ตอนที่ 34 การเที่ยวชมโรงกลั่นน้ำมันในตอนกลางคืน [ฟรี]
ตอนที่ 34
การเที่ยวชมโรงกลั่นน้ำมันในตอนกลางคืน
หลังจากออกมาจากไนต์คลับเพ็กกี้ก็กลับไปที่บ้านอย่างรวดเร็วเพื่อรอให้สถานการณ์สงบลงก่อน
ไม่นานหลังจากเพ็กกี้จากไปดอตตี้ก็เดินกลับมาข้างใน แต่ในเวลานี้การตายของเรย์มอนด์ถูกพบแล้วทำให้ไนต์คลับถูกปิดกั้นบริเวณทั้งหมด เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าดอตตี้ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าถ้าเธอกลับเข้าไปอีกครั้งคงจะไม่ได้อะไรกลับมา
"เพ็กกี้!"
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นเพ็กกี้ แต่เธอก็มีลางสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับเพ็กกี้อย่างแน่นอน
"แต่ ... ฉันก็ไม่ได้แพ้เหมือนกัน"
ดอตตี้หัวเราะออกมาคิกคักก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินหายไปอย่างไร้ร่องลอย
นอกคฤหาสน์มีซูไป๋และเอริคกำลังยืนอยู่ ในขณะที่เรเวนกำลังนั่งมองอยู่ใกล้ ๆ เพื่อดูพวกเขา
มีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสนามซึ่งได้รับปรับแต่งเป็นพิเศษ ซึ่งเครื่องประดับพวกนี้ไม่ได้ใช้เอาไว้แค่ตกแต่งเฉย ๆ แต่เอาไว้ใช้สำหรับการออกกำลังและฝึกควบคุมพลังของซูไป๋และเอริค
ในตอนแรกซูไป๋ยังไม่เก่งเรื่องการควบคุมวัตถุที่มีน้ำหนักมากเกินไป ถึงแม้ว่าเขาจะควบคุมมันได้แต่ก็ยากลำบาก แต่ในตอนนี้เขาไม่มีปัญหาเกี่ยวกับมันแล้ว และพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรูปปั้น เพราะสิ่งนี้มันไม่เหมือนกับการเปลี่ยนรูปร่างของเหรียญเพราะมันยากกว่ายิ่งกว่า
นิ้วของซูไป๋สั่นเล็กน้อยพร้อมกับรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไปโดยเริ่มจากแยกตัวออกจากกันแบบผ่ากลางกลายเป็นสองส่วน
"ครึ่งนั้นเป็นของนาย!"
เมื่อหันไปพูดกับเอริคจบซูไป๋ก็เริ่มฝึกซ้อมกับอีกครึ่งหนึ่ง
การฝึกเช่นนี้ต้องทำเกือบทุกวันและเกือบจะกลายเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันของพวกเขา
หลังจากฝึกซ้อมได้ไม่นานดอตตี้ก็กลับมา
"ดูเหมือนว่าคุณจะอารมณ์ไม่ดีนะ" หลังจากดอตตี้กลับมาซูไป๋ก็เห็นสีหน้าและปฏิกิริยาของเธอที่ไม่ปกติ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอไม่ได้ล้มเหลว แต่มันก็น่าจะไม่ได้เสร็จสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์และเธอก็น่าจะไม่พอใจผลลัพธ์ของมัน
"เพ็กกี้มาเอาระเบิดโมเลกุลไปก่อนฉัน" ดอตตี้พูดขึ้นมาพร้อมกับหยิบแผ่นการดาษอันหนึ่งออกมาจากร่างของเธอและยื่นให้กับซูไป๋ "เพราะอย่างงี้ฉันก็เลยคว้าน้ำเหลวกลับมา! ถึงแม้ว่าผู้จัดการทรัพย์สินจะขายเฉพาะระเบิดโมเลกุลที่เสร็จแล้ว แต่หลังจากที่ฉันแอบติดตามเขาไป ฉันก็พบสิ่งนี้และขโมยมันมา และเมื่อฉันกลับมาที่ไนต์คลับฉันก็พบว่าเรย์มอนด์ตายแล้ว และเพ็กกี้ก็น่าจะเป็นคนฆ่าเขา"
ซูไป๋หยิบขึ้นมาดูก่อนที่จะถามว่า "มันน่าจะเป็นคนจากองค์กรของคุณ เห็นได้ชัดว่าคนที่มีสูตรโมเลกุลได้ทรยศและขโมยมันมา และด้วยความเร็วในการตอบสนองขององค์กรคุณ พวกเขาน่าจะส่งใครสักคนมาจัดการและพยายามที่จะแย่งสูตรโมเลกุลอันนี้กลับคืนไป ผู้ชายคนนี้มีความสามารถบางอย่างที่ทำให้เขาใช้สูตรอันนี้ในการสร้างระเบิดโมเลกุลขึ้นมาได้ เรียกได้ว่าเขาก็ไม่ธรรมดาพอตัว"
"สิ่งนี้มันสุดยอดขนาดนั้นเลยหรอ?" ดอตตี้ถามขึ้น
ซูไป๋ยิ้มก่อนจะพูดว่า "มันค่อนข้างอันตรายมากเลย และคุณจะได้เห็นมันด้วยตาของคุณในอีกไม่นานต่อจากนี้ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้มันมีประโยชน์กับผมมาก!"
