ตอนที่ 906 หลุมดำ ภูเขาน้ำแข็ง วิญญาณนักรบ
เย่ว์หยางรู้ว่าผนึกหลุมดำน่ากลัว แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะน่ากลัวถึงขนาดนี้
ทั้งเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดูเหมือนจะตื่นเต้นมากเช่นกัน
เย่ว์หยางใช้สนามพลังสร้างโลกและเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาด้วยเพื่อสนับสนุนการทำงาน แต่คาดไม่ถึงเลยว่าพื้นที่มิติหลุมดำนั้นแค่ใช้กฎสวรรค์ชักนำออกมาเพียงเล็กน้อยจะทำให้สนามพลังพังพินาศลงทั้งหมด
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ฟันใส่เต็มแรงยังไม่สามารถทิ้งรอยไว้ที่ภูเขาน้ำแข็งไม่อาจเทียบได้กับผนึกหลุมดำที่เย่ว์หยางใช้ชักนำพลัง ภูเขาน้ำแข็งเหมือนกับขนมเค้กที่ถูกกัดแหว่งทีละนิด โชคดีที่ผนึกมิติหลุมดำเพียงแต่ปรากฏอยู่ในพื้นที่ๆเย่ว์หยางจัดการไว้ และไม่เหลือวิสัยไปจากการควบคุมของเขา เมื่อพลังกฎสวรรค์น้อยของเย่ว์หยางหายไป ทางเข้าผนึกหลุมดำก็หายไปทันที
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ยืนอยู่ห่างหลายกิโลเมตรยังตกใจกลัวจนหน้าซีด
แม้ว่าเย่ว์หยางจะหยุดใช้กฎสวรรค์น้อยและมิติหลุมดำหายไปแล้ว แต่มือของเขายังไม่หยุดสั่นทันที!
“น่ากลัวเกินไป!” ไม่มีอะไรในทั่วหล้าฟ้าดินทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลัวเย่ว์หยางมักหยอกนางอยู่เสมอ นางตกใจกลัวจนน้ำตาซึม เมื่อเย่ว์หยางเดินเข้ามานางกอดเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเย่ว์หยางจะหายไปในมิติหลุมดำที่เขาสร้าง
“นางอยู่ในที่น่ากลัวมากขนาดนั้นเชียวหรือ?” เสวี่ยอู๋เสียคิดว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีมีพลังที่มิอาจจินตนาการได้
เปลี่ยนเป็นคนอื่นอยู่ในมิติหลุมดำต่อให้ไม่ตาย เกรงว่าคงจะบ้าไปแล้ว!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียตรวจสอบแล้วว่าเย่ว์หยางปลอดภัยไร้อันตรายจึงรู้สึกโล่งใจ
แม้ว่านางจะกลัวแทบตายแต่ในที่สุดนางก็ได้ข้อสรุปว่าความคิดของเย่ว์หยางเป็นไปได้แน่นอน คำถามประการเดียวก็คือพลังของเขาจะหนุนเสริมเขาได้นานแค่ได้? เย่ว์หยางจะต้องอยู่ในสภาวะปราณราชันย์และใช้กฎสวรรค์น้อยชักนำพลังจากผนึกหลุมดำ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการท้าทายพลังของผนึกมิติหลุมดำ....แม้ว่าผนึกหลุมดำจะไม่ทำอันตรายเขาแต่ก็ยังยากที่เย่ว์หยางจะคงอยู่ในสภาวะปราณราชันย์ได้นานพร้อมกับใช้กฎสวรรค์น้อยไปด้วย
หลังจากมีการถกเถียงโต้แย้งกันเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคล้อยตามเป็นครั้งแรกว่าเย่ว์หยางจะทำได้สำเร็จ
พวกนางจะยืนหยัดเคียงข้างช่วยเขา
มิติหลุมดำจะไม่ทำอันตรายพวกเขา แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เต็มใจรับความเสี่ยง แต่สตรีทั้งสองคิดว่าไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก ตราบเท่าที่พวกนางและเย่ว์หยางยังคงสภาพจิตวิญญาณเหมือนในสถานการณ์ฝึกพลังคู่รักผนึกหลุมดำจะไม่ทำอันตรายพวกนางเหมือนที่ไม่ทำอันตรายเย่ว์หยาง
ผนึกหลุมดำก็คือการแสดงปณิธานนักสู้และพลังเทพโบราณแม้ว่าจะทรงพลัง แต่ไม่มีชีวิตและสติปัญญา
ไม่ต้องปรุงแต่งหรือปรับเปลี่ยน
