บทที่ 42: ทดลองเมล็ดพันธุ์จากเกม! บ้านไร่กำลังจะไฟลนก้น!
บ้านไร่ชิงหลินตอนนี้ดังระเบิด
ในวันแรกกลายเป็นที่พูดถึงเรื่องบ้านไร่รังโจรที่ขุดรีดลูกค้าแล้วโดนด่าจนกลายเป็นประเด็นทางสังคมออนไลน์
เช้ามาคดีพลิกกลายเป็นเพราะเด็กเหลือขอคนหนึ่งมือบอนขโมยของจนกลายเป็นประเด็นว่าเหล่าเด็กไม่รู้ความกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไร้เหตุผลนั้นน่าโมโหยิ่งกว่า
จนยาวไปถึงเรื่องที่ว่าในโลกอินเทอร์เน็ตมีเด็กเกรียนมากมายก่ายกองที่มักจะทำเรื่องไม่ดีจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่พ่อแม่ก็ไม่คิดจะชดใช้โดยอ้างว่าลูกตัวเองยังเด็กอยู่ไม่รู้ภาษาเพื่อปัดความรับผิดชอบ
พ่อแม่บางคนถึงกับพูดอย่างมั่นหน้ามั่นโหนกว่ากฎหมายไม่อาจเอาผิดลูกของพวกตนได้และทำราวกับว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
นั่นยิ่งทำให้บ้านไร่ชิงหลินเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
และผลตอบแทนที่ได้รับคือช่องของสตูดิโอของฉินเหินเองก็ได้รับความนิยมไปด้วยนั่นเอง ทางสตูยังได้ลงคลิปโฆษณาโปรโมตทะเลเฟื่องฟ้าที่เคยถ่ายไว้ที่บ้านไร่ชิงหลิน ทำให้ช่วยให้ฉินหลินดึงดูดลูกค้ามาดูทะเลเฟื่องฟ้าได้อีกเพียบ
ทันทีที่ลงคลิปโฆษณาทะเลเฟื่องฟ้าอันวิจิตรราวกับงานศิลปะมันก็กลายเป็นกระแสในเวลาอันสั้น
ทุก ๆ คนที่ได้ดูต่างถูกดึงดูด
เพราะมันสวยงามจริง ๆ
ด้วยพลังของคุณสมบัติขึ้นกล้องทำให้ทุก ๆ ฉากในคลิปดูราวกับงานแกะสลักอย่างพิถีพิถันโดยศิลปินผู้ยิ่งใหญ่
โดยเฉพาะช่วงโซนกลาง ทะเลเฟื่องฟ้าโซนกลางนั้นมีเสน่ห์จนไม่อาจละสายตาได้เลย ผีเสื้อที่เริงระบำ เสียงนกร้องอันไพเราะ และกระรอกที่ไม่กลัวคน ทั้งหมดประสมกันแล้วล้วนแต่น่าตกตะลึง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างถามถึง ทะเลเฟื่องฟ้าแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ตอย่างมากชนิดที่ว่าไม่ทันตั้งตัว
แต่นี่กลับเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่ฉินหลินได้เล็งเอาไว้แล้ว ไม่เพียงแต่จะจัดการกับพวกหมิ่นประมาทไห้ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย แต่ยังเป็นการเผยแพร่ภาพของบ้านไร่ออกสู่สายตาของคนทั่วไปอีกด้วย
และมันจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวของบ้านไร่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่เพียงแค่ลูกค้าจากอำเภอโหยวเฉิง แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจากชาเฉิงกับเมืองฝั่งในอีกด้วย
...........................................
