ตอนที่ 919 ตระกูลของเจ้าเข้มงวดมาก
ริบบินปลาคู่ปรับแต่งได้ไม่ยาก แต่ขาดวัสดุที่สำคัญที่สุดไป ขนแกะทองคำที่ได้รับมาจากวิหารนักษัตรถูกใช้หลอมรวมไปกับถุงมือแมงป่องฟ้า
เย่ว์หยางหวังว่าจะหาสมบัติวิเศษที่คล้ายกับขนแกะทองคำเพิ่มขึ้นแล้วค่อยใช้ปรับแต่งริบบินปลาคู่
ต้องทำอย่างนั้นจึงจะสำเร็จได้ผลที่ต้องการออกมาดีที่สุด
ส่วนมีดสั้นทำลายเนตรเดิมทีเป็นสมบัติชั้นเงิน ตอนนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
ก่อนอื่นเย่ว์หยางประทับตราอักขระรูนโบราณว่า‘แท้จริง’ ลงบนมีด จากนั้นใช้วงเวทรูนสวรรค์ว่า ‘ทำลายภาพลวงตา’ และ ‘ว่างเปล่า’ เขาใช้ผลึกสายฟ้า,เพลิงแดงสวรรค์และของที่หลอกล่อได้มาจากหุบเขาอสูรเลือดพญามังกรบินและไฟมังกรหลอมรวมปรับแต่งและมีดทำเลายเนตรจะได้รับการปรับแต่งไปเป็นสุดยอดอาวุธชั้นแพลตตินัมดูแล้วยังเหนือกว่าดาบจันทร์เสี้ยวครั้งก่อน แต่น่าเสียดายเพราะไม่ใช่ของวิเศษมีวิญญาณมีดทำลายเนตรแค่พัฒนาได้ดีกว่าระดับแพลตตินัมแต่จะไม่มีทางพัฒนาไปถึงระดับสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์...
นี่คล้ายกับนักรบชั้นปราณฟ้าจะไม่มีทางสามารถไต่ระดับไปถึงชั้นปราณราชันย์ได้
มีดทำลายเนตรมีความสวยงามอย่างมาก
เย่ว์หยางเหน็บเอาไว้ที่สะเอว
ถ้าพกออกไปเดินเล่นในยามที่ไม่มีศึกสงครามก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งาน หากพกดาบจันทร์เสี้ยวและมีดสั้นไปด้วยหากนั่นไม่ทำให้ศัตรูตกใจกลัวก็อาจจะกระตุ้นความโลภของศัตรูให้เข้ามาลอบฆ่าได้
ระดับแพลตตินัมแม้ในแดนสวรรค์นับได้ว่าเป็นเป็นสมบัติที่ไม่เลวดีพอสำหรับจัดการเหตุการณ์โดยทั่วไปได้
“ผนึกหลุมดำมีการตอบสนองยังไงบ้าง? ภูเขาน้ำแข็งถูกสูบกลืนไปเกือบจะหมดอยู่แล้ว” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนช่วยเย่ว์หยางเก็บกวาดภูเขาน้ำแข็งในวันนี้และพบว่าภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่แต่เดิมถูกมิติหลุมดำกลืนไปเกือบหมดแล้ว ถ้านางพญาเฟ่ยเหวินหลียังออกมาไม่ได้อย่างนั้นก็ต้องเปลี่ยนสถานที่มองหาน้ำแข็งบริสุทธิ์เพื่อดูดกลืนอีก
“คาดว่าต้องใช้ภูเขาน้ำแข็งอีกสองสามแห่ง!” เย่ว์หยางส่ายหน้าฝืนยิ้ม นักสู้แบบไหนกันถึงผนึกนักสู้รุ่นเก่าอย่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้?
