ตอนที่ 902 ตอบโต้บ้าง
การปรับแต่งแร่หยดเพลิงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนอื่นหนึ่งเดือนก็ยังไม่สามารถถลุงออกมาได้
การปรับแต่งแร่หยดเพลิงเหลวเป็นขีดจำกัดของนักรบแดนสวรรค์หลายคนไปแล้ว
แต่หลังจากที่ผลึกโลหะถูกปรับแต่งเจียระไนเป็นสภาพผลึกทองอนุภาคภายในถูกกลั่นครั้งแล้วครั้งเล่าจนสมบูรณ์แบบเป็นไปไม่ได้ที่ภารกิจนี้คนอื่นจะทำให้สำเร็จได้ แต่เย่ว์หยางมีเพลิงอมฤต นี่จึงเป็นเรื่องเล็ก ในสายตาของเขาผลึกวิญญาณเพลิงดำที่ควักออกมาจากมารเพลิงดำ ยากจะกลั่นให้เป็นผลึกบริสุทธิ์อยู่บ้างเพราะมีพลังเจตจำนงและวิญญาณที่แข็งแกร่ง
ขณะที่กุ่ยหยินไฟปกติจะอยู่ในสภาวะที่สงบ แต่เมื่อความสงบถูกทำให้เสียสมดุลมันจะปล่อยพลังระเบิดที่น่ากลัวออกมา นั่นคือปัญหาที่แท้จริง
ถ้าในการประเมินของเจ้าเด็กจากมิติอื่นเขาคิดว่าการกลั่นเจียระไนแร่หยดเพลิงถือว่ามีความยากระดับ G ในบรรดางานยากทั้งหมด ลำบากแค่เพียงยกมือ,ส่วนการกลั่นชำระผลึกเพลิงดำลำบากไม่สูงนัก จัดเข้าในระดับ D ขณะที่กุ่ยหยินไฟเปลวเพลิงที่ไม่ธรรมดานี้เย่ว์หยางต้องการดูดซับพลังของมันมีความยากอย่างน้อยระดับ AAA ต่ำกว่าระดับ S (ยากเป็นพิเศษ) เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้การปรุงหญ้าวิญญาณเทพอัคคีอาจจะพบกับความล้มเหลวได้มากที่สุด เมื่อจัดการกับกุ่ยหยินไฟล้มเหลว นั่นจะต้องเผชิญหน้ากับระเบิดครั้งใหญ่!
ในห้องค้นคว้าของวังเทียนหลัวไม่มีทางจะเอามาทดลองการดูดซับพลังกุ่ยหยินไฟได้
ทันทีที่มันปล่อยพลังระเบิดเกรงว่าวังเทียนหลัวทั้งหมดคงราบเป็นหน้ากลอง เว้นแต่อาคารมิติกระจกที่มีชั้นพลังปกป้องอย่างดี นอกนั้นจะถูกพลังระเบิดกวาดล้างจนไม่เหลืออะไร
การเสี่ยงภัยเป็นนิสัยของเย่ว์หยาง
ถ้าเขานำมันกลับมาด้วยเพื่อทำเป็นแค่เครื่องประดับอย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่ต้องพบกับความเจ็บปวด มันต้องเป็นของมีประโยชน์ เย่ว์หยางถึงลุ่มหลงสนใจ
จุ้ยมาวอี้เสนอขอให้ไปฝึกที่บันไดสวรรค์ชั้นห้าตรงจุดที่พังทลายจากการรุกรานของจักรพรรดินีฟ้าในกรณีที่เกิดการระเบิดจะได้ไม่ต้องเสียหายอะไรมากต่อไป
“เหมียวเหมียว!เจ้าถอยห่างกว่านี้อีกได้ไหม ถ้าหากทดลองล้มเหลวขึ้นมาข้าจะทำอะไรไม่ได้” เย่ว์หยางแนะนำให้นางออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จุ้ยมาวอี้ยืนยันจะอยู่ต่อ นางให้เหตุผล“ข้าต้องการอยู่ ดังนั้นเจ้าห้ามล้มเหลว! ใช่แล้วนี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าไงเล่า! ข้ายังจำได้ว่าที่หุบเขาเพลิงดำ มีคนหลอกลวงข้าบอกว่าใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ผลก็คือทำให้ข้ากลัวแทบตาย และข้ายังได้บรรลุพลังระดับใหม่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนั้น..”
