ตอนที่ 908 เทพตัวจริง
“แต่พลังกายของเจ้ามีการหลอมรวมพลังงานอย่างต่อเนื่องเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงสงสัย
“ในภูเขาน้ำแข็งมีอักขระรูนโบราณซึ่งมีคุณสมบัติเดียวกับข้ามันจึงเรียกหาข้า!” เสวี่ยอู๋เสียยกมือเล็กน้อย ทั้งเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นได้ว่ามีพลังหิมะน้ำแข็งเริ่มเข้ามารวมตัวกันอยู่ที่ฝ่ามือของนาง
แม้ว่าจะเล็กน้อยมากแต่ก็ปลอดภัยที่จะบอกว่าเสวี่ยอู๋เสียมีคุณสมบัติพอควบคุมพลังงานของโลกน้ำแข็งได้
ตราบใดที่นางหลอมรวมกับอักขระรูนโบราณที่อยู่ลึกในภูเขาน้ำแข็งได้อย่างสมบูรณ์แบบนางเชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
ถึงเวลานั้นนางจะเชี่ยวชาญเข้าใจโลกน้ำแข็งได้ทั้งหมด
เย่ว์หยางมีความสุขแต่จากนั้นเขามีความกังวลใจเพิ่มขึ้นอีกข้อ ตามสถานการณ์ปัจจุบัน 80% เขาแน่ใจว่าอักขระรูนเป็นฐานพลังที่ใช้ผนึกศัตรูไว้ ไม่มีอักขระรูนเขาเกรงว่าศัตรูแข็งแกร่งจะทำลายผนึกน้ำแข็งออกมาได้...
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเสวี่ยอู๋เสียที่เหมือนจะรู้ว่ามีสิ่งที่นางต้องทำ
เสวี่ยอู๋เสียยิ้มและส่ายหน้า “อักขระรูนนี้ยอดเยี่ยมแต่ไม่มีพลังที่เอาชนะได้เต็มร้อย ข้ายังหลอมรวมมันไม่สำเร็จ ข้าหลอมรวมอักขระรูนโบราณ อย่างน้อยได้แค่ส่วนไอระเหยมาชั่วขณะหนึ่งซึ่งไม่ได้ช่วยในเรื่องของการสู้รบเลย ข้าจะไม่ขอให้เจ้าเสี่ยงเพื่อประโยชน์ตัวของข้าเองโดยไม่จำเป็น และการปล่อยศัตรูที่น่ากลัวอย่างนั้นในภูเขาน้ำแข็งย่อมไม่เป็นผลดีต่อหอทงเทียนทั้งหมด!”
เย่ว์หยางคัดค้าน “อักขระรูนโบราณจะเป็นที่ต้องการอย่างแน่นอน เพียงแต่วิธีการได้มาเราจะต้องคิดหาวิธีการสักอย่างหนึ่ง!”
ไกลออกไป
ดูเหมือนจะมีเสียงดังออกมาจากความมืด
เสียงของพลังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นในใจของเย่ว์หยางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แต่กลับมีความรู้สึกดังเหมือนสายฟ้ากรอกหู
ถ้าไม่ใช่เพราะปณิธานปราณราชันย์ของเย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นบุคคลธรรมดา ถ้าไม่ถูกฆ่าตาย ก็คงจะกลัวจนต้องบูชาเทิดทูนเทพเจ้าเป็นแน่
เสียงชัดเจนและทรงอำนาจดังขึ้น “ต่อให้พวกเจ้าต้องการปฏิเสธพวกเจ้าจะปฏิเสธข้าไ และของขวัญที่ข้าชี่เทียนเหอให้เจ้าได้อย่างไร? พวกน่าสมเพชอย่างเจ้าจะไม่มีทางเข้าใจ มนุษย์เป็นอย่างไร?เทพเจ้าเป็นอย่างไร?อย่านึกว่าเจ้าสามารถชูดาบในมือเจ้าแล้วผ่าน้ำแข็งเป็นสองเสี่ยงได้ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถโดดออกจากขอบเขตมนุษย์ที่น่าสมเพชได้หรือเจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช พวกเจ้าก็แค่กบที่อยู่ก้นบ่อเท่านั้น!”
เย่ว์หยางโมโห
เขาเคยเห็นพวกคุยโอ่ปากเหม็นอย่างซุ่นเทียนจักรพรรดิชื่อตี้ ราชาเฮยอวี้ ราชันย์พันปีศาจ จ้าวปีศาจโบราณ จักรพรรดินีฟ้าจิ่วเซียวและซิวคงมาก่อน... แม้ว่านักสู้เหล่านี้จะมีความหยิ่งยโสมากมาย แต่ไม่เอาแต่ผายลมเช่นเจ้าผู้นี้แน่นอน!
