ตอนที่ 900 เผชิญหน้ากองพลจู่โจมตระกูลชิว
เมื่อมองดูประตูสำนักใหญ่กองทัพตระกูลชิว ถังเทียนระงับความตื่นเต้นในใจ เขาไม่จำเป็นต้องตื่นตัวใดๆ แต่จิตวิญญาณนักสู้ในตัวเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
‘เชียนฮุ่ย! ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งทรงพลังแล้ว!’
‘เชียนฮุ่ย ข้าต้องการให้เจ้าเห็นความแข็งแกร่งของข้ามาตลอด’
‘เชียนฮุ่ยในที่สุดก็ถึงวันนั้นแล้ว’
เขากำหมัดแน่น เพล้ง เสียงดังคล้ายกับแก้วแตกดังขึ้นถังเทียนเหมือนกับพยัคฆ์หลุดออกจากกรงมีรัศมีครอบคลุมไปทั้งร่าง
ถังเทียนก้มศีรษะช้าๆ หน้าที่สวมหน้ากากของเขาอยู่ในเงามืด มีแต่ตาที่เป็นประกายเจิดจ้าในความมืด
ซี่.. ซี่... ซี่..
แสงหลากสีสันป็นสายล้อมรอบเหมือนกับสายรุ้งเหมือนกับสายฟ้าสีรุ้งรายพันรอบหมัดของเขา
บนเรือสินค้า ตาของเชียนฮุ่ยเบิกกว้าง นางใช้มือปิดปากหน้าของนางปรากฏแววตกใจ
หน้าของเสี่ยวม่านที่มีร่องรอยเยาะเย้ยชะงักค้าง นางโพล่งออกมา “อะไรกันนั่น?”
สีหน้าของอาซิ่นก็เหมือนกัน
แต่คนที่ตกใจมากที่สุดก็คือชิวเทียนชิง เขาไม่รู้ว่าสายฟ้าที่มีสีต่างๆ คืออะไร แต่ความรู้สึกรุนแรงถึงอันตรายจนแทบสำลักคลุมรอบตัวของเขา เขารู้สึกราวกับว่านอนอยู่ใต้มีดกิลโยตินคมมีดที่เย็นเฉียบจ่ออยู่ที่คอของเขาจนผมขนในตัวของเขาลุกชูชัน
เขามีประสบการณ์มาเป็นร้อยศึก มีช่วงเวลานับไม่ถ้วนที่เขาต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และเขาคุ้นเคยกับกลิ่นอายความตาย
‘กลิ่นอายความตายมักจะอบอวล’
เขารู้ว่าความกลัวไม่ช่วยอะไร เขาบังคับตนเองให้สงบ สูดหายใจ จากนั้นคำราม“กางม่านพลัง!”
กองทัพตระกูลชิวตื่นจากอาการตะลึง พวกเขารวมตัวกันทั้งที่ตื่นเต้นและปล่อยกลุ่มรัศมีแสง ม่านพลังบางปรากฏเหนือศีรษะพวกเขาและคลุมไปทั้งที่ทำการกองทัพตระกูลชิว
ไม่ต้องให้ชิวเทียนชิงออกคำสั่ง พวกเขาเพิ่มพลังของม่านพลังงานขึ้นอย่างหนาแน่น นี่แสดงถึงประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของกองทัพตระกูลชิว
ชิวเทียนชิงรู้ว่าพลังป้องกันที่กองทัพตระกูลชิวปล่อยออกมายังอ่อนและไม่น่าจะทนพลังโจมตีทำลายล้างของศัตรูได้
ม่านพลังยังคงเป็นรูปกรวย ทำให้ชิวเทียนชิงถอนหายใจโล่งอก ความไม่สบายใจในใจลดลงเล็กน้อย กองทัพตระกูลชิวขยายพลังงานไปที่ม่านพลังงานอย่างเต็มที่ก็สามารถป้องกันการโจมตีจากเรือรบได้
ความสนใจของเขาไปอยู่ที่ตัวถังเทียนอีกครั้งทำให้เขาเห็นฉากภาพที่น่าประหลาดใจ
หมัดของถังเทียนไม่มีเส้นสายสีรุ้งที่คล้ายกับสายฟ้าอีกต่อไป หมัดของเขาเจิดจ้าเหมือนกับดวงอาทิตย์ พลังงานไหลเวียนเหมือนกับธนูกำลังครอบคลุมมาที่หมัดของเขา แสงเหล่านั้นรวมตัวมาจากทุกตำแหน่งราวกับว่าจับกลิ่นเหยื่อได้ และทะลักตรงมาที่หมัดของถังเทียนอย่างต่อเนื่อง
รัศมีเจิดจ้าทำให้ครึ่งตัวถังเทียนสว่าง ขณะที่อีกข้างหนึ่งมืดราวกับเหวลึก
ชิวเทียนชิงเพิ่งสงบลงจากม่านพลังงาน แต่ความรู้สึกถึงอันตรายยังกลับมาอีก
‘มันหดตัว!’