บ้านไร่ชิงหลิน
ฉินหลินจับจอบตีแปลงที่ลานกว้างหลังโถงต้อนรับ
ข้าง ๆ เขามีหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเฉินต้าเป่ยที่กำลังจับจอบอยู่เหมือนกัน เหมือนเรื่องใช้กำลังนี่ไว้ใจได้เลย
“หลินจือ ทำไรอยู่อะ?” ฉินเหรินถามด้วยความสงสัย
บ้านไร่แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากแล้วแท้ ๆ เขาเลยไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพี่น้องของตนถึงต้องมาจับจอบขุดดินแบบนี้ด้วย
ช่วงสองวันมานี้ฉินเหรินได้มาขลุกอยู่ที่บ้านไร่เพื่องถ่ายคลิปเฟื่องฟ้า
ช่องสตูดิโอของเขามีการเข้าชมและการติดตามเพิ่มมากขึ้น ลูกค้ารายอื่น ๆ ไม่คุ้นเคยกับฉินหลินดังนั้นเลยต้องฝืนใจฝากเรื่องนี้ไว้กับฉินเหริน อาจถือเป็นการลงทุนเพื่อทำธุรกิจร่วมกันกับบ้านไร่แห่งนี้ก็เป็นได้
“ฉันจะปลูกแตงโมอะ!” ฉินหลินตอบพร้อมกับหยิบถุงเมล็ดแตงโมออกมาปลูก
ที่ฉินหลินมาตีแปลงปลูกก็เพราะจะลองปลูกเมล็ดแตงโมเลเวล 2 นี่เอง
[☆เมล็ดพันธุ์แตงโมไร้เมล็ด (เลเวล 2)]
[เมล็ดพันธุ์ที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาเป็นพิเศษ แตงโมที่ปลูกขึ้นมาจะมีรสชาติอร่อย ไม่มีข้อจำกัดเรื่องฤดูกาลในการเพาะปลูก และระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้นมาก]
เมล็ดนอกเกมยังเอาไปปลูกในเกมได้
แล้วเมล็ดเกมล่ะ ก็น่าจะเอาออกมาปลูกนอกเกมได้เหมือนกันจริงมั้ย?
เขาก็แค่ทดลองดูเท่านั้น
แม้ว่าจะรู้ดีว่าที่เมล็ดแตงโมธรรมดานอกเกมเมื่อเอาไปปลูกในเกมแล้วจะได้แตงโมเลเวล 1 แต่นั่นก็เป็นผลมหัศจรรย์ของเกม
ทว่าเมล็ดแตงโมเลเวล 2 นี้เมื่อนอกเกมไม่มีแปลงปลูกเลเวล 3 ก็มีโอกาสสูงมากที่มันจะไม่อาจได้ผลเป็นแตงโมเลเวล 2 เหมือนคำอธิบายที่กำกับไว้ก็เป็นได้
เพราะงั้นถึงได้เรียกว่าทดลองไง โลกจริงไม่ใช่ในเกมซักหน่อย ไม่มีอะไรที่คาดเดาได้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างแปรปรวนไม่คงที่
แม้ว่าเมล็ดเลเวล 2 เมื่อเอามาปลูกนอกเกมแล้วจะไม่ได้แตงโมเลเวล 2 ก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ ต่อให้มันจะแย่ลงยังไงเขาก็ขอซักเลเวล 1 ได้ก็ยังดี เพราะเมล็ดพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าของทั่วไปมาก
ถ้าสภาพแวดล้อมของการปลูกเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนไปจะเป็นอย่างไร? โดยปกติแล้วเมล็ดพืชจะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพอากาศอยู่บ้าง มันอาจจะฟลุ๊คมีซักลูกสองลูกสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมนอกเกมนี้ได้จนสามารถรักษาคุณภาพดั้งเดิมไว้ได้ก็เป็นได้จริงป่าว?
แบบนั้นก็เจ๋งเป้งไปเลยไม่ใช่เหรอ?
