ตอนที่ 35 พลังทำลายล้างของระเบิดโมเลกุล! [ฟรี]
ตอนที่ 35
พลังทำลายล้างของระเบิดโมเลกุล!
หลังจากสิ้นเสียงของซูไป๋ พวกเขาคนอื่นๆก็รีบวิ่งตามรถบรรทุกคันนั้นไปอย่างรวดเร็ว
ดอตตี้หยิบปืนขึ้นมาและเตรียมที่จะยิงไปที่ยางของรถคันนั้น
แต่ทันใดนั้นซูไป๋ก็ยกมือขึ้นมาห้ามเธอเอาไว้ก่อน ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปข้างหน้า ทันใดนั้นรถบรรทุกก็เริ่มเหมือนเปลี่ยนทิศทางพร้อมกับลอยขึ้นเหนืออากาศอย่างช้าๆ
และเมื่อคนขับรถเห็นว่าจู่ๆรถลอยขึ้นเขาก็รีบเปิดประตูออกมาด้วยความตกใจ
“นั่นเขานิ!” ดอตตี้พูดขึ้นมาเบาๆ
ซูไป๋พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับคนขับรถที่ค่อยๆลุกขึ้นและมองไปที่ซูไป๋ด้วยความประหลาดใจ
ดอตตี้เดินที่ข้างหลังรถและเปิดมันออก ก่อนที่จะมีแสงสว่างสีทองสาดส่องออกมา ด้านหลังของรถบรรทุกเต็มไปด้วยระเบิดโมเลกุลจำนวนมาก อย่างน้อยก็มีหลายร้อยลูก
ซูไป๋เดินไปข้างหน้าพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างช้าๆว่า “ผมรู้ว่าคุณชื่อ เบนนิส และคอของคุณก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ดังนั้น … ผมจะช่วยคุณเอง!” ซูไป๋เอามือล้วงเข้าไปหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา มันคือปากกาที่เอาไปจอคอแล้วจะสามารถเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดได้
“คุณรู้จักชื่อของฉันได้อย่างไร?” เบนนิสเอาปากกาไปจอที่คอของเขาก่อนที่จะมีเสียงเปล่งออกมาจากเครื่องกำเนิดเสียงของปากกา
“ผมยังรู้อีกด้วยว่าคุณมาจากลิเวียธาน และผมก็ต้องขอบอกคุณตรงนี้เลยว่าคุณกล้ามากที่กล้าซ่อนของพวกนี้เอาไว้และทรยศลิเวียธาน ว่าแต่คุณทรยศพวกเขาทำไม?” ซูไป๋ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ฉันอยากเป็นนักธุรกิจ!” เบนนิสพูดขึ้น
“มันเป็นความคิดที่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วโลกใบนี้มันก็ขาดเงินไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว!” ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า
“ให้ผมแนะนำตัวเองก่อน ผมชื่อ ซูไป๋ และนี่คือดอตตี้ เป็นคนที่มาจากลิเวียธานเช่นเดียวกับคุณ และผมก็เชื่อว่าคุณน่าจะรู้ตัวแล้วว่าสูตรโมเลกุลของคุณถูกขโมยไปและในตอนนี้คุณก็กำลังเตรียมตัวสำหรับการหลบหนีอยู่สินะ? แต่ผมก็ต้องขอบอกเลยว่ามันไร้ประโยชน์! ไม่ว่าจะเป็นลิเวียธานหรือ SSR จะต้องตามหาตัวคุณพบอย่างแน่นอน ถ้าคุณต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อและมีเงินใช้ไปตลอดชีวิตคุณก็มีอยู่วิธีเดียวนั่นก็คือการมาติดตามผม เพราะผมสามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับคุณได้ไม่ว่าจะเป็นลิเวียธานหรือ SSR ก็ตาม และผมยังสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้คุณได้ ขอแค่คุณช่วยพัฒนาและสร้างสิ่งเล็ก ๆ น้อยเป็นการตอบแทนผม ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดโมเลกุล!”
“ในตอนนี้ผมมีสูตรระเบิดโมเลกุลอยู่ในมือ และมีหลายคนที่จะสามารถช่วยสร้างมันให้กับผมได้ ดังนั้นคุณควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบผม!”
“ขอแค่คุณไม่ฆ่าฉันและสามารถรับประกันความปลอดภัยได้ ฉันก็ยินดีที่จะติดตามคุณ!” เบนนิสคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะออกมา
“คุณเลือกได้ดี” ซูไป๋ยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะยกมือขึ้น
ปึก!
ซูไป๋เอามือสับไปที่ด้านหลังคอของเบนนิส ก่อนที่เขาจะเป็นลมหมดสติไปทันที
“เรเวน”
“อืม!”