“ข้าแตกต่างจากเจ้า ข้ามีไหวพริบเร็วไม่เหมือนเจ้าอกโตสมองช้า อ๊า.. ข้าพูดผิด ข้าหมายถึงเจ้าหุนหัน! อย่าเข้าใจผิด เมื่อครู่นี้ลิ้นมันพันกัน ไม่..อย่าทำเสียงดุอย่างนั้น แค่ลิ้นมันพาไปเอง!”
“ไม่ว่ายังไงก็ตามเจ้าเห็นว่าข้าไม่พอใจงั้นหรือ? ต่อให้ข้าฆ่าเจ้า งั้นข้าก็ไม่ผิด!”
“อย่าค่อนแคะนักเลยน่ะ เหมียวเหมียว!”
“……”
ผ่านไปอีกหนึ่งวันเย่ว์หยางโชคร้ายทดลองพลาดถึงสามครั้งและตัวเขาดำไหม้เป็นตอตะโก โผล่ให้เห็นแต่ฟันขาวและลูกตาเท่านั้น
เขาล้มลงในอ้อมกอดจุ้ยมาวอี้และอดหอบหายใจมิได้
แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้แต่น่าเสียดายที่เขาเหน็ดเหนื่อยเกินไป เหนื่อยจนกระดิกนิ้วยังจะไม่ไหวไม่มีแรงเหลือสำหรับโอกาสที่ยอดเยี่ยมนี้
ทุกครั้งจะมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ
เย่ว์หยางผิดพลาดเล็กน้อยในการหาสมดุลแต่ลงท้ายด้วยความล้มเหลว
เพราะจุ้ยมาวอี้อยู่กับเขาด้วยเขาจึงไม่สามารถหลบได้ ได้แต่ต้องป้องกันนางไว้ก่อน เป็นผลให้เขาโดนระเบิดอย่างเต็มที่
“เจ้ายังไม่ตายใช่ไหม?” จุ้ยมาวอี้จู่ๆ ก็ถามขึ้น
“คงไม่นาน”
เย่ว์หยางกล่าวเสียงอ่อนล้า
ถ้าเขาอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาแม้ว่าจะสำลักตายคาอกก็คงมีความสุข
จุ้ยมาวอี้แบกเขาขึ้นไหล่มืออีกข้างหนึ่งเปิดม้วนเทเลพอร์ตนางข้ามผ่านประตูเทเลพอร์ตไปที่บ้านในสวนน้อย เพราะสาวๆ กำลังฝึกอยู่ในโลกพฤกษา ดังนั้นบ้านสวนน้อยที่นี่จึงไม่มีใครอยู่เป็นเวลานาน มีบางครั้งบ่าวรับใช้จะเข้ามาทำความสะอาดกำจัดหยากไย่แมงมุมเผื่อว่าเจ้านายจะสามารถกลับมาพักได้ทุกเมื่อ
แทนที่จะพาเขาเข้าบ้านนางตรงไปที่ทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลนัก
จากนั้นให้เย่ว์หยางได้อาบน้ำ
นางทำตัวเหมือนภรรยาปรนนิบัติสามีผู้เดินทางไกลขัดสีฉวีวรรณให้เย่ว์หยางเป็นอย่างดี
การกระทำเช่นนี้ทำให้เย่ว์หยางคาดไม่ถึงพอเขาเริ่มฟื้นคืนพลังได้เล็กน้อย เขาจับมือนางที่สั่นเล็กน้อย “เหมียวเหมียว เจ้าจะทำอะไร?”
จุ้ยมาวอี้ก้มหน้าพยายามจะไม่อาย นางพูดเสียงเบาเหมือนกับยุง “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการทำอะไรเจ้าต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เจ้ามีเวลานี้ ดังนั้นข้าจึงต้องทำ!”
“เจ้ายังไม่พร้อมเลยใช่ไหม?” เย่ว์หยางพูดอย่างสงสัย
“ตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว!” จุ้ยมาวอี้ยืนขึ้นทันทีและเสื้อผ้าเผชิญหน้าเย่ว์หยางอย่างกล้าหาญมองเห็นร่างเปลือยขาวปานหิมะและยั่วยวนของนางนางเห็นท่าทางตะลึงของเย่ว์หยางนางหันหน้าไปทางอื่นทันที “อย่ามองนะ ไม่อย่างนั้นข้าคงเสียใจ”
“เหมียวเหมียว! ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ...” เสียงของเย่ว์หยางอ่อนลงทันที “เราสามารถทำเช่นนั้นได้แต่ไม่ใช่เพราะเพื่ออะไร”
“เรื่องมากจริงๆ ข้าไม่คิดว่าเป็นอะไรทั้งนั้น!” จุ้ยมาวอี้พยายามต้านความเขินอายและให้เขาหันหน้ากลับไปทางอื่นอีกห้ามมอง!
