ตอนที่ 900 เจ้ามีความละอายบ้างไหม?
ไม่เพียงแต่จุ้ยมาวอี้เท่านั้น แต่มารเพลิงดำที่หลบซ่อนอยู่ที่นี่มาหลายพันปีก็สับสนเช่นกัน
กุ่ยหยินไฟหายไปเหมือนกับพลุสลาย
เงียบ
โลกนี้ไม่มีใครทำลายความสงบของกุ่ยหยินไฟได้?เป็นแบบนี้ได้ยังไง?
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมารเพลิงดำแหงนมองโดมของโถงและพบว่าสิ่งที่มันรอมานานเป็นเวลาหลายพันปีมันรอให้หญ้าไฟเติบโต แต่ตอนนี้หายไปแล้ว...ทันใดนั้น แรงบันดาลใจหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาน้ำตาตกเขาต้องพบกับความยากลำบาก ก่อนนี้ผู้คนปิดล้อมเพื่อชิงมันให้ได้ ร่างกายของเขาที่ไม่สามารถรักษาได้กลายเป็นร่างองค์ประกอบธาตุเท่านั้นในที่สุดเขาได้พบร่องรอยของสมุนไพรเทพปรากฏอยู่ที่แดนสวรรค์ล่าง แม้ว่าจะมีโชคแต่ในที่สุดมีคู่รักชาวมนุษย์คู่หนึ่งไม่ทราบโผล่มาจากไหนและขโมยเอาไป.....การทำงานหนักหลายพันปีถูกทำลายลงในเวลาไม่นาน
มารเพลิงดำมีความรู้สึกทันทีว่าหัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งกว่าเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ปล้นของรักของเขาไปเสียอีก
ที่สำคัญที่สำคัญเขาต้องใช้เวลาหลายพันปีขุดแร่หยดเพลิงทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบๆหุบเขาเพลิงดำเอามาวางไว้รอบๆ หญ้าวิญญาณเทพอัคคีเพื่อเป็นอาหารให้มันได้เติบโตต้องเสี่ยงอันตรายกระตุ้นแรงระเบิดของกุ่ยหยินไฟอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามในเดือนสุดท้ายมีคนเข้ามาอยู่ภายใต้สายตาของเขาอย่างไม่คาดคิด
เพราะมีเรื่องภายในแต่เก่าก่อนมารเพลิงดำถึงได้เสียใจยิ่งนัก!
อย่างรักครั้งแรกของเขาในปีนั้นเขารู้ว่านางถูกเจ้าตำหนักชิงตัวไป จากนั้นข่มขืนนางจนตั้งท้อง ทำให้นางเป็นแม่ของเด็ก เขาทำร้ายนางจนเสียโฉม กลายเป็นคนอัปลักษณ์ นั่นแหละที่คนอย่างเจ้าจะได้นางไป.....“กรรรรรรร...”
มารเพลิงดำระเบิดความโกรธออกมาทันที
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะเริ่มโจมตีเย่ว์หยาง เด็กหนุ่มหันกลับมาถามมารเพลิงดำอย่างไม่น่าเชื่อ “เจ้าอยู่ที่นี่ใช่หรือเปล่า? เจ้าทิ้งงานของเจ้าได้ยังไงทั้งที่สมุนไพรกำลังเติบโต?ในอนาคตเจ้าก็ยังเป็นเจ้าของที่ไร้ความรับผิดชอบหรือไม่? แม้ว่าหญ้าวิญญาณนี้จะดูดีแต่ก็ไม่ใช่ต้นอ่อนแล้ว เจ้าไม่มีสิทธิ์จะทำเช่นนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะข้ามาพบเจอและขุดขึ้นมา คนอื่นคงทำมันตายไปแล้ว นั่นคงเป็นเรื่องน่าเสียดาย! เรามีน้ำใจช่วยเก็บรวบรวมสมุนไพรให้ เจ้ายังทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม นี่เจ้ารู้จักละอายใจบ้างไหม?”