“อย่าเพิ่งท้อใจไปเลย ยังไม่ต้องพูดถึงแดนสวรรค์แค่หอทงเทียนก็คงมีภูเขาหิมะน้ำแข็งอย่างนี้เป็นแสน เราเชี่ยวชาญวิธีการนี้ทั้งยังไม่ต้องกังวลกับการขาดแคลนพลังงาน”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปลอบโยนเขาในช่วงเวลายากลำบาก
ความจริงถ้าไม่มีใครอื่นมีแต่นางกับเย่ว์หยาง โลกของคู่รักแสนหวานคงจะเป็นไปด้วยดี
ตามปกติเสวี่ยอู๋เสียจะไม่เปิดโอกาสให้นางนางมักจะปรากฏตัวอยู่ข้างเย่ว์หยางและนางเหมือนกับจะจงใจต่อต้าน
ตอนนี้สาวหิมะอยู่ในสภาวะหลับใหล องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจึงกลับคืนนิสัยเดิมของนาง
หลังจากผ่านไปอีกครึ่งวัน ภูเขาน้ำแข็งก็ถูกกลืนหายจนหมดและแม้แต่ภายในระยะพันลี้ เย่ว์หยางใช้วิธีที่เกินควบคุมกลืนพลังงานน้ำแข็ง
หากเขาดูดกลืนอีกครั้งจะไม่สามารถทำได้เพราะประการแรกประสิทธิภาพจะลดลงอย่างมาก ประการที่สองโลกดึกดำบรรพ์นี้ไม่เสถียรเวลาทำการดูดกลืนอาจจะพังทลายได้ทุกเมื่อ ประการที่สามเย่ว์หยางไม่สามารถอยู่ได้นาน เขายังมีเรื่องยุ่งอีกหลายอย่างต้องจัดการ เช่นเขายังต้องไปเมืองไป๋เหอ (แม่น้ำขาว) ภูมิภาคสวนสวรรค์ในแดนสวรรค์ และเขาได้นัดพบกับบุรุษผมงูไปแล้วเขาไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว คาดว่าบุรุษผมงูคงรอเขาจนรากงอก! แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็รู้สึกว่าใช้เวลาในช่วงนี้กับคนรักนับว่าเพียงพอแล้ว
ในเวลาค่ำคืนนั้นนั่นเอง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเริ่มทำตัวเรียบร้อยนางไม่ได้ฝึกดาบอีกต่อไป เป็นเรื่องยากที่จะอาบน้ำให้เย่ว์หยางอย่างอ่อนโยนและขึ้นเตียงราวกับสาวน้อยที่เพิ่งผ่านประตูวิวาห์
หลังจากพักผ่อนช่วงเย็นแล้วองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ผละออกจากอ้อมอกเขากลับมาสวมชุดเกราะพยัคฆ์ขาวกลับคืนสู่บุคลิกสาวนักดาบผู้เคร่งขรึม
เย่ว์หยางต้องการนอนต่อแต่ถูกนางดึงหูข้างหนึ่ง “อย่ามาแกล้งทำเป็นตาย ข้าให้เจ้าแตะต้องตัวและจูบเมื่อวานนี้แล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ? ลุกขึ้นเร็วๆ เรามีงานหลายอย่างรออยู่ ยังกล้าแต๊ะอั๋งต่ออีกหรือ? ดูทำเข้า....”
ออกจากโลกดึกดำบรรพ์ และหอทงเทียนชั้นที่สิบมุ่งหน้าสู่ป้อมสายฟ้าในหอทงเทียนชั้นหกเพื่อถ่ายโอนสิ่งของและกลับไปยังทวีปมังกรทะยานหอทงเทียนชั้นหนึ่ง จุนอู๋โหย่ว,อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ไม่ทราบว่าไปที่ใด ฟงขวง, อาจารย์ตาเหยี่ยวและคนอื่นๆกำลังฝึกกองกำลังอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกร ในฐานะที่เป็นบุคคลผู้ก่อตั้งเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะพูดให้กำลังใจไม่กี่ประโยคแล้วรีบแยกออกมา ถ้าเขาอยู่ดูมากเกินไปจะเป็นการกดดัน! เย่ว์หยางระงับความตื่นเต้นและไปตามหาเจ้าอ้วนไห่เย่คงและคนอื่นๆ
“พวกเจ้าฝึกฝนมาได้ไม่เลว แต่ศักยภาพนี้ข้าว่าคงตันแค่นี้ ระดับก็คงเหมือนๆ กัน อย่างไรก็ตามพวกเจ้ายังโชคดี ข้าไม่เพียงแต่ได้เลือดพญามังกรบินมาเท่านั้น แต่ยังได้บ่อเลือดแดงสวรรค์ที่ใกล้เคียงกับเลือดเทพเจ้าผู้นี้แทบจะทัดเทียมกับเทพ ยอมสละเลือดเทพเพื่อเอามาใช้สังหารข้า ข้าเลื่อมใสเขาจริงๆ”
