ตอนที่ 906 พยุหะโซ่ใบไม้ร่วง
ถังเทียนมองดูแม่ทัพหัว เมื่อเห็นความลังเลในสายตาของเขา เขาจึงถอนสายตากลับ ถ้าเขาลงมือ ถังเทียนจะลงมือทันที เขาคาดว่าพวกเขาคงจะเหมือนกับตระกูลชิว
เขาสนใจว่าอาซิ่นจะสู้ยังไงมากกว่า
ถังเทียนมองดูขณะร่างที่พร่าเลือนดูเหมือนจะค่อยๆชัดและมีชีวิตชีวาขึ้น ทำให้ถังเทียนคิดว่าพวกเขาไม่เหมือนกัน ‘นี่น่าจะเป็นพลังของพวกเขาเอง’ ถังเทียนได้ยินคำพูดของอาซิ่นก่อนนั้น เมื่อถังอี้เดินออกมาจากห้องวิญญาณครั้งแรก เขาพูดประโยคเดียว
‘กองทัพดาวกางเขนใต้ ลึกล้ำยากจะหยั่งอย่างแท้จริง’
แต่สิ่งที่ถังเทียนสับสนไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องวิญญาณแห่งกองทัพดาวกางเขนใต้ ชื่อเสียงของพวกเขาและความศรัทธาของพวกเขา ถังเทียนเห็นมหาอำนาจแข็งแกร่งมากมายมาก่อน ตัวอย่างเช่นวิหาร แต่เขาไม่เคยเห็นความกระตือรือร้นที่กองทัพดาวกางเขนใต้มีนั้น จะหาได้ในที่อื่น
ปกติแล้ว อารมณ์ดังกล่าวควรจะหายไปหลังจากผ่านกาลเวลาไปนาน แต่เมื่อแตรศึกของกองทัพดาวกางเขนใต้ถูกเป่า ร่างนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากกองฝุ่นของประวัติศาสตร์และรวมตัวอยู่ภายใต้ธงรบเดียวกัน
กาลเวลาที่ไร้เมตตาและโลกที่โหดร้ายสามารถทำลายร่างของพวกเขาและลบความทรงจำของพวกเขาออกไป แต่ความตราตรึงและความเชื่อมั่นลึกยังเหลืออยู่ในวิญญาณนิรันดร์ของพวกเขา
‘แม้ว่าหลังจากผ่านไปหมื่นปี พวกเขาก็ยังมีความรู้สึกตราตรึง แล้วพวกเขาจะไม่ได้รับความเคารพจากผู้อื่นได้ยังไง?’
ทะเลสุคติไม่ใช่ทะเลสุคติอีกต่อไป แต่กลายเป็นสมรภูมิ ชุดยาวของอาซิ่นโบกสะบัดอยู่ในอากาศ ขณะที่เขายืนเด่นตัวตรง กระบี่ยาวถูกวางอยู่หน้าเขาราวกับว่าเขากลับไปสู่ยุคที่ยังมีเปลวไฟสงครามในอดีต เหมือนกับว่าเขาเห็นควันไฟในสนามรบ
อาซิ่นยืนอยู่บนทะเลสุคติปลดปล่อยรัศมีสนามพลัง ในบรรดาภาพนับไม่ถ้วนเขามีความโดดเด่นและราศีสูงส่ง
เขามองดูข้างหน้าและตวาด “เป่าแตรศึก!”