เมื่อเห็นเย่ว์หยางวิจารณ์ไม่หยุด จุ้ยมาวอี้อดตกใจมิได้
มารเพลิงดำปากอ้าค้างพูดไม่ออก
จนกระทั่งเย่ว์หยางบ่นเสร็จหรืออาจจะหยุดดื่มน้ำ มารเพลิงดำดูเหมือนเพิ่งจะตื่นจากฝันที่หดหู่และย้อนถามมิได้“เจ้าพูดถึงเรื่องหญ้าวิญญาณหรือ?”
เจ้าเด็กนี่คิดว่าหญ้าวิญญาณเทพอัคคีเป็นเหมือนกับหญ้าวิญญาณธรรมดาหรือนี่ นี่.. มองแบบนี้ มันดูถูกกันเกินไปหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ดี....อารมณ์หดหู่ของมารเพลิงดำแต่เดิมหัวใจของเขาเหมือนมีกระแสความร้อนเข้าไหลเวียนอีกครั้ง ใจของเขาสั่นสะท้าน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอนการต่อสู้กับเจ้าเด็กนี่อาจทำลายหญ้าวิญญาณเทพอัคคีได้ แต่ถ้าล่อหลอกเอาหญ้าวิญญาณเทพอัคคีจากเจ้าเด็กนี้ได้บางทีจากนั้นเขาจะเป็นผู้ชนะต่อไปก็ได้
สวรรค์โปรดนี่คือเส้นทางชะตาไร้ที่สิ้นสุดของคนที่จะสร้างตำนานหรือนี่?
ถ้าเขาสามารถหลอกเอาหญ้าวิญญาณเทพอัคคีกลับคืนมาได้บางทีเขาอาจฝึกพลังระดับใหม่ได้สำเร็จเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหกหรือระดับเจ็ดกระทั่งก้าวหน้าไปเป็นปราณฟ้าระดับแปดก็ยังได้ เพราะนั่นคือหญ้าวิญญาณเทพอัคคีเป็นสมุนไพรวิเศษชั้นเทพ!
ถ้าเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับแปด เจ้ามนุษย์กะโหลกราเชลก็เป็นแค่สวะที่เขาสามารถฆ่าได้ทันที ส่วนเจ้าตำหนักเจียวถูก็จะไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาอีก เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะชิงเอาสตรีทั้งหมดของเจียวถูกลับคืน เขาจะข่มขืนสตรีและลูกสาวของเจียวถูและฆ่าให้หมดทุกคนเขาจะให้เจ้าโจรเจียวถูต้องร้องไห้น้ำตาตกเพราะสูญเสียคนที่รักไป
ก่อนนั้นเขาไม่รู้ จึงต้องเสียใจจริงๆ
“อะแฮ่ม,ขอบคุณมากที่เจ้าเก็บไว้ได้ทันเวลา แม้ว่านั่นจะไม่ค่อยสำคัญมากนัก แต่บรรพบุรุษของข้าปลูกหญ้านั่นไว้ทั้งยังมอบหมายให้ข้าดูแลหญ้าวิญญาณนี้ ปู่ข้า บิดาของข้าและข้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เงียบๆ มานานหลายพันปีแล้ว เพราะข้ามีศัตรูบุกมาถึงบ้านข้าไม่ออกไปก็ไม่ได้ คาดไม่ถึงเลยว่าน้องชายเจ้าจะปกป้องต้นหญ้าวิญญาณให้ข้า ข้าขอบคุณเจ้าเป็นอย่างยิ่ง” มารเพลิงดำพยายามข่มความตื่นเต้นและพยายามต้านความรู้สึกอยากอาเจียนจึงรีบฝืนใจอ้างว่าเป็นการปกป้องของตระกูล นั่นเป็นเรื่องน่าขายหน้ามากความจริงแล้วเขาเป็นคนฆ่าปู่และฆ่าพ่อฆ่าพี่น้องเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำที่สำคัญ แน่นอนว่าการพูดไร้สาระนั้นแม้จะคล้ายกันบางอย่าง แต่ไม่ต่างอะไรกับการด่าทอตัวเอง
