ตอนที่ 901 เร็วเกินไป ยังรู้สึกไม่ชัด
เมื่อจุ้ยมาวอี้เห็นเย่ว์หยางเอาชนะมารเพลิงดำได้อย่างเด็ดขาดและควักผลึกวิญญาณเพลิงดำที่ผ่านการปรับแต่งอยู่ในร่างของเขามาหลายพันปีมารเพลิงดำจึงไม่มีอะไรช่วยเหลือเขาอีกต่อไป นางเดินเข้ามาหาและชี้นิ้วใส่เขา“ทำไมเจ้าถึงได้พล่ามกับเขาตั้งมากมาย? ฆ่าเขาโดยตรงแล้วชิงทุกอย่างออกไปไม่ดีกว่าหรือ?”
เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระผลึกวิญญาณเพลิงดำ
รอจนกระทั่งผลึกขนาดกำปั้นถูกกลั่นชำระจนเหลือขนาดใหญ่กว่าปลายนิ้วมือจากนั้นเขาบอกให้จุ้ยมาวอี้ดู “ถ้าข้าไม่พูดอะไรมากและฆ่าเจ้าผู้นี้จากนั้นควักผลึกวิญญาณเพลิงดำออกมาผลึกนี้จะเป็นผลึกวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่มาก อย่างไรก็ตามหลังจากข้าทำให้เขาเครียดจิตใจและกายหนื่อยล้า วิญญาณของเขาทำงานหนักหน่วงแม้ว่าแต่เดิมจะมีการเชื่อมโยงกับผลึกวิญญาณเพลิงดำแต่ความเครียดที่เกิดจากปณิธานราชันย์ของข้าทำให้เกิดรอยแยก...ดังนั้นข้าจึงฉวยโอกาสได้ง่าย ไม่สูญเสียพลังแม้ปลายเส้นผม และยิ่งชำระกลั่นแล้ว ก็กลายเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง!”
จุ้ยมาวอี้ไม่ปฏิเสธประโยชน์ของการกระทำเช่นนั้น
แต่นางก็ยังมีความรู้สึกผิดอยู่บ้าง “ทำอย่างนี้ ดีแล้วหรือ?”
เย่ว์หยางยิ้ม“เหมียวเหมียว อย่างมองว่าเขาเป็นคน เมื่อเป็นอุปกรณ์สู้รบแล้วจะเป็นไรไป สู้กับพวกอสูรปีศาจการได้สมบัติมาเป็นเรื่องชอบธรรมอยู่แล้ว!”
“แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีร่างมนุษย์...” จุ้ยมาวอี้เห็นแย้งกับเย่ว์หยางและในขณะนั้นเย่ว์หยางไม่อาจยอมรับได้
“อย่างนั้นเจ้าควรจะทำยังไง? อสูรมนุษย์นี้..เรายังไม่ต้องคุยปัญหาเรื่องนี้ก่อน ซิมบา ศพของเจ้าผู้นี้ไม่เลว ข้าให้รางวัลเจ้าลากไปจัดการข้างนอกได้เลย” ศัตรูผู้ตายในเงื้อมมือเย่ว์หยางล้วนแต่น่าสมเพชทั้งนั้นถ้าไม่เป็นปุ๋ยก็กลายเป็นอาหารสัตว์
“ข้าคิดว่าเจ้าผู้นี้ตายอย่างอยุติธรรม!” จุ้ยมาวอี้ยังพูดกับเขาไม่ลดราวาศอก
“ไหนๆ มันก็ตายไปแล้วจะไปสนใจรายละเอียดทำไม?มาช่วยกันขุดแร่หยดเพลิงกันก่อน อย่าเสียเวลา เราจะไม่เหลือไว้ให้คนอื่นแน่!” เย่ว์หยางคว้าขวานออกมาขุดแร่เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จุ้ยมาวอี้ยืนเฉย เจ้าเด็กผู้นี้จะว่าโลภ ก็ถือได้ว่าโลภแทบตายผลกำไรที่พึงได้ของเขาไม่มีการปล่อยให้หลุดมือแม้แต่น้อยถ้าเป็นคนอื่นคงจะลืมตัวไปแล้วแต่จะบอกว่าเขาไม่โลภบางครั้งเขาก็ใจกว้างเสียเหลือเกิน ยกมังกรบินหลายหมื่นตัวให้คนอื่นโดยไม่กระพริบตาก็ทำมาแล้ว แม้แต่อสูรปราณฟ้าเขาก็ไม่ใส่ใจ ยากจะเข้าใจบุคลิกที่ขัดแย้งของเขาได้จริงๆ
“โอว, จริงสิ กุ่ยหยินไฟเป็นยังไงบ้าง?” จุ้ยมาวอี้เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก
“อะไรก็ตามที่มองไม่เห็นนั่นเป็นเพราะข้าลวงเจ้านั่นด้วยสนามพลังลวงตา กุ่ยหยินไฟแท้ๆ ทำให้ข้าทึ่งอัศจรรย์หลังจากใช้ความพยายามไปมากมายข้าเอาเพลิงอมฤตหุ้มมันเอาไว้อย่างระมัดระวังและเก็บเข้าไปในโลกคัมภีร์ข้าเกือบจะทำไม่สำเร็จเหมือนกัน มาคิดดูตอนนี้นับว่าอันตรายจริงๆ” เย่ว์หยางพูดโดยไม่เงยหน้า
“กุ่ยหยินไฟ ยากจะเอามาได้ไม่ใช่หรือ?” จุ้ยมาวอี้ไม่จำเป็นต้องคาดเดาถึงความยากลำบาก
“เหลวไหล,ข้าต้องใช้เวลาถึงสิบนาทีถึงจะเก็บมันมาได้” เย่ว์หยางพูดด้วยความภูมิใจ
“เจ้าเก็บหญ้าวิญญาณเทพอัคคีและยังมีเวลาไปเก็บกุ่ยหยินไฟด้วยหรือ?” จุ้ยมาวอี้คิดว่าเจ้าเด็กนี่ไม่มีความจริงใจ เขาไม่พานางไปเก็บสมุนไพรและไม่คำนึงว่านางจะทำได้หรือไม่
“ข้าเก็บหญ้าสมุนไพรใช้เวลาหนึ่งนาทีก็พอแล้ว เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเก็บกุ่ยหยินไฟ...” เย่ว์หยางคายความลับออกมาไม่หยุด
“เจ้าว่ายังไงนะ?” จุ้ยมาวอี้โมโหแทบคลั่ง เจ้าเด็กนี่เก็บสมุนไพรเสร็จแต่ไม่เตือนกันนางแทบจะตายไปครึ่งชีวิตเมื่อเห็นมารเพลิงดำโจมตีกุ่ยหยินไฟ ความจริงขณะนางวิ่งเข้าไปหา นางตั้งใจจะตายพร้อมกับเขานางผลักเย่ว์หยางล้มลงและนั่งทับเขาเตรียมจะต่อยเขา
“อย่าวู่วามนะ เดี๋ยวปีศาจตื่น!” เย่ว์หยางรีบจับหมัดนาง
“ข้าไม่ได้วู่วาม ข้าแค่อยากจะทุบเจ้า!” จุ้ยมาวอี้อดกัดเขาไม่ได้ ให้เขาได้รู้รสชาติของการถูกรังแกบ้าง
“ความจริงไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการเรียกเจ้า แต่เจ้ากำลังจมอยู่กับความรู้สึกบรรลุพลังใหม่ของตนเองแน่นอนว่าข้าไม่อาจปลุกเจ้าในสภาวะเช่นนั้นได้” เย่ว์หยางพูดเช่นนี้ จุ้ยมาวอี้จำได้ทันทีว่าดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“นี่เจ้าพูดอย่างนั้น กำลังจะตำหนิข้าใช่ไหม?”เจ้าเด็กประหลาดนี่ทำให้นางอายเล็กน้อย
“ไม่ ข้าไม่ตำหนิ เพราะข้าเก็บสมุนไพรได้ ถ้าข้าทำเสร็จในหนึ่งวินาที อย่างนั้นคงไม่มีความเข้าใจผิดอย่างนั้น ถ้าจะโทษข้าก็ย่อมได้” เย่ว์หยางตำหนิตนเองและหยอกนางทำให้นางหายโมโหอึดอัดใจ นางมองเขาอย่างโล่งอก “ยังไม่ปล่อยข้าอีกหรือ ให้ข้าลุกขึ้นก่อน”
ก่อนเย่ว์หยางคลายมือเขาถามก่อน “ไม่ทุบข้าจริงๆ ใช่ไหม?”
จุ้ยมาวอี้แค่นเสียง “ไม่, เบื่อจะตาย!”
เย่ว์หยางถามย้ำ “แน่ใจนะ?”
จุ้ยมาวอี้อดโกรธมิได้เมื่อเห็นว่าเขากลัวตายนางมองเขา “ขี้ขลาด ก็ได้ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทุบเจ้า!”
เย่ว์หยางถอนหายใจโล่งอกทันทีและเอามือทาบอก “บอกตามตรงข้าคิดว่าเจ้าต้องการทรมานข้าเสียอีกหน้าอกเจ้าแน่นขนาดนั้นมันเป็นการทรมานข้าอย่างหนึ่ง เจ้าก็รู้ว่าข้าใจอ่อน แน่นอกอย่างนั้นมันทรมาน!”
แน่นอก,ทรมาน?