เย่ว์หยางตัดสินใจทดแทนศักยภาพเลือดให้เจ้าอ้วนไห่กับพวกก่อนจะไปแดนสวรรค์
เป็นเลือดของจ้าวอสูรเพชฌฆาตโบราณและถูกปรับให้เข้ากับเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและพวกพ้องเป็นเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับปราณฟ้า ถ้าเป็นที่หอทงเทียนย่อมไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าไปแดนสวรรค์พบเจอนักสู้ระดับเจ้าเมือง ก็มิอาจเทียบได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางรู้สึกว่าทุกคนควรจะก้าวหน้าต่อไป
ความรู้ในการเลื่อนระดับ ขอบเขตในการเลื่อนระดับความสามารถตามธรรมชาติในการเลื่อนระดับ เมื่อก่อนนี้เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าสมองจะไม่รู้ถึงความเป็นไปได้เพียงแต่ความกล้าไม่มากพอ! เลือดเทพยังเป็นไปไม่ได้ก่อน เพราะเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นมิอาจทนพลังของเลือดเทพได้ ถ้าบังคับแข็งขืน อาจทำให้ร่างระเบิด แน่นอนเย่ว์หยางตัดสินใจทำลายรากฐานความคิดเดิมของเจ้าอ้วนไห่และพวกพ้องและให้เลือดพญามังกรโบราณกับพวกเขา
ถ้าเป็นแค่เลือดพญามังกรโบราณจากหุบเขาอสูร ศักยภาพจะไม่สูงมากเกินไปนัก แต่หลังจากเย่ว์หยางฆ่าชี่เทียนเหอ เข้าได้รับเลือดของชี่เทียนเหอที่แยกเลือดเทพออกไปแล้วและผนึกเอาไว้ในบ่อเลือด
เย่คงข่มความตื่นเต้นและไม่พูดอะไร
เจ้าอ้วนไห่ถูมือด้วยความโลภ แต่ก็กลัวแทบตายจนตัวสั่น “นี่..อันตรายหรือเปล่า?”
เย่ว์หยางปฏิเสธ “ไม่, ไม่อันตรายแม้แต่น้อย ข้ารับรองได้ว่าจะไม่มีทางทำให้ร่างระเบิดแน่!”
เจ้าอ้วนไห่เมื่อได้ยินเข้าก็เอะอะทันที “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ช่างดีต่อลูกพี่ผู้นี้จริงๆ ในเมื่อเป็นความเมตตาปรารถนาดีของเจ้า ข้าผู้เป็นพี่ใหญ่จะปฏิเสธเจ้าได้ยังไง? มันยากจะรับได้จริงๆ! โอ๊ย...ใครทุบข้า? เจ้าลิง! เจ้าคันไม้คันมืออย่างนั้นหรือ? ก็ได้ข้าจะเล่นกับเจ้าเอง”
เมื่อเย่ว์หยางควบแน่นบ่อเลือดในอากาศเขาเตะเจ้าอ้วนไห่เข้าไปในบ่อเลือด เจ้าอ้วนร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือด
เขาตกใจเมื่อพบว่าผิวของเขากำลังละลาย “เห็นไหม? ไม่มีการระเบิดเลยใช่ไหมเล่า?” เย่ว์หยางพยักหน้า “แน่นอนว่าไม่ ข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะไม่ระเบิด แต่อาจละลายกลายเป็นเลือด”
“อ๊า... ข้ายังไม่อยากตาย, ข้ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ ข้าจะไม่พบเจ้าแล้ว” เจ้าอ้วนไห่ได้ฟังแล้วก็ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“ดื่มนี่ซะ” เย่ว์หยางส่งขวดเลือดมังกรให้เขาดื่ม
“อึกๆๆ ไอ้นี่คืออะไร?” เจ้าอ้วนไห่รีบกระดกเทลงท้องและถามด้วยความสงสัย “ท้องข้าร้อนเหมือนมีกองไฟได้ยังไง แย่แล้ว,ข้ารู้สึกเหมือนมีภูเขาไฟระเบิดอยู่ในท้อง คุณชายสาม! เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ให้ยาข้าผิดขนาน?”