“ข้ากล้าบอกได้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เก็บหญ้านี้ไว้ในตำแหน่งสำคัญอย่างนั้น แล้วสิ่งนี้จะไม่มีความพิเศษได้ยังไง?” หน้าของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความพอใจเล็กน้อย
“ใช่ ใช่ ใช่แล้ว,นี่เป็นของที่มีความหมายยิ่งนัก เป็นของที่ทำให้ข้าระลึกถึงบรรพบุรุษและพ่อของข้าเมื่อข้าได้พบเห็นแล้วข้าอดนึกถึงคำสอนปู่ข้า พ่อข้าในช่วงวัยเด็กมิได้” มารเพลิงดำตีสีหน้าเหมือนกับว่าเขาเป็นบุตรกตัญญู
“หญ้าวิญญาณไม่มีประโยชน์อะไรกับข้า ข้าสามารถคืนให้เจ้าได้!” เย่ว์หยางแสดงน้ำใจ
“อะแฮ่ม!” จุ้ยมาวอี้เกือบโพล่งออกไปว่าเป็นไปไม่ได้นางไม่เคยได้ยินว่ามีสมบัติวิเศษใดที่ตกมาอยู่ในมือของเขาแล้วจะหลุดมือไปได้แต่เพราะมารเพลิงดำอยู่ข้างหน้า นางตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางลอบถอนหายใจ ถ้าเป็นเสวี่ยอู๋เสียก็คงดี ตัวนางไม่รู้วิธีร่วมประสานงานกับเขา เจ้าเด็กนี่สามารถหลอกอีกฝ่ายหนึ่งได้ได้
“ความจริงถ้าน้องชายผู้นี้คืนหญ้าวิญญาณให้ข้า ข้าจะให้ของตอบแทนน้ำใจ ที่สำคัญคือนั่นคือของที่ระลึกของครอบครัวไม่มีอะไรทนได้!” ถ้าไม่ใช่เพราะร่างของเขาเป็นธาตุไฟมารเพลิงดำอาจจะบีบน้ำตาได้สักสองสามหยด
“จริงๆแล้วข้าไม่มีความคิดต้องการของตอบแทนแต่อย่างใดแม่ข้าสอนเอาไว้ให้เรียนรู้การทำดีจากเหลยฟงเยาวชนตัวอย่างเจ้าคิดว่าชื่อเสียงของข้าในแดนสวรรค์มีแค่เล็กน้อยหรือ? แน่นอนว่าในเมื่อเจ้าต้องการแสดงน้ำใจออกมาข้าเองก็ไม่อาจหักใจปฏิเสธได้ ที่สำคัญก็คือใจของเจ้า ความจริงข้าไม่ต้องการอะไร ตัวอย่างเช่นข้าไม่ต้องการแร่เพลิงดำ ข้ากับเหมียวเหมียวไม่ใช่คนโลภแบบนั้น ยังไม่ต้องพูดก็ได้ต่อให้เจ้าแบ่งแร่เพลิงดำให้เราสักครึ่งหนึ่ง เราก็คงไม่เห็นด้วย นั่นมันมากเกินไป เสียใจด้วย...” เย่ว์หยางทำสีหน้าเหมือนกับครั้งแรก
“ตกลง, จะมีอะไรสำคัญไปกว่าครอบครัว! แร่หยด.. เอ๊ย.. แม้ว่าแร่เพลิงดำจะเป็นของดีแต่ก็ยังไม่ดีเท่าครอบครัวที่สนับสนุนความเชื่อของข้า ข้าตกลงให้แร่เพลิงดำกับเจ้าครึ่งหนึ่ง” มารเพลิงดำเกือบร้องไห้จริงๆ
เป็นคนจากตระกูลโง่เง่าที่ไหนกันนี่!
