ตอนที่ 915 เริ่มต้นอมตะ สุดท้ายถูกทำลายจนได้
เย่ว์หยางระดมโจมตีตอบโต้ชี่เทียนเหอเป็นพายุบุแคม
ตอนเริ่มแรกยังไม่เร็ว
แต่ความเร็วค่อยๆเพิ่มมากขึ้น และในที่สุดกำปั้นของเขาก็แน่นขนัดเหมือนกับสายฝน และมีแรงอัดกระแทกผลักดันอย่างต่อเนื่องชี่เทียนเหอจำไม่ได้ว่าเขาโดนไปกี่หมัด
ถ้าเขาไม่มีร่างเทพ ชี่เทียนเหอรู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า เขาคิดว่าคงจะทนรับไม่ได้ วงจักรนิรันดรกระพริบถี่ขึ้นไปตามเวลาโดยไม่รู้ตัวและทันทีที่วงจักรหายไปทั้งหมด ชี่เทียนเหอไม่สามารถหลบได้แต่เขาฝืนใช้ฝ่ามือรับพลังหมัดที่ระดมโจมตีเป็นห่าฝนและจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ได้ “เจ้าเล่นพอหรือยัง?”
เขาคว้าจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ด้วยมือทั้งสองและร่างของเขาเร่งพลังเทพไม่มีขอบเขตจำกัดเพิ่มขึ้น
เขาดึงเย่ว์หยางขึ้นจากพื้น
จากนั้นทุ่มลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง
พื้นที่มิติแตกชี่เทียนเหอสะบัดศีรษะอย่างแรง พลังที่ไร้ต่อต้านอัดกระแทกเย่ว์หยางจมเข้าไปอยู่ในมิติว่างไร้ขอบเขต เขายื่นมือคว้าตัวเย่ว์หยางและแค่นเสียงเย้ยหยันเขา “ไม่ว่าเจ้าจะต่อยข้าสักกี่ครั้งก็ตาม เจ้าจะไม่มีทางทำอันตรายข้าได้เพราะข้ามีร่างเทพ ร่างเทพจะไม่มีวันตาย! ถ้าเจ้าต้องการจะเอาชนะข้าด้วยทักษะแปลกประหลาดอย่างมดแมลง อย่างนั้นข้าบอกเจ้าได้เลยว่าจะไม่มีทางสำเร็จ ไม่มีทาง! ข้าเป็นใคร? ข้าก็คือเทพ แต่เจ้ามันเป็นมนุษย์ที่น่าสมเพชไม่มีอะไร นี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เจ้าไม่มีวันข้ามพ้นได้!”
“ต่อให้เจ้าเป็นเทพ ข้าก็ฆ่าเจ้าได้” ประกายดวงตาของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“ฝันไปเถอะ!” ชี่เทียนเหอเห็นรังสีอำมหิตของเขาและความมั่นใจที่มากพอ ทำให้เขาอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ รังสีฆ่าฟันของเจ้าเด็กนี่หนักหน่วงสาหัสจริงๆ!
ขุนพลเทพธิดาวายุที่อยู่ในสภาวะชะงักงันกลับเข้ามาโจมตีทันที
หมัดคู่ระเบิดอยู่ข้างหูซ้ายขวาของชี่เทียนเหอสามครั้ง
ครั้งนี้พลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าสองครั้งก่อนถึงสิบเท่า....ชี่เทียนเหอสั่นเล็กน้อย เขาประทับใจเป็นครั้งแรกที่อสูรพิทักษ์นี้ช่างรู้จักซ่อนเร้นพลัง ถ้านางใช้พลังระดับนี้เป็นพื้นฐานครั้งแรกเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อยโจมตีเขาถูก ด้วยพลังระดับนี้ของนางนับว่าไม่เลว
ชี่เทียนเหอรู้สึกปวดศีรษะแทบแตกและโกรธมากที่เขาถูกหลอก
ฝ่ายตรงข้ามได้รับพลังระดับขุนพลเทพแต่คิดว่าจะต่อยเขาให้กระเด็นได้ นั่นประมาทเกินไปแล้ว
เพลิงแดงสวรรค์ระเบิดคลุมตัวชี่เทียนเหอเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดด้วยความโกรธของชี่เทียนเหอร่างอวตารทองแทรกออกมาทางศีรษะของเขาปล่อยพลังหมัดตอบโต้ดันขุนพลเทพธิดาวายุถอยออกไปหลายสิบเมตร
สถานการณ์อันตรายปรากฏอีกครั้ง
