่างได้รับความไว้วางใจจากเย่ว์หยาง
ขณะที่ผู้ที่เพิ่งยอมแพ้อย่างหย่งฮุยและเยี่ยเซียว เย่ว์หยางยังไม่วางใจเขาเต็มร้อยเขาตัดสินใจปล่อยให้พวกเขาสงบอารมณ์เสียก่อน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหัวหน้าจงกวนหัวหน้าหน่วยผู้คุ้มกันจะเป็นปราณฟ้าระดับสาม ความแข็งแกร่งขนาดนี้นับว่าไม่เลวถ้ามีการสู้ยืดเยื้อในภูมิภาคสวนสวรรค์นี้ เย่ว์หยางมีกลุ่มผู้คุ้มกันระดับปราณฟ้าจำนวนหนึ่ง และมีกองกำลังเรือเหาะ ต่อให้ไม่ใช่นักธุรกิจ เป็นการลักลอบเข้ามาก็คงไม่มีใครกล้าจับ
นักสู้ปราณฟ้าห้าคนทำหน้าที่คุ้มกันหรือ?
พลังระดับนี้ในกลุ่มพ่อค้าในภูมิภาคสวนสวรรค์แม้จะไม่ถึงระดับสิบบุคคลแรก ก็คงเป็นยี่สิบคนแรก ยากจะมีคนสงสัยได้!
“เรือเสบียงห้าสิบลำ? สิบลำบรรทุกเหล้า? มากเกินไปไม่, เราไม่สามารถรับได้ อย่าว่าแต่หอการค้าหนึ่งเลย ต่อให้พ่อค้าทั่วเมืองจินหยาง ก็ไม่สามารถรับไว้ได้ เจ้าอาจไม่รู้ว่าอาหารที่นี่ขายกันราคาเท่าใด...ข้ากล้าพูดได้เลยว่าในภูมิภาคสวนสวรรค์ผู้คนอดตายมากกว่าที่ถูกฆ่าตายในสงครามถึงสิบเท่า! ท่านเปากู่! เชิญนั่งลงก่อน ไม่,เราไม่กล้าปิดบังอะไรสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่พิเศษอย่างท่าน อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องเรียกรวมคน โปรดให้เวลาเราด้วย ข้ากล้าพูดได้ว่าไม่เพียงแต่พ่อค้าของเราทั้งหมดในเมืองจิ่นหยางเท่านั้นแต่ยังมีนักรบและพลเรือนที่กำลังหิวโหยจะต้องชื่นชมความใจกว้างของท่าน การที่ท่านมาอย่างถูกเวลานั่นเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ข้ากล้าพูดได้ว่าถ้าท่านไม่มา อีกหนึ่งเดือนจะมีคนอดตายถึงหนึ่งในห้า ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ท่านเปากู่..โปรดนั่งก่อน ข้าจะแจ้งให้ท่านเจ้าเมืองทราบเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องกังวล, แม้จะไม่มีองครักษ์พิทักษ์ฟ้าห้าคนเฝ้าก็จะไม่มีใครกล้าแตะต้องสินค้าของท่านแม้แต่ปลายนิ้ว” เมื่อกองเรือสินค้ามาถึงเมืองจินหยาง พ่อค้าข้าวที่ใหญ่ที่สุดในท้องถิ่นได้กลิ่นไวที่สุด พวกเขาเป็นพวกแรกที่ออกมาต้อนรับ คนผู้นี้เมื่อได้ยินว่ามีเรือสินค้ามาถึงห้าสิบลำทั้งหมดที่บรรทุกมาเป็นอาหารธัญพืช ต่างโลดเต้นดีใจแทบจะเรียกเปาเป็นบิดาก็ว่าได้
“สิ่งที่เราบรรทุกมาในเรือห้าสิบลำนี้เป็นแค่เพียงการทดสอบเล็กๆน้อยๆ เรากำลังพิจารณาหาโอกาสลงทุนในภูมิภาคสวนสวรรค์”เปากู่มองดูเหมือนเถ้าแก่ผู้กระตือรือร้น
ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพ่อค้าเร่รายย่อยผู้ถูกรังแกและน่าสงสารอีกต่อไป
หลังจากได้รู้จักกับเย่ว์หยาง ชะตาชีวิตของเขาพลิกกลับ180 องศา
ผู้ที่มีชะตาเหมือนเปากู่ไม่ใช่คนเดียวแน่นอน
ยังมีเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์!
