ตอนที่แล้วตอนที่ 901 ทำไม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 903 การกลับมาของโซเฟีย

ตอนที่ 902 แสงแห่งอดีตจะฉายเจ้าในปัจจุบัน


เมื่อถังเทียนชูกระบี่อมตะเสียงกระบี่ครางกระหึ่มเหมือนว่าจะตอบรับเขา หุ้มล้อมเขาไว้ในกระแส

ถังเทียนเคลื่อนไหว!

ตั้งแต่เขาได้รับการรู้แจ้งเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  เขาชินกับความสงบเย็นในการรบ  แต่เมื่อกระบี่ส่งเสียงครางความใจเย็นและความมั่นคงทั้งหมดถูกโยนทิ้งไปราวกับว่ามีอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกท่วมทับไปทั้งตัวของเขา

ถังเทียนไม่เคยเห็นกองทัพเช่นนั้นมาก่อน  เขาไม่เคยเห็นวิญญาณอย่างนั้นมาก่อนไม่เคยเห็นความเชื่อมั่นอย่างนั้นมาก่อน

‘สามารถสู้ด้วยความเชื่อมั่นอย่างนั้นจะดีมากเพียงไหน!’

‘จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง! จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!’

เสียงคำรามของถังเทียนกึกก้องไปทั่วท้องฟ้ากระบี่ครางกระหึ่มตอบรับเขาและคำรามไปกับเขาทั้งอารมณ์ทั้งการคำรามตามไปพร้อมกับเขา ราวกับว่าพวกเขาปลดปล่อยความโกรธที่สะสมมาเป็นล้านปี  เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการสลายความสงบบนผิวทะเลสุคตินั้น  ราวกับว่าพวกเขาต้องการพังทลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเอง

‘จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!   จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!’

นี่คือเหล่าวิญญาณที่ทำร้ายตัวเองจนแตกทำลายมาเกินร้อยครั้งผ่านเวลามานานหลายพันปี เพียงเพื่อความหวังที่เย็นยะเยียบและมืดมิด  พวกเขาไม่ต้องการพักอย่างสงบ  พวกเขาอดทนผ่านความเงียบมาเป็นร้อยปีเพียงเพื่อโอกาสแห่งชัยชนะครั้งเดียวที่ดูเหมือนจะมองไม่เห็น  พวกเขาจุดประกายแสงของพวกเขาทั้งหมดจนถึงยอมแทบจะทำลายตนเองเต็มไปด้วยบาดแผล พวกเขาหลับอยู่ในความมืดรอคอยโอกาสตื่นในรอบร้อยปีต่อไป

หมื่นปีในความมืดมิดสิ้นหวัง ดิ้นรนอย่างขมขื่นกลายเป็นความโกรธที่พวกเขาไม่สามารถผ่านไปได้  พวกเขาทั้งหมดร้องไม่ใช่เพราะเพื่อชัยชนะ แต่เป็นเพราะพวกเขาห่วงใยธงศึกกองทัพดาวกางเขนใต้ที่ยังอยู่ในใจพวกเขาเสมอ

เมื่อถังเทียนชูกระบี่และตะโกน  “ไม่รู้ว่ากองทัพเราเป็นหรือตายจะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!”  กระบี่อมตะก็สะท้อนเสียงก้องไปทั้งท้องฟ้าเมฆสลายไป และพลังงานระหว่างฟ้าและดินปั่นป่วนและไหลเข้าหาถังเทียนทันที!

ถังเทียนเมือนกับพลังวังวนยักษ์  ขณะที่เส้นสายแสงต่างๆ พุ่งเข้าหาเขาจากทุกทิศเป็นภาพที่พลังสะท้านใจทุกคน

เสียงแสบแก้วหูของพลังงานที่ยิงฝ่าอากาศเริ่มดังมากขึ้นพลังสะท้อนของกระบี่อมตะทุ้มและเศร้าสร้อยมากขึ้นทั้งหมดผสานเข้าด้วยกันทำให้ร่างถังเทียนสั่นสะท้านไม่หยุด