ชี่เทียนเหอพบว่าตนเองและร่างอวตารของเขาหยุดนิ่งคล้ายกับถูกพลังของวงจักรนิรันดร แต่มีพลังกดดันมากกว่าด้วยพลังปณิธานบางอย่างที่มิอาจต้านทานได้แสงเทพที่เขาไม่รู้จักฉายรัศมีที่ไม่มีใดเทียบชี่เทียนเหอและร่างอวตารรู้สึกได้ถึงพลังเผาไหม้ที่รุนแรงพร้อมกัน นี่ไม่ใช่อันตรายอย่างเดียวแต่เป็นการตัดสินทางจิตวิญญาณ
มือน้อยราวกับกล้วยไม้ขาวค่อยๆเหยียดจากท่าถือบอลแสงสว่าง
พร้อมกับรวบมือเป็นท่าหมัด
ในที่สุดก็กระทบเข้าที่หน้าผากของชี่เทียนเหอ
นั่นเป็นพลังอ่อนหยุ่นแผ่วเบาที่ตบยุงก็ยังไม่ตาย
แต่ชี่เทียนเหอผู้รู้สึกถึงทะเลวิญญาณในหัวของเขาได้รับผลกระทบของพลังที่น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าพลังของขุนพลเทพธิดาวายุ อาการบาดเจ็บจากพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุยังไม่ทันฟื้นฟูเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง ด้วยสัญชาตญาณป้องกันดวงวิญญาณ พลังศักดิ์สิทธิ์ป้องกันความสัมพันธ์กับโลกภายนอกทันที
เมื่อชี่เทียนเหอไม่ได้รับบาดเจ็บอีกต่อไปวิญญาณของเขาจึงได้รับการปลดเปลื้อง
กระดูกหน้าผากของชี่เทียนเหอเป็นรอยร้าว
นอกจากนี้ร่างอวตารพลังงานที่แต่เดิมเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของชี่เทียนเหอถูกขุนพลเทพธิดาวายุจับได้และลากออกมาจากตัวของเขา เย่ว์หยางลงใช้เพลิงอมฤตที่ฝ่ามือเผาชำระร่างอวตารนั้น การทำเช่นนี้ไม่ต่างกับเผามนุษย์ทั้งเป็น แต่เขากำลังชำระร่างอวตารที่เป็นพลังวิญญาณของชี่เทียนเหอ
“โอว ไม่!”
เมื่อชี่เทียนเหอใช้พลังเทพขับไล่พลังของศัตรูที่รุกรานเข้าในหัวเขาได้ เขาพบว่าร่างอวตารพลังวิญญาณของเขากลายเป็นกลุ่มพลังบริสุทธิ์ที่ไร้เจ้าของไปแล้ว เขาถึงกับร้องโหยหวน
ขณะนั้นเองเขาพบว่าพลังลับที่ใช้ออกมานั้นไม่เพียงแต่แค่พลังของขุนพลเทพธิดาวายุเท่านั้น แต่ยังมีพลังของปีศาจอสรพิษน้อยที่ดูเล็กและอ่อนแอ
ปีศาจอสรพิษน้อยนี้มีพลังดั้งเดิมที่ไม่ด้อยไปกว่าขุนพลเทพธิดาวายุและยังมีทักษะแฝงเร้นและจังหวะโจมตีที่เหนือกว่า! ดูเหมือนว่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้เคยผ่านการรบมาเป็นล้านศึกและเป็นสงครามอาบเลือดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนับไม่ถ้วนไม่เหมือนกับหน้าตาที่ดูเยาว์วัยและอ่อนแอ
ชี่เทียนเหอตกตะลึงไม่ใช่แต่เพียงพลังที่ซ่อนเร้นของฝ่ายตรงข้ามแต่ยังเป็นพลังของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
เขาอยากเป็นลม เขารู้สึกว่าปีศาจอสรพิษน้อยยังมีพลังปณิธานแข็งแกร่งมากกว่าเขาผู้เป็นเทพ...แม้ว่านางจะเป็นอสูรเทพ มีปณิธานของอสูรเทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเขาได้แต่..พระเจ้า..ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
เมื่อสูญเสียร่างอวตารพลังงานไปก็ยากจะกอบกู้กลับคืนมา
ภายใต้เพลิงอมฤตไม่มีพลังงานฝ่ายตรงข้ามที่คงอยู่ได้ มีแต่จะสูญสลายพังทลาย ภายใต้เพลิงอมฤตเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้พลังกลับคืนมา
วิธีเดียวที่มีในตอนนี้ก็คือทำลายมนุษย์ผู้น่ารังเกียจที่อยู่ต่อหน้าเขา ถ้าเขาฆ่าเจ้ามนุษย์ผู้นี้ได้ปีศาจอสรพิษน้อยอสูรพิทักษ์จะตายด้วยเช่นกัน สำหรับสาวอสูรวายุด้านหลังเขายังจะไล่ล่าเจ้านายนางได้ ศัตรูที่มีพลังอย่างนี้ไม่สมควรปล่อยให้รอดไปได้!