เทพเจ้าเท่านั้นคงรู้ว่าเจ้าเด็กนี่เข้ามาได้อย่าง ด้วยความอ่อนต่อโลกและโง่เขลาของเขา เขายังเอาชีวิตรอดในแดนสวรรค์ได้นั่นนับว่ามหัศจรรย์แล้ว
บางทีอาจเป็นเพราะเขามีคู่รักคอยคุ้มกันให้ คนของตระกูลที่โง่เขลาส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ชอบเสนอหน้าตัวเองเพื่อชีวิต...ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาคงรีบเข้าไปขุดแร่แล้วมีแร่หยดเพลิงมากมายในภูเขาแต่นั่นยังไม่ดีเทียบเท่ากับหญ้าวิญญาณเทพอัคคีใบหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะคนโง่ที่สุดในโลกไม่มีปัญญาจะทำอะไรคนฉลาดได้
เมื่อเห็นมารเพลิงดำรับปากตกลงเย่ว์หยางปรบมืออย่างตื่นเต้น จากนั้นเขาหันกลับไปคุยกับจุ้ยมาวอี้ “เหมียวเหมียว!ข้าบอกแล้วว่าเขาจะต้องเห็นด้วย ข้ารู้สึกว่าเขามีเหตุผล แล้วเจ้ายังจะรออะไร รีบไปหาแร่เถอะ มีแร่เพลิงดำมากมาย เราเอาไปให้เจ้าซิมบา และสร้างอานขับขี่ได้!”
ตอนนี้จุ้ยมาวอี้ไม่กล้าเอ่ยปากในตอนนี้ นางกลัวว่าเมื่อเอ่ยปากพูดนางจะเปิดเผยความจริง
นางรีบหันไปโดยเร็ว
ไม่มีเวลาเปลี่ยนเครื่องมือขุดแร่นางยกทวนทองฆ่ามังกรชี้ไปที่หินย้อยที่มีแร่หยดเพลิงขนาดใหญ่
มารเพลิงดำเมื่อเห็นการขุดแร่แบบมือสมัครเล่นของนางเขามีความคิดประหลาด แต่โยนทิ้งไปทันที เป็นคู่รักโง่ๆ คู่หนึ่ง!
ตราบใดที่เจ้าเด็กนี่คืนหญ้าวิญญาณเทพอัคคีให้ เขาจะถลกหนังและเลาะกระดูกของเจ้าเด็กนี่ออกมาทอด สำหรับสตรีผู้คุ้มกัน นางนับว่าไม่เลวแต่บังอาจสู้ตอบโต้เขา เขาจะต้องให้นางได้รับประสบการณ์พิเศษ หึหึ... “เอาเลย,ขุดต่อไปได้เลย เราจะไม่เอามากเกินไป แค่ที่เดียวเท่านั้น” เย่ว์หยางเหมือนกับบุรุษหนุ่มเจ้าสำราญกางมือกางเท้ารอให้คนสวมชุดให้สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ได้พูดถึงหญ้าวิญญาณอีก แต่ปล่อยให้จุ้ยมาวอี้รีบไปขุดแร่ มารเพลิงดำยังใจเย็นเชื่อว่าเด็กหนุ่มนี้เป็นคุณชายที่มีความฉลาดอยู่บ้าง หรือมารเพลิงดำมั่นใจมากเด็กคนนี้จะเอาหญ้าวิญญาณเทพอัคคีออกมาคืนให้เขาเอง เพราะเขาพบว่าฝ่ายตรงข้ามเหมือนกับมีความกังวลเล็กน้อย มีหลายครั้งที่เขาเหมือนกับจะดึงหญ้าวิญญาณเทพอัคคีออกมาจากแหวนเก็บของ และดูเหมือนจะกังวลบางครั้งก็เหมือนกับจะเร่งให้ผู้คุ้มกันสตรีรีบขุดแร่ “ข้าขอบอกน้องชายอย่างหนึ่ง เจ้าไม่ต้องลำบากนักก็ได้ เพราะหลายพันปีที่รอคอย แร่หยด..เอ๊ย.. แร่เพลิงดำมีเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจขอบคุณเจ้า ข้าตัดสินใจมอบส่วนที่ข้าเก็บสะสมเอาไว้ให้เจ้านอกจากนี้ยังมีหนึ่งในของหายากรวมอยู่ในนี้ด้วย นั่นคือมุกพยัคฆ์ขาว แม้ว่าระดับจะไม่สูงล้ำมากนักแต่สำหรับสิงโตซิมบาของเจ้า สิ่งนี้จะช่วยเจ้าได้แน่นอน เจ้ารู้ไหมนี่คือขุมทรัพย์ของแดนสวรรค์ล่าง มารเพลิงดำต้องการรับของวิเศษที่ดีกว่าแต่คิดว่าเจ้าเด็กนี่เป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่เขาพบเห็นมามากแล้ว ความจริงสมบัตินี้ในแดนสวรรค์ล่าง นับว่าหาได้ยาก