เขาได้ยินเสียงคลั่งแค้นจากขุนพลและทหารนับล้าน  เขาได้ยินเสียงโจมตีใส่ม่านพลังในท้องฟ้าอย่างกล้าหาญเหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ  เขาได้ยินเสียงอารมณ์ของผู้บัญชาการที่ใบหน้าแตกสลายความผิดหวัง และความบอบช้ำในหัวใจของเขา ความเงียบไม่มีสิ้นสุดกับรอยร้าวรานบนใบหน้าทหาร  ความมืดมิดและความเงียบสงบของทะเลสุคติการพ่ายแพ้ไม่จบสิ้นและหลายศตวรรษที่หลับใหล ความรักที่มีต่อกองทัพอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันยังคงอยู่หรือไม่แม่ทัพคำรามอย่างสุดกำลัง รวบรวมกำลังใจของททารและบอกพวกเขาว่าหลังจากผ่านไปอีกร้อยปี พวกเขาจะสู้เคียงบ่าเคียงกันอีกเมื่อผ่านไปร้อยปี

กระแสเวลามักจะชะล้างความรักผูกพันในสายเลือด

แม่ทัพเฒ่าไม่ได้แข็งแรงและกล้าหาญอีกต่อไป  เขาไม่อ้างประกาศชัยชนะหรือความสำเร็จ แต่พูดแต่เรื่องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันหลังจากผ่านไปอีกร้อยปี  แม่ทัพนายกองเก่าไม่ได้แกร่งและห้าวหาญอีกต่อไปพวกเขาอยู่ในความเงียบ พวกเขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้  หลังจากผ่านไปร้อยปีพวกเขาทำได้แค่เพียงกระโจนออกมาจากทะเลสุคติและโจมตีใส่ม่านพลังในท้องฟ้าได้แต่ตะโกนประโยคเดิมซ้ำซาก “เมื่อไม่รู้ว่ากองทัพของเราเป็นหรือตาย  ข้าจะพักอย่างสงบได้ยังไง” และแตกสลายไป

ความสงัดและความเศร้าภายในทะเลสุคติที่กว้างใหญ่ท่วมทับใจของถังเทียน  แต่มีความมุ่งมั่นและความรักหลงใหลที่ร้อนแรงอยู่ในใจถังเทียน

ท้องฟ้าดูเหมือนจะมืดสลัวลงฉับพลันความอ้างว้างแผ่ขยายกระจายผ่านอากาศ  ใต้เท้าถังเทียนมีแผ่นผลึกใสสะท้อนให้เห็นทะเลสีดำชัดเจนกว้างไกลจนใครๆก็สามารถเห็นได้  นั่นคือทะเลสุคติ

ถังเทียนยืนอยู่บนทะเลสุคติ  ร่างของเขาดูเหมือนกำลังแผดเผา  แต่ม่านตาของเขายังคงดูซับซ้อน

กระบี่อมตะที่ชูขึ้นสูงตอนนี้แตะทาบอกของเขา  คำบนกระบี่สะท้อนเข้าตาเขา

“ไม่จำเป็นต้องปกป้อง  จงพักอย่างสงบ”

เขาพึมพำเบาๆ  จากนั้นลดกระบี่ลงและควงกระบี่

ทะเลที่สงบใต้เท้าของเขาดูเหมือนปั่นป่วนคลื่นเริ่มใหญ่ขึ้นสูงขึ้นทุกที

เหมือนกับว่าเป็นพลังโทรจิตถังเทียนก้าวออกมาทันที เสื้อผ้าของเขาโบกสะบัดทั้งที่ไม่มีลม  คลื่นที่อยู่ใต้เขาพุ่งทันทีที  แต่ยังสายตาของเขายังคงนิ่ง  ขณะที่เขาบิดข้อมือแทงกระบี่อมตะออกไปในอากาศ

ทะเลสุคติปั่นป่วนมีร่างปรากฏบนผิวน้ำ ทั้งหมดเป็นร่างเลือนรางเหมือนกับร่างในสายหมอกพอเห็นเป็นเค้าโครงรูปมนุษย์ เขาเงยหน้ามองเหมือนกับว่ากำลังแหงนมองท้องฟ้าจากนั้นกระโจนขึ้นกลายร่างเป็นลำแสงกระบี่ ขณะที่เขาทะยานขึ้นไปในอากาศ กระบี่ส่งเสียงหวีดหวิวทุ้มและคล่องแคล่ว  มันทรงพลังแรงกล้าขณะที่พุ่งเข้าหากองทัพตระกูลชิว

ปังปัง ปัง

ร่างเงาร่างแล้วร่างเล่ากลายเป็นลำแสงกระบี่และทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า

ชิวเทียนชิงจัดรูปกระบวนทัพและรอคอย  เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย  เขาชื่นชมกระบี่ที่ลึกซึ้งน่าหลงใหล เนื่องจากมันคืออาวุธกองทัพที่ลึกลับแท้จริง  พลังของมันเหนือกว่าวิชากระบี่ใดๆทั้งสิ้น  จนชิวเทียนชิงรู้สึกตกใจ