เป็นเพียงกฎสวรรค์ที่บังคับใช้จากปณิธานของเจ้าของ
“แม้ว่าเราจะถูกจองจำแต่ก็เพียงถูกกักอยู่ร่วมกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ข้าไม่กังวลอะไรอีกแล้ว นางพญาเฟ่ยเหวินหลีคงจะออกมาได้ในไม่ช้า!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดกล่าวตามปกติ แต่นางรู้สึกอายเล็กน้อยเมื่อมองเสวี่ยอู๋เสียและขณะมองไปทางเย่ว์หยางนางหน้าแดงและหันหลังให้เขา นางกลัวว่าเมื่อกอดเย่ว์หยางข้างหน้าเขาจะทำอะไรร้ายๆ กับนางและจากนั้นก็ฝึกพลังคู่รัก
“แม้ว่าจะไม่มีใครมาแต่เราก็ต้องระมัดระวัง” เสวี่ยอู๋เสียเรียกขุนพลเทพธิดาวายุออกมาช่วยคุ้มกันนาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเอวเย่ว์หยางอยู่ด้านหลัง
เสวี่ยอู๋เสียอยู่ข้างหน้าเขาและหันหน้าเข้าหาเขามือทั้งสองโอบกอดคอเขาไว้ นางประกบจูบปากเขาและอยู่ในสภาวะฝึกพลังคู่รักอย่างรวดเร็ว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอายจึงทำให้ช้ากว่าเล็กน้อย แต่สภาวะใจและวิญญาณของนางอยู่ในสภาวะฝึกฝนพลังคู่รัก
การฝึกพร้อมกันสามคนนี้แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่เคยทำมาก่อน
ไม่เพียงแต่กับเสวี่ยอู๋เสียองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว อู๋เหิน พวกนางก็เคยลองฝึกและใช้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
แน่นอนว่าเพราะวิญญาณทั้งสามคนเชื่อมผสานกัน ทั้งสามจึงเหมือนเปลือยกายต่อกันไม่มีอะไรปิดบังกางกั้นความลับในจิตใจแม้แต่น้อยหนึ่งไม่อาจรักษาไว้ต่อไปได้ เสวี่ยอู๋เสียเน้นที่การฝึกฝนจิตความหวั่นไหวกระเพื่อมในจิตของนางมีน้อยมาก แทบจะสงบไม่มีระลอกคลื่น ส่วนในความเห็นขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองเห็นว่าสาวหิมะนางนี้เก่งที่สุด ถ้าเป็นมารกฎฟ้าไห่หลานฝึกด้วยกัน พวกนางอาจเริ่มรู้สึกตื่นเต้น และเริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นมีการสื่อสารทางใจและกายและฝึกสัมพันธ์คู่รักสามีภรรยาได้สำเร็จนึกถึงเรื่องนี้แล้วนางรู้สึกอายจริงๆ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกว่าเย่ว์หยางเริ่มกลั่นสร้างกฎสวรรค์น้อยนางยอมรับว่าความกลัวทำให้เสียสมาธิไปเล็กน้อย
หลุมดำปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ภายใต้ความประสงค์ของเย่ว์หยางกฎสวรรค์น้อยในสนามพลังสร้างโลกเปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็ว และผนึกหลุมดำสร้างพลังดูดกลืนอย่างต่อเนื่องทำให้กฎสวรรค์น้อยไม่หนีหายไป
ใช้กฎสวรรค์น้อยสร้างพลังดูดกลืนจากผนึกหลุมดำนี่ยังไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเย่ว์หยาง
สนามพลังสร้างโลกมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่หลากหลายในระยะร้อยเมตรและชักนำให้ผนึกหลุมดำเปลี่ยนแปลงไปด้วยซึ่งเป็นผลที่เย่ว์หยางต้องการที่สุด
ใช้ดาบฟันใส่ภูเขาน้ำแข็งไม่เป็นไร แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสนามพลัง พลังของผนึกหลุมดำเมื่อผ่านไปจุดใดพื้นที่จะหายวับไปในทันที...ภูเขาน้ำแข็งผ่านการบีบอัดมาหลายหมื่นปีแม้แต่พลังบีบอัดที่ใช้กับชิ้นน้ำแข็งเล็กๆก็เพียงพอต่อการทำลายได้ทั้งเมือง อย่างไรก็ตามแม้แต่ก้อนน้ำแข็งใหญ่ขนาดร้อยเมตรเมื่อตกอยู่ภายใต้พลังกลืนกินของผนึกหลุมดำกลับเป็นเหมือนโคดินปั้นที่ถมทิ้งในทะเล