ถึงแม้จะเป็นสำนวนที่ไม่คุ้นแต่จุ้ยมาวอี้ไม่โง่ นางสามารถเข้าใจได้
อย่างไรก็ตามแน่นอก และทรมาน หมายความว่ายังไง?
จุ้ยมาวอี้ชูกำปั้นขึ้นเสียง“เจ้าเด็กบ้า, คิดอะไรอยู่?”
เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาที่ไว
เขาจับกำปั้นนางและเผชิญหน้านางโดยตรงแล้วกล่าว “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนแรกในหอทงเทียนหรือ? ข้าจะปล่อยข่าวลือว่าเจ้านั่งทับข้า นี่เป็นความลับที่น่าตกใจหรือเปล่า?”
จุ้ยมาวอี้ได้ยินเช่นนั้นร้องลั่น
นางก้มมองร่างตนเองและพบว่าชุดนางขาดจนเห็นผิวใน
ตอนแรกนางงงทำอะไรไม่ถูก..แต่เมื่อรู้ตัวนางเห็นเย่ว์หยางกำลังยิ้มนางโกรธขึ้นมาในใจทันที และกล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเจ้าไม่กลัวคับอกทรมานใช่ไหม? นางกดหน้าอกใส่เขาทำให้เขาสุขจนหายใจไม่ออก!
เจ้าพอใจงั้นก็กลั่นแกล้งข้าได้เลย!
“เหมียวเหมียว ข้าขอโทษ, ข้ายอมแพ้แล้ว ขืนกดนานไปข้าคงตายแน่” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นโอดครวญ
“ตายก็ควรแล้ว” นางยังโกรธไม่หาย
วันต่อมา
เมื่อกลับมายังวังเทียนหลัวจุ้ยมาวอี้เตือนเจ้าเด็กจากโลกอื่นเป็นร้อยครั้ง“ถ้าเจ้ากล้าพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เย่ว์หยางผู้ได้รับกำไรชีวิตยืดตัวเอามือตบหน้าอกรับรอง “เจ้ามั่นใจได้เต็มร้อย เว้นแต่เชี่ยนเชี่ยนใช้วิธีทรมานข้าอย่างเดียวกันนี้ ข้าจะไม่มีทางพูดแน่!
จุ้ยมาวอี้รู้สึกอ่อนใจเป็นเรื่องผิดพลาดจริงที่โกรธกับคนลามก
ต้องซัดตรงๆเป็นดีที่สุด!
นางยังไม่ทันยกหมัดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ก็เข้ามาทักทายพวกเขา แม่เสือสาวหัวเราะและถามจุ้ยมาวอี้ “ตัวร้ายไม่ได้รังแกเจ้าใช่ไหม?”
จุ้ยมาวอี้อดร้องขึ้นไม่ได้ นางรีบปฏิเสธ “ไม่, เขากล้าหรือ ไม่อย่างนั้นข้าคงได้ถลกหนังเขาแน่!”
เย่ว์หยางให้ความร่วมมืออย่างดีทำตัวเหมือนกับสุภาพบุรุษ
แม้ว่าทุกคนจะไม่เชื่อก็ตาม
“ข้ากับพี่หวี่จะต้องพาปิงเอ๋อไปที่ป่าโบราณตอนกลางคืนเพื่อจับพลังงานอักขระรูนโบราณ ข้าคงต้องพึ่งพาให้เจ้าช่วยอีก!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างนั้นแล้วฝากฝังเย่ว์หยางให้ลูกพี่ลูกน้องดูแล จุ้ยมาวอี้อยากจะร้องแต่ไม่มีน้ำตา ใครจะสนใจเขากันเล่า ปากพูดอย่างนั้นแค่นางไม่ถูกเย่ว์หยางกลั่นแกล้งนั่นก็ต้องขอบคุณฟ้าดินแล้ว!
“ก็ได้ ข้าจะดูแลเขาต่อให้แดนสวรรค์จะซื้อแร่ ข้าจะต้องตามไปดูเขา!” จุ้ยมาวอี้ถอนหายใจรับปาก
“ข้าต้องเชื่อท่านผู้นำอยู่แล้ว!” นโยบายของเย่ว์หยางก็คือเชื่อฟังคำพูดของภรรยาและนั่นเป็นนโยบายที่ไม่เปลี่ยนตลอดห้าสิบปี
“เจ้าเงียบไปเลย!” จุ้ยมาวอี้โกรธญาติผู้น้องแม้ว่านางใช้วิธีอัดหน้าอกใส่หน้าเจ้าเด็กนั่นแต่เจ้าเด็กนั่นต้องการให้ถูกทรมานอยู่แล้ว เวลานั้นอารมณ์ของนางไม่ปกติจะบอกว่าเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการยังเร็วไป
“โธ่.พี่เย่...อย่าฝืนตนเองเลย ถ้าต่อไปท่านแต่งงานแล้ว สงสัยท่านคงต้องเข้มงวดวินัยในครอบครัวแน่นอน...”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปรบมือหยอกล้อจุ้ยมาวอี้เสร็จก็เผ่นหนี
ยามราตรี
จุ้ยมาวอี้ทิ้งตัวนอนแต่ไม่อาจข่มตาหลับได้
ตอนแรกนางคิดว่าเจ้าเด็กเย่ว์หยางคงจะเข้ามารุกเร้านางในคืนนี้อีก ถ้าเป็นอย่างนั้นนางจะทุบจะต่อยเขาให้กระเด็นลอยไปถึงเก้าชั้นฟ้า อย่าน้อยต้องตะเพิดเขาออกไปและปิดประตูไม่ให้เขาเข้ามา อย่างไรก็ตามเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าเด็กบ้านี่ไม่เข้ามากวนใจนาง นางไม่อยู่ที่นั่น และปฏิเสธจะพบนาง นางไม่รู้จะไปไหนแล้วนางจะข่มตาหลับเร็วๆได้ยังไง?
เมื่อไม่อาจหลับได้นางลุกขึ้นมาแต่งตัว
นางผลักเปิดประตูห้องเย่ว์หยางเบาๆและพบว่าเขาไม่ได้พักอยู่บนเตียง
ในตอนแรกจุ้ยมาวอี้คิดว่าไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหนเขาคงจะมีความสุขมาก ใครจะคิดกันว่าเขากลับไปที่ห้องค้นคว้าและเปิดไฟอยู่ภายใน
แร่หยดเพลิงกองเป็นพะเนินแต่ละก้อนถูกเจียระไนอยู่ในมือของเย่ว์หยาง ลูกเล็กที่สุดกลายเป็นแก้วผลึกขนาดเท่าเม็ดถั่วลูกใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่าไข่... ผลึกหยดทองที่ถูกเจียระไนแล้วกองอยู่อีกด้านหนึ่งของเย่ว์หยางมีเป็นหมื่นเม็ด
คนอื่นแค่เห็นแต่โชคและความโดดเด่นเป็นสง่าของเขาแต่จะมีสักกี่คนเห็นเขากำลังเพียรพยายาม?
น้อยคนนักที่จะรู้จิตใจที่แท้จริงของเขาหรือ?
ตาของจุ้ยมาวอี้มีน้ำตาคลอที่คอนางเหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ที่คอพูดไม่ออก ในที่สุดนางกลั้นน้ำตาไม่สำเร็จขณะมองเขาทำงานหนักอย่างเดียวดายนางรีบปาดน้ำตายิ้มเล็กน้อยและก้าวเดินเข้าไปหา เมื่อเขาเตรียมจะขนย้ายแร่หยดเพลิงอันดับแรกเขาหยิบแร่หยดเพลิงมาถือไว้ในมือ เขาไม่มีเวลาหยิบผ้าเช็ดตัวจึงใช้แขนเสื้อชุดนอนเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก...
“เพิ่งจะกลับมา เจ้าไม่พักก่อนหรือ?” เย่ว์หยางประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อหันกลับไปเห็นว่าเป็นนาง เห็นได้ชัดว่านางน่าจะหลับไปแล้วไม่ใช่หรือ?
“เจ้าทำงานตามลำพังอย่างยากลำบากจะไม่ให้ใครช่วยเจ้าบ้างหรือ?” จุ้ยมาวอี้อดทำบางอย่างที่นางเองไม่คิดจะทำได้มาก่อนนางโน้มตัวและจูบริมฝีปากของเขาเหมือนกับเป็นการให้รางวัล
แต่หลังจากจูบกันแล้วทั้งสองกลับอึ้งไปขณะหนึ่ง
นางไม่รู้ว่ามันดีแค่ไหน
ทันใดนั้นจุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวทันทีนางหันหน้ากลับไปทันทีไม่ยอมให้เขาเห็นหน้านางโดยตรง เพราะตอนนี้นางรู้สึกเขินอาย
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? นี่ นี่นางยังงงอยู่ นางจูบเขาจริงๆจูบที่ริมฝีปาก! แย่แล้ว การจูบที่เพิ่งเกิดขึ้นนางรู้สึกไม่ชัดเจน จูบแรกของนางทำไปโดยไม่รู้ตัวทั้งนางยังรู้สึกไม่ชัด แย่จริงๆ..
“เหมียวเหมียว เมื่อครู่นี้เร็วเกินไป ยังรู้สึกไม่ชัดเท่าไหร่!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นค่อยรู้สึกตัวอีกครั้ง
“ข้าจะฆ่าเจ้าอีก!” นางได้แต่ชายตามองข้างเดียวนางอายมากเกินจะปฏิเสธข้อเสนอนี้