แต่เขาไม่ตั้งใจจะถูกจับโดยไม่ได้ทำอะไร  ไม่ว่ากระบี่จะทรงพลังเพียงไหนก็ยังเป็นกระบี่เล่มเดียว ไม่ว่าพลังส่วนตัวจะมากเพียงไหน แต่เขาก็มีเพียงตัวคนเดียว

ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีวิธีการพัฒนากองทัพที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด

ชิวเทียนชิงมองกระบี่แสงส่งเสียงหวีดหวิวรู้สึกเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเศร้าสร้อย ถึงอารมณ์เขาตื้นตันแต่ว่าแล้วยังไงเล่า!

กองทัพตระกูลชิวของเขาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว  ความตั้งใจสู้ของชิวเทียนชิงลุกโชนอยู่ในดวงตาปากของเขาแค่นยิ้มเยือกเย็น

ภายในกองกำลังพลังน้ำแข็งใบไม้ร่วงครอบคลุมอยู่บนพื้น เหมือนกับว่ามีชั้นน้ำแข็งบางๆ หมอกบางที่ดูเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง ขยายไปที่กองทหารจากพื้น  ม่านพลังงานถูกถอนกลับ  ขณะที่หมอกขยายไปตามผนังกำแพงสำนักงาน  มันค่อยๆแผ่ขยายไปข้างหน้าเหมือนกับเถาสีเทาม้วนโอบรอบที่ทั้งหมดจนรอบที่ทำการกองทัพปกคลุมไปด้วยหมอก

สนามเยือกแข็งใบไม้ร่วง

ไม้ตายสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพตระกูลชิว

กระบี่แสงที่ขึงขังพุ่งลงมาและส่งเสียงหวีดหวิวตามด้วยรัศมีแพรวพราวกระทบเข้าไปในหมอกชั้นนอกของกำแพงกองทัพตระกูลชิว

ปัง!

กระบี่แสงระบิดทันทีรัศมีแตกกระจายและหายไปเหมือนพลุไฟเหนือทะเลสุคติ

ชิวเทียนชิงคาดไม่ถึงว่ากระบี่แสงจะระเบิดและเขาประหลาดใจ กระบี่แสงระเบิดทำให้เกิดช่องบนหมอก  แต่หมอกมากมายก็ลอยเข้ามาและปิดกลบช่องไว้ทันที

เขาสงบได้รังสีกระบี่อาจดูเหมือนสง่างาม แต่กำลังของมันแค่แข็งแกร่งมากกว่าอาวุธเรือรบธรรมดาเล็กน้อย  ถ้าพวกเขายังคงใช้ม่านพลังงานพวกเขาอาจะต้านทานพลังโจมตีได้อย่างมั่นคงเพียงสองสามครั้ง แต่ถ้าพวกเขาต้องการจะทำลายสนามพลังยะเยือกใบไม้ร่วง  แค่นั้นยังไม่เพียงพอ

ระเบิดดังขึ้นเหมือนกับเป็นการเริ่มงานเลี้ยง

ปังปัง ปัง!

รังสีกระบี่ร่วงลงมาเหมือนกับสายฝนโจมตีใส่หมอกป้องกันของกองทัพตระกูลชิวอย่างต่อเนื่อง

รังสีที่แตกกระจายจากแรงระเบิดไม่ส่งผลต่อกระแสอากาศ  หยาดที่กระเซ็นมารอบๆสีสว่างเหมือนกับเกล็ดหิมะ

หมอกพิโรธของกองทัพตระกูลชิวเหมือนกับมีสัตว์ร้ายที่น่ากลัวแฝงอยู่ในนั้น ทุกแรงระเบิดของรังสีกระบี่จะเกิดรูช่องว่างในหมอก แต่ในพริบตารูเหล่านั้นก็ถูกหมอกคลุมปิดไว้อีกครั้ง

ดูเหมือนว่าหมอกจากกองทัพตระกูลชิวไม่มีหมดสิ้น

แต่จำนวนกระบี่แสงจากทะเลสุคติก็ไม่หมดสิ้นเช่นกัน

ในระยะห่างออกไปบุรุษวัยกลางคนมีสีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ การสู้รบที่อยู่ต่อหน้าเขาพังทลายองค์ความรู้ของเขาอย่างสิ้นเชิง ไม้ตายพายุใบไม้ร่วงคือวิชาสังหารของกองทัพตระกูลชิวเขาจำได้เป็นธรรมดา  ‘แต่หมอกแปลกประหลาดนั่นคืออะไร?  หรือว่าเป็นวิชาสังหารที่แท้จริงของกองทัพพวกเขา?’