แม้ว่าเปากู่จะเป็นหัวหน้ากองคาราวานสินค้าแต่เนื่องจากคุณสมบัติเปากู่ยังต้องเรียกเจ้ากบอ้วนว่าประธานหอการค้าด้วยความเคารพ ทุกคนรู้กันแล้วว่าเย่ว์หยางมอบหมายหอการค้าไตตันให้เจ้ากบจั๊ดด์จัดการก่อนเดินทางเข้าแดนสวรรค์ และเจ้ากบจั๊ดด์ก็ตอบสนองความคาดหวังของเย่ว์หยางได้เป็นอย่างดีเขาจัดการหอการค้าไตตันได้ดี และเย่ว์หยางพอใจมาก การจัดการที่โดดเด่นเช่นนี้จึงทำให้เจ้ากบจั๊ดด์โดดเด่นในหอทงเทียนและแม้แต่ในวันนี้ก็มีชื่อเสียงไปถึงแดนสวรรค์ด้วยก่อนอื่นเขาให้เจ้ากบจั๊ดด์หลอมรวมกับเลือดมังกร ...ถ้าไม่ใช่เพราะกายภาพของเจ้ากบจั๊ดด์สวะเกินไป ไม่สามารถอดทนต่อการเปลี่ยนเลือดที่กล้าแข็งได้ เย่ว์หยางคงจะให้เลือดมังกรบินเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
เนื่องจากยังขาดความคุ้นเคยในแดนสวรรค์ เจ้ากบอ้วนยินดีแบ่งปันอำนาจและให้โอกาสเปากู่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
เขาทำหน้าที่ประสานงานทำงานเกี่ยวกับธุรกิจที่สอดคล้องกัน
ด้วยวิธีนี้เจ้ากบอ้วนยิ่งได้รับการยอมรับจากเย่ว์หยาง และได้รับการนับถือจากเปากู่!
“ท่านเปากู่! ข้ากล้าพูดได้เลยว่าที่นี่คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอนมีอาหารท่านสามารถมีทุกสิ่งได้รวมทั้งชีวิตมนุษย์! ที่นี่ไม่มีอะไรที่แลกอาหารไม่ได้” พ่อค้าข้าวโอโบตบอกให้คำรับรองเปากู่
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้อย่างนั้นข้าจะพูดตรงๆก็แล้วกัน” เป่ากู่เปิดเผยเงื่อนไขของเขาเอง“เราต้องการแร่ดอกไฟฟ้า”
“แร่ดอกไฟฟ้าเป็นผลผลิตทางทหาร...” โอโบเมื่อได้ยินเช่นนี้หน้าของเขาแดงขึ้นมาทันที
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ” เปากู่ไม่เสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระ
“รอเดี๋ยว, ท่านเปากู่ โปรดอย่าเพิ่งโกรธกันโปรดฟังเราอธิบายก่อน แร่ชนิดนี้ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่จะซื้อขายแบบครบวงจรโดยราชา ตั้งแต่หลอมและสร้างเป็นอาวุธจักรพรรดิแห่งภูมิภาคเข้มงวดการซื้อขายส่งออกมากถ้ามีการซื้อขายในที่สาธารณะจะต้องถูกประหาร” พ่อค้าข้าวโอโบมีสีหน้าสุดฝืน
“เราไม่จำเป็นต้องซื้อขายเปิดเผย โอโบผู้ฉลาด เจ้าคิดหาวิธีการเรื่องนี้ได้ไหม? ตราบใดที่เจ้าเก็บอาวุธในสนามรบได้แล้วเอามาทิ้งให้เรา เราก็สามารถบริจาคอาหารให้เจ้าได้รวมทั้งเหล้าดีเช่นกัน คิดให้ดี โอโบ บางครั้งเมื่อเจ้าต้องการมิตรภาพง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรภาพที่ส่งมาถึงหน้าประตูบ้าน อย่างไรก็ตามเมื่อมิตรภาพจากไปแม้เจ้าอยากจะเสียใจ แต่ก็กอบกู้อะไรไม่ได้แล้ว” ฝีปากเปากู่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีที่เมืองอู๋เย่ (เมืองลมดำเก่า) สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขามีอาหารอยู่ในมือ แม้โอโบมีร้อยปากก็ยากจะพูดอย่างเขาได้!