เจ้าผู้นี้น่ารังเกียจมากกว่าจีอู๋ลี่ “ต้องบอกว่าหน้าด้าน แต่ไม่ถึงกับบ้า”
เทพเจ้านั่นมันเป็นเพียงภาพของสายตาคนธรรมดา
เทพเจ้าผู้ทรงอานุภาพก็เป็นแค่นักสู้ที่เก่งถึงระดับนั้น นักสู้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์สามารถมีประกายเทพได้มีสนามพลังและอำนาจที่แข็งแกร่งเหนือใคร แต่เทพเจ้าที่มีประกายเทพหยาบ ยังคงมีขีดจำกัดอย่างนั้นเขายังจะเป็นจ้าวโลกจริงๆ หรือ? ถ้าเทียบกับตัวเองกับเทพโบราณในยุคโบราณที่สร้างโลกหรือสร้างวงจักรล้างโลก คำอวดอ้างเทพเจ้านั้นเป็นแค่คำผายลมมีแต่พลังเท่านั้นที่เป็นของแท้!
คนผู้นี้ถูกผนึกไว้ในภูเขาน้ำแข็งและไม่ทราบว่าเขาไม่ได้ออกมากี่ปีกี่ชาติแล้ว นี่เขายังหัวเราะได้ไม่รู้จักละอายอีกหรือ?
เย่ว์หยางยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม!
“อย่าเพิ่งโกรธ นี่เป็นแค่สัญญาณรบกวนทางใจ เพื่อต้องการยั่วโมโหเจ้า! สัญญากับข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าวู่วามไม่ยั้งคิด จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด” เสวี่ยอู๋เสียมีความรู้สึกไวต่อการโจมตีทางจิตวิญญาณมากที่สุด การโจมตีทางจิตบางอย่างเหมือนกับเข็มทิ่มแทงใจบางทีเหมือนถูกกระแสน้ำหลากใส่ เมื่อสูญเสียความรับผิดชอบชั่วดี จะตกเป็นเชลย
“วางใจได้ ข้าจะไม่โกรธ เขาพูดเรื่องไร้สาระ ข้าจะนึกว่าผายลมสุนัขก็แล้วกัน” เย่ว์หยางพยักหน้ารับปากเสวี่ยอู๋เสีย
ความจริงเขารู้สึกโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจริงๆ เจ้าผู้นั้นคงจะโชคร้ายมากกว่า
การฝืนใช้พลังอย่างหนักเพราะอยู่ในสภาวะคลั่งเมื่อไม่อยู่ในสภาพคลั่งเขาไม่สามารถใช้ออกได้อย่างราบรื่น! แน่นอนว่าเสวี่ยอู๋เสียเหมือนเย่ว์หยางอาจจะมีลางสังหรณ์บางอย่างหรือมีสำนึกเทพบางอย่างเตือนไว้
ภูเขาน้ำแข็งในปัจจุบันเต็มไปด้วยพลังเทพที่มีคุณสมบัติต่างๆกัน
มีพลังไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อาจระเบิดออกมาได้ มีพลังเทพน้ำแข็งและมีพลังผนึกเทพที่เย่ว์หยางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังไม่อาจทำความเข้าใจได้ พลังเทพหลายอย่างข่มกันและกัน แต่กลับสร้างความสมดุลที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์
ในตอนแรกเห็นได้ชัดว่าพลังเทพยังไม่ปรากฏแล้วพลังเทพออกมาได้อย่างไร?
เป็นเพราะเย่ว์หยางใช้ผนึกมิติหลุมดำทลายภูเขาน้ำแข็งหรือไม่?