เขาเข้าใจเกี่ยวกับพลังโจมตีของกองทัพตระกูลชิวอย่างหรือสองอย่าง  แต่เกี่ยวกับพลังโจมตีของบุรุษหน้ากาก  เขางุนงงอย่างสิ้นเชิง  ใช่แล้ว งุนงงไปหมด  ฝ่ามือที่สว่างแพรวพราวทำให้ใจผู้คนสั่นสะท้านซึ่งแม้แต่ไม้ตายวายุใบไม้ร่วงก็ไม่สามารถเอาชนะได้เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ‘และทะเลสีดำแปลกประหลาดนั่นมันมาจากที่ไหน?  นั่นคือภาพลวงตาหรือ?’  กระบี่แสงที่ยิงออกมาจากทะเลยิ่งทำให้เขาตกใจตื่นตระหนก

มีชิ้นส่วนรังสีกระบี่แสงที่แตกซึ่งไม่หล่นเข้าไปในหมอก  และตกลงที่พื้น จากนั้นเขาเห็นกับตาตนเองว่ามันทำลายพื้นที่ได้มากกินพื้นที่รัศมีเกินกว่า200 เมตร

บุรุษวัยกลางคนตกตะลึง  แค่สะเก็ดที่แตกออกมาจากชิ้นส่วนรัสมีแสงขนาดเท่าเกล็ดหิมะ แต่มีพลังทำลายล้างเมืองที่อยู่ต่อหน้าเขาอย่างน่าทึ่ง

‘เขาเป็นใครกันแน่?’

กระบี่แสงที่ร่วงจากท้องฟ้าเหมือนกับฝนสะท้อนแสงใส่หน้าอาซิ่นเผยให้เห็นดวงตาที่กลวงลึกของเขา เขาหัวเราะเยาะตนเองอย่างขื่นขม

‘ใช่แล้ว, ข้านี่ก็โง่เกินไป พวกเขาทั้งหมดอยู่ทะเลสุคติไม่เคยจะมีชีวิตอย่างสงบ  นอกจากนั้น พวกเจ้ายังมีกันมาก’

แต่....

‘ไม่จำเป็นต้องให้พวกเจ้าปกป้อง  จงพักอย่างสงบ

‘พวกเจ้า....ทำไม?  ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ปล่อยวาง?  ทำไมพวกเจ้าถึงละทิ้งการได้พักอย่างสงบที่เราต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้สำเร็จเล่า?  พวกเจ้าทั้งหมดลืมไปแล้วหรือ,  พวกเจ้าต้องทุ่มเทไปมากเท่าใด  เราผ่านความยากลำบากมามากมายเท่าใด?  พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือ  สงครามเพื่อให้อยู่รอดได้  ขณะที่พวกเจ้าแค่พักอย่างสงบ?’

‘ยังมีอะไรอื่นที่พวกเจ้าปล่อยวางไม่ได้?  ยังมีอะไรอยู่อีก?’

‘เมื่อไม่รู้ว่ากองทัพเป็นหรือตาย  พวกเจ้าจะพักอย่างสงบได้อย่างไร?’

‘ช่างเข้ากันดีจริงๆกับนิสัยโง่ๆ ของพวกเจ้า!’

เขาคลี่ยิ้มขมขื่นที่มุมปากและยิ้มจนเต็มใบหน้า เขาอดหัวเราะลั่นอย่างช่วยไม่ได้ หัวเราะจนตัวงอและคุกเข่าลงกับพื้น

‘เจ้าพวกหัวโบราณล้าหลังพวกเจ้ายังเหมือนเดิม! ถึงขนาดที่พวกเจ้าต้องดิ้นรนขยันขันแข็งอยู่ในทะเลสุคติหรือ?  ทั้งที่เราตายมานานแล้วพวกเจ้าก็ยังจะพูดเรื่องไม่มีอะไรทำ แต่ห่วงพวกเราอย่างนั้นหรือ?’