เป็นที่ทราบกันดีสมัยที่มีการวิจัยข้าวในยุคแรก ๆ ก็อาศัยโอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ และความฟลุ๊คดังกล่าวนี่แหล่ะเพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ดี ๆ มา แม้ว่าโอกาสจะน้อย แต่พวกนักวิจัยต่างก็หวังอยู่เสมอว่าจะต้องเป็นไปได้
นอกจากนี้เมล็ดพันธุ์เลเวล 2 นี้ยังมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือไม่มีข้อจำกัดเรื่องฤดูกาล แปลง่าย ๆ ได้ว่าต่อให้เป็นหน้าหนาวก็ปลูกได้
“ปลูกแตงโม? ใกล้จะเดือนตุลาแล้วนา ล้อเล่นป๊ะเนี่ย?” ฉินเหรินอ้าปากค้างเพราคิดว่าพี่น้องตัวเองกำลังอำ
ทุกคนรู้ว่าแตงโมเขาปลูกเดือนมีนานู่น
ถ้าอยากปลูกเดือนตุลาล่ะก็ต้องปลูกในโรงเรือนขนาดใหญ่
ฉินหลินไม่ได้อธิบายอะไรและยังคงปลูกเมล็ดแตงโมในมือลงบนดินและสั่งเฉินต้าเป่ยว่า “อย่าลืมรดน้ำด้วย”
“ครับเถ้าแก่” เฉินต้าเป่ยตอบอย่างหนักแน่น
เมื่อฉินเหรินเห็นแบบนี้ก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้ต่อและถามเรื่องอื่นแทนว่า “ว่าก็ว่าเถอะหลินจื่อ นายสร้างเพจออฟฟิเชียลของบ้านไร่ยังอะ? ด้วยความนิยมในตอนนี้เข้า traffic pool ไปแล้วด้วย และน่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกหลายวัน ใครมันจะไปคิดว่าคลิปที่พวกนักท่องเที่ยวถ่านเล่นกันมันจะออกมาเริ่ดได้ปานนั้น ยิ่งมีนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ traffic pool ก็ยิ่งมากเท่านั้น เผลอ ๆ จะระเบิดเอาด้วยซ้ำ”
ฉินหลินพยักหน้า “สร้างแล้ว ให้โม่ชิงช่วยจัดการให้อยู่อะ”
แล้วเกาเหยาเหยาก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา “เถ้าแก่คะ กระเจี๊ยบเขียว 300 จินเมื่อเช้านี้ขายหมดแล้วค่ะ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชายต้องการซื้อ...”
พูดไปหน้าแดงไปอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอได้รู้ถึงสาเหตุที่นักท่องเที่ยวชายอยากได้นักหนาแล้ว
เนื่องจากผลลัพท์จากการโดนกระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 ได้ถูกเปิดคนที่โดนไปก่อนหน้านี้เปิดเผยก็เลยมีพวกอยากลองได้ซื้อไปโดนดูบ้าง
เรื่องนี้ฉินหลินไม่จำเป็นต้องพูดเอง
ต้นเหตุที่มีการเปิดโปงก็คือทายาทรุ่นสองของตระกูลเศรษฐีคนหนึ่งเห็นคลิปทะเลเฟื่องฟ้าเลยถูกใจพาพาแฟนสาวสองนางมาเที่ยวทะเลเฟื่องฟ้า จากนั้นก็ถึงเวลากินข้าว เจ้าหมอนี่มันก็สั่งกับข้าวมากินกับสองสาวซึ่งในนั้นก็มีกระเจี๊ยบเขียวจินละ 400 หยวนด้วย
แล้วเจ้าหมอนั่นมันก็ได้ค้างคืนกับแฟนสาวทั้งสองโดยสุดท้ายแล้วก็แน่ใจว่าไอ้เรื่องประหลาดที่เกิดกับตัวเองนี้เป็นผลมาจากการกินกระเจี๊ยบเขียวราคาสูงซึ่งมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับเม็ดยาราคาแพง แล้วความก็แตกจากมันนี่แหล่ะ!