บอลแสงประหลาดลูกแล้วลูกเล่าปรากฏทำให้ใจของเขาแทบกระดอน ‘ทำไมข้ารู้สึกว่าข้ากำลังเผชิญหน้ากับเรือรบชั้นทอง?
‘พลังส่วนบุคคลจะถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?’
มือของชิวเทียนชิงวซึ่งกำลังวางอยู่บนไม้เท้าของเขากำลังสั่น
“เจ้านายของเราสมกับเป็นเจ้านายเราจริงๆ” ตาของจี๋เจ๋อเป็นประกายชื่นชม เมื่อพวกเขายังคงปรับตัวเข้ากับดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ถังเทียนกลับหาทางบรรลุฝีมือระดับใหม่ได้
ด้วยการเหลือบดูจี๋เจ๋อก็สามารถบอกได้ว่าถังเทียนกำลังใช้หมัดเทพเจ้า
หมัดเทพเจ้าคือกระบวนท่าที่มาจากเกราะเทพเจ้าตื่นรู้ และเป็นบางอย่างที่พวกเขาคุ้นเคยมาก แต่หมัดเทพเจ้าที่ปรากฏออกมานั้นแตกต่างจากแต่ก่อน
กฎธรรมชาติกำลังทำลายคลื่นทะเลพลังงาน แต่ไม่มีใครสามารถรู้สึกถึงความคงอยู่ได้เลย พลังงานปริมาณมหาศาลอย่างน่าประหลาดไม่สามารถถูกบีบอัดได้อีกต่อไป และความผันผวนของมันเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง พลังผันผวนเริ่มอ่อนลงอ่อนลงทุกที แต่ชีพจรหัวใจยังรู้สึกได้กล้าแข็งมากขึ้น
เผียะ กลุ่มพลังงานในหมัดของถังเทียนหยุดเคลื่อนไหวทันทีทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือที่ไม่เห็นบีบหัวใจพวกเขาจนพวกเขาสั่นสะท้าน
ตลอดทั้งกระบวนการรู้สึกถึงความไม่สิ้นสุด ในเมื่อความจริงเป็นเพียงเศษเสี้ยววินาที
แต่เมื่อทุกคนคิดว่าถังเทียนเตรียมจะปล่อยพลังหมัดของเขารอยยิ้มที่ตรวจไม่ได้ปรากฏวูบอยู่ที่หน้าของถังเทียน ไม่มีใครสามารถเห็นได้ หมัดภายในกลุ่มแสงขยายเปิดออกแล้วสายใยกฎธรรมชาติเข้มแข็งมาก และย้อมด้วยสีทองเข้ม ปรากฏอยู่ภายในฝ่ามือของถังเทียน เหมือนกับว่าเขาสวมถุงมือทองที่ทอด้วยด้ายทอง
ตอนแรกกลุ่มแสงหมองลงทันที พลังงานที่ถูกบีบอัดจนถึงระดับสูงสุดไหลเหมือนของเหลวมารวมที่ฝ่ามือของถังเทียนและหุ้มรอบฝ่ามือ
ชิวเทียนชิงเหม่อมองฝ่ามือของถังเทียน เขาไม่เคยเห็นวิทยายุทธที่แปลกประหลาดแบบนั้น แต่ยิ่งเขาดูมาก ความไม่สบายใจในหัวใจของเริ่มกล้าแข็ง
สำหรับขุนพลทหารเมื่อเผชิญกับพลังโจมตีของศัตรูที่ไม่รู้จักเหมือนกับศัตรูยิ่งใหญ่นั้นป็นเรื่องธรรมดา สิ่งเดียวที่ทำให้ชิวเทียนชิงรู้สึกค่อนข้างปลอดภัยก็คือม่านพลังงานหนาแน่น
แม้ว่าพลังโจมตีของศัตรูจะดูแปลกประหลาด แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานช่วงเวลานานขนาดนี้เพียงพอให้ม่านพลังงานของกองทัพตระกูลชิวได้รับการเสริมพลังจนแข็งแกร่งสุดยอด
ไม่ว่าคู่ต่อสู้เตรียมโจมตีอย่างไรก็ตามม่านพลังงานก็ยังแข็งแกร่งมาก และสามารถป้องกันการโจมตีรูปแบบใดก็ได้ นี่คือประสบการณ์ของชิวเทียนชิง จากการรบที่ได้ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยฝ่ามือเรียบที่ขยายของเขา รัศมีแสงที่ปลดปล่อยออกมามีความอ่อนมากเมื่อเทียบกับแสงเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ก่อนนั้น นี่เป็นแสงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กลุ่มของเปลวแสงที่มีก่อนนั้นมีพลังข่มขี่ทำให้ทุกคนทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ลังเลใจ แต่แสงจากฝ่ามือมีเสน่ห์อย่างอธิบายไม่ถูก ดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยไม่รู้ตัว ทุกคนไม่อยากจะเบนสายตาไปจากแสงนั้น
สวยงามน่าทึ่งและน่าสนใจ
ขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจ แสงอ่อนๆที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือที่คล้ายกับรูปสลักหยกได้ฟันลงเบาๆตัดพื้นที่อากาศว่างด้านหน้าของเขาโดยไม่มีสัญญาณหรือประกายให้เห็น
บึ้ม!