ร่างเลือนราง 20 ร่างเคลื่อนไหว และเสียงแตรศึกทุ้มดังก้องไปทั้งทะเลสุคติ
ห่างออกไปหลายหมื่นกิโลเมตรปิงที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองเอกสาร เงยหน้าขึ้นทันทีตาของเขาเต็มไปด้วยความดีใจและรู้สึกเหลือเชื่อ ภายในเรือรบรังสีกัมปนาท ลั่วซือที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายลืมตาขึ้นทันทีตาของเขาที่ไร้ประกายกลับกระจ่างใส ภายในทวีปแดนเถื่อน หนึ่งในผู้บัญชาการที่กำลังสู้กับกองทัพมู่จื่อเสียสั่นสะท้านทันที เขาเงยหน้าขึ้น แววอ่อนล้าที่ปรากฏอยู่เต็มใบหน้าหายไปทันที ตาของเขากระจ่างคมราวกับว่าจะมองทะลุผ่านท้องฟ้าได้
ไม่มีใครรู้เหตุการณ์เหล่านี้ ตาของทุกคนจับนิ่งอยู่ที่สนามรบ
พูดให้ถูกยิ่งขึ้นก็คือพวกเขาถูกการกระทำของอาซิ่นดึงดูดความสนใจ พวกขุนพลวิญญาณหาได้ยากในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และภายในทวีปเซียนซึ่งรวมไว้ด้วยตระกูลต่างๆล้วนเป็นตระกูลชั้นสูง ไม่มีตระกูลใดที่มีขุนพลวิญญาณ แต่พวกเขารู้จักพวกขุนพลวิญญาณเป็นธรรมดา ขุนพลวิญญาณโดยทั่วไปจะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ แต่พวกเขารู้ว่าขุนพลวิญญาณชั้นยอดนั้นทรงพลังอำนาจมากเพียงไหน
ตัวอย่างเช่น โซเฟีย ขุนพลวิญญาณที่เป็นผู้นำอัศวินพิเศษกวงหมิง
ตัวอย่างเช่น ปิงผู้ลึกลับแห่งสัมพันธมิตรใต้เป็นผู้บัญชาการใหญ่ที่โดดเด่น
สำหรับตระกูลชั้นสูง แม้ว่าขุนพลวิญญาณที่ทรงพลังอย่างโซเฟียมีพลังฝีมือดี แต่นางไม่ได้ดึงดูดใจพวกเขาในฐานะขุนพลวิญญาณผู้บัญชาการทหาร
พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อขุนพลวิญญาณยศระดับพลเอกอย่างที่เห็นต่อหน้ามาก่อน แม้แต่ปิงผู้ลึกลับแห่งสัมพันธมิตรใต้ก็ยังไม่ใช่ขุนพลวิญญาณชั้นนายพลเอก
ขุนพลวิญญาณที่ไม่มีที่ใดเทียบได้ซึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขาจะไม่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ยังไง พวกเขาสงสัยพอๆ กันขุนพลวิญญาณชั้นพลเอกจะทรงพลังอำนาจขนาดไหน?
เมื่อแตรศึกส่งเสียงทั่วทั้งทะเลสุคติฉายรัศมีแสงสีดำ รัศมีแสงสีดำซึมเข้าไปในร่างทหารเลือนรางนั้น ขณะที่ทหารผู้เป่าแตรศึกเริ่มกลับเข้ามาเข้าขบวน
ทหารที่ร่างเลือนรางทั้งหมดเคลื่อนไหวเงียบๆ แต่ทุกคนสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าพวกเขาอยู่ในใจ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
เสียงฝีเท้าดังเป็นจังหวะและภายในไม่กี่วินาที พวกเขาก็ตั้งกระบวนรบได้สำเร็จ
แม่ทัพหัวสูดหายใจลึก สำหรับแม่ทัพทหารที่เชี่ยวชาญตั้งกระบวนศึกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
การจัดตั้งรูปกระบวนทำให้หนักแน่น รังสีฆ่าฟันของพวกเขาดูเหมือนจะแฝงลอยอยู่ในอากาศ ทะเลสุคติใต้เท้าพวกเขาแข็งยะเยือกจากรังสีฆ่าฟันของพวกเขา ขณะที่อากาศที่ลอยอยู่เหนือทะเลสุคติชะลอตัวลง
ชิวเทียนชิงที่อยู่ในอากาศถึงกับสีหน้าเปลี่ยน ก่อนนั้นเมื่ออาซิ่นทำการเคลื่อนไหว เขาไม่รู้สึกถึงพลังคุกคาม แต่หลังจากทหารร่างเลือนรางเผยรังสีฆ่าฟัน ถึงกับทำให้เขาหัวใจเต้นแรง ‘พวกเขาเป็นพวกฝีมือดีอย่างแท้จริงซึ่งผ่านศึกมาเป็นร้อย แม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าก็ยังปลดปล่อยรังสีอำมหิตอย่างนั้นไม่ได้
ยิ่งเป็นกองทัพที่ผ่านศึกสู้รบมามากเท่าใด ก็ยังมีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรง รังสีฆ่าฟันปลดปล่อยออกมาจากร่างเลือนรางนั้นเป็นสิ่งที่ชิวเทียนชิงไม่เคยเห็นกองทัพอื่นทำได้มาก่อน ‘นี่คือกองทัพที่มีประสบการณ์ในโลกที่ยุ่งเหยิงมีแต่กองทัพในตำนานที่สามารถปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันเช่นนั้นได้’
แม่ทัพหัวก็สามารถเห็นได้เช่นกัน และพยายามอย่างดีที่จะนึกให้ออก ‘ในกองทัพตามตำนานไหนในประวัติศาสตร์ที่มีแม่ทัพลือชื่อนามว่านายพลซิ่น?’
เทียบกับความทึ่งของแม่ทัพหัวแล้ว ชิวเทียนชิงสงบเย็นกว่ามาก ไม่ใช่ว่าสภาพจิตใจของเขาดีกว่าแม่ทัพหัว แต่เพราะเขาอยู่ในสภาพพร้อมต่อสู้ ความสนใจของเขามีความมุ่งเน้นมากขึ้น และเขาไม่มีความคิดที่ซับซ้อนมากนัก
แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ แต่เขาไม่กลัว
‘แล้วไงเล่าถ้าพวกเจ้าเป็นกองทัพในตำนาน? ไม่ว่าเจ้าจะทรงพลังมากเพียงไหนในช่วงชีวิตครั้งก่อน แต่พวกเจ้าตายมานานแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าจะทำอะไรได้มากแค่ไหนกันเชียว?’
‘ข้าคือชิวเทียนชิง บุรุษผู้กล้าท้าทายห้าแม่ทัพใหญ่กวงหมิง เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเด็กหนุ่มบางคนและกองทัพในตำนานของวิญญาณที่แตกสลายหรือ?’
ในอากาศดวงตาของชิวเทียนชิงทอประกายเจิดจ้า เขาออกคำสั่ง “ตั้งพยุหะโซ่ใบไม้ร่วงกวาดล้าง”
กองพลตระกูลชิวกางแขนของพวกเขา เส้นสีทองบนร่างของพวกเขาสว่างวางเหมือนกับงูเลื้อยไปตามแขนและเข้าสู่ฝ่ามือพวกเขาทำให้ฝ่ามือพวกเขาฉายประกายสีเทา
ทุกๆ ฝ่ามือที่เหยียดออกมีโซ่สีเทาเหมือนไม้เถาที่ยืดขยายออกไปไม่มีหยุด
แคล้ง แคล้ง แคล้ง แค้ง
เสียงโซ่กระทบบีบหัวใจคนอื่นๆ จนสั่นระรัว
โซ่สีเทาหมื่นสายหย่อนลงมาจากท้องฟ้าเหมือนเถาไม้สีเทาเป็นฉากภาพที่สร้างความกดดัน
ไม่มีใครเคยเห็นฉากภาพที่อลังการ์แบบนั้นมาก่อนพวกเขารู้สึกหนังศีรษะชา
แม่ทัพหัวอ้าปากกว้างขณะที่เขามองดูกองทัพตระกูลชิวบนท้องฟ้า ‘ชิวเทียนชิงทรงพลังขนาดนั้นได้ยังไง?’ เขาไม่อยากเชื่อตาตนเอง ตระกูลชั้นสูงอันดับหนึ่งล้วนแต่แข็งแกร่งทั้งนั้นและซ่อนแม่ทัพทหารที่ทรงพลังของพวกเขาไว้ และนั่นยังไม่นับว่าน่าแปลกใจ
แต่ตระกูลชิวมีชิวซิ่วหัวอยู่แล้วแม่ทัพทหารคุณภาพสูงสุดอาจกล่าวได้ว่าห้าแม่ทัพใหญ่กวงหมิงและนั่นคือคุณภาพที่ทุกตระกูลโหยหาต้องการ
ชิวเทียนชิงมีชีวิตประสบความสำเร็จอยู่ในวงการเป็นเพราะมีชิวซิ่วหัวอยู่ บรรดาห้าแม่ทัพใหญ่ล้วนแต่ทรงพลังกันทั้งนั้น
ดังนั้นเมื่อแม่ทัพหัวเห็นพลังของชิวเทียนชิงซึ่งไม่ด้อยไปกว่าชิวซิ่วหัว เขาจะไม่ตกตะลึงได้ยังไง? สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นเชิง
‘ตระกูลชิวแข็งแกร่งนักหรือ?’
อาซิ่นไม่แม้แต่จะมองกลุ่มโซ่สีเทาแน่นหนาที่ใกล้เข้ามาที่ตัวเขาเพียงแต่จัดกระบวนอย่างสงบ
“ซ้ายสามหน่วยก้าวไปข้างหน้าสิบก้าว”
“ขวาสองหน่วยขึ้นไป21 เมตร”
“กลางสามหน่วยขึ้นไป 45 เมตร”
….
เขาเป็นคนละเอียดและตรงไปตรงมา สีหน้าของเขาสงบ เสียงของเขาชัดเจน คำสั่งของเขาตรงๆ ไม่ต้องตีความหรือพูดอ้อม สิ่งที่น่าทึ่งมากกว่าก็คือคำสั่งของเขาต่อเนื่องเหมือนสายน้ำไม่ขาดตอนไม่ลังเลหรือชะงัก ราวกับว่าเขาวางแผนไว้อย่างยาวนานแล้วและพูดออกมาอย่างง่ายๆ
แต่ทุกคนรู้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้เวลาเตรียมการก่อนตอบโต้ต่อเนื่อง
เป็นไปตามคาดผู้บังคับการยศพลเอก!
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเคลื่อนไหวกันมากี่ครั้ง แต่ขณะนั้นทุกคนรู้สึกตื่นเต้นพร้อมกัน
เทียบกับภาพแปลกประหลาดของโซ่หมื่นสายที่หย่อนลงมาจากท้องฟ้า ฝ่ายของอาซิ่นดูสงบกว่ามาก แต่, ภายใต้คำสั่งต่อเนื่องรูปกระบวนที่หนาแน่นเคร่งครัดเปลี่ยนแปลงไปอย่างเร็ว ทุกๆคำสั่งที่เขาให้จะเปลี่ยนรูปกระบวน ความเคลื่อนไหวของร่างทหารเลือนรางไหลลื่นต่อเนื่องเหมือนคำสั่งของอาซิ่น ตรงและไม่มีการลังเล
ทันใดนั้นความสนใจของทุกคนอยู่รูปกระบวนศึกเหนือทะเลสุคติ พวกเขาเหมือนกับตัวต่ออาคารของเล่นที่จัดเรียงตัวเองตามคำสั่งของอาซิ่น ด้วยจังหวะคำสั่งที่แน่นอนของเขารูปกระบวนยังคงเคลื่อนไหวต่อไป
อีกฝ่ายหนึ่งต่อตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่อีกฝ่ายทอดตัวลงมา รูปกระบวนยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ในมือของอาซิ่น
โซ่สีเทาหย่อนลงมาบนกองทัพจากท้องฟ้า แต่อากาศเหนือกระบวนศึกเหมือนกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นขัดขวางโซ่สีเทาไว้
ชิวเทียนชิงแค่นเสียง
โซ่สีเทาพันรอบกำแพงที่มองไม่เห็นกลายเป็นรูปที่ดูเหมือนรั้วมีอาซิ่นและกระบวนศึกของเขาติดอยู่ในตรงกลาง ขณะที่อีกด้านหนึ่งของโซ่เข้าไปในทะเลสุคติ
โซ่นับหมื่นสายแข็งตรงเหมือนกับหอก เส้นสีทองบนโซ่สว่างวาบและกลายเป็นกรงขนาดยักษ์
‘ในที่สุดก็จบแล้ว!’
ตาของของชิวเทียนชิงทอประกายดีใจขณะที่เขาคำราม“ไป!”
หมอกเริ่มกระจายออกจากโซ่พร้อมกับกลิ่นอายย่อยสลาย หัวใจของชิวเทียนชิงปลาบปลื้มดีใจ ‘ด้วยการโจมตีชุดสุดท้าย ศัตรูไม่สามารถรอดชีวิตได้’
นั่นคือไม้ตายสังหารที่แท้จริง
เมื่อโซ่สีเทาทอดตัวลงมา จี๋เจ๋อไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ แต่เมือโซ่สีเทาก่อตัวเป็นกรงขังและเมื่อลายทองปรากฏ เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และหน้าของเขาซีดทันที
สนามพลังกฎธรรมชาติ!
กรงโซ่สร้างเป็นสนามพลังกฎธรรมชาติที่ยากจะไปถึงระดับนั้นได้
สนามพลังกฎธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วง!
ภายในสนามพลังนี้กฎธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วงจะมีความรุนแรง และสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามจะเหี่ยวแห้งไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นมนุษย์มีชีวิตอยู่ข้างใน เขาจะแก่อย่างรวดเร็ว
มันแตกต่างจากกฎธรรมชาติเวลา อายุของกฎธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วงไม่ได้สร้างขึ้นจากกระแสเวลา แต่เปลี่ยนชีวิตไปสู่ช่วงปลายอายุโดยตรง นั่นคือส่วนที่น่ากลัวที่สุดของกฎธรรมชาติ
‘แย่จริงๆ!’
จี๋เจ๋อเตรียมจะวิ่งออกไป เมื่อสายตาของเขาเห็นถังเทียนโดยบังเอิญทำให้เขายับยั้งตัวเองไว้
‘นายท่านดูเหมือนไม่กังวลแม้แต่น้อย’ เขาคิด ‘ด้วยสายตามองการณ์ไกลของเจ้านาย เขาน่าจะเห็นสิ่งที่ข้าเห็น ทำไมเขาถึงไม่กังวลแม้แต่น้อย?’
‘เว้นแต่เขาเห็นบางอย่างที่ข้าไม่เห็น?’
จี๋เจ๋อลอบมองถังเทียนและเห็นความตื่นเต้นในดวงตาของถังเทียนทันที เขาคิดทันทีว่าเขาพลาดอะไรบางอย่างไป
เขาข่มใจบังคับตนเองและหันหน้ากลับไปดูทะเลสุคติ
ดวงตาของเขาทอประกายวูบแทบไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้
ภายในโซ่ อาซิ่นจัดกระบวนได้เสร็จสมบูรณ์ทำให้ทุกคนมองดูสั่นสะท้าน
กระบวนที่ดูประหลาด!
ทั่วทั้งกระบวนดูเหมือนกระบี่เล่มหนึ่งที่ชี้ขึ้นไปในท้องฟ้า ทหารที่ร่างเลือนรางซ้อนตัวเป็นชั้นๆจนเป็นร่างดาบ
นี่มัน...
ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ ไม่มีใครเคยสร้างกระบวนรบอย่างนั้นมาก่อนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ว่ากระบวนรบจำเป็นต้องผ่านการวิจัยและวิเคราะห์ ไม่มีกระบวนรบใดที่สร้างขึ้นมาอย่างง่ายๆและใช้งานได้เลย
อาซิ่นลอยตัวอยู่ที่จุดสูงสุด ณตำแหน่งของปลายดาบ
เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้า หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและจากนั้นเขาทำเรื่องบางอย่างที่เกินคาดของทุกคน