“กินนี่ลงไปอีก ถ้าเจ้าไม่ตายก็หมายความว่าสำเร็จ” เย่ว์หยางส่งขวดของเหลวสีฟ้าให้เจ้าอ้วนไห่อีกขวดหนึ่ง
“ถ้าข้าดื่มแล้วตายล่ะ?” เจ้าอ้วนไห่โบกมือพัลวัล
“อ่า...ก็หมายความว่าการทดลองล้มเหลว!” เย่ว์หยางตอบสีหน้าขึงขัง
“ไม่เอา..ข้าไม่ดื่ม!” เจ้าอ้วนไห่ตัดสินใจไม่ยอมเป็นหมูทดลอง เพราะอันตรายเกินไปกลับกลายเป็นว่าเจ้าเด็กนี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน!
“ขายขี้หน้านัก! ดูเหมือนว่าตระกูลเจ้าไม่อบรมสั่งสอนเสียเลย!” นางนวลสายลมที่วิวัฒนาการร่างเป็นผู้ใหญ่แล้วตีเจ้าอ้วนไห่และจับน้ำยาสีฟ้ากรอกใส่ปากเจ้าอ้วนไห่ เมื่อเจ้าอ้วนไห่ไอสำลักนางทุบตีซ้ำอย่างหนักอีกทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้ได้รับการอบรมจากตระกูลเป็นอย่างดีตกใจ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระซิบข้างเขาอยู่นาน “เจ้ามั่นใจนะว่าเขาจะไม่พิการ? ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินเสียงกระดูกหัก”
“เจ้าอ้วนไห่นี้หนังหนาและทนทานได้ไม่เป็นไร โดนอย่างนี้แหละดีแล้ว ตระกูลที่มีระเบียบถ้าไม่เคร่งครัดมากพอคนอื่นจะมองว่าตระกูลไห่เราไม่มีกฎระเบียบ” นางนวลสายลมจับเจ้าอ้วนไห่โยนลงพื้นและตบมืออย่างไม่แยแส
“วินัยของตระกูลเจ้าเข้มงวดดีจริงๆ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกใจแอบแลบลิ้น
แม้แต่ในบางครั้งเมื่อนางโมโหนางก็อยากทุบเย่ว์หยางอย่างนี้บ้าง
นางลังเลจริงๆ!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสงสัยจริงจังว่า“เจ้าอ้วนไห่แข็งแกร่งมากเพราะถูกนางนวลสายลมไล่ทุบตีให้ออกไปฝึกทุกวัน
เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ยอมรับเลือดพญามังกรบินและน้ำยาสีม่วงฟ้าลึกลับจากนั้นโดดลงไปในบ่อเลือด
พวกเขาอาจไม่เชื่อว่าตนเองจะประสบความสำเร็จ แต่พวกเขาไม่เคยสงสัยวิธีการของเย่ว์หยางเลยว่าจะไม่มีประสิทธิภาพ
ความจริงถ้าพวกเขารู้ว่าน้ำยาม่วงฟ้าที่พวกเขาดื่มคั้นมาจากหญ้าวิญญาณเทพอัคคีของระดับเดียวกับเลือดเทพ น่ากลัวว่าพวกเขาคงจะปฏิเสธไม่ยอมรับแผนนี้แผนเปลี่ยนเลือด เพราะต้องทุ่มเทคุณค่ามากเกินไปแม้แต่เย่ว์หยางเองก็ไม่เต็มใจจะใช้หญ้าวิญญาณเทพอัคคี แต่ว่าในตอนนี้สำหรับพวกเขาเป็นแค่นำหญ้าหนึ่งใบออกมาปรุงเป็นยาเพิ่มศักยภาพให้พวกเขา
ถ้าเป็นอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าทราบเรื่องเขาคงบ่นไม่หยุดเป็นแน่
ในใจของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่านอกจากเย่ว์หยางแล้วคนที่คุ้มค่าในการลงทุนให้เติบโตมากที่สุดก็คือเย่ว์ปิงผู้ทำสัญญากับป่าโบราณ,อักขระรูนโบราณได้ สาวน้อยผู้นี้คือความหวังที่แท้จริง อย่างเจ้าอ้วนไห่ เย่ว์คงและคนอื่นๆ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารู้สึกว่าไม่เลว ใช้เศษของดีๆที่เหลือไปพัฒนาศักยภาพของพวกเขาก็ได้
สิ่งที่ปรากฏข้างหน้าเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่นๆไม่สามารถมองเห็นได้ แต่นกนางนวลสายลมกลับมองเห็นคุณค่าของน้ำยาสีม่วงฟ้าได้โดยตรง
