ตอนที่ 901 ทำไม?
พลังวายุใบไม้ร่วงที่ทรงพลัง!
ตาของถังเทียนทอประกายวูบ ความแตกต่างระหว่างพื้นที่ของไม้ตายพลังวายุใบไม้ร่วงทุกนิ้วช่างน่าทึ่ง ในสายตาของเขาพลังงานภายในกองพลตระกูลชิวเป็นอันหนึ่งเดียวกัน มีกลิ่นอายที่เยือกเย็น
กลิ่นอายที่ลึกลับและเยียบเย็นนี้ดูเหมือนสามารถแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้ เมื่อถังเทียนยืนอยู่ภายในพื้นที่ไม้ตายวายุใบไม้ร่วงต้นไม้และใบไม้นับพันที่บินลอยอยู่ในอากาศปล่อยรังสีเยือกเย็นเลือนรางเสียดกระดูกทำให้เขาสั่นสะท้าน
เป็นประสบการณ์เผชิญกับการโจมตีเช่นนั้นครั้งแรกของถังเทียน นอกจากนี้ยังเป็นไม้ตายสังหารของกองทัพ แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง เขามีความรู้สึกเลือนรางว่าคุ้นเคยกับมันเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นที่ใดมาก่อน เขารู้ว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน ถ้าเขาเคยเห็นวิชาไม้ตายสังหารกองทัพแบบนั้นมาก่อน เขาคงไม่ลืมอย่างแน่นอน
วิชาไม้ตายสังหารของกองทัพระดับทอง นอกจากนั้นยังเป็นไม้ตายสังหารของกองทัพชั้นทองที่เฉพาะแบบเมื่อเทียบกับเพลงโศกกระบี่แสงที่ถังเทียนเคยเผชิญมากก่อนนั้น ไม้ตายสังหารพายุใบไม้ร่วงแข็งแกร่งกว่ามาก
ม่านตาของเขาหดลงทันที ‘กฎธรรมชาติ!’
ใช่แล้วมีร่องรอยของกฎธรรมชาติในนั้น!
จากนั้นถังเทียนตระหนักได้ ‘มิน่าเล่าข้าถึงรู้สึกว่าคุ้นเคยมาก’ กฎธรรมชาติภายในกองพลเกราะเทพเจ้าถังเทียนมีความรู้สึกที่ไวต่อกฎธรรมชาติมากเป็นพิเศษ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสภาวะเกราะเทพเจ้าในขณะนั้น เขาก็ยังมีประสาทที่แหลมคมต่อกฎธรรมชาติ
เป็นครั้งแรกของถังเทียนที่ได้เห็นไม้ตายสังหารของกองทัพที่แฝงไปด้วยกฎธรรมชาติ ภายในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งมีพลังงานมากมายสมบูรณ์ กฎธรรมชาติถูกบดบังโดยพลังงาน ดังนั้นการรู้แจ้งกฎธรรมชาติจึงเป็นเรื่องที่ยากมากยากยิ่งกว่าแดนบาปและสวรรค์วิถี นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนไม่เคยเห็นคนอื่นในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่รู้แจ้งกฎธรรมชาติมาก่อน
‘เป็นอย่างนี้นี่เอง...’
ถังเทียนเปล่งประกายแสงสลัว นอกจากความยากแล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีใครในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีการรู้แจ้งกฎธรรมชาติเป็นเพราะรูปแบบของการต่อสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ผ่านการต่อสู้ด้วยกองทัพ ‘รูปแบบการรู้แจ้งกฎธรรมชาติของพวกเขายังแตกต่างจากข้า แม้ว่าแม่ทัพนายกองแห่งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติได้โดยเฉพาะ แต่พวกเขาก็มาถึงจุดนี้ด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำแบบใคร’
‘พลังสะท้อน!’