สิบนาทีต่อมาเมื่อเย่ว์หยางและสองสาวหยุดพักอัจฉริยะทั้งสามต้องตกใจเมื่อพบว่าผลที่ออกมานั้น น่ากลัวเพียงไหน
ภูเขาน้ำแข็งถูกกลืนกินไปมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร
ไม่มีความรู้สึกว่าเต็มในมิติหลุมดำแต่อย่างใด
บางครั้งก็ทำให้คนเข้าใจผิดว่ามันไม่รู้จักพอตลอดเวลาพลังงานใดๆ ที่เข้าไปจะสูญหายไปตลอดกาล แต่ความรู้สึกบอกเย่ว์หยาง ผนึกมิติหลุมดำนั้นจะต้องเต็มไปด้วยพลังงานแน่นอน
มีปัญหาเพียงเรื่องเดียวท่านอาจไม่จำเป็นต้องเติมน้ำแข็งจากภูเขาน้ำแข็งทั้งหมด พลังของมันจะไหลเข้าไปบางทีใช้โลกภูเขาน้ำแข็งทั้งหมดอาจจะเติมพลังได้ไม่ถึงหนึ่งในร้อยด้วยซ้ำ
ความเป็นไปได้ทั้งหมดนี้เกิดจากพลังของผนึกที่ใช้กับนักสู้อย่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
ยิ่งคนรุ่นก่อนแข็งแกร่งมากเท่าใดก็ยิ่งต้องการพลังของผนึกหลุมดำมากเท่านั้น
“นายท่านท่านกับท่านหญิงทั้งสองทำงานกันอย่างหนักแล้ว พักดื่มน้ำเสียก่อนเถอะ!” เมื่อกลับมาโลกคัมภีร์สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์รีบหาน้ำมาให้เย่ว์หยางซึ่งมีตัวเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
“เป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนี้” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิดว่าสิบนาทีก็ถึงขีดจำกัดแล้วแต่แนวภูเขาน้ำแข็งยังถูกทำลายไปไม่ถึงหนึ่งในหมื่นและมิติหลุมดำต้องการพลังมากอย่างมิอาจจินตนาการได้ นางรู้สึกว่ารูปแบบการทำงานถูกต้องแต่ต้องหาวิธีการที่ดีกว่า ต้องเพิ่มกระบวนการทำงานที่ได้ผล
“เราต้องร่วมมือกัน ถ้าเป็นไปได้ข้าคิดจะลองรวบรวมพลังงานความเย็นจากภายนอกด้วย” เสวี่ยอู๋เสียเสนอแนวคิดที่มิอาจควบคุมได้
“ความหมายของเจ้าก็คือทำให้มิติหลุมดำพ้นจากการควบคุมของสนามพลังสร้างโลก?” เย่ว์หยางทึ่งเล็กน้อย
“ถูกแล้ว เมื่อเรากำลังพัก เจ้าสามารถใช้วิธีนี้ได้ อย่างไรก็ตาม โลกนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่แล้วต่อให้ถูกทำลายไปก็ไม่เป็นไร” เสวี่ยอู๋เสียเสนอแนวคิดนี้หลังจากพิจารณาถี่ถ้วน
“อย่างนั้นเราต้องรีบใช้เวลาปรับตัวกันก่อน” เย่ว์หยางเหนื่อยจนผล็อยหลับทันทีที่หลับตาสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ที่กำลังนวดให้เขาตาแดงแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพักจนแทบจะเพียงพอแล้ว
แต่เย่ว์หยางยังไม่ตื่น ร่างกายของเขาไม่มีปัญหา แต่เขาใช้กฎสวรรค์น้อยมากเกินไปก่อนนั้นพลังวิญญาณของเขาจึงไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมเต็มที่ แม้ว่าจะเห็นเสวี่ยอู๋เสียเดินเข้ามาหา แต่สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ที่เฝ้าอยู่หน้าเตียงก็ยังไม่กล้าปลุกเย่ว์หยางทันที
ในใจของนางแม้จะทำให้เขาได้หลับเพิ่มสักวินาทีหนึ่งก็เป็นภาระหน้าที่ของนาง
เมื่อเห็นท่าทางของสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ เสวี่ยอู๋เสียถอนหายใจเบาๆ
นางไม่เคยรู้สึกไม่ดีกับเจ้านายตัวร้ายนี่เลยหรือ?