“เจ้าต้องการทำอย่างนี้จริงๆ หรือเหมียวเหมียว?”
“อย่างนั้นข้าจะใส่เสื้อผ้า!”
“ไม่ต้อง...”
เมื่อทั้งสองคนกำลังนอนอยู่บนเตียงจุ้ยมาวอี้พูดขึ้นมาทันที “ดูเหมือนว่าไม่ทันมีความรักความคืบหน้าอย่างนี้เร็วเกินไปหรือเปล่า?”
เย่ว์หยางอดหลั่งเหงื่อมิได้
เมื่อเจ้ามาถึงประตูเจ้าบอกว่าสายเกินไปหรือเปล่า? และนี่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว
เขารีบอธิบายกับนาง“ความจริงยังไม่นับว่าเร็วเกินไป ความก้าวหน้าของเราดำเนินไปถูกต้องแล้ว นอกจากนี้นี่จะไม่ดีได้ยังไงเรายังรักกันได้หลังจากแต่งงานแล้ว!”
แม้ว่ามองภายนอกจุ้ยมาวอี้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงนางทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล “เหตุการณ์อย่างนี้เจ้าได้เห็นเรือนร่างของข้าแล้ว ข้าได้เห็นเจ้า ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ ต่อไปเจ้าจะพูดยังไง? เจ้ามีประสบการณ์ บอกมาก่อนว่าเจ้าจะใช้แผนอะไร แต่สิทธิ์ในการตัดสินใจและดำเนินการสุดท้ายเป็นของข้า ถ้ามันเจ็บ ข้าจะยกเลิกแผนนั้นทันที!”
“เจ้าตัดสินใจได้ แต่มันจะไม่ได้ผลแน่นอน เพราะเจ้าจะไม่สามารถทำอะไรได้...” เย่ว์หยางเสนอแนะ “ข้าจัดการได้ รับรองไม่มีปัญหา”
“เตือนเจ้าไว้ก่อน, เจ้ามีสิทธิ์แค่แนะนำเท่านั้น มิฉะนั้นเจ้าจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!” จุ้ยมาวอี้แทบไม่อาจต้านทานมือที่ซุกซนของเด็กหนุ่มจากมิติอื่น นางได้แต่เตือนเขาให้ดำเนินการตามแผนเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
“ทำอย่างนี้ เจ้าไม่ใช้แผนบ้าบอนั่นอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหน้ามืดจนไม่มีเวลาคิด
“ข้าจะทำอะไรก็ทำได้อย่างนั้นหรือ?” จุ้ยมาวอี้หอบหายใจถาม
“งั้นใช้อกเจ้ามาทรมานข้าได้เลย!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นแนะนำ
“……”
หลังจากผ่านไปสิบนาทีกับความรู้สึกที่เป็นสุขจุ้ยมาวอี้รู้สึกว่าไม่เลว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ภายใต้คำแนะนำของเสือผู้หญิงที่นางรักเขาแสดงให้เห็นความสุขระดับสูงสุด แม้จะพยายามทำตามเขาและจูบเขาหลายครั้ง นางฟังคำแนะนำของเขาบางอย่างก็ทำ บางอย่างก็ไม่ทำ นางไม่พูดถึงเหตุผลหลักว่ากลัวสกปรกแต่นางกลัวว่าจะทำให้นางเจ็บหรือดูเหมือนคนโง่
การคาดหวังก็ทำให้นางทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล
ข้อเสนอแรกของนาง“อย่างนี้สบายมากอยู่แล้ว แต่เจ้านั่นแหละที่เหนื่อย เจ้านอนเถอะ ข้าจัดการให้เอง!”
เด็กหนุ่มจากมิติอื่นฝืนยิ้มและถาม “เจ้าน่ะหรือ? ข้ายังจัดการเองได้อยู่ไม่เกี่ยวกับว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยเลย”
เมื่อเห็นวายร้ายสุดที่รักของนางเหมือนกับจะปรามาสนางนางแค่นเสียงไม่พอใจทันที “เจ้าก็ทำอย่างนี้ไม่ใช่หรือ ถึงข้าจะไม่คล่องแต่ข้าก็มีสัญชาตญาณของผู้หญิง อย่าดูแคลนข้าได้ไหม? ห้ามขยับมือเจ้ามันทำให้ข้าอ่อนแรง นี่เป็นครั้งแรกของข้า!”
