ตอนที่แล้วตอนที่ 914 ขอบใจจริงๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 916 อาบเลือดสู้

ตอนที่ 915 เริ่มต้นอมตะ สุดท้ายถูกทำลายจนได้


เย่ว์หยางระดมโจมตีตอบโต้ชี่เทียนเหอเป็นพายุบุแคม

ตอนเริ่มแรกยังไม่เร็ว

แต่ความเร็วค่อยๆเพิ่มมากขึ้น และในที่สุดกำปั้นของเขาก็แน่นขนัดเหมือนกับสายฝน และมีแรงอัดกระแทกผลักดันอย่างต่อเนื่องชี่เทียนเหอจำไม่ได้ว่าเขาโดนไปกี่หมัด

ถ้าเขาไม่มีร่างเทพ  ชี่เทียนเหอรู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า เขาคิดว่าคงจะทนรับไม่ได้  วงจักรนิรันดรกระพริบถี่ขึ้นไปตามเวลาโดยไม่รู้ตัวและทันทีที่วงจักรหายไปทั้งหมด ชี่เทียนเหอไม่สามารถหลบได้แต่เขาฝืนใช้ฝ่ามือรับพลังหมัดที่ระดมโจมตีเป็นห่าฝนและจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ได้  “เจ้าเล่นพอหรือยัง?”

เขาคว้าจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ด้วยมือทั้งสองและร่างของเขาเร่งพลังเทพไม่มีขอบเขตจำกัดเพิ่มขึ้น

เขาดึงเย่ว์หยางขึ้นจากพื้น

จากนั้นทุ่มลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง

พื้นที่มิติแตกชี่เทียนเหอสะบัดศีรษะอย่างแรง พลังที่ไร้ต่อต้านอัดกระแทกเย่ว์หยางจมเข้าไปอยู่ในมิติว่างไร้ขอบเขต  เขายื่นมือคว้าตัวเย่ว์หยางและแค่นเสียงเย้ยหยันเขา  “ไม่ว่าเจ้าจะต่อยข้าสักกี่ครั้งก็ตาม   เจ้าจะไม่มีทางทำอันตรายข้าได้เพราะข้ามีร่างเทพ  ร่างเทพจะไม่มีวันตาย! ถ้าเจ้าต้องการจะเอาชนะข้าด้วยทักษะแปลกประหลาดอย่างมดแมลง  อย่างนั้นข้าบอกเจ้าได้เลยว่าจะไม่มีทางสำเร็จ  ไม่มีทาง!  ข้าเป็นใคร? ข้าก็คือเทพ แต่เจ้ามันเป็นมนุษย์ที่น่าสมเพชไม่มีอะไร นี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เจ้าไม่มีวันข้ามพ้นได้!”

“ต่อให้เจ้าเป็นเทพ  ข้าก็ฆ่าเจ้าได้”  ประกายดวงตาของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

“ฝันไปเถอะ!”  ชี่เทียนเหอเห็นรังสีอำมหิตของเขาและความมั่นใจที่มากพอ ทำให้เขาอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ รังสีฆ่าฟันของเจ้าเด็กนี่หนักหน่วงสาหัสจริงๆ!

ขุนพลเทพธิดาวายุที่อยู่ในสภาวะชะงักงันกลับเข้ามาโจมตีทันที

หมัดคู่ระเบิดอยู่ข้างหูซ้ายขวาของชี่เทียนเหอสามครั้ง

ครั้งนี้พลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าสองครั้งก่อนถึงสิบเท่า....ชี่เทียนเหอสั่นเล็กน้อย เขาประทับใจเป็นครั้งแรกที่อสูรพิทักษ์นี้ช่างรู้จักซ่อนเร้นพลัง  ถ้านางใช้พลังระดับนี้เป็นพื้นฐานครั้งแรกเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อยโจมตีเขาถูก  ด้วยพลังระดับนี้ของนางนับว่าไม่เลว

ชี่เทียนเหอรู้สึกปวดศีรษะแทบแตกและโกรธมากที่เขาถูกหลอก

ฝ่ายตรงข้ามได้รับพลังระดับขุนพลเทพแต่คิดว่าจะต่อยเขาให้กระเด็นได้ นั่นประมาทเกินไปแล้ว

เพลิงแดงสวรรค์ระเบิดคลุมตัวชี่เทียนเหอเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดด้วยความโกรธของชี่เทียนเหอร่างอวตารทองแทรกออกมาทางศีรษะของเขาปล่อยพลังหมัดตอบโต้ดันขุนพลเทพธิดาวายุถอยออกไปหลายสิบเมตร