“น่ารำคาญจริงๆ นี่คือการต้อนรับขับสู้หรือ?” เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์คอยเติมเชื้อไฟอยู่ด้านข้าง
“รอเดี๋ยว รอเดี๋ยว นายท่านทั้งสอง อย่าเพิ่งโกรธ ข้อเสนอของท่านดีมาก แต่เราต้องการคนตัดสินใจ ข้าคิดว่าท่านเจ้าเมืองคงจะเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ดีอย่างนี้ข้าจะไปพบเขาทันที โปรดให้โอกาสนี้กับเราเถิด” โอโบพ่อค้าข้าวต้องยอมจำนน เขาสามารถอดตายในยุ้งฉางของเขาได้ เขาเพิ่งพบกองเรือที่บรรทุกเต็มไปด้วยอาหาร ต่อให้เขาถูกฆ่า เขาจะไม่ยอมปล่อยให้กองเรือข้างหน้าหลุดมือไปได้
แร่ดอกสายฟ้าไม่สามารถค้าขายแลกเปลี่ยนได้อะไรกัน?
ใช่แล้ว
เราไม่ได้ขายแลกเปลี่ยน แค่ให้เปล่าๆ ไม่ได้ขาย!
ยิ่งกว่านั้นกลุ่มธุรกิจเช่นนี้เขาเชื่อได้ว่าเบื้องบนย่อมรู้ เขาเพียงแต่ลืมตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่งเป็นพอ
เมื่อเปากู่และจั๊ดด์ร่วมมือกันขู่พ่อค้าข้าวโอโบ เย่ว์หยางเดินสำรวจเส้นทาง กลุ่มธุรกิจเป็นเพียงการโยนก้อนหินถามทางเป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือไปเมืองไป๋เหอ
ปัญหาก็คือเมืองไป๋เหอนี้แทบจะอยู่ใจกลางภูมิภาคสวนสวรรค์ และมีการสู้รบยืดเยื้อตลอดเส้นทาง
บุรุษผมงูคุณชายแห่งสี่ตระกูลใหญ่ทำไมถึงต้องการนัดพบเขาที่นั่น? มีความลับอะไรในเมืองไป๋เหอ? มีสมบัติเทพอยู่หรือ? หรือว่าเป็นที่ตั้งของขุมทรัพย์หายากสมบัติโบราณที่บุรุษผมงูกังวลอยู่ที่นั่น คนผู้นี้เพิ่งหลบหนีออกมาจากวิหารปีศาจดินได้ก็กระตือรือร้นล่าสมบัติหรือ?
“เจ้าสังเกตบ้างไหม ในเมืองไป๋เหอ ไม่สิที่นี่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยแม่น้ำ หนอง คลอง บึง!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงจุดสังเกต
“เมืองที่นี่ถ้าวาดรูปออกเป็นอย่างนี้ดูเหมือนจะสร้างด้วยรูปแบบที่แปลกประหลาด” เย่ว์หวี่พูดข้อสังเกตที่นางค้นพบในช่วงสองสามวันนี้
“อ่า.. ข้ารู้สึกอายจริงๆ ข้าไม่พบอะไรเลย...” จุ้ยมาวอี้เห็นเย่ว์หยางมองมาที่ตนเองนางรีบตอบ
“ให้ข้าคิดดูก่อน!” เย่ว์หยางคิดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่เห็นจุดสังเกตบางจุดทั้งคู่ แต่พวกนางยังจับเค้าไม่ออกทั้งหมด มีความลับแบบไหนซ่อนอยู่ในเมืองไป๋เหอ? นี่เป็นเมืองที่ง่ายเหมือนแดนสวรรค์ทั่วไปหรือไม่?
เปากู่และจั๊ดด์เพิ่งจะขึ้นเรือเหาะสำราญมาสมทบและเห็นว่าเย่ว์หยางกำลังคิดถึงเรื่องแผนที่พวกเขาหันหลังกลับและจากไปอย่างเงียบๆ
เทียบกับสิ่งที่เขาต้องทำหอการค้าแทบไม่มีค่าอะไรเลย
ยังคงไม่ต้องรบกวนเขาดีกว่า แล้วพวกเขาจะส่งเจ้าเมืองและพ่อค้าข้าวโอโบไปด้วยตนเอง!-!