เขาต้องใช้ไม้ตายต้องห้ามมิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสชนะในการต่อสู้นี้
ชี่เทียนเหอพบว่าเขาไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ เว้นแต่จะใช้ท่าต้องห้ามที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไปด้วย
“เจ้าเป็นเทพเจ้าหรือ คนสติวิปลาสกันแน่?” เย่ว์หยางมีความตั้งใจจะฆ่าให้ได้แน่นอนเขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญออก และดูดซับพลังร่างอวตารที่ถูกกลั่นโดยอสูรโลก ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาจะไม่ทำอย่างนี้ แต่ตอนนี้เย่ว์หยางไม่มีเวลาจัดการต้องทำให้ศัตรูอ่อนแอลงเป็นวัตถุประสงค์แรก, เย่ว์หยางจึงให้รางวัลอสูรโลก จากนั้นจึงให้เงาปีศาจยักษ์แก่เสี่ยวเหวินหลีและขุนเทพธิดาวายุคนละห้าร่างเงานั่นเป็นสาเหตุให้พลังของพวกนางเพิ่มทะลุขีดจำกัด
“ฮ่าห์..” เสี่ยวเหวินหลีใช้ดาบคู่พร้อมกับทักษะแฝงเร้นพันธนาการกับชี่เทียนเหอพร้อมกัน
“บุก!” ขุนพลเทพธิดาวายุได้รับประโยชน์จากเสี่ยวเหวินหลีใช้เวลาสองวินาทีผนึกกำลังร่วมกันในขณะที่ชี่เทียนเหอกำลังจะสลัดหลุดจากพันธนาการหมัดคู่ที่ผสานกับเงาปีศาจยักษ์สองคู่อัดกระแทกที่หูของชี่เทียนเหอทั้งสองข้าง
บึ้ม!
ครั้งนี้ชี่เทียนเหอไม่อาจทนได้อีกต่อไป
หูซ้ายขวาของเขาถูกกระแทกแก้วหูระเบิดพลังทะลุทะลวงไปถึงสมองและภายในนั้นยังมีแรงระเบิดกระเพื่อมที่น่ากลัวเลือดฉีดพุ่งออกมาจากช่องหู ชี่เทียนเหอร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ชี่เทียนเหอครวญครางเป็นครั้งแรก เสียงเหมือนกับทหารและทหารม้านับหมื่นตวาดตะโกนจนหูอื้อ
ร่างกายของเขาเสียสมดุลเพราะบาดเจ็บสาหัส เขาล้มลงกับพื้นทันที เย่ว์หยางชูผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ด้วยมือทั้งสองจากนั้นฟาดกระแทกไปที่แผลเดิมตรงหน้าผากที่เสี่ยวเหวินหลีโจมตีไว้ก่อนเกิดแผลรุนแรงอีกแผล พลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ปะทุออกมาเป็นแรงกดดันโลกมีพลังเหนือกว่าพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุถึงสี่เท่าทั้งยังกระแทกใส่หน้าผากของชี่เทียนเหอโดยตรงนี่ยังเป็นพลังที่เย่ว์หยางยังไม่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ได้มา ถ้าเย่ว์หยางผสานพลังได้เต็มที่ ชี่เทียนเหอคงถูกจัดการแน่!