สถานการณ์อันตรายปรากฏอีกครั้ง

ชี่เทียนเหอพบว่าตนเองและร่างอวตารของเขาหยุดนิ่งคล้ายกับถูกพลังของวงจักรนิรันดร แต่มีพลังกดดันมากกว่าด้วยพลังปณิธานบางอย่างที่มิอาจต้านทานได้แสงเทพที่เขาไม่รู้จักฉายรัศมีที่ไม่มีใดเทียบชี่เทียนเหอและร่างอวตารรู้สึกได้ถึงพลังเผาไหม้ที่รุนแรงพร้อมกัน  นี่ไม่ใช่อันตรายอย่างเดียวแต่เป็นการตัดสินทางจิตวิญญาณ

มือน้อยราวกับกล้วยไม้ขาวค่อยๆเหยียดจากท่าถือบอลแสงสว่าง

พร้อมกับรวบมือเป็นท่าหมัด

ในที่สุดก็กระทบเข้าที่หน้าผากของชี่เทียนเหอ

นั่นเป็นพลังอ่อนหยุ่นแผ่วเบาที่ตบยุงก็ยังไม่ตาย

แต่ชี่เทียนเหอผู้รู้สึกถึงทะเลวิญญาณในหัวของเขาได้รับผลกระทบของพลังที่น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าพลังของขุนพลเทพธิดาวายุ   อาการบาดเจ็บจากพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุยังไม่ทันฟื้นฟูเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง ด้วยสัญชาตญาณป้องกันดวงวิญญาณ พลังศักดิ์สิทธิ์ป้องกันความสัมพันธ์กับโลกภายนอกทันที

เมื่อชี่เทียนเหอไม่ได้รับบาดเจ็บอีกต่อไปวิญญาณของเขาจึงได้รับการปลดเปลื้อง

กระดูกหน้าผากของชี่เทียนเหอเป็นรอยร้าว

นอกจากนี้ร่างอวตารพลังงานที่แต่เดิมเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของชี่เทียนเหอถูกขุนพลเทพธิดาวายุจับได้และลากออกมาจากตัวของเขา เย่ว์หยางลงใช้เพลิงอมฤตที่ฝ่ามือเผาชำระร่างอวตารนั้น  การทำเช่นนี้ไม่ต่างกับเผามนุษย์ทั้งเป็น  แต่เขากำลังชำระร่างอวตารที่เป็นพลังวิญญาณของชี่เทียนเหอ

“โอว ไม่!”

เมื่อชี่เทียนเหอใช้พลังเทพขับไล่พลังของศัตรูที่รุกรานเข้าในหัวเขาได้ เขาพบว่าร่างอวตารพลังวิญญาณของเขากลายเป็นกลุ่มพลังบริสุทธิ์ที่ไร้เจ้าของไปแล้ว  เขาถึงกับร้องโหยหวน

ขณะนั้นเองเขาพบว่าพลังลับที่ใช้ออกมานั้นไม่เพียงแต่แค่พลังของขุนพลเทพธิดาวายุเท่านั้น  แต่ยังมีพลังของปีศาจอสรพิษน้อยที่ดูเล็กและอ่อนแอ

ปีศาจอสรพิษน้อยนี้มีพลังดั้งเดิมที่ไม่ด้อยไปกว่าขุนพลเทพธิดาวายุและยังมีทักษะแฝงเร้นและจังหวะโจมตีที่เหนือกว่า!  ดูเหมือนว่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้เคยผ่านการรบมาเป็นล้านศึกและเป็นสงครามอาบเลือดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนับไม่ถ้วนไม่เหมือนกับหน้าตาที่ดูเยาว์วัยและอ่อนแอ

ชี่เทียนเหอตกตะลึงไม่ใช่แต่เพียงพลังที่ซ่อนเร้นของฝ่ายตรงข้ามแต่ยังเป็นพลังของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

เขาอยากเป็นลม เขารู้สึกว่าปีศาจอสรพิษน้อยยังมีพลังปณิธานแข็งแกร่งมากกว่าเขาผู้เป็นเทพ...แม้ว่านางจะเป็นอสูรเทพ มีปณิธานของอสูรเทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเขาได้แต่..พระเจ้า..ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?

เมื่อสูญเสียร่างอวตารพลังงานไปก็ยากจะกอบกู้กลับคืนมา

ภายใต้เพลิงอมฤตไม่มีพลังงานฝ่ายตรงข้ามที่คงอยู่ได้ มีแต่จะสูญสลายพังทลาย  ภายใต้เพลิงอมฤตเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้พลังกลับคืนมา

วิธีเดียวที่มีในตอนนี้ก็คือทำลายมนุษย์ผู้น่ารังเกียจที่อยู่ต่อหน้าเขา  ถ้าเขาฆ่าเจ้ามนุษย์ผู้นี้ได้ปีศาจอสรพิษน้อยอสูรพิทักษ์จะตายด้วยเช่นกัน สำหรับสาวอสูรวายุด้านหลังเขายังจะไล่ล่าเจ้านายนางได้ ศัตรูที่มีพลังอย่างนี้ไม่สมควรปล่อยให้รอดไปได้!

เขาต้องใช้ไม้ตายต้องห้ามมิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสชนะในการต่อสู้นี้

ชี่เทียนเหอพบว่าเขาไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ เว้นแต่จะใช้ท่าต้องห้ามที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไปด้วย

“เจ้าเป็นเทพเจ้าหรือ คนสติวิปลาสกันแน่?”  เย่ว์หยางมีความตั้งใจจะฆ่าให้ได้แน่นอนเขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญออก และดูดซับพลังร่างอวตารที่ถูกกลั่นโดยอสูรโลก  ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาจะไม่ทำอย่างนี้  แต่ตอนนี้เย่ว์หยางไม่มีเวลาจัดการต้องทำให้ศัตรูอ่อนแอลงเป็นวัตถุประสงค์แรก, เย่ว์หยางจึงให้รางวัลอสูรโลก  จากนั้นจึงให้เงาปีศาจยักษ์แก่เสี่ยวเหวินหลีและขุนเทพธิดาวายุคนละห้าร่างเงานั่นเป็นสาเหตุให้พลังของพวกนางเพิ่มทะลุขีดจำกัด

“ฮ่าห์..” เสี่ยวเหวินหลีใช้ดาบคู่พร้อมกับทักษะแฝงเร้นพันธนาการกับชี่เทียนเหอพร้อมกัน

“บุก!” ขุนพลเทพธิดาวายุได้รับประโยชน์จากเสี่ยวเหวินหลีใช้เวลาสองวินาทีผนึกกำลังร่วมกันในขณะที่ชี่เทียนเหอกำลังจะสลัดหลุดจากพันธนาการหมัดคู่ที่ผสานกับเงาปีศาจยักษ์สองคู่อัดกระแทกที่หูของชี่เทียนเหอทั้งสองข้าง

บึ้ม!

ครั้งนี้ชี่เทียนเหอไม่อาจทนได้อีกต่อไป

หูซ้ายขวาของเขาถูกกระแทกแก้วหูระเบิดพลังทะลุทะลวงไปถึงสมองและภายในนั้นยังมีแรงระเบิดกระเพื่อมที่น่ากลัวเลือดฉีดพุ่งออกมาจากช่องหู ชี่เทียนเหอร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

ชี่เทียนเหอครวญครางเป็นครั้งแรก เสียงเหมือนกับทหารและทหารม้านับหมื่นตวาดตะโกนจนหูอื้อ

ร่างกายของเขาเสียสมดุลเพราะบาดเจ็บสาหัส  เขาล้มลงกับพื้นทันที  เย่ว์หยางชูผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ด้วยมือทั้งสองจากนั้นฟาดกระแทกไปที่แผลเดิมตรงหน้าผากที่เสี่ยวเหวินหลีโจมตีไว้ก่อนเกิดแผลรุนแรงอีกแผล พลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ปะทุออกมาเป็นแรงกดดันโลกมีพลังเหนือกว่าพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุถึงสี่เท่าทั้งยังกระแทกใส่หน้าผากของชี่เทียนเหอโดยตรงนี่ยังเป็นพลังที่เย่ว์หยางยังไม่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ได้มา  ถ้าเย่ว์หยางผสานพลังได้เต็มที่  ชี่เทียนเหอคงถูกจัดการแน่!