พลังสะท้อนของเพลงโศกกระบี่แสงคือการสะท้อนพลังงาน ขณะที่ไม้ตายพายุใบไม้ร่วงก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง นอกจากพลังงานสะท้อนแล้ว ยังรวมความผันผวนของสายใยกฎธรรมชาติซึ่งเหมือนกับไม้น้ำที่อยู่ใต้น้ำ ธรรมดาว่าผิวน้ำจะระอุ ขณะที่ส่วนลึกของทะเลจะเงียบสงบมาก
เพลงโศกกระบี่แสงก็เป็นอย่างนั้น ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงกับพลังคลื่น แต่ก็เป็นเพียงส่วนผิว
พลังสะท้อนของไม้ตายพายุใบไม้ร่วงเหมือนกับว่าสามารถเทียบได้กับพลังที่เด่นสง่าของเพลงโศกกระบี่แสง แต่พลังผันผวนจะแพร่กระจายอยู่ในส่วนลึกและขยับกระตุ้นสายใยกฎธรรมชาติที่พื้นของมหาสมุทร
‘ช่างเป็นการพบที่บังเอิญ’
ความตั้งใจกระตือรือร้นสู้ในตอนแรกของถังเทียนเปลี่ยนเป็นหลงใหลกับไม้ตายสังหารที่ทรงพลังของกองทัพ เขาเพ่งความสนใจที่ร่างกายของเขาเอง ‘ความรู้สึกช่างแปลกแตกต่างจากเมื่อตอนที่ข้าอยู่ในเกราะเทพเจ้าตื่นรู้’ ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในเปลวไฟ แต่ใจและศีรษะของเขารู้สึกเหมือนเป็นก้อนน้ำแข็ง
ความคิดนับไม่ถ้วนวาบผ่านเข้ามาในใจของเขา ขณะที่มือของถังเทียนไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว
เขายังคงเดินเข้าหาที่ตั้งกองกำลังและมือขวาของเขาดูเหมือนกับหยก และฟันลงต่อเนื่อง ความเร็วที่เขาฟันเร็วขึ้น เร็วขึ้นทุกที
ใบไม้ที่ลอยพลิ้วอยู่ในท้องฟ้าไม่มีทีท่าว่าจะร่วง เมื่อรังสีฝ่ามือเข้ามาใกล้ที่ตั้งของกองพลตระกูลชิวจะกระจายออกไปเนื่องจากใบไม้
ชิวเทียนชิงรู้สึกเบาใจขึ้นไม้ตายพายุใบไม้ร่วงทำให้เขาโล่งใจอยู่เสมอ
เขาหัวเราะกับตัวเอง ‘ดูเหมือนข้ามัวตกตะลึงกับคู่ต่อสู้ก่อนนั้น ข้าต้องยอมรับว่าไม้ตายพายุใบไม้ร่วงไม่สามารถจะคุกคามเขาได้โดยไม่รู้ตัว
คู่ต่อสู้ทรงพลังมากและเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ชิวเทียนชิงเคยเห็น ‘แต่เขาประมาทเกินไป เขาคิดจริงๆว่าลำพังเขาจะเอาชนะกองทัพตระกูลชิวได้’
ดวงตาชิวเทียนชิงทอประกายดุร้ายวูบ ตอนนี้เขาเข้าสู่สภาพสู้รบและทิ้งความคิดทั้งหมดออกไปจากใจ และสายตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น
‘เป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีฝนใบไม้ร่วงในเมื่อยังมีพายุใบไม้ร่วง?’
ชิวเทียนชิงทิ้งความคิดทั้งหมดแผนทั้งหมด และตั้งสมาธิอยู่ด้านหน้าเท่านั้น เขาเป็นแม่ทัพทหารแท้ๆ สายตาจ้องอยู่ที่การสู้รบข้างหน้าเขา
เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมาในชีวิต
ฝ่ายตรงข้ามมีพลังเฉพาะตัวเกินกว่าเขาจะเข้าใจ ‘นักสู้ทรงพลังที่มีชื่อเหล่านั้นทั้งหมดและบางทีนายใหญ่ของสัมพันธมิตรใต้ที่ร่ำลือกันยังอ่อนแอกว่าบุรุษผู้นี้’
เช่นเดียวกับเมื่อถังเทียนเห็นประจักษ์ไม้ตายพายุใบ้ไม้ร่วงของชิวเทียนชิงและเกิดความดีใจ ก็เหมือนกับชิวเทียนชิง คู่ต่อสู้ที่หยั่งไม่ถึงทำให้ความตั้งใจต่อสู้เกิดขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในใจเขา
“พายุสายฝนใบ้ไม้ร่วงทำลายล้าง” เสียงคำรามของชิวเทียนชิงดังทั่วกองพลตระกูลชิว
เผียะเผียะ เผียะ
หยดขนาดเท่าถั่วเริ่มร่วง ถังเทียนไม่หยุดเดิน ทุกๆ หยาดฝนอัดแน่นไปด้วยพลังงาน และดูไม่เร็ว แต่ทุกหยดบรรจุไปด้วยพลัง
ด้วยร่างกายที่ผิดธรรมดาของถังเทียน เขาไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดเมื่อฝนกระทบร่างกายของเขา ทุกๆ หยดแฝงไปด้วยพลังสังหารของไม้ตายและแทรกซึมเข้าร่างถังเทียน
ถังเทียนเคลื่อนไหวเล็กน้อยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ปกติคนทั่วไปจะกระตุ้นพลังงานภายในหยดฝนให้ระเบิดและใช้สร้างพลังโจมตี แต่ถังเทียนไม่ทำเช่นนั้น แต่กลับปกปิดความตั้งใจของเขาที่มีพลังงานภายในไม้ตายของกองทัพตระกูลชิวและปล่อยให้หยาดฝนพลังงานโจมตีพลังป้องกันของฝ่ายตรงข้าม แต่จงใจให้ซึมซาบเข้าไปในร่างของศัตรู
ถังเทียนรู้สึกได้ทันทีว่าสภาพใจของเขาเฉื่อยชาลงเล็กน้อยทำให้ใจของเขาสั่นสะท้าน มีรัศมีแสงภายในใจที่เหมือนกระจกแก้วสำแดงพลัง ขณะที่กระบี่อมตะในร่างของสั่นสะเทือนทันทีและกำจัดพลังแฝงในไม้ตายใบไม้ร่วงในร่างกายของเขาสลายไปทันที
‘พลังสำนึกก็สามารถใช้แบบนั้นได้!’
ตาของถังเทียนเป็นประกายอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนมีรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างเมื่อเทียบกับนักสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับสัญชาตญาณที่ไม่มีใครทัดเทียมของเขา ไม้ตายพายุสายฝนใบไม้ร่วงอาจสังหารเขาได้
เมื่อรู้สึกถึงความโกรธก้าวร้าวของกระบี่อมตะในร่างของเขา ถังเทียนเรียกมันออกมาโดยไม่ลังเล
เมื่อกระบี่บรอนซ์ที่มีรอยร้าวปรากฏขึ้นในมือของถังเทียนม่านตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีบรอนซ์ทันทีและมีเครื่องหมายกางเขนเห็นได้เลือนรางอยู่ในดวงตา
กลิ่นอายที่เคร่งขรึมและปั่นป่วนพลุ่งขึ้นท้องฟ้าทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาเกิดระลอก
ฝนหยดรดร่างของถังเทียน แต่เขายังคงเฉยๆ ไม่สนใจ พลังทำลายพายุสายฝนใบไม้ร่วงกลายเป็นฉากหลังให้เขาช่วยเพิ่มบรรยากาศให้เคร่งขรึม
‘อะไรกันนั่น!’
ชิวเทียนชิงถลึงตาขณะจ้องมองกระบี่บรอนซ์ในมือของถังทียน
มือที่ดูเหมือนหยกแปลกประหลาดและกระบี่บรอนซ์ที่ร้าวเป็นภาพขัดกันอย่างใหญ่หลวง
สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงก็คือความรู้สึกเคร่งขรึมเหมือนกับว่าเขาเห็นภาพเงาของศัตรูนับไม่ถ้วนผุดออกมา ด้วยรังสีฆ่าฟันของศัตรูตั้งใจจะล้างผลาญพวกเขาทั้งหมด
“นั่นคือกองทัพ นั่นคืออาวุธที่บรรจุเครื่องหมายของกองทัพไว้ด้วย! มีอาวุธเช่นนั้นอยู่ในโลกได้ยังไง? กองทัพแบบไหนยินดีใช้ความตายของพวกเขา สร้างอาวุธที่น่ากลัวเช่นนั้น?’
‘สำหรับอาวุธที่มีเครื่องหมายของทหารตกไปอยู่ในมือของนักสู้ที่มีพลังส่วนตัว ช่างน่าเสียดาย’
ช่างน่าตกใจนักน่าเสียดายมาก ที่สำคัญคือน่ากลัว น่ากลัวแทบตาย
เมื่อเผชิญกับบุรุษที่ชูกระบี่บรอนซ์ผมขนทั้งหมดในตัวของชิวเทียนชิงลุกชัน เหมือนกับว่าสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองเขา เขารู้ว่าความรู้สึกนี้หมายความว่าเขากำลังจะเผชิญกับอันตรายที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนอันตรายที่รุนแรง
“ใบไม้ร่วง! ใบไม้ร่วง! ใบไม้ร่วง!”
เส้นเลือดของชิวเทียนชิงปูดโปนขณะที่เขาคำรามสุดกำลัง
ทหารรอบตัวเขาตกใจพอกันและคำรามพร้อมกัน “โจมตี! โจมตี! โจมตี!”
ฝนรอบตัวถังเทียนหายไปทันทีราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นรวบฝนไว้ทั้งหมด และเอามาสร้างไว้รวมกัน กระแสพลังหลากไหลอยู่ในกองพลตระกูลชิวและพลังใบไม้แสงไม่ลอยเร็วนัก เหมือนกับฝูงปลาที่ว่ายอย่างสบายๆ แต่ยังรวมอยู่รอบๆ พวกเขานิ่งๆ
บุรุษวัยกลางคนผู้สังเกตการณ์อยู่ด้านข้างมีสีหน้าแปลกใจ เขารู้ว่าชิวเทียนชิงจะต้องสู้เพื่อชีวิต
บนเรือสินค้าอาซิ่นจ้องมองกระบี่บรอนซ์ร้าวในมือของถังเทียน ร่างกายของเขาเริ่มสั่น
เสี่ยวม่านที่อยู่ด้านข้างถามทันที “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
นางรู้สึกว่ามีบางอย่างต่างไปจากแต่ก่อน เหมือนกับว่าอาซิ่นถูกดึงดูดเข้าไปในภวังค์แปลกประหลาดเพราะกระบี่ที่ถังเทียนเรียกออกมา นางรู้ว่าอาซิ่นปกติจะเหมือนกับโง่เขลาพูดจาสนุกสนานไร้สาระ แต่เขาเป็นคนที่ใจเย็นและเชื่อมั่นตนเอง และสภาพใจของเขายังดีกว่านางมาก
หน้าของอาซิ่นซีดขาว เขาเริ่มสั่นรุนแรงมากขึ้น ขาของเขาสั่น นิ้วของเขาสั่นและริมฝีปากก็สั่น แต่ตาของเขาจับนิ่งอยู่ที่กระบี่บรอนซ์เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวม่าน
‘กลิ่นอายของสหายข้านั่น กลิ่นอายของความตาย กลิ่นอายจากทะเลสุคติ’ เขาคาดเดาพื้นฐานของกระบี่ได้ แต่...
‘ทำไมพวกเขาถึงไม่มีความสุข?’
‘ทำไมพวกเขาอยู่ในความเศร้า?’
‘ทำไมข้าจึงรู้สึกอยากร้องไห้?’
‘เกิดอะไรขึ้นกับทะเลสุคติ?พี่น้องทั้งหลาย ทำไมพวกเจ้าทุกคนจึงไม่ยอมพัก? ทำไม?’
(ขอแก้จากคำว่า‘ทะเลสันติภาพ’ เป็น ‘ทะเลสุคติ’ นะครับ)
ร่างของอาซิ่นกำลังสั่นถูกแล้ว เขาไม่เคยสั่นมาก่อน แม้แต่ในการรบครั้งก่อน เขาวิ่งออกมาจากสุสานบุกโจมตีศัตรูโดยไม่สั่นกลัวหรือลังเล
พวกเขามาจากทะเลสุคติที่ซึ่งสหายของเขานอนอยู่ในความสงบ ไม่ว่าการสู้รบจะรุนแรงเพียงไหนมันคือแผ่นดินสุดท้ายที่พวกเขาจะมีความสุขได้ วิญญาณของพวกเขาจะกลับไปยังทะเลสุคติเพื่อพักผ่อนนิรันดร นั่นคือแผ่นดินที่พวกเขาต้องปล่อยวางความกังวลสุดท้าย แผ่นดินเพื่อการรบสุดท้ายสหายยังมีชีวิตอยู่สามารถตายได้ แต่สหายของพวกเขาจะพักผ่อนอย่างสงบสุขตลอดไป
‘ทำไมเจ้าต้องปลุกพวกเขา?’
‘ทำไม!’
อาซิ่นกำหมัดแน่นจนแดง เขาก้มหน้าโดยไม่รู้ตัว หน้าของเขาดูน่ากลัวขณะที่ร่างของเขาสั่นรุนแรง
‘ทำไมเจ้าถึงรบกวนพวกเขา! ทำไม!’
‘เพราะเจ้าต้องการคนไปรบให้เจ้าใช่ไหม? ข้าจะไปรบเพื่อเจ้าเอง! เจ้าต้องการส่งคนไปตายหรือ? ข้าจะไปแทนพวกเขาเอง! ทำไมเจ้าต้องเรียกพวกเขาออกมา? ทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้พวกเขาตายอย่างสงบ?’
แสงรัศมีสีบรอนซ์สว่างวูบและฉายผ่านหน้าต่างเข้ามาฉายลงบนใบหน้าที่น่ากลัวของอาซิ่น ความเจ็บปวดชัดเจนมาก ชัดเจนจนทำให้หัวใจของเสี่ยวม่านสะท้าน
ตัวกระบี่กำลังสั่นสะเทือนเป็นเสียงทุ้มเหมือนกับสายน้ำ เสียงเริ่มดังขึ้นๆ
‘เสียงนี้....’
ร่างของอาซิ่นสะท้านเขาเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว
กระบี่บรอนซ์ที่ถูกชูขึ้นสูงดูเหมือนกับธงศึกของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่กำลังถูกชู
เสียงกระหึ่มต่ำดังเหมือนกับทหารเป็นล้านคนตะโกนพร้อมกัน ความโกรธของพวกเขา ความไม่พอใจ ความเศร้าโศกของพวกเขา
ถังเทียนมองดูเหมือนกับว่าเขาถูกวิญญาณสิง กระบี่ครางกึกก้องทำให้ตลอดทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านรุนแรง ทะเลสุคติปรากฏในใจของเขาอีกครั้งและปรากฏฉากภาพที่เขาไม่มีวันลืม
คลื่นของคนจากทะเลสุคติระลอกแล้วระลอกเล่ากระแทกใส่ม่านพลังบนท้องฟ้าขณะที่พวกเขายอมเสียสละตนเอง
ใบหน้าที่บาดเจ็บและแตกร้าวนับไม่ถ้วนเหมือนกับชิ้นส่วนที่แตกหักแล้วเอากาวมาทาต่อกลับเข้าด้วยกัน
การสู้รบสลับกับการนอนหลับไปร้อยปีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลาหมื่นปี พร้อมกับประโยคว่า “อีกร้อยปีต่อไป เราจะสู้ร่วมกับเจ้า!”
ร่างถังเทียนสั่นสะท้านเสียงคำรามด้วยความโกรธจากทะเลสุคติก้องอยู่ในหูของเขา ท่าทีไม่พอใจปรากฏบนใบหน้าที่แตกร้าวเจตนาสู้ในร่างของเขาพลุ่งขึ้นมาเหมือนลาวาที่พ่นออกมานอกร่างของเขา
จากแสงที่ฉายมาด้านหลังมีหลายร่างวิ่งตรงเข้ามา ขณะที่กระบี่ส่งเสียงกระหึ่ม ถังเทียนคำราม
“เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตายจะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!”
ภายในหน้าต่างของเรือสินค้า อาซิ่นมีท่าทางสะท้านเฮือกเหมือนกับถูกฟ้าผ่า