ชี่เทียนเหอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อเขาอย่างหนัก
เขาใช้มือกดพื้นและใช้กระบวนท่าต้องห้ามโจมตีอกของเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางห้าวกว่าเขาถึงสิบเท่ากลับวิ่งเข้าอ้อมแขนของชี่เทียนเหอพร้อมกับพลังกฎสวรรค์และถ่ายเทพลังเทพวิบัติไว้ในมือเขาและกระแทกที่อกของชี่เทียนเหอที่กำลังตวาดใส่เย่ว์หยาง
ชี่เทียนเหอโถมร่างเข้าหาคมดาบและยังต้องการต่อต้านพลังเทพ
เย่ว์หยางคลั่งเหมือนคนเสียสติและหน้าของเขา เพราะเขาใช้พลังมากเกินไปทำให้สีหน้าของเขาดูดุร้าย
เขาใช้มือทั้งสองจับดาบศึกร่างแปลงอสูรน้อยทงเทียนเท้าของเขาย่ำอกของชี่เทียนเหอ และปล่อยพลังเทพวิบัติที่เขาได้ชำระแล้วจากในหุบเขาราคะ จากนั้นปล่อยพลังผ่านปราณกระบี่กุยจ้าง
ฉัวะ
ดาบศึกทงเทียนแทงทะลุอกของชี่เทียนเหอทะลุหลัง
ชี่เทียนเหอไม่สามารถป้องกันไม้ตายนี้ได้ เขาตกตะลึงยังมีอาวุธที่สามารถทำร้ายร่างเทพได้หรือ? อาวุธเทพร่างอสูร? ไม่, อาวุธเทพร่างมนุษย์?ชี่เทียนเหอไม่สามารถหาคำตอบได้ เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของตนเองตกอยู่ในอันตราย ถ้าเขาไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้นั่นจะเป็นอันตรายแน่นอน ศัตรูอาจใช้อาวุธเทพตัดศีรษะของเขาได้..
และเขาจะสูญเสียเลือดเทพ!
ประกายตาของชี่เทียนเหอมีแววหวาดกลัวเขารีบหนีจากเย่ว์หยางผู้บ้าคลั่ง
ขณะที่โดดขึ้นไปในอากาศเขาใช้มือขวาล้วงเข้าไปในบาดแผลที่อกดึงเอาเลือดเทพสีทองปากก็บ่นพึมพำเหมือนกับจะยอมเสียสละเลือดเทพ
ทันใดนั้นร่างของเขามีรัศมีสว่างไสวปรากฏทุกอณูเนื้อและผิวหนังล้วนแต่มีแสงรัศมีฉายออก ชี่เทียนเหออาบแสงเทพและร่างขยายขนาดอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่าคือขยายขึ้นทีละ10, 20, 30 เมตร เขากลายเป็นยักษ์สีแดง
ขณะเดียวกันแสงสีแดงฉายเรืองรองอยู่รอบตัวเขา
เขาล้อมรอบด้วยพลังจิตวิญญาณ
นี่เป็นวิชาต้องห้ามที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตของชี่เทียนเหอ ด้วยการเสียสละเลือดเทพจะช่วยให้เขาฆ่าศัตรูได้เป็นร้อยเป็นพัน “พลังแม่น้ำเลือด”
ถ้าไม่ใช่เพราะถึงช่วงวิกฤติของชีวิตอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายชี่เทียนเหอจะไม่มีทางใช้วิชาต้องห้ามนี้ เพราะทันทีที่ใช้ออกไป เขาจะไม่มีทางกลับมาอยู่ในสภาพสุดยอดได้อีกหลายพันปี และจะอยู่ในสภาวะอ่อนแอไปอีกเป็นเวลานาน
“ตายซะเถอะ มาดูกันว่าไม้ตายก้นหีบของใครจะร้ายกาจกว่ากัน!” เย่ว์หยางได้แต่แปลงสภาพวงจักรนิรันดรให้กลายเป็นวงจักรล้างโลก
วงจักรล้างโลกภายใต้ปณิธานปราณราชันย์และอักขระรูนอมตะมีพลังเพิ่มขึ้นพุ่งทะยาน
พลิกจากด้านล่างขึ้นข้างบน
และตัดร่างของชี่เทียนเหอในอากาศ.. ขณะที่ชี่เทียนเหอฟื้นฟูช้าๆ พลังแม่น้ำเลือดก็พุ่งเข้าหาเย่ว์หยางและระเบิดเหนือศีรษะของเย่ว์หยาง
ไม้ตายทั้งสองต่างปะทะกันและกันทั้งระเบิดขึ้นพร้อมกัน !-!