แสงรัศมีที่ปล่อยออกมาในกลางอากาศทำให้ม่านพลังสั่นสะท้านและพื้นใต้เท้าของพวกเขาสั่นสะเทือน มีความรู้สึกเหมือนกับมีกลองอยู่ใต้พื้นกำลังถูกตีสนั่น เสียงทุ้มต่ำและน่ากลัวทำให้ทุกคนตกใจขณะที่หูของพวกเขาอื้อ
ไม่มีใครคาดเลยว่าท่าฟันที่นุ่มนวลนั้นจะสร้างผลที่น่ากลัวออกมา
ชิวเทียนชิงร่างสั่นสะท้าน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ตาของเขามีแววตกใจ
‘เป็นไปได้ยังไง?’
ม่านพลังที่กองทัพตระกูลชิวสร้างขึ้นมามีทีท่าว่าจะถูกทำลายเพราะถูกโจมตีแค่ครั้งเดียว
ถังเทียนไม่ยอมแม้แต่จะเหลียวดู เขายกฝ่ามือของเขาอีกครั้งและฟันใส่อากาศอีกครั้ง
บึ้ม!
เสียงทึบต่ำที่ทำให้คนสั่นสะท้านดังอีกครั้ง
“คุมม่านพลังให้มั่นคง!” ชิวเทียนชิงไม่อาจยืนเฉยๆอยู่ได้ เขาคำรามเสียงของเขามีร่องรอยสั่นสะท้านจนแทบไม่อาจตรวจเจอ
ตาของถังเทียนเป็นประกายเยือกเย็น เขาชูสันมืออีกครั้งและฟันออกไปหลายครั้ง
บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
คลื่นเสียงดังเหมือนกลองทุ้มที่ทำให้ทุกคนโงนเงนไปมา ขณะที่แสงรัศมีกระจายเป็นชิ้นๆเหมือนเศษไม้ ทุกคนรู้สึกหนาวยะเยือกอยู่ในที่ของตน ม่านพลังงานที่หนาแน่นสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับลูกโป่งที่อัดลมเข้าไปจะแตกเมื่อใดก็ได้ทุกเมื่อ
ภายใต้หน้ากากที่ปราศจากอารมณ์ใดๆ ไม่มีใครสามารถเห็นสายตาที่เฉยชาของถังเทียนได้
บึ้ม!
เสียงทุ้มแต่ดังสนั่นนี้ทรงพลังยิ่งกว่าเสียงทั้งหมดก่อนหน้านั้นทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน ระลอกพลังงานที่สามารถเห็นได้ในอากาศและเศษชิ้นรัศมีพลังที่แตกกระจายในท้องฟ้าดูเหมือนพายุหมุนที่ทรงพลังกำลังลงมาที่ค่ายกองทัพตระกูลชิว
ประตูใหญ่ของค่ายกองทัพตระกูลชิวกลายเป็นเศษไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยและแตกกระจายไปเพราะพายุดาบ
ทหารรักษาการณ์ที่ยืนอยู่ใกล้เท้าชิวเทียนชิงถูกพัดปลิวเหมือนกระดาษ เขารู้ตัวได้อย่างรวดเร็วรีบกระโดดไปที่ทหารผู้นั้นทันเวลาและลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคงแต่ก็ยังเห็นรอยเลือดที่มุมปากของเขา
ดวงตาของเขาแสดงอาการตื่นตกใจ
‘นี่เป็นไปได้ยังไง?’
‘พลังของคนๆเดียวจะมีมากมายถึงขนาดนี้ได้ยังไง?’
ชิวเทียนชิงรู้ว่าแม้แต่ในสวรรค์วิถีที่ลึกลับที่ซึ่งพวกเขาให้ความสำคัญต่อความแข็งแกร่งส่วนบุคคล นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่สามารถต้านทานทหารได้ อาศัยแค่พลังส่วนตัวจะทำลายม่านพลังเต็มของกองพลตระกูลชิวได้ ก็หมายความว่าพลังโจมตีก่อนนั้นต้องเหนือกว่าพลังเรือรบธรรมดา!
