ตอนที่แล้วบทที่ 224 ความน่ารักของนักพรตอวี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 226 ของขวัญจากอวี้ชิงหลัน

(ฟรี) บทที่ 225 ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ก็แค่เข้าร่วม!


เทือกเขาอู๋เซียง

หลิวซุนฮวนนั่งบนเก้าอี้ สีหน้าของเขาน่าเกลียดมาก

“อวี้ชิงหลันรังแกกันเกินไปจริงๆ!”

แม้ว่าคนกระทำผิดล้วนตกตายหมดแล้ว แต่นางยังต้องการให้เขา‘อธิบาย’กับหลี่หราน

เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเม็ดยาและสมบัติวิญญาณเหล่านั้น... อืมม มันก็เจ็บปวดเล็กน้อยจริงๆนั่นแหละ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัดขุนเขาวารี

แม้ว่าพลังของมันจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่มันก็เป็นของดี

เมื่อก่อนตอนที่เขาสวมชุดคลุมสีขาวและถือพัดนั้น จำนวนสาวๆที่มาติดพันเขานับได้ด้วยมือที่ไหนกัน?

แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงมอบมันไปอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อพิจารณาจากทัศนคติของอวี้ชิงหลัน ถ้าเขาไม่นำสิ่งดีๆออกมานางจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน

“ความสัมพันธ์ของนางกับหลี่หรานคืออะไรกันแน่?” หลิวซุนฮวนลูบคางและจมอยู่ในความคิดลึกๆ

หลินหลางเยว่และหลี่หรานเป็นศัตรูกัน และอวี้ชิงหลันกับเหลิงอู่เหยียนก็ไม่ถูกกันอย่างแน่นอน

ขอบเขตกำเนิดจิตวิญญาณอย่างหลี่หรานได้รับเชิญให้ไปที่เทือกเขาหยุนเฟิง ซึ่งแม้แต่เฉินหยุนเต๋าก็ไม่สามารถขึ้นไปได้?

มันฟังดูค่อนข้างไร้สาระ

นอกจากนี้ ฟังจากน้ำเสียงของอวี้ชิงหลันแล้วดูเหมือนว่านางจะไม่สนใจความแตกต่างระหว่างวิถีธรรมกับวิถีมาร เห็นได้ชัดว่านางเพียงต้องการปกป้องหลี่หรานอย่างสุดกำลัง

หลิวซุนฮวนถอนหายใจเล็กน้อย “นั่นคือสตรีที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหลิงอู่เหยียนได้!”

แม้พวกเขาจะเป็นระดับจักรพรรดิเหมือนกัน แต่น้ำหนักของพวกเขาก็แตกต่างกัน

ในบรรดาสี่นิกายชั้นนำของวิถีมาร ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการคือเหลิงอู่เหยียน

คนที่สองคือตาแก่คลั่งจากนิกายเซิงอวี่ ตามด้วยจีเชินหยวน ปรมาจารย์แห่งนิกายเต๋าหยิน และความแข็งแกร่งของหลิวซุนฮวนอยู่ในอันดับสุดท้าย

ไม่ใช่ว่าเขาอ่อนแอเกินไป แต่มันมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการบ่มเพาะของเขา

เมื่อเทียบกับอีกสามนิกาย นิกายเหอหวนมีทักษะในการต่อสู้ด้อยที่สุด

สำหรับสี่นิกายชั้นนำของวิถีธรรม หลายคนคิดว่าเฉินหยุนเต๋าแข็งแกร่งที่สุด

แต่มีเพียงผู้มีประสบการณ์ตรงเท่านั้นที่รู้ว่าดวงตาของเหลิงอู่เหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการฆ่าฟันเมื่อหลายปีก่อน นางฟันค่ายกลป้องกันของเทือกเขาเฟยหยุนด้วยดาบของนางและแยกภูเขาออกเป็นสองส่วน

คนที่ออกมาหยุดยั้งเหลิงอู่เหยียนไม่ใช่เฉินหยุนเต๋า แต่เป็นสตรีจากสถาบันเทียนซู อวี้ชิงหลัน

ทั้งสองคนไม่เคลื่อนไหวใดๆและเพียงเผชิญหน้ากันเงียบๆเป็นเวลาสามวัน

หลังจากนั้นเหลิงอู่เหยียนก็พาคนของนางกลับไป นางไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของวิถีธรรมและวิถีมารอีกเลย

จากนั้นเป็นต้นมาสถาบันเทียนซูก็ตัดขาดจากโลกมนุษย์และซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของหมู่เมฆ ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอีกต่อไป

ไม่มีใครรู้ว่าอวี้ชิงหลันแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะนางยังไม่เคยเอาจริงให้เห็น

แต่หลิวซุนฮวนรู้ว่านางแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างแน่นอน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกล้ำกลืนความโกรธลงไป

แค่เหลิงอู่เหยียนคนเดียวก็ปวดหัวมากพอแล้ว นี่ยังมีอวี้ชิงหลัน...

เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“ลืมมันซะ ถือว่าเป็นความโชคร้ายก็แล้วกัน” หลิวซุนฮวนส่ายหัว “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือเซียนหยูชุนตายแล้ว”

หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม มันอาจทำให้ทั้งนิกายสั่นคลอนได้

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สมดุลระหว่างวิถีธรรมและวิถีมารกำลังระส่ำระส่าย หากนิกายวุ่นวายมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้อื่น

“ให้ตายเถอะ เขาอยากได้ตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์จริงๆ... เดี๋ยวนะ สตรีศักดิ์สิทธิ์?” หลิวซุนฮวนตอบสนองทันทีและตรวจสอบซ้ายขวา “บ้าเอ๊ย ศิษย์ของข้าอยู่ที่ไหน?”

เมืองกุยเฟิง

ฉินหรูเหยียนสวมเสื้อผ้าของนางแล้วและกำลังค้นหาไปทั่วห้อง

“อย่าซ่อนตัวเลยบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ ข้าเจอเจ้าแล้ว”

ขณะที่พูดนางก็ก้มลงไปใต้เตียง “เจ้าอยู่ที่นี่หรือ... แค่ก แค่ก สกปรกสุดๆ!”

นางคลานออกมาจากใต้เตียงและจมูกของนางเต็มไปด้วยฝุ่น

เมื่อมองดูห้องที่ว่างเปล่า นางก็ลูบคางและครุ่นคิดอย่างหนัก

หลี่หรานหายไปไหน?

ก่อนหน้านี้บรรยากาศกำลังเร่าร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและอารมณ์ของนางก็เหมาะเจาะมาก นางสวมเพียงชุดผ้าไหมบางๆและ... เรื่องราวของดอกไม้และสายลมกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

แต่หลี่หรานกลับหายไปในอากาศเสียก่อน?

“แปลก เขาก็ดูไม่ใช่คนขี้อาย”

“เป็นไปได้ไหมว่าเขากลัวข้า? ไม่ มันเป็นไปไม่ได้!”

ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นรอยแยกก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เผยให้เห็นร่างของหลิวซุนฮวน

หลังจากที่เห็นว่าฉินหรูเหยียนปลอดภัยดีเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“โชคดีที่อวี้ชิงหลันไม่ได้โจมตีเจ้า...”

ฉินหรูเหยียนจ้องมองเขา “ท่านยังจำได้ด้วยหรือว่าท่านมีศิษย์อยู่คนหนึ่ง?”

หลิวซุนฮวนหน้าแดงและพูดอย่างกระอักกระอ่วน “ก่อนหน้านี้ข้าตื่นตระหนกมากเกินไป ข้าเผลอลืมเจ้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ”

ฉินหรูเหยียนส่ายหัว “ทุกอย่างปกติดี ข้าชินกับมันแล้ว”

หลี่หรานเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่นางเชื่อใจอย่างแท้จริง แม้ว่าหลิวซุนฮวนจะเป็นอาจารย์ของนาง แต่นางก็ไม่ได้คาดหวังในตัวเขามากนัก

หลิวซุนฮวนมองดูห้องที่รกรุงรังและถามด้วยความสงสัย “เจ้ากำลังทำอะไร?”

“มองหาใครสักคน”

“ใคร?”

“หลี่หราน”

“……”

“ไม่มีร่องรอยของเขาในระยะหนึ่งพันลี้” หลิวซุนฮวนส่ายหัว

ฉินหรูเหยียนรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย “มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า?”

หลิวซุนฮวนยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ด้วยอวี้ชิงหลัน จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา”

ฉินหรูเหยียนได้ยินดังนั้นก็ผ่อนคลายลง

หลิวซุนฮวนรู้สึกถึงบางอย่างและมองนางด้วยสีหน้าแปลกๆ “ทำไมเจ้าถึงสนใจหลี่หราน มากขนาดนี้?”

“เพราะข้าชอบเขา...”

“……” หลิวซุนฮวนตกตะลึง “เจ้าชอบเขา?!”

“ไม่ได้หรือไง?”

“ไม่ใช่ว่าไม่ได้... แต่เขาชอบเจ้าหรือเปล่า?”

“ข้าก็ไม่รู้” ฉินหรูเหยียนถอนหายใจ

นางไม่รู้ว่าหลี่หรานรู้สึกอย่างไรกับนาง แต่ถ้าเขาชอบนางจริงๆเขาจะไปโดยไม่ลาได้ยังไง?

สีหน้าของหลิวซุนฮวนซับซ้อนขณะที่เขาจมอยู่ในความคิดลึกๆ

ฉินหรูเหยียนถามด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์กำลังคิดอะไรอยู่?”

หลิวซุนฮวนพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้ากำลังคิดว่าจะช่วยเจ้าเอาชนะใจหลี่หรานได้ยังไง”

ฉินหรูเหยียนรู้สึกสับสน “???”

“วิหารโหยวหลัวมีข้อห้ามเรื่องความรัก ท่านไม่กลัวว่าเหลิงอู่เหยียนจะทำให้ท่านเดือดร้อนหรือ?”

หลิวซุนฮวนกล่าวว่า “เมื่อก่อนข้าเคยกลัว แต่ตอนนี้อวี้ชิงหลันอยู่ที่นี่ เหลิงอู่เหยียนคงไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ใช่ไหม?”

“ปีศาจหน้าหยก เทพธิดาแห่งสถาบันเทียนซู... บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่คือสมบัติล้ำค่า!”

“ศิษย์ที่ดี ข้าเชื่อใจเจ้า เจ้าต้องชนะใจหลี่หรานให้ได้!”

ฉินหรูเหยียนพูดไม่ออก “ท่านอาจารย์ อย่างน้อยท่านก็เป็นจักรพรรดิ ท่านจะฝากความหวังไว้ที่ศิษย์ได้ยังไง?”

หลิวซุนฮวนถอนหายใจและพูดอย่างหมดหนทาง “หรูเหยียน เจ้าไม่เข้าใจ แม้ว่าข้าจะเป็นจักรพรรดิ ข้าก็ต้องหลีกทางเมื่อเห็นเหลิงอู่เหยียนกับอวี้ชิงหลัน...”

“ดังนั้น?”

“ในเมื่อข้าไม่สามารถเอาชนะได้ ข้าก็แค่เข้าร่วม!”

ฉินหรูเหยียนนวดหน้าผากของนาง

ด้วยผู้นำนิกายเช่นนี้ นางเริ่มรู้สึกอยากจะเปลี่ยนนิกายจริงๆ...

ท้องฟ้าสดใส

แสงแดดส่องเข้ามายังเกี้ยวจากทางหน้าต่าง

หลี่หรานลืมตาขึ้นและยืดเส้นยืดสายอย่างสบายใจ

เมื่อคืนเขาฝันเห็นอะไรแปลกๆ

ในความฝัน เขาย้อนกลับไปยังค่ำคืนของเทศกาลกำเนิดเหมันต์และอยู่ในราชรถมังกรกับท่านอาจารย์ของเขา แต่จู่ๆเขาก็ตระหนักว่าคนในอ้อมกอดของเขากลายเป็นอวี้ชิงหลัน...

เขาขยี้ตาและมองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในเกี้ยว

“น่าแปลก นักพรตอวี้ไปไหน? นักพรตอวี้?”

เสียงแผ่วเบาดังขึ้นข้างๆเขา “หยุดตะโกนได้แล้ว นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้อยู่ที่นี่”

หลี่หรานหันกลับไปอย่างว่างเปล่า

อวี้ชิงหลันนั่งไขว่ห้างอยู่ข้างหลังเขา เสื้อผ้าของนางยุ่งเหยิงและใบหน้าแดงก่ำ

หลี่หรานเกาหัว “นักพรตอวี้ ทำไมท่านถึงมีสภาพแบบนั้น?”

อวี้ชิงหลันกัดฟัน “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้เพียงเดินละเมอ เข้าใจไหม?”

/////