อย่างไรก็ตามถ้าเขาตื่นไม่ตรงเวลาเขาคงจะหงุดหงิดเมื่อต้องตื่นเอง
“ปล่อยให้ข้าทำหน้าที่อย่างดีที่สุดจะดีกว่า!” ประโยคนี้พูดโดยแพนดอรานางเพิ่งตื่นจากการหลับใหลในร่างของสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์
“แต่ดูเหมือนข้างนอกจะหนาวเล็กน้อย” ประโยคต่อมาเป็นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์พูด เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ยินรู้สึกร้อนหน้าผ่าว พวกนางเข้าใจสิ่งที่แพนดอรากล่าวนางต้องการใช้พลังคู่รักช่วยเย่ว์หยาง ด้วยอดีตพลังเทพธิดาแห่งโชคร้ายของนางการฟื้นฟูพลังจิตของเย่ว์หยางและการควบคุมพลังกฎสวรรค์น้อย จะทำให้มีความก้าวหน้า
“ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำกันในอากาศที่หนาวหรือแผ่นพื้นหิมะนะ สาวน้อยเอลฟ์ เรามาลองดูกันจะต้องตื่นเต้นแน่นอน!” แพนดอราตื่นเต้นและต้องการเข้าไปจับร่างเย่ว์หยางขณะที่สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ยังต่อต้าน “นี่ไม่ดีกระมัง? ให้นายท่านและท่านหญิงได้พักผ่อนเถอะ”
นางพยายามยับยั้งมือให้อยู่ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ขณะที่ดวงตาของนางมักจะมองไปทางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดูว่าพวกนางโกรธหรือไม่
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระแอมและหันไปทางอื่นเหมือนว่าไม่มีอะไรอยู่ต่อหน้านาง
เสวี่ยอู๋เสียรู้ว่าสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ฉลาดมาก
ถ้านางยินยอมและเห็นด้วยนางจะได้ไม่อึดอัดใจเมื่อแพนดอราควบคุมร่างกายนาง ดังนั้นนางจึงยิ้มและพยักหน้าตอบรับ
สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ถอนหายใจโล่งอกนางคำนับขออภัยเสวี่ยอู๋เสียก่อนจะใช้มือน้อยๆ ปิดหน้าตนเอง นี่คือปฏิกิริยาสุดท้ายของนาง ต่อจากนั้นนางปล่อยใจและกายให้แพนดอราควบคุมนางเอื้อมมือกอดเย่ว์หยางไว้
สาวใช้น้อยต้องการจะช่วยเจ้านายนางอยู่แล้วเมื่อนางมองเห็นความเหนื่อยล้าทางใจเกินไปของเขา นางรู้สึกเป็นทุกข์ไม่สบายใจ
ตอนนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบของเสวี่ยอู๋เสียนางรู้สึกอายและตื่นเต้น
นางกอดเย่ว์หยางและรีบออกไปจากโลกคัมภีร์โดยเร็ว
“เจ้าเด็กนี่..วาสเรื่องสตรีดีจริงๆ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอดหึงเล็กน้อยไม่ได้
“ใช่ ข้าเห็นด้วย” เสวี่ยอู๋เสียมักจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแม่เสือสาว แต่วันนี้นางคิดว่าแม่เสือสาวมีเหตุผล
หญิงสาวทั้งสองเตรียมจะกลับเข้าไปพักผ่อนต่อเพื่อปรับสภาพร่างกาย
ทันใดนั้นพวกนางเห็นสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์กลับเข้ามาทั้งที่เปลือยกายทรวงอกขนาดมหึมากระเพื่อมไหว แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่เป็นสตรีด้วยกันยังอดอุทานไม่ได้
สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ไม่ทันรู้ตัวเรื่องนี้ นางอยู่ในอาการตื่นเต้นเต็มที่ “ท่านหญิงทั้งสองแพนดอราบอกว่าในภูเขาน้ำแข็งนั้น ดูเหมือนมีผนึกวิญญาณนักรบที่สูญเสียสำนึก......แม่คนโง่! รอให้เราเสร็จสิ้นเรื่องนั้นก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาบอกพวกนางว่าพวกนางไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากมายขนาดนั้น!” ประโยคหลังเป็นแพนดอราพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์รู้ตัวว่าอยู่ในสภาพเปลือยกายนางกรีดร้องทันที
นางกลัวจนต้องหลบไปอยู่ข้างทาง
เท้าของนางสะดุด
“ว้าย” นางล้มอยู่ที่ประตูนางกลัวว่าเสวี่ยอู๋เสียจะเข้ามาช่วยพยุง จึงรีบลุกขึ้น “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ,ท่านหญิงทั้งสอง ข้าน้อยปล่อยให้นายท่านหลับอยู่ข้างนอก ไม่มีใครดูแลข้าน้อยแย่จริงๆ...”
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองหน้ากันเองและอดส่ายหน้าไม่ได้
มีสาวใช้ที่น่ารักอย่างนี้บางทีพวกนางโกรธไม่ลงจริงๆ!