‘คนผู้หนึ่งสามารถแข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้นได้ยังไง?’
‘เขาไม่ได้มาจากกลุ่มอัศวินกวงหมิง!”
ชิวเทียนชิงเคยมีปฏิสัมพันธ์กับอัศวินพิเศษกวงหมิงมาก่อน แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ยังไม่ถึงระดับที่น่ากลัวอย่างนั้น
‘โซเฟีย? หรือว่าจะเป็นโซเฟีย?’
มีเพียงคนเดียวที่อาจจะทรงพลังมากคนเดียวในกลุ่มอัศวินพิเศษกวงหมิง โซเฟีย
แต่ชิวเทียนชิงรู้ว่าไม่ใช่นางแน่ แม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะสวมหน้ากาก แต่ก็สามารถบอกได้จากรูปลักษณ์ที่เห็นว่าเขาเป็นบุรุษ!
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ชิวเทียนชิงคำราม ขณะที่เขาจ้องมองอีกฝ่าย
เขามีความคิดนับไม่ถ้วนอยู่ในใจ เขาไม่เคยได้ยินว่ามีบุรุษผู้ทรงพลังแข็งแกร่งแบบนั้นมาก่อน เนื่องจากบุรุษผู้นี้เหมือนกับคลานออกมาจากศิลา ชิวเทียนชิงรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ยอดฝีมือแบบนั้นจะไม่เป็นที่รู้จัก เขาต้องผ่านการสู้รบโหดร้ายมานับไม่ถ้วนและมีการเติบโตพัฒนา ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังไม่เคยปรากฏขึ้นแบบบังเอิญ
‘หรือว่าเขาคืออาวุธลับจากวิหาร?’
ใจของเขาแข็งยะเยือกทันที
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
คำตอบของถังเทียนไร้อารมณ์ความรู้สึก ท่าเคลื่อนไหวของเขาเปลี่ยนแปลงมาจากกองพลเกราะเทพเจ้า แต่อารมณ์ความรู้สึกของเขาได้รับอิทธิพลมาจากเกราะเทพเจ้าโดยไม่รู้ตัว
เขาก้าวขาและเดินเข้าหากองพลตระกูลชิวอย่างสบายๆ
สันมือขวาฟันใส่อีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีแสงรัศมี ไม่มีเสียงคมมีดฝ่าอากาศ ชิวเทียนชิงสะท้านใจ เขารีบตะโกนทันที “ระวัง!”
ชี่!
สำนักงานกองทัพตระกูลชิวใช้เหล็กดำทำผนัง แต่ผนังเหล่านั้นฉีกขาดได้อย่างง่ายดายและด้านบนหายไปครึ่งหนึ่ง
ทหารสองสามคนที่อยู่ใกล้ผนังไม่ทันตั้งตัวถูกตัดขาดระดับเอว
ชิวเทียนชิงคำรามอีกครั้ง ในที่สุดเขาทิ้งความกลัวและเชิดหน้าตะโกน “วายุใบไม้ร่วงสังหาร!”
ทหารทุกคนคำรามพร้อมกัน แสงรัศมีรอบร่างกายพวกเขาขยายออกพลังงานสีขาวรอบตัวพวกเขายิงขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนกับหิ่งห้อย แสงเหล่านั้นยังคงขยายใหญ่ขึ้นและกล้าแข็งขึ้นและกลายเป็นใบไม้แสงมากมาย
สิงที่ไม่เหมือนใครก็คือแม้ว่าใบไม้แสงจะสร้างขึ้นจากพลังงานรัศมีและไม่มีชีวิต แต่ก็มีร่องรอยของสติปัญญา
สายลมแฝงไปด้วยรังสีฆ่าฟัน และลมนั้นเริ่มพัดรุนแรงทันทีจนใบไม้แสงเริ่มเต้น
กลายเป็นเหมือนกับปลายฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่กระจัดกระจายลอยขึ้นไปในอากาศเช่นกันทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีใบไม้ลอยอยู่นับไม่ถ้วน
ถังเทียนไม่หยุดเดินหน้าและฟันมือต่อไป
ใบไม้ที่ลอยอยู่หลายใบสว่างวาบและหายไป
ทันใดนั้น รังสีดาบปรากฏอยู่ในกลางอากาศต่อหน้าถังเทียนตัวดาบคลุมไปด้วยใบไม้ ตัวดาบนั้นปลดปล่อยแสงรังสีทันทีฉายลงมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าใบไม้ในอากาศได้กัดกร่อนดาบ
ตาของถังเทียนเปล่งประกายแปลกประหลาด