แน่นอนว่านางจะโกรธและทุบตีเจ้าอ้วนไห่และรู้สึกว่าต้องทำตัวเหมือนแม่บุญธรรมของเขาจะได้ไม่รานความตั้งใจดีของเย่ว์หยาง
หลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมง
เจ้าอ้วนไห่เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่หมดสติจากความเจ็บปวดหลายครั้งคราได้ผ่านการผลัดเส้นเอ็นเปลี่ยนกระดูกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเพราะรากฐานก่อนหน้านี้ถูกทำลายและพลังลดลงอยู่ในระดับหนึ่ง จึงจำเป็นต้องฝึกกันใหม่ เย่ว์หยางไม่ได้พาพวกเขาไปเมืองเจิ้งฝูในช่วงนี้ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในหอทงเทียน สำหรับการวางพื้นฐานเขาขอให้ผู้อาวุโสนักสู้ที่เป็นปราชญ์ผู้รู้อย่างผู้เฒ่าหนานกงและแม่เฒ่าอู่เถิงช่วยวางรากฐานที่ดีให้พวกเขา ในอนาคตพวกเขาจะเติบโตได้ในระดับสูงขึ้น
เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเทเลพอร์ตจากวังต้าเซี่ยมายังวังเทียนหลัวเพื่อพบแม่สี่
ทั้งรายงานนางเกี่ยวกับเรื่องของชี่เทียนเหอ
แม่สี่ตำหนิเย่ว์หยางที่เสี่ยงหลอมรวมกับอักขระรูนอมตะแต่เพราะเป็นความลับของนาง นางจึงไม่พูดถึงรายละเอียดส่วนที่แย่ แค่บอกไม่ให้เย่ว์หยางทำเช่นนี้อีกในอนาคต นางพูดเป็นนัยถึงสมบัติเทพ อักขระรูนและคัมภีร์เทพโดยไม่พูดถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าใดนัก
เย่ว์หยางต้องการจะถามเหตุผล แต่แม่สี่ไม่ตอบ นางเข้าไปพักผ่อนกับซวงเอ๋อ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแอบเตะหน้าแข้งเขาห้ามเขาไม่ให้รบเร้าแม่สี่
แม่สี่ไม่พูด ก็ต้องมีเหตุผลบางอย่าง
เขาไม่ได้ฝึกพร้อมกับน้องสาวมานานแล้วและตั้งใจจะพาเย่ว์ปิงไปแดนสวรรค์ด้วย แต่น่าเสียดายที่สาวน้อยผู้ฉลาดกับอี้หนานไปฝึกที่บันไดสวรรค์ เย่ว์หยางพบแต่เพียงเย่ว์หวี่ในห้องทดลอง
“ไม่, ข้าคงไม่ไป เจ้าไปกับเชี่ยนเชี่ยนเถอะ!” เย่ว์หวี่ปฏิเสธและเปิดโอกาสให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“ไปด้วยกันเถอะ ข้าจะไปชวนพี่เย่ด้วย!” ทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีสังหรณ์ที่แปลกประหลาด นางรู้สึกว่าสองคนนี้จำเป็นต่อการไปแดนสวรรค์รอบนี้ นั่นคือจุ้ยมาวอี้และเย่ว์หวี่จะกลายเป็นคนสำคัญที่สุด ถ้าหากไม่มีพวกนางไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ดังนั้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยอมเสียโอกาสในโลกความรักแสนหวานของนาง นางแทบจะฉุดลากเย่ว์หวี่เข้ามาในโลกคัมภีร์
“ทำไมเจ้าไม่ช่วยเชี่ยนเชี่ยนให้หลอมรวมกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้เล่า?” หลังจากจุ้ยมาวอี้กับเย่ว์หยางทลายกำแพงขวางกั้นสุดท้ายนางเปลี่ยนเป็นคนใจดี ไม่ลังเล องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักชวนเย่ว์หวี่ นางดึงเย่ว์หยางออกไปอีกด้านหนึ่ง “นี่เจ้ายังไม่กินตับแม่เสือสาวอีกหรือ? นั่นไม่สมกับเป็นเจ้าเลย!”
“แค่กๆ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นสุภาพบุรุษ!” เย่ว์หยางพูดอย่างนี้ทำเอาจุ้ยมาวอี้เขินอาย!