‘ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าเองก็โง่พอกัน, ข้าตายมานานมากแล้ว

เขาหัวเราะขณะคุกเข่ากับพื้นขณะที่น้ำตาเริ่มไหล อาซิ่นรู้สึกว่าเขาโง่เกินไปที่ร้องไห้กับความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ยินยอมพักอย่างสงบ  ‘ทะเลสุคติสถานที่ดีอย่างนั้น และเราต้องใช้ความพยายามมากมายจึงสร้างทำได้สำเร็จ พวกเจ้าทั้งหมดช่างไม่รู้จักหวงแหนเอาไว้เสียเลย

‘พวกเจ้ารู้ไหมว่าพวกเจ้าทุ่มเทไปมากเพียงไหน? พวกเจ้ารู้ไหมว่าต้องทุ่มความพยายามไปมากมายเพียงไหน?’

‘พวกเจ้ามันโง่กันหมดและข้าเองก็เหมือนกัน ห่วงใยพวกเจ้าทั้งหมด และดูเหมือนว่าข้าจะโง่ยิ่งกว่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮึก ฮึก ฮึก ฮึก...’

เขาหัวเราะสลับกับร้องไห้ เสียงร้องไห้ของเขาดังขึ้นขณะที่เขาคุกเข่ากับพื้นและน้ำตาเริ่มไหลหยดลง

‘พวกเจ้าจะพักอย่างสงบได้ยังไง?ก็แค่พักอยู่เฉยๆ ไงเล่า พวกเจ้ามันโง่กันหมด ไม่รู้จักวิธีพักอย่างสงบเอาเสียเลย พวกเจ้าชอบตั้งวงพนันกันเป็นประจำไม่ใช่หรือ?  เจ้าพวกนั้นที่ชอบเสียพนันให้ข้า ออกมาเลยเสนอหน้าออกมา, อย่านึกนะว่าข้าจะลืมพวกเจ้าทุกคน เป็นเพราะไม่มีเซียนพนันอย่างข้าคอยผูกขาดชัยชนะอยู่บนโต๊ะนั่นเลยเป็นเหตุให้พวกเจ้าพักอย่างสงบไม่ได้ใช่ไหมเล่า?’

‘พวกเจ้ารู้ไหมคนๆเดียวใช้เวลาอยู่คนเดียวตั้งหลายพันปีมันเปลี่ยวเหงาแค่ไหน? พวกเจ้ารู้ไหมว่ามันน่าเบื่อแค่ไหนที่ต้องลากสังขารออกไปต่อสู้?ข้าเบื่อจนต้องพูดกับตัวเอง ถึงขั้นที่ข้าจำทุกคำนินทาที่เราพูดกันได้? พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าจำได้กระทั่งว่าพวกเจ้าใช้มือข้างไหนเช็ดตูดของพวกเจ้า?’

‘อย่าให้ข้าพบตัวพวกเจ้าเชียว มิฉะนั้นข้ายังจำทุกคำที่พวกเจ้านินทาข้าไว้ในอดีต...ฮ่าฮ่าฮ่า...ฮึก ฮึกฮึก...’

‘เจ้ารู้ไหมว่ามันน่ากลัวแค่ไหนกว่าจะผ่านเวลาหลายพันปีไปได้?  ข้ากลัวว่าข้าจะลืมว่าข้าเป็นใคร ลืมกองทัพลืมเรื่องพวกเจ้าทั้งหมด กลัวว่าถ้าข้าพบพวกเจ้าทุกคน ข้ากลัวว่าจะจำพวกเจ้าทุกคนไม่ได้?’

‘ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,  แต่ข้ายังจะจำพวกเจ้าทุกคน  ข้ายังจำได้!...  ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดถึงพวกเจ้า  ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการร่วมกับเจ้า...  ก็แค่ข้ากลัวว่ามันน่าอาย มันน่าอึดอัด...  นั่นเป็นเรื่องจริง’

‘ไม่ว่ายังไงพวกเจ้าทุกคนก็ไม่สามารถเล่นไพ่ชนะข้า พวกเจ้าทุกคนจำได้ไหม ข้ามีความจำดีขนาดไหน’

‘ฮึก ฮึกฮึก,  ข้าคิดถึงพวกเจ้าทุกคน’

จากจุดที่เขาคุกเข่า  เขานอนลงกับพื้น ร้องไห้และหัวเราะสลับกันไปเหมือนกับคนบ้า

เสี่ยวม่านต้องการช่วยเขา  แต่เชียนฮุ่ยห้ามนาง  และส่ายหน้า เสี่ยวม่านขบริมฝีปาก และแววดุร้ายในดวงตาตามปกติของนางหายไป

กระบี่แสงที่คล้ายกับฝนด้านนอกขยายกว้างขึ้นเป็นเหมือนกับแสงแห่งความทรงจำของอดีตฉายต้องร่างอาซิ่นผู้รอดอยู่มาถึงหมื่นปีต่อมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด