ตอนที่ 899 นี่..เป็นเรื่องเข้าใจผิด?
สมบัติระดับเทพหมายความว่ายังไง?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกยาหรือสมุนไพร ถ้าตัดสินได้ว่าเป็นของระดับเทพแสดงว่าเป็นสมบัติที่เกินจินตนาการ!
“เจ้าคอยเฝ้าดูอยู่ตรงนั้นและอย่าเพิ่งกวนใจข้าสักครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ต้องระวังอย่าให้ใครใช้พลังโจมตีกุ่ยหยินไฟมิฉะนั้นเมื่อความเงียบสงบถูกทำลายมันจะเริ่มอัดระเบิดพลังความร้อนและทั่วทุกที่จะกลายเป็นนรกทันที!” เย่ว์หยางชำเลืองมองจุ้ยมาวอี้
“มั่นใจได้ข้าจะไม่ยอมให้ใครผ่านสระสายฟ้าได้แม้แต่ก้าวเดียว” จุ้ยมาวอี้รู้สึกว่าเลือดนางกำลังเดือด
นางไม่รู้ว่าราเชลกับเซี่ยหยาเผชิญหน้ากับมารเพลิงดำมานานเท่าใดแล้ว แต่นางคาดว่าคงยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ถ้าซิมบาไม่สามารถต้านทานอยู่ข้างนอกได้เป็นไปได้ว่ามารเพลิงดำอาจกลับมาได้ทุกเมื่อ เย่ว์หยางต้องการทุ่มเทพลังเก็บหญ้าวิญญาณเทพอัคคีและเมื่อบนพื้นแตกทำลาย อาจเกิดการเสียสมดุลและมีพลังระเบิดที่น่ากลัวตามมา
จำเป็นต้องจัดการศัตรูเสียก่อน มิฉะนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นหายนะ
จุ้ยมาวอี้บังคับไม่ให้ใจเต้นแรงนางกำหมัดแน่น สูดหายใจลึก
นางพยายามสงบจิตใจร่างของนางสั่นเล็กน้อย “....ไม่ต้องกังวล ก็แค่ทุ่มเทพลังต่อสู้เต็มร้อยคุ้มกันเขา ก่อนที่เขาจะเอาหญ้าวิญญาณเทพอัคคีออกมาได้ ไม่ว่ายังไงก็ตามนางจะไม่ยอมให้ใครผ่านเข้าไปเด็ดขาด
นางค่อยๆ ดึงทวนทองฆ่ามังกรที่เย่ว์หยางมอบให้นางจากนั้นหลับตากลั้นลมหายใจ ส่งความรู้สึกสำรวจรอบๆ ตัวนาง
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีและหนึ่งวินาที
ในใจของจุ้ยมาวอี้ทุกวินาทีนานเหมือนเป็นปี
คุ้มกันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงช่างยาวนานนักราเชลและเซี่ยหยาจะไม่สามารถต้านทานมารเพลิงดำได้นานนัก สำหรับมารเพลิงดำเขาให้ความสนใจหญ้าวิญญาณเทพอัคคี เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่กลับมาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเขาพบว่าเย่ว์หยางได้สมบัติไปเขาจะต้องสู้ตายเพราะความสิ้นหวัง แม้ว่าในท่ามกลางความสิ้นหวัง มารเพลิงดำอาจโจมตีใส่กุ่ยหยินไฟเพื่อให้มันระเบิดพลังสังหารออกมาฆ่าเขากับศัตรูให้ตกตายตามกัน
ถ้านางแข็งแกร่งพอ ถ้าตอนนี้นางมีพลังระดับปราณราชันย์... “มั่นใจไว้เจ้าต้องทำให้ได้”
จุ้ยมาวอี้กัดริมฝีปากเบาๆนางให้กำลังใจตัวเอง นางกลัวตนเองจะกังวลจนเป็นคนวิตกจริต
นางหายใจลึกๆ ช้าลงเท่าที่เป็นไปได้แผ่ความรู้สึกตรวจสอบออกไปรอบทิศ
ตรวจสอบระวังทั้งสี่ทิศ
เผียะ เผียะ
เนื่องจากมีเพลิงลุกไหม้เป็นครั้งคราวจะมีกรวดติดไฟร่วมลงพื้นเป็นครั้งคราว
จุ้ยมาวอี้ตกใจสะดุ้งแต่โชคดีที่ไม่มีก้อนใดร่วงหล่นใกล้กุ่ยหยินไฟ
นางรีบสำรวมใจสงบจิตใจอย่างยากลำบาก แต่แม้จะหลับตาแล้วก็ยังยากจะข่มความคิดให้สงบได้ง่าย“ข้าแต่บรรพบุรุษตระกูลหมื่นบุปผาโปรดอวยพรให้การล่าสมบัติครั้งนี้ผ่านไปได้อย่างปลอดภัยด้วยเถิด ถ้าสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ผู้เยาว์จะปลดเปลื้องความกังวลวิตกทั้งปวงร่วมฝึกพลังคู่รักกับเขา”
ครืนนน บึ้มมม!
ในพื้นที่ห่างไกลออกไปดูเหมือนจะมีคลื่นเสียงสั่นสะเทือน
จุ้ยมาวอี้รีบสำรวมใจตั้งสมาธิใช้ทวนทองยิงพลังป่นศิลาจนเป็นผุยผง อากาศหมุนเวียนกลายเป็นพายุหมุนร้อนไม่ยอมให้กุ่ยหยินไฟถูกรบกวน
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากและมีพลังต้านทานที่ไม่เพียงพอ เหมือนกับเดินอยู่บนสะพานมรณะอาจพลิกตกลงไปเมื่อใดก็ได้
สู้ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
จุ้ยมาวอี้เหงื่อตกใบหน้านางแสดงอาการเหนื่อยล้าราวกับคนไม่ได้นอนมาสามวันสามคืน
“ผ่อนคลายไว้ ไม่ต้องกังวล” ความคิดของเย่ว์หยางเตือนผ่านเข้ามาในใจของนาง จุ้ยมาวอี้รู้ว่าเขาเตือนตัวนางและเห็นว่าจิตใจนางตึงเครียดทันใดนั้นจิตใจนางผ่อนคลายและคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง ในการชักนำกายและใจให้คล้อยตามใจของนางเข้าสู่สภาวะตื่นตัวอย่างไม่เคยมีมาก่อน ความรู้สึกนี้คล้ายเมื่อตอนอยู่ที่โลกพฤกษาหลังจากนั้นมานางไม่เคยทำได้อย่างนั้นมาก่อน แต่พอชีวิตอยู่ในห้วงคับขันนางกลับทำได้อีกครั้ง
“ฮ่าห์...............”
พร้อมกับการผ่อนหายใจยาวจุ้ยมาวอี้สามารถรู้สึกได้ว่านางเริ่มจะมั่นคง
ขอบเขตพลังกำลังขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพลังที่ฝึกฝนมาแต่เดิมขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนหนึ่งไหลออกมานอกร่างกายเป็นพลังให้กับกำไลแปลงพลังธาตุเข้าสู่ทวนทองฆ่ามังกร
ถ้านางไม่ต้องคอยปกป้องเย่ว์หยาง
อย่างนั้นนางยินดีจะดื่มด่ำการขยายขอบเขตพลังของนางสักเก้าคืนสิบวัน
มีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยปรากฏที่โพรงถ้ำด้านบนศัตรูกำลังเข้ามา
ศัตรูไม่ได้เข้ามาทันทีแต่พยายามครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับจะเล่นซ่อนหาบางครั้งผ่านเข้ามาได้ครึ่งหนึ่งก็เผ่นออกไปข้างนอก
หรือจะเป็นมารเพลิงดำ?
เขาเอาชนะราเชลกับเซี่ยหยาหรือ?
เพราะในใจของนางมีความคิดจึงไม่สามารถรักษาสภาวะสมาธิให้เป็นหนึ่งได้ จุ้ยมาวอี้พยายามรวบรวมพลังอีกครั้ง เพราะอารมณ์เปลี่ยนไปจึงเป็นเรื่องน่าตกใจเล็กน้อย
“กรรรร!”
แม้ไม่ต้องใช้ตาแต่สาวขี้ก็สามารถเห็นมารเพลิงดำได้จากสัมผัสถึงความรู้สึกที่กำลังรี่เข้ามาอย่างบ้าคลั่งต้องหยุดเขาไว้ที่โพรงให้ทันเวลาบางทีอาจใช้เวลาไม่ถึงนาทีถ้าปล่อยให้เขาเข้ามาอาจจะทำอันตรายแก่เย่ว์หยางจนยากจะกอบกู้ ถ้ามารเพลิงดำใช้พลังงานรบกวนกุ่ยหยินไฟอย่างนั้นนางกับเขาอาจได้รับบาดเจ็บหนัก!
ฆ่า!
จุ้ยมาวอี้ไม่มีเวลาลืมตานางยกทวนทองฆ่ามังกรที่ยังคงอยู่ในสภาพพลังระดับใหม่และพลังไม่ลดลงนางผสานใจเข้ากับอาวุธยิงพลังออกจากปลายหอกตั้งใจสังหารศัตรู
ไม่มีการตั้งท่าป้องกันใดๆ ทั้งนั้น
ยิงพลังออกไปข้างหน้าโดยตรง!
มารเพลิงดำมีพลังปราณฟ้าระดับห้าชั้นสูงพบเจอได้ทันทีว่าพลังทวนฆ่ามังกรทะลวงเกราะเพลิงของเขาได้ง่ายราวกับทะลวงไข่ เขามองดูพลังทวนแทงทะลุหัวใจด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ มารเพลิงดำโกรธ นี่คือความอัปยศ แม้ว่าเขาจะมีร่างองค์ประกอบธาตุที่บริสุทธิ์แต่นี่นับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายที่ปล่อยให้ศัตรูแทงทะลุหัวใจได้
เขายิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อปล่อยให้ศัตรูบุกเข้ามาถึงรังโดยที่เขาไม่รู้ขณะที่เขาสู้กับศัตรูสองคนอย่างราเชลและเซี่ยหยา
“ไสหัวไป!”
มารเพลิงดำจับอาวุธที่ยิงพลังออกมาและพยายามเผาฝ่ายตรงข้ามทั้งเป็น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คืออาวุธยาวนั้นเป็นเพียงทวนทองแต่ยิงพลังออกมาได้เท่ากับสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์เป็นพลังที่เขาไม่เข้าใจยิงออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า!
ไป
จุ้ยมาวอี้ใช้ทวนยิงพลังใส่มารเพลิงดำต่อเนื่อง
กรงเล็บคู่ของมารเพลิงดำฉีกผนังเป็นทาง
สร้างรอยกรีดลึกสองสามรอย แต่มันไม่สามารถหยุดยั้งพลังยิงของนางได้...ในพริบตาจุ้ยมาวอี้ยิงพลังทวนกดดันเขาจนถอยห่างไปถึงหนึ่งกิโลเมตร เมื่อเห็นว่าไม่สามารถป้องกันได้มารเพลิงดำคำรามพร้อมกับพ่นไฟ ตวัดกรงเล็บเพลิงใส่ที่ศีรษะและคอของจุ้ยมาวอี้ตั้งใจว่าจะฆ่านางในทันที “นังแม่มด! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ซิมบาที่ร่างมีบาดแผลปรากฏตัวด้านหลังมารเพลิงดำ
มันร่วมมือกับเจ้านาย
รุกโจมตีขนาบหน้าและหลัง
มันตะปบกรงเล็บแหลมคมใส่ศีรษะของมารเพลิงดำ
“กลับกลายเป็นว่าเจ้าแมวเหม็นตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้านี่เอง!” มารเพลิงดำเข้าใจทำไมถึงมีราชสีห์เพลิงทองอสูรปราณฟ้าระดับสามลอบทำร้ายเขาหลังจากขับไล่ราเชลและเซี่ยหยาหนีไป นางคือเจ้านายของมัน
ศีรษะที่แตกกระจายของมารเพลิงดำกลายเป็นลาวาร้อนแรง เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บและแค่นเสียงเย็นชา “เจ้าคิดหรือว่าเพียงแค่นี้จะฆ่าข้าได้? อ่อนต่อโลกเกินไปแล้ว ข้ากลั่นตัวจนเป็นอาวุธธาตุบริสุทธิ์แล้ว พลังโจมตีทื่อๆ อย่างนั้นทำอะไรข้าไม่ได้! หมดเวลาทดสอบแล้ว เจ้าเตรียมตัวตายได้!”
จุ้ยมาวอี้กระหน่ำหมัดใส่เขา
มารเพลิงดำใช้กรงเล็บจับไว้ได้อย่างง่ายดาย และใช้มืออีกข้างถอนทวนทองที่หน้าอกปัดออกไปกระแทกใส่ผนังข้างทาง
อกของเขามีรูขนาดใหญ่แม็กมาสีดำแดงไหลเข้ามาอุดช่องว่าง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายแต่อย่างใด
นักสู้แดนสวรรค์ต่างจากมนุษย์หัวใจไม่ใช่จุดตาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างที่เป็นธาตุบริสุทธิ์จะขับไล่พลังธาตุชนิดอื่น
ดังนั้นพลังโจมตีจึงไม่ได้ผล
“เจ้ามนุษย์น้อยข้าจะบดขยี้หมัดของเจ้าก่อน!” มารเพลิงดำไม่สนใจซิมบาที่โจมตีด้านหลังเขา มันเป็นอสูรธาตุไฟเขารู้สึกว่าการสู้กับซิมบาแทบไม่มีความหมายเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะซิมบาและฆ่ามัน นั่นอาจต้องใช้เวลาสองวันสามคืนจึงจะทำได้สำเร็จ แต่สตรีข้างหน้ามันแตกต่างออกไปนางดูเปราะบางอ่อนแอ แค่ตบเบาๆ ก็ฆ่านางได้ทันที!
“โง่จริงๆ” ใบหน้าที่เคร่งเครียดของจุ้ยมาวอี้เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายทันที“เจ้าจำความรู้สึกถูกแช่แข็งได้ไหม?”
“อะไรนะ, อะไร?”
มารเพลิงดำตะลึงในตอนแรกและจากนั้นเขาถึงกับหวาดกลัวเมื่อพบว่าแขนของเขาเริ่มถูกแช่แข็ง
เมื่อเขาจ้องมองก็เห็นได้อย่างชัดเจนเขาเห็นกำไลแปลงพลังธาตุในข้อมือฝ่ายตรงข้ามได้ทันทีนั่นคือหายนะของนักรบและอสูรพลังธาตุในแดนสวรรค์
ซิมบากัดหางของมารเพลิงดำและพยายามลากเขาออกจากโพรงถ้ำ
มารเพลิงดำตกใจกลัวและตระหนักได้ว่าตรงหน้าอกที่ถูกแทงนั้นไม่ได้เป็นแม็กมาต่อไปแต่กลายเป็นไอน้ำ นั่นเกิดจากการปะทะกันระหว่างน้ำแข็งและร่างของเขาที่มีอุณหภูมิสูง หลังจากเปลี่ยนองค์ประกอบธาตุในร่างกาย ที่หน้าอกเหลือแต่รอยแตกร้าวถาวรและเป็นแตกที่แข็ง มารเพลิงดำแทบจะไม่ลังเลเลยเขาเร่งพลังไฟสร้างเป็นเคียวเพลิง
เขาไม่สามารถใช้มือที่ถูกแช่แข็งได้ ได้แต่ใช้อีกข้างคว้าอาวุธคู่มือฟันออกไปด้านข้าง
มารเพลิงดำหลบทวนที่จุ้ยมาวอี้แทงเป็นครั้งที่สองขณะที่ร่างเย็นลงเรื่อยๆเหลือแต่ขาข้างขวา เขาเปลี่ยนร่างเป็นดาวตกเพลิงพุ่งลงไปในโพรงข้างล่าง
จุ้ยมาวอี้ร้อนรนขณะที่เย่ว์หยางที่ข้างล่างกำลังเก็บหญ้าวิญญาณเทพอัคคี ถ้านางปล่อยให้เจ้าผู้นี้ลงไปถึงข้างล่างเขาคงถูกพบเจอเป็นแน่
ขณะที่ไล่ตามนั้นเองนางเห็นมารเพลิงดำแยกร่างออกเป็นสอง
มารเพลิงดำแยกร่างร่างหนึ่งพุ่งไปชนกระแทกพื้นที่มีกุ่ยหยินไฟ แต่ร่างของเขาหยุดทันที และทวนทองฆ่ามังกรของจุ้ยมาวอี้ปะทะกับกรงเล็บของเขา “ข้าไม่ปฏิเสธว่าเจ้าเตรียมตัวมาดี แต่ในพื้นที่นี้ ข้าไม่เคยพลาดข้าเกรงว่าพลังไฟที่เหลือหนึ่งในสิบตอนนี้ ขอเพียงมีผลึกวิญญาณเพลิงดำนั่นก็เพียงพอต้านทานพลังระเบิดของกุ่ยหยินไฟได้เจ้ามนุษย์น้อย เจ้าจะกลายเป็นขี้เถ้าเพราะแรงระเบิดของกุ่ยหยินไฟแน่! ฮ่าฮ่าฮ่า ลาก่อน!”
“ไม่!” จุ้ยมาวอี้ร้องอย่างผิดหวัง เมื่อกลุ่มเพลิงพุ่งเข้าโจมตีพื้น นางไม่คิดถึงตัวเอง คิดถึงแต่เย่ว์หยางถ้าไม่ใช่เพราะพลังของนางเอง ไม่.. มารเพลิงดำไม่มีทางทำพลาดแน่นอน
นางพุ่งผ่านกรงเล็บเพลิงของมารเพลิงดำเกิดบาดแผลทางยาวที่หลังของนาง
โลหิตฉีดพุ่ง
แต่นางไม่สนใจ!
ตอนนี้นางมีความปรารถนาอย่างเดียวคือไปอยู่ด้านหน้าของเย่ว์หยางก่อนกุ่ยหยินไฟระเบิดพลัง
นางสามารถตายได้ แต่เขาไม่อาจตายได้! นี่ไม่เพียงแต่เพราะเขาคือความหวังของหอทงเทียน แต่ยังเพื่อปกป้องความรักในใจนางต่อให้ไม่พูดจากปาก แต่ความรักยังคงอยู่ นางมั่นใจแน่นอน
ไม่จำเป็นต้องพูดว่ารักออกมาปากนางไม่ยอมรับนางต้องไปขวางหน้าเขาไว้ แม้ว่านางจะไม่สามารถต้านทานได้แต่นางจะขอตายพร้อมกับเขา!
ความเร็วของนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จุ้ยมาวอี้เช็ดน้ำตาและพุ่งไปตามทางผ่าน
นางไม่ให้ความสนใจแรงระเบิดเพลิงดำของกุ่ยหยินไฟนางกางแขนเปิดหัวใจ ต่อให้นางตาย นางจะอยู่กับเขา!
ในวินาทีสุดท้ายหัวใจที่อ้างว้างของนางละทิ้งความถือดี ความอายและเรื่องกวนใจทั้งหมดเหลือแต่ความปรารถนาบริสุทธิ์ประการเดียว อยู่กับเขาตลอดไปไม่ว่าจะเหลือแต่เถ้าถ่านหรืออะไรก็ตาม จะไม่มีทางพรากจากกัน....
“โอ๊ย..จมูกข้า!” เย่ว์หยางปล่อยให้จุ้ยมาวอี้วิ่งชนและแรงกระแทกนั้นทำให้เขาถอยไปเป็นร้อยเมตร บันไดหินพังไปสองขั้นร่างทั้งสองกระแทกเข้าไปในผนังหิน เขาคลำจมูกและบ่นใส่จุ้ยมาวอี้“เหมียวเหมียว เจ้าจะทำอะไร?”
“ข้า..” จุ้ยมาวอี้พบว่าสมองนางว่างเปล่าไม่มีอะไร นางไม่เคยคิดว่านางจะกระโดดกอดเย่ว์หยางไว้กับอกนาง
เอ๋...นี่เป็นการเข้าใจผิดหรือ กุ่ยหยินไฟไม่ได้ระเบิดหรอกหรือ?
นี่เป็นวินาทีสุดท้ายที่จะตายไม่ใช่หรือ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่!!