"ถ้าอย่างนั้นฉันจะรีบกลับไปหาเขาอีกครั้ง เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าสูตรหายไปตอนที่เขาจะใช้มัน" ดอตตี้พูดขึ้นมาอย่างร้อนรน
"ไม่ต้องร้อนรนไป มันก็แค่การสร้างระเบิดโมเลกุลแค่นั้นเอง ถึงแม้ว่าเขาจะอยากได้มันมันก็ไม่มีทางอีกต่อไปแล้ว คุณเข้าไปข้างในและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ แน่นอนว่ารวมถึงเรเวนและเอริคด้วย พวกเธอก็ควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวไปด้วยกัน" ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
"อืม!"
เด็กน้อยทั้งสองคนพยักหน้ากันด้วยความตื่นเต้นปนความประหม่าเล็กน้อย
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็ขับรถออกมาจากคฤหาสน์
ณ โรงกลั่นน้ำมัน
ภายใต้ค่ำคืนสามารถมองเห็นโรงกลั่นได้ค่อนข้างชัดเจน
"ด้านนอกเต็มไปด้วยรั้วไฟฟ้าและด้านในก็ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา สำหรับโรงกลั่นน้ำมันธรรมดาแบบนี้การรักษาความปลอดภัยแบบนี้มันสูงเกินไป" รถจอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงกลั่นน้ำมันมากนัก พร้อมกับดอตตี้ที่พูดขึ้นมา
"เพ็กกี้น่าจะหาที่นี่ได้ในเร็ว ๆ นี้" ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม "มีสารบางอย่างในระเบิดโมเลกุลที่ไม่สามารถใช้การขนส่งที่มีระยะไกลเกินไปได้ ซึ่งมันมีโรงกลั่นน้ำมันเพียงสามแห่งในเมืองนี้ที่สามารถผลิตมันได้ หนึ่งในนั้นถูกสร้างโดยกองทัพเรือ อีกหนึ่งถูกทำลายไปแล้ว ทำให้เหลือแต่ที่นี่เท่านั้น"
หลังจากซูไป๋พูดจบเขาก็ลงจากรถ ก่อนที่ทั้งสีคนจะเดินไปที่รั้วไฟฟ้า พร้อมกับซูไป๋ที่เหลือบมองไปยังเอริค
เอริคพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ เขายกมือขึ้นมาและชี้ไปยังรั้วไฟฟ้า ก่อนที่รั้วไฟฟ้าจะค่อย ๆ บิดเบี้ยวเข้าหากันจนเกิดเป็นประกายไฟ และหลังจากนั้นไม่นานมันก็แตกหักออกเป็นรูวงกลมที่ให้คนรอดผ่านไปได้
ดอตตี้เป็นคนเดินนำเข้าไปคนแรก และพวกเขาก็เดินเข้าไปข้างในโรงกลั่นน้ำมันอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาได้สักพักพวกเขาก็พบกับยามที่ถือปืนยืนเฝ้าอยู่ไม่ไกล ความเร็วของดอตตี้นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากเธอกระโดดไปด้านหน้าเบา ๆ พร้อมกับเอามือไปล็อคคอของยามคนนั้นเอาไว้และบิดมัน ยามคนนั้นค่อย ๆ ล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นเรเวนก็เดินมาข้าง ๆ ดอตตี้ก่อนที่รูปร่างของเธอจะเปลี่ยนเป็นยามคนนั้นก่อนที่เธอจะก้มลงไปหยิบปืนขึ้นมาและเดินเข้าไปข้างใน
หลังจากเดินมาได้ไม่นานพวกเขาก็เจอยามอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ และเมื่อเห็นว่ามีคนเดินมาสองสามคนยามคนนั้นก็มองอย่างประหลาดอย่างเห็นได้ชัด
"นายมาที่นี่ทำไม? แล้วพวกเขาเป็นใคร?"
"นี่คือคนที่บอสต้องการพบ" เรเวนพูดขึ้นมาพร้อมกับเดินไปด้านหน้า
ยามคนนั้นขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความงงงวยเล็กน้อยและเตรียมที่จะถาม แต่ทันใดนั้นเรเวนก็ได้ลงมืออย่างกะทันหัน
เธอยังคงฝึกฝนทักษะการต่อสู้กับดอตตี้อยู่เป็นประจำ ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเฉียบคมมากยิ่งขึ้นและจัดการยามคนนั้นได้อย่างง่ายดาย
"เฮ้อ … " เรเวนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับรีบหันไปมองทางซูไป๋
ซูไป๋ยิ้มให้เธอพร้อมกับพยักหน้าให้กำลังใจ
เมื่อพวกเขาเดินมาไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงรถดังขึ้น
"รีบตามรถคันนั้นไปเร็วเข้า!"
โปรดติดตามตอนต่อไป …