วันนี้เลยมีคนแห่งมาโดนกระเจี๊ยบเขียวเลเลวล 2 กันเพียบจนฉินหลินงงไปเหมือนกัน
กระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 นั้นแม้จะโด่งดังแต่ว่าแต่ละวันมีจำนวนจำกัด ดังนั้นกระเจี๊ยบเขียวเลเวล 1 เลยถูกเอามาแก้ขัดจนกลายเป็นที่นิยมตามไปด้วยซะอย่างนั้น
นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวเลเวล 1 ก็เห็นผลจริงเหมือนกัน เพราะมันมีผลเสริมไต +1 อยู่
ดังนั้นกระเจี๊ยบเขียวนี้จึงกลายเป็นของที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบ้านไร่ไปโดยปริยาย
“อืม เด๋วฉันจัดการเอง!” ฉินหลินพยักหน้าให้เกาเหยาเหยา
เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวเลเวล 1 ที่กันไว้เมื่อเช้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเขาเลยกะว่าจะเลิกส่งให้ RT-Mart แล้วเอาทั้งหมดมาขายที่บ้านไร่แทน และเขายังสามารถแบ่งแปลงปลูกบางส่วนในเกมเพื่อใช้ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มของให้กับบ้านไร่ได้ด้วย
เกาเหยาเหยาบอกอีกว่า “ทั้งแตงโมจินละสิบหยวนกับสตรอว์เบอร์รี่จินละสี่สิบเองก็ขายหมดแล้วค่ะ ปลาในบ่อปลาก็ใกล้หมดแล้วด้วย ช่วงเช้าที่ผ่านมามีลูกค้าทั้งหมดสองร้อยหกสิบเอ็ดคน หลายคนบอกว่าของน้อยเกินไป เตาถ่านกับเตาย่างไม่พอให้เช่าทำให้แต่ละคนต้องแบ่งใช้กันไปคนละอย่างทำให้พวกลูกค้าพากันบ่นแล้วล่ะค่ะ”
“เฮ้อ~” ฉินหลินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง?
ตอนแรกก็แค่กะฉวยโอกาสโปรโมตตนเองให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเท่านั้นเอง แต่ใครมันจะไปนึกล่ะว่าผลที่ได้มันจะเกินจินตนาการถึงเพียงนี้
นอกจากนี้ทะเลเฟื่องฟ้าของเขายังมีโบนัสคุณสมบัติ นักท่องเที่ยวที่มาจะต้องประทับใจและติดใจมันมากอย่างแน่นอน ต่อไปนี้คงจะมีคนแห่แหนกันมามากขึ้นไปอีก ซึ่งน่าจะเพิ่มชนิดที่ว่าอย่างรวดเร็วจนไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนผลที่ตามมาก็เห็น ๆ เลยคือของในบ้านไร่ไม่พอขาย และยิ่งเมื่อนักท่องเที่ยวมากเข้า ๆ แม้แต่ทะเลเฟื่องฟ้าเองก็คงต้องรองรับไม่ไหวไปด้วย และนั่นแหล่ะปัญหาใหญ่
ถึงตอนนั้นคงต้องจำกัดจำนวนตั๋วในแต่ละวัน
เขาน่าจะเป็นคนเดียวกระมังที่เป็นกังวลเรื่องที่นักท่องเที่ยวมากเกินไป
เกาเหยาเหยายังบอกต่ออีกว่า “แล้วก็อีกเรื่องนึงค่ะ มีคนมากเกินไป รปภ.สองคนในทะเลเฟื่องฟ้าดูแลไม่ไหว วันนี้เราพบว่ามีนักท่องเที่ยวขว้างก้อนหินใส่กระรอกน้อยด้วย”
“เฮ่อ~” ฉินหลินถอนหายใจ
อย่างว่าแหล่ะการศึกษาก็เหมือนอวนดักปลา ย่อมต้องมีปลาหลุดอวนอยู่เสมอ ๆ เขาเลยสั่งเฉินต้าเป่ยว่า “ตอนบ่ายนายไปเปิดเว็บรับสมัครทหารผ่านศึกห้าสิบแปดเมืองแล้วโพสต์ข้อมูลการรับสมัครรปภ.ให้ทีล่ะ ถ้ารับมาได้ทีมรปภ.ของนายก็จะได้ค่าคอมมิชชันด้วย ส่วนจะเอาเท่าไหร่ไว้ค่อยดูทีหลัง”