“งดงามมาก!” เย่ว์หยางมองดูมุกพยัคฆ์ขาวตาของเขาโตเหมือนกับเด็กที่เห็นลูกอมที่ชอบแล้วเกิดอาการน้ำลายไหล
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขุดแร่มันมีปัญหามากเกินไป นอกจากนี้แร่เพลิงดำกองนี้และมุกพยัคฆ์ขาว ข้ายังจะบอกเจ้าถึงสถานที่ตั้งสมบัติคือจุดที่สมบัติถูกฝังไว้ แต่มีอันตรายมากดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเข้าไปสำรวจ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องอาย เจ้าก็เหมือนน้องชายข้า!”มารเพลิงดำเห็นว่าเจ้าเด็กนี่กำลังเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่กังวลตระกูลผู้มีการศึกษาน่ารำคาญจริงๆ จะบอกว่าเป็นคนโลภ ก็ไม่เชิง เขาต้องแสดงตัวว่าเป็นคนดี
“ข้าละอายใจจริงแต่ในเมื่อท่านยอมลำบากและมีความจริงใจ ข้าแม้ไม่เต็มใจก็จะขอรับไว้...เย่ว์หยางร้องเรียกจุ้ยมาวอี้ให้หยุดขุดแร่
“.....” มารเพลิงดำแทบจะรอฆ่าเจ้าเด็กนี่ไม่ไหว
“ข้าไม่ต้องการไปที่ขุดสมบัติแล้วท่านแม่บอกว่ามันอันตรายเกินไป แต่ได้ฟังความลับไว้ก็ดีเหมือนกัน” เย่ว์หยางบอกว่าเขาเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังโอวาทมารดา
มารเพลิงดำลอบดูหมิ่นคนผู้นี้
เขาต้องบอกตัวเองว่าเขากลัวว่าเจ้าเด็กนี่จะตายไปเสียก่อน
แม้ว่ามารเพลิงดำตั้งใจว่าเขาจะทรมานเจ้าเด็กนี่สักครู่หนึ่งก่อน แต่นี่เขาไม่ได้ขัดขวางเขาไม่ให้พูดถึงสมบัติในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นข้อมูลแหล่งสมบัติใหญ่ที่สุดที่เขาได้รับมาเพื่อหาทางแก้แค้นเจ้าตำหนักเจียวถูผู้ฉลาด
เย่ว์หยางพยักหน้าและยิ้ม
หลังจากได้รับมุกพยัคฆ์ขาวและแร่กองใหญ่ เขาหันไปดึงหญ้าวิญญาณเทพอัคคีออกมาถือตามปกติ
มารเพลิงดำแทบจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองแต่อย่างใด มันง่ายที่จะทำลายหญ้าวิญญาณเทพอัคคี ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าการแย่งชิงจะทำให้ของเสียหาย อย่างนั้นเจ้าเด็กนี่สมควรตาย
เพื่อให้เจ้าเด็กนี้มั่นใจมารเพลิงดำขอโทษจุ้ยมาวอี้ทันทีและยกย่องฝีมือทวนของนางราชสีห์เพลิงทองซิมบาก็ทำหน้าที่ของมันอย่างดีเช่นกัน เขามอบสร้อยมุกให้จุ้ยมาวอี้เป็นการขอโทษ
จุ้ยมาวอี้ไม่รับ
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางยื่นออกไปรับก่อนที่จะส่งหญ้าวิญญาณเจ้าอัคคีให้กับมือของมารเพลิงดำ จู่ๆ เขาถามขึ้น“เอ๋..เมื่อครู่นี้เป็นบัวอัคคีหรือเปล่า? จู่ๆ หายไปได้อย่างไร?”
“บัวอัคคี?” มารเพลิงดำคิดว่าเขาตาฝาด แต่หญ้าวิญญาณเทพอัคคีอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว เป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จัดการกับเขา “ใช่แล้ว เจ้าพูดถูก เพราะหญ้านี้หายไปข้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าปกป้องอยู่หญ้าวิญญาณนี่ เมื่อข้าพูดถึงปู่ข้า พ่อข้า น้ำตาข้าจะไหล!”
“ก็ได้, ในเมื่อท่านน่าเห็นใจอย่างนี้ หญ้าวิญญาณข้าคืนให้ท่าน!” เย่ว์หยางส่งสมุนไพรในมือให้มารเพลิงดำ
มารเพลิงดำตอนแรกดีใจกระตือรือร้น
เขาตื่นเต้นหัวใจพองโตแทบระเบิด
อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมาเมื่อเขาสังเกตสมุนไพรในมือตนเองเขาเตรียมจะเก็บเข้าไปในกำไลเก็บสมบัติและลงมือฆ่าคน เขาพบว่ามือตนเองมีกลุ่มพลังงานเปลี่ยนแปลงบางอย่าง นั่นเป็นหญ้าวิญญาณของจริง...
มันเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?
เมื่อครู่นี้ยังเป็นหญ้าวิญญาณเทพอัคคีแท้ๆแล้วจู่ๆ กลายเป็นหญ้าวิญญาณได้อย่างไร?
เขานิ่งอึ้งอยู่สามวินาทีและเข้าใจได้ในที่สุดเขาโกรธจัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและโยนหญ้าวิญญาณในมือทิ้งลงพื้นและตวาดลั่นใส่เย่ว์หยาง “เจ้าเด็กน้อย กล้าลองดีกับข้าหรือ?”
เย่ว์หยางทำสีหน้าซื่อบริสุทธิ์ “เจ้าต้องการหญ้าวิญญาณไม่ใช่หรือ?เจ้าบอกว่าบรรพบุรุษของเจ้าปลูกกับมือตกทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว นี่ไม่ใช่หญ้าวิญญาณหรือไง แม่ข้าบอกว่าข้าสายตาไม่ค่อยดีใครจะรู้ว่าเจ้าสายตาแย่กว่าข้าเสียอีก เจ้าคงไม่คิดว่าหญ้าวิญญาณที่บรรพบุรุษของเจ้าปลูกจะกลายเป็นหญ้าวิญญาณเทพอัคคีหรอกนะ?”
จุ้ยมาวอี้ได้ยินเช่นนี้นางแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
มีเสียงหัวเราะลอดออกมา
“เจ้าบังอาจลองดีข้าหรือ? ข้าจะฆ่าเจ้า!” มารเพลิงดำไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ต่อให้เจียวถูชิงคนรักแรกของเขาไปหรือเมื่อบิดาของเขาประกาศว่าพี่ชายของเขาจะได้รับตำแหน่งเจ้าแคว้น เขาก็ยังไม่เคยโกรธขนาดนั้น ตายซะเถอะเจ้าเด็กมนุษย์ผู้ขโมยหญ้าวิญญาณเทพอัคคีไม่เพียงแต่เป็นขโมยเท่านั้นแต่บังอาจหลอกลวงเขา ถ้าเขาไม่ฆ่าเจ้าเด็กนี่ เขาคงไม่สามารถระบายความเกลียดชังในใจนี้ออกไปได้เลย!
“ความจริงข้าไม่ได้สนใจแผ่นดินแห่งสมบัติเท่านั้นนะ แต่ยังชอบผลึกวิญญาณเพลิงดำปราณฟ้าระดับหกอีกด้วย” เย่ว์หยางยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย“ในเมื่อเจ้าเห็นด้วยว่าจะยกให้ข้า อย่างนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว”
“เขายอมตกลงให้แล้วหรือ?” จุ้ยมาวอี้นึกว่าได้ยินผิดนางอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“เมื่อครู่นี้ข้าถามในใจไปแล้ว แต่เขานิ่งโดยดุษฎี ดังนั้นนั่นจึงเป็นการอนุมัติคำขอโดยปริยาย..” เย่ว์หยางตอบ
“เฮ้, เจ้าหน้าด้านเกินไปหรือ?” จุ้ยมาวอี้รู้สึกสงสารมารเพลิงดำที่ตอนนี้โกรธจนแทบกระอักเลือด พบกับศัตรูที่ไม่ธรรมดาอย่างเย่ว์หยางต้องบอกว่าเป็นโศกนาฏกรรม!
…………,