เรเวนเดินเข้าไปเบนนิสก่อนที่รูปร่างของเธอจะเปลี่ยนไป หลังจากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปนั่งที่นั่งฝั่งคนขับ ส่วนซูไป๋ก็โยนเบนนิสเข้าไปในรถ ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนรถทีละคน
หลังจากขับรถไปได้ไม่นานพวกเขาก็พบกับยามที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ และยามคนนั้นก็ยกมือขึ้นเพื่อเป็นการบอกว่าให้รถหยุดก่อน
“จอดรถ”
“เรเวนเธอเปลี่ยนตำแหน่งกับดอตตี้ และขับรถด้วยความเร็วสูงสุด เอาล่ะ! ตอนนี้เรามาดูพลังของเจ้าสิ่งนี้กันดีกว่า!” ซูไป๋หยิบระเบิดโมเลกุลออกมาจากช่องเก็บของด้านหลังรถ
“เอาล่ะนะ!”
ซูไป๋พูดขึ้นพร้อมกับโยนระเบิดโมเลกุลเข้าไปในโรงกลั่นน้ำมันทันที
“รีบออกรถเร็วเข้า!”
หลังจากโยนระเบิดซูไป๋ก็ตะโกนขึ้นมา และในทันทีหลังจากนั้นมันก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมกับสนามแรงดึงดูดมหาศาล สนามแรงดึงดูดมันห่อหุ้มโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ซูไป๋พูดอีกต่อไป ดอตตี้รีบสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งจนสุดทันที แต่ถึงอย่างนั้นความเร็วของรถก็ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างกะทันหันแบบนั้น
มันต้องใช้เวลากว่าครึ่งนาที ดอตตี้ถึงรู้สึกว่ารถเริ่มเบาขึ้นและความเร็วก็เริ่มกลับสู่ความปกติ
หลังจากที่ทิ้งระยะมาได้พอควร ดอตตี้ก็จอดรถก่อนที่พวกเขาทุกคนจะหันหน้ากลับไปมองด้านหลัง
โรงกลั่นน้ำมันได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่หลุมขนาดใหญ่พร้อมกับที่ที่ดินอันว่างเปล่า
“โรงกลั่นน้ำมันหายไปไหนแล้ว?” ดอตตี้ถามขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“นั่นไง!” ซูไป๋ชี้ไปหลุมขนาดใหญ่ ทำให้ทุกคนที่ยินดังนั้นอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าไปลึกๆ
โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งนั้นเหลือเพียงแค่หลุม ? นี่ … นี่มันไม่พูดเกินจริงไปหน่อยหรอ?
“พวกคุณคิดถูกแล้วระเบิดโมเลกุลหนึ่งลูกมีพลังทำลายล้างมากมายขนาดนี้ ถ้าผมใช้ระเบิดอันนี้ปาใส่ชอว์ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะดูดซับมันได้ไหม!” ซูไป๋ค่อนข้างพอใจกับพลังทำลายล้างของระเบิดโมเลกุล
“คุณวางแผนจะใช้มันกับชอว์อย่างงั้นหรอ? แล้วความสามารถของชอว์คือไร?” ดอตตี้ถามขึ้น
“ชอว์สามารถดูดซับพลังงานได้ทุกรูปแบบแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นการโจมตีได้ แม้แต่ระเบิดที่มีพลังทำลายล้างสูงก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่ … ผมว่าสิ่งนี้มันน่าจะไม่มีปัญหาอะไร! ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้งานได้ แต่มีไว้มันก็ดีกว่าไม่มี” ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ! กลับบ้านกันเถอะ เพราะอีกเดียวจะมีคนมาที่นี่ในเร็ว ๆ นี้”
ซึ่งคำพูดของซูไป๋ก็ถูกต้องทุกประการ เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานหลังจากที่ซูไป๋จากไปก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามา
เพ็กกี้และจาร์วิส!
“โรงกลั่นน้ำมัน … อย่ที่ไหนล่ะ?”
เมื่อมองไปยังพื้นที่ที่ว่างเปล่ากับหลุมขนาดใหญ่ตรงหน้าเพ็กกี้และจาร์วิสก็รู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก
“ดูเหมือนว่าเราจะมาถูกที่แล้ว” เพ็กกี้พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ
“แต่ว่าเรามาช้าเกินไป น่าจะมีใครบางคนมาที่นี่ก่อนเราแล้วทำลายที่นี่ทิ้งด้วยระเบิดโมเลกุล ทำให้ตอนนี้เบาะแสทั้งหมดของเราหายไปอย่างไร้ร่องรอย” จาร์วิสมองไปที่เพ็กกี้ก่อนจะพูดขึ้นมาต่อว่า “แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดี?”
“พาฉันไปส่งสถานที่ที่หนึ่ง!”
เพ็กกี้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมา และนึกย้อนไปถึงคำพูดของซูไป๋ที่เคยพูดเอาไว้
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาเพ็กกี้และจาร์วิสก็มาถึงบ้านของซูไป๋ และหลังจากที่กดกริ่งประตู ไม่นานซูไป๋ก็เดินออกมา
โปรดติดตามตอนต่อไป …