“ครับเถ้าแก่!” เฉินต้าเป่ยตอบทันทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
เขาสนุกกับอาชีพหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อย ๆ การได้มีลูกน้องมากขึ้นนี่มันดีจริง ๆ ทำให้เขาขยันทำงานมากขึ้นด้วย เขาเดินไปหยิบบัวรดน้ำมารดให้เมล็ดแตงโม
เมื่อฉินหลินเดินมาดูที่โถงต้อนรับเขาก็เห็นว่าทั้งกระเจี๊ยบเขียวและสตรอว์เบอร์รี่เลเวล 1 ต่างขายออกหมดแล้ว ส่วนแตงโมเลเวล 2 ยังเหลือกว่า 20 ลูกเพราะไม่ค่อยมีคนซื้อ เพราะถ้าชั่งกิโลขายทั้งลูกล่ะก็ลูกหนึ่งก็พันกว่าหยวน
ถ้าหากเป็นการค่อย ๆ เชือดนิ่มให้นักท่องเที่ยวจ่ายทีละน้อยแต่รวมแล้วเป็น 2000 หยวนล่ะก็นักท่องเที่ยวจะไม่รู้ตัวและไม่ปวดใจ ทว่าถ้าต้องตู้มเดียวเป็นพันนี่คนธรรมดาจ่ายไม่ไหวแน่นอน
ในตอนเที่ยงฉินหลินไปดูที่ช่องขายตั๋ว
ตอนเช้ามีลูกค้ามาซื้อตั๋วเข้าชมทะเลเฟื่องฟ้าแล้ว 321 คน ส่วนใหญ่มาตามคลิปโปรโมต ดังนั้นแค่ค่าตัวเข้าชมทะเลเฟื่องฟ้าก็ปาเข้าไป 16,050 หยวนแล้ว
นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวเลเวล 1 สตรอว์เบอร์รี่เลเวล 1 และกระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 อีก 10 จินที่เขาเอามาวางขายเมื่อเช้าก็เกลี้ยงแผง รวมเป็นเป็นเงิน 43,350 หยวน
ทางด้านการซื้อขายอื่น ๆ อีก 21,476 หยวน
ทำให้แค่ช่วงเช้านี้ก็มีเงินไหลเข้ามาเกิด 80,000 หยวนแล้ว แถมส่วนใหญ่ยังเป็นเงินไร้ต้นทุนอีกด้วย
นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงไม่รีดกระเป๋าสตางค์นักท่องเที่ยวเหล่านี้ให้แห้งอย่างเต็มกำลัง เพราะเขาต้องเช็คดูให้ดี ๆ ว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายยินดีจ่ายให้กับอะไรบ้าง
ที่บ้านไร่นี้ยังมีสวนผักที่เขายังสามารถจัดการอะไร ๆ ได้
กระนั้นเขาก็ยังต้องไปติดต่อพ่อค้าส่งผลไม้เพื่อเอาผลไม้ธรรมดา ๆ มาจัดการกับนักท่องเที่ยวที่กำลังแห่กันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน จะให้พึ่งเกมอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ
ยังมีเรื่องปลาในบ่ออีก ปลาที่เขาเสียเวลาไปตกในเกมแน่นอนว่ายังห่างไกลจากคำว่าพอนัก ซึ่งแปลว่าเขาต้องติดต่อพ่อค้าส่งสัตว์น้ำ
แถมตอนนี้ทะเลเฟื่องฟ้า 30 หมู่ก็มีวี่แววว่าจะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้อย่างจำกัดอีก ดังนั้นก่อนที่มันจะเอาไม่อยู่เขาต้องเริ่มทำโครงการเพื่อระบายนักท่องเที่ยว
โครงการล่องแก่งที่คิดไว้ควรเริ่มได้แล้ว
ไม่อย่างนั้นยามที่นักท่องเที่ยวมาจนเกินลิมิตแล้วต้องมารอเข้าคิวชมทะเลเฟื่องฟ้าให้เสียเวลาล่ะก็อารมณ์ดี ๆ คงจะหายหมด