เย่ว์หยางลอบไตร่ตรอง
ในขณะเดียวกันเขาลอบเตือนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขุนพลเทพธิดาวายุของเสวี่ยอู๋เสียให้ป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
บึ้ม บึ้ม บึ้ม...กำแพงน้ำแข็งระเบิดเป็นระลอกต่อเนื่องในทันใด ชิ้นน้ำแข็งหมื่นปีกระเด็นขึ้นฟ้าแสงเทพเหมือนกับสายฟ้าฟาดใส่เย่ว์หยาง
เย่ว์หยางเกร็งพลังกระบี่กุยจ้างและกระบี่ซวงหัวรออยู่แล้วทันทีที่ศัตรูโจมตี เขาใช้กระบี่ขาวซวงหัวต้านรับทันทีกระบี่กุยจ้างเตรียมต้านรับศัตรู อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางแปลกใจก็คือกระบี่ขาวซวงหัวไม่ได้ทำอันตรายพลังเทพสายฟ้าและพลังสายฟ้าดูเหมือนไม่มีพลังอันตรายอะไร แต่นั่นต้องบอกว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แค่ดูเหมือนว่าไม่มีอันตรายกลับยิ่งกล้าแข็งมากขึ้นภายใต้การหนุนเสริมของกระบี่ซวงหัวเนื่องจากการโจมตีของกระบี่ซวงหัว ทำให้แสงเทพนิ่งชะงักเล็กน้อย ก่อนโค้งอ้อมตัวเย่ว์หยางไปที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบเทพจักรพรรดิอวี้ไว้ข้างหน้า
แสงเทพหักเหไปทางเสวี่ยอู๋เสียกระทบกับคัมภีร์แห่งสัจจะและสะท้อนไปที่ระหว่างคิ้วของเสวี่ยอู๋เสีย
“อ๊า...” เย่ว์หยางเบิกตาค้าง และเขารู้ว่าแสงเทพนี้มุ่งโจมตีเขานึกไม่ถึงเลยว่ากลับสะท้อนไปทำอันตรายเสวี่ยอู๋เสีย
“อย่าตกใจ, ข้าไม่เป็นไร!” เสวี่ยอู๋เสียพูดขึ้นก่อนแนะนำเย่ว์หยางไม่ให้กลัว
“ไม่เป็นไรจริงหรือ? ข้าตกใจแทบแย่!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกผิดเป็นพิเศษถ้านางรู้ว่าแสงเทพจะโจมตีใส่ระหว่างคิ้วของเสวี่ยอู๋เสียนางจะไม่ใช้ดาบบังไว้แน่นอน
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าพวกมดแมลง,ข้าคาดเอาไว้ทุกอย่างแล้ว” เสียงยโสหัวเราะดังลั่น “ด้วยสติปัญญาน้อยนิดของมนุษย์อย่างพวกเจ้าจะคิดถึงได้อย่างไร? แสงเทพไม่ใช่แสงที่โจมตีเพื่อสร้างความเสียหาย แต่เป็นการนำทางสำนึกเทพ...ฮ่าฮ่าฮ่าโหย่วหลานนังตัวดีนั่นบอกให้ป้องกันข้ามิให้หลบหนี นางเบี่ยงเบนความสนใจของนางเองแต่นางจะรู้ได้อย่างไร หลังจากผ่านไปหลายหมื่นปี ยังมีตัวโง่งมอย่างพวกเจ้าสามคนมาทำลายผนังน้ำแข็งและปลุกข้าให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลสิ่งที่ทำให้ข้ารู้สึกว่าเป็นโชคชะตามากที่สุดก็คือยังมีคนรุ่นหลังของโหย่วหลานมารับพลังตกทอดของนาง ชะตามดแมลงอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าไม่มีแสงเทพนำทาง นั่นไม่สำคัญเท่าไหร่ข้าช่วยใช้แสงเทพนำทาง เมื่อนังมดแมลงได้รับประกายเทพจากโหย่วหลานและผนึกถูกปลดเมื่อนั้นจะเป็นเวลาที่พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย มันเป็นชะตาที่ยอดเยี่ยมข้าชอบพวกเจ้านัก ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า...”
“หนีไป!” ถ้าเย่ว์หยางได้ยินมาไม่ผิด นั่นคือหนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์
แต่ตอนนี้สายเกินกว่าจะจากไป
ภูเขาน้ำแข็งสั่นสะเทือน เสวี่ยอู๋เสียตะลึงมองเย่ว์หยางตาไม่กระพริบ
ร่างของนางมีพลังน้ำแข็งหิมะเข้ามารวมตัวกันอย่างรวดเร็วดวงดาวจากแสงเทพนับไม่ถ้วนพุ่งเป็นทางเข้ามาราวกับทางช้างเผือก
เป็นเรื่องดีที่ได้รับตกทอดพลังศักดิ์สิทธิ์และประกายเทพของผู้อาวุโสรุ่นก่อนอย่างง่ายดาย แต่ว่าพลังเทพเหล่านี้ใช้ผนึกศัตรูแข็งแกร่ง เมื่อพลังเข้ามารวมอยู่ในร่างเสวี่ยอู๋เสียก็หมายความว่าศัตรูแข็งแกร่งที่ถูกผนึกมาหลายหมื่นปีกำลังจะถูกปล่อยออกมา....
เย่ว์หยางกัดฟันและหันไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจ้องมองตานางกอดและจูบปากนาง
จากนั้นคลายมือทั้งสอง
เขาจัดผมที่หน้าผากนางให้เข้าที่ “แม่เสือสาว! เจ้าหนีไปก่อนรีบไปบอกจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุน ไปบอกว่าเราต้องการความช่วยเหลือ”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีความเข้มแข็งไม่เคยร้องไห้มาก่อน แต่ตอนนี้นางหลั่งน้ำตา “เจ้าอย่าผลักไสไล่ส่งข้าได้ไหม,ข้ารู้ว่าจะไม่ได้พบเห็นเจ้าอีก ถ้าข้าจากไป แม้ว่าข้าจะชอบทะเลาะกับเจ้า แต่ข้าก็อยากจะคบหากับเจ้า..ให้ข้าอยู่เถอะอยู่ด้วยกัน ต่อให้ต้องตายก็ตาม ถ้าเจ้าไล่ให้ข้าหนีไป ข้ามีชีวิตอยู่ไปก็คงไร้ความหมาย...”
เสียงของเย่ว์หยางอ่อนโยนมากกว่าปกติทั้งที่เขามักจะตะโกนใส่นาง แต่ตอนนี้เขาอดทนมาก และพูดโน้มน้าวเสียงอ่อน“อย่าร้อง! ข้าจะไม่เป็นอะไร อู๋เสียก็จะไม่เป็นอะไรต่อให้ฝ่ายตรงข้ามทำลายผนึกเทพออกมาได้ ข้าก็เอาชนะเขาได้ ข้าคือบุรุษที่เกิดมาเพื่อค้ำฟ้าไม่มีอะไรหยุดยั้งข้าได้!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเมื่อได้ฟังยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม “ในเมื่อเจ้าจะค้ำฟ้าแล้วทำไมต้องเสือกไสไล่ส่งข้าด้วย? ให้ข้าอยู่กับเจ้าด้วย ข้าจะช่วยเจ้าค้ำฟ้าข้าจะร่วมกับเจ้าต่อต้านฟ้า ต่อให้เจ้าล้มข้าก็จะอยู่กับเจ้า...”
เย่ว์หยางมองหน้านางและเช็ดน้ำตานางครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่เสวี่ยอู๋เสียไม่สามารถพูดได้แล้ว
มือที่ถือคัมภีร์แห่งสัจจะเริ่มคลุมหนาไปด้วยพลังหิมะน้ำแข็งมากขึ้นทุกที แสงระยิบระยับเหมือนกับทางช้างเผือกฉายเข้าไปในคัมภีร์แห่งสัจจะและเข้าไปในร่างนางที่สุด
ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ห่างออกไปสั่นสะเทือนรุนแรง
ยอดแหลมภูเขาน้ำแข็งที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเริ่มมีรอยแตกร้าวเห็นได้ชัด
ภายในน้ำแข็งมีภาพพลังงานเทพฉายเป็นภาพสตรีขนาดใหญ่สูงถึงหนึ่งกิโลเมตร ภาพนั้นลอยช้าๆโดยไม่มีสำนึกเทพควบคุมและค่อยๆ สลายหายไป ภาพนั้นดูลักษณะคล้ายเสวี่ยอู๋เสียพอภาพสลายหายไป เหลือแต่เพียงประกายเทพลอยเข้าหาร่างของเสวี่ยอู๋เสีย ภูเขาน้ำแข็งทั้งหมดสั่นสะท้านรุนแรงเหมือนมีอะไรบางอย่างดิ้นรนต่อสู้
“คราวนี้งานหนัก แต่คุณชายผู้นี้ไม่กลัวแม้แต่น้อยมาเลย ไม่สิ ต้องบอกว่าข้าขอท้าทายชะตาชีวิต ต่อสู้กับเจตจำนงฟ้า?” เย่ว์หยางไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรีบหนีไปได้อีกเขายิ้มทันที ใบหน้าของมีรอยยิ้มมั่นใจ
เหมือนกับมีแสงศักดิ์สิทธิ์ฉายอยู่ในดวงตาของเขา
นั่นทำให้เขามองดูคล้ายเทพในตำนาน
หรือว่า เขาเองก็คือเทพตัวจริง!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียเมื่อมองดูเย่ว์หยางจากด้านหลังภาพฉายนิมิตจากประกายเทพเป็นรูปสตรีสูงถึงหนึ่งกิโลเมตรและแม้ว่าภูเขาน้ำแข็งที่สูงหมื่นเมตร ก็ยังดูเหมือนกับจะอยู่ที่ใต้แทบเท้าภาพนั้น...