เย่ว์หยางได้แต่ส่งเสริมนาง แต่นางกลัวว่านางจะล้มเหลวเมื่อนางทำท่าจะล้มเหลว
เขาจะกระซิบข้างหูนางเหมือนครูฝึกทหาร
คอยให้คำแนะนำ
นางพยายามอยู่หลายคราและสมหวังกับตัวร้ายที่นางรักได้ในที่สุด
หลังจากนั้นชั่วครู่นางจึงเอ่ยขึ้นก่อน “หมดฤทธิ์แล้วหรือ?”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นตอบ“ข้ายังจะกลับมาได้อีก...”
สาวน้อยผู้มีประสบการณ์รักเป็นศูนย์ข่มความอายถามต่อ“ต่อไปเอายังไง?”
“โอว? เจ้าไม่เจ็บหรอกหรือ?”
“ก็เจ็บอยู่,แต่นี่น่ากลัวว่าจะอึดอัดหรือเปล่า? ข้าหมายความว่าเจ้าจะอึดอัดหรือเปล่าเมื่อเจ้าอยู่เฉยๆ?”
“ใครเขาเป็นอย่างนี้เล่า? ช่างเถอะ, เหมียวเหมียวยังมีหลายอย่างที่เจ้าต้องเรียนรู้ มาเถอะ ข้าจะค่อยๆ สอนเจ้า!”
“อย่างนี้แหละ มันง่ายมากอยู่แล้ว ข้าเองก็ทำได้โอ๊ว.. อย่ารุนแรงนักสิ, ... อย่างกะเสือแก่ โอวสวรรค์.. อย่าทำอย่างนี้ ข้าอึดอัด...รุนแรงอีกแล้ว โอว..อู๋เหินนางทนรับได้ยังไงกันนี่..อีกแล้ว..ข้าขอร้องเจ้า ให้ข้าลองทำบ้าง...”
“ความจริงก็เริ่มต้นจะดีแล้ว นี่แค่อุ่นเครื่องเล็กน้อย!”
“นี่แค่เริ่มต้นงั้นหรือ? โอวสวรรค์แล้วข้าจะมีชีวิตรอดไหมนี่ ให้ข้าพักก่อน ไม่อย่างนั้นข้าคงตายแน่ ตอนนี้ร่างกายของแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!”
“ร่างกายจะระเบิดได้ยังไง..นี่อาจเป็นเพราะตัวเจ้ามีสัมผัสทางกายภาพที่อ่อนไหว..”เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกระซิบข้างหูจุ้ยมาวอี้แผ่วตำราเล่มหนึ่งมิสู้เรียนจากการทำจริง นางอายซุกหน้าซ่อนอยู่ในอ้อมอกเขาทั้งยกมือทุบเขาปฏิเสธอย่างแง่งอน “ไม่ข้าไม่ได้มีร่างกายแบบนั้น ข้าบอกว่าอึดอัดก็อึดอัด...”
หลังจากราตรีที่ยาวนานจุ้ยมาวอี้ค่อยๆ ลืมตาและพบว่านอนอยู่ในอ้อมอกเขา
เด็กคนนี้เหมือนผีตะกละกินเท่าใดก็ไม่รู้จักอิ่ม
นางลังเลที่จะหาเรื่องทะเลาะในที่สุดนางจูบเขาด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งชัง การกระทำที่รุนแรงของนางปลุกเย่ว์หยางให้ตื่นขึ้นเขาคว้าตัวนางและจูบตอบจนแทบหายใจไม่ออก
จุ้ยมาวอี้กำลังจูบเขาจู่ๆ เย่ว์หยางก็ร้องขึ้น “อ๋า.. เมื่อวานนี้ข้าลืมใช้การฝึกพลังปราณคู่รักลืมสนิทจริงๆ”
เย่ว์หยางหัวเราะ “ไม่เป็นไร ลืมทำเมื่อวานนี้ งั้นมาทำกันต่อวันนี้ก็ได้!”
จุ้ยมาวอี้สับสนเล็กน้อยคิดอยู่เป็นเวลานานเขาคงสับสนในสมอง ตอนนี้เขากับนางเป็นสามีภรรยากันแล้วแต่ยังกังวลว่าความรักยังจะหวานไม่พออีกหรือ? นางเข้าใจและมั่นใจ มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า“เจ้าต้องการก่อกวนอีกหรือ? ไม่, เมื่อวานนี้ไม่นับ, ข้าต้องเป็นฝ่ายรุกเจ้า....”