ชี่เทียนเหอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อเขาอย่างหนัก

เขาใช้มือกดพื้นและใช้กระบวนท่าต้องห้ามโจมตีอกของเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางห้าวกว่าเขาถึงสิบเท่ากลับวิ่งเข้าอ้อมแขนของชี่เทียนเหอพร้อมกับพลังกฎสวรรค์และถ่ายเทพลังเทพวิบัติไว้ในมือเขาและกระแทกที่อกของชี่เทียนเหอที่กำลังตวาดใส่เย่ว์หยาง

ชี่เทียนเหอโถมร่างเข้าหาคมดาบและยังต้องการต่อต้านพลังเทพ

เย่ว์หยางคลั่งเหมือนคนเสียสติและหน้าของเขา เพราะเขาใช้พลังมากเกินไปทำให้สีหน้าของเขาดูดุร้าย

เขาใช้มือทั้งสองจับดาบศึกร่างแปลงอสูรน้อยทงเทียนเท้าของเขาย่ำอกของชี่เทียนเหอ และปล่อยพลังเทพวิบัติที่เขาได้ชำระแล้วจากในหุบเขาราคะ จากนั้นปล่อยพลังผ่านปราณกระบี่กุยจ้าง

ฉัวะ

ดาบศึกทงเทียนแทงทะลุอกของชี่เทียนเหอทะลุหลัง

ชี่เทียนเหอไม่สามารถป้องกันไม้ตายนี้ได้  เขาตกตะลึงยังมีอาวุธที่สามารถทำร้ายร่างเทพได้หรือ? อาวุธเทพร่างอสูร? ไม่, อาวุธเทพร่างมนุษย์?ชี่เทียนเหอไม่สามารถหาคำตอบได้  เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของตนเองตกอยู่ในอันตราย ถ้าเขาไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้นั่นจะเป็นอันตรายแน่นอน  ศัตรูอาจใช้อาวุธเทพตัดศีรษะของเขาได้..

และเขาจะสูญเสียเลือดเทพ!

ประกายตาของชี่เทียนเหอมีแววหวาดกลัวเขารีบหนีจากเย่ว์หยางผู้บ้าคลั่ง

ขณะที่โดดขึ้นไปในอากาศเขาใช้มือขวาล้วงเข้าไปในบาดแผลที่อกดึงเอาเลือดเทพสีทองปากก็บ่นพึมพำเหมือนกับจะยอมเสียสละเลือดเทพ

ทันใดนั้นร่างของเขามีรัศมีสว่างไสวปรากฏทุกอณูเนื้อและผิวหนังล้วนแต่มีแสงรัศมีฉายออก  ชี่เทียนเหออาบแสงเทพและร่างขยายขนาดอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่าคือขยายขึ้นทีละ10, 20, 30 เมตร เขากลายเป็นยักษ์สีแดง

ขณะเดียวกันแสงสีแดงฉายเรืองรองอยู่รอบตัวเขา

เขาล้อมรอบด้วยพลังจิตวิญญาณ

นี่เป็นวิชาต้องห้ามที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตของชี่เทียนเหอ  ด้วยการเสียสละเลือดเทพจะช่วยให้เขาฆ่าศัตรูได้เป็นร้อยเป็นพัน “พลังแม่น้ำเลือด”

ถ้าไม่ใช่เพราะถึงช่วงวิกฤติของชีวิตอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายชี่เทียนเหอจะไม่มีทางใช้วิชาต้องห้ามนี้ เพราะทันทีที่ใช้ออกไป เขาจะไม่มีทางกลับมาอยู่ในสภาพสุดยอดได้อีกหลายพันปี และจะอยู่ในสภาวะอ่อนแอไปอีกเป็นเวลานาน

“ตายซะเถอะ มาดูกันว่าไม้ตายก้นหีบของใครจะร้ายกาจกว่ากัน!” เย่ว์หยางได้แต่แปลงสภาพวงจักรนิรันดรให้กลายเป็นวงจักรล้างโลก

วงจักรล้างโลกภายใต้ปณิธานปราณราชันย์และอักขระรูนอมตะมีพลังเพิ่มขึ้นพุ่งทะยาน

พลิกจากด้านล่างขึ้นข้างบน

และตัดร่างของชี่เทียนเหอในอากาศ..   ขณะที่ชี่เทียนเหอฟื้นฟูช้าๆ พลังแม่น้ำเลือดก็พุ่งเข้าหาเย่ว์หยางและระเบิดเหนือศีรษะของเย่ว์หยาง

ไม้ตายทั้งสองต่างปะทะกันและกันทั้งระเบิดขึ้นพร้อมกัน !-!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด