ตอนที่แล้วตอนที่ 897 ความตายของชาร์ลส์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 899 กองทัพตระกูลชิว

ตอนที่ 898 มือมืดในเงามืด


“เจ้าว่าไงนะ?”

ถังเทียนตกตะลึงราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องที่เหลือเชื่อ

เมลิซซาตื่นเต้นมาก  เสียงของนางสั่น  “เพิ่งมีรายงานเข้ามาว่าฐานของตระกูลชิวถูกอัศวินกวงหมิงลอบโจมตี  ชิวหวินฉีตายทันทีชิวเป่ยฟงบาดเจ็บสาหัสและกองกำลังส่วนตัวของเขาถูกทำลาย”

“อัศวินพิเศษกวงหมิงบ้าไปแล้วหรือ?”  ถังเทียนรู้สึกว่าข่าวดังกล่าวเหลวไหลเกินไปไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงกำลังของอัศวินพิเศษกวงหมิง  เขามีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาก่อน เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่หน่วยทั้งหมดถูกทำลาย แต่สำหรับชิวเป่ยฟงเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บและหนีไปได้  แสดงว่าชิวเป่ยฟงเองก็ไม่อ่อนแอ

‘ดูไม่สมเหตุผลเสียเลย’

เชียนฮุ่ยกับเขาวิเคราะห์สถานการณ์กันอย่างหนักนอกจากตระกูลชิวไม่ยอมสำนึกบุญคุณของวิหารกวงหมิง ไม่มีเหตุอื่นที่วิหารกวงหมิงจะเคลื่อนไหวลงมือกับพวกเขา วิหารต้องการกำลังของตระกูลชั้นสูงเป็นที่สุด  และตระกูลชิวก็เป็นตระกูลชั้นหนึ่ง ชิวซิ่วหัวเป็นแม่ทัพใหญ่ในสงครามกับสัมพันธมิตรใต้

ต่อให้พวกเขาจนปัญญา ทางวิหารคงไม่เคลื่อนไหวลงมือกับตระกูลชิวแน่นอน

ตาของถังเทียนมองดูเชียนฮุ่ย

เชียนฮุ่ยกล่าว  “เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร?”

เมลิซซากล่าวทันที  “เมื่อคืนนี้”

นางรู้ว่าเชียนฮุ่ยเป็นนายหญิงจึงให้เกียรติต่อนางเต็มที่ และไม่กล้าชักช้าแต่อย่างใด คนทั้งหมดที่ติดตามถังเทียนเข้าใจสถานะของนายหญิงผู้กำหัวใจของถังเทียนและไม่มีใครกล้าประมาท

หากมีใครกล่าวว่าถ้ามีคนที่โต้ตอบกับถังเทียนได้เป็นเวลานานและเข้าใจความแข็งแกร่งของเขา อย่างนั้นเชียนฮุ่ยเป็นคนเดียวที่ใช้เวลาตอบโต้สั้นๆ ได้และสามารถรู้สึกได้ว่านางแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน

ตาของเชียนฮุ่ยเป็นประกายแวววาว  “ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่วิหารกวงหมิง!  ส่งคนไปสืบดู  นี่เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา  ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มี เอาข้อมูลมาให้ได้!”

“เข้าใจแล้ว!”  เมลิซซากัดฟันตอบ

ในทวีปกวงหมิงพวกผู้ทรงอิทธิพลอำนาจเข้าใจว่าการเข้าใจความคิดของวิหารเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์มากกว่าอะไรอื่น การแทรกซึมเข้าไปในวิหารโดยปกติก็เป็นเรื่องยากมาก แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของตระกูล  พวกเขาต้องทำไม่ว่าจะยากเพียงไหนก็ตาม

ด้วยเวลาและเงินความเพียรพยายามก็คงจะสำเร็จ

ตระกูลเมซฟิลด์อาจจะไม่แข็งแกร่ง แต่ในกรณีที่พวกเขาก้าวข้ามประตูกลายเป็นตระกูลชั้นสูง  เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทรงอิทธิพลชั้นสูง แต่พวกเขามีสัมพันธ์ที่สนิทกับผู้อาวุโสคนหรือสองคน ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือให้ผู้อาวุโสวิหารเหล่านี้มีความสำราญกับอาหารและไม่จำเป็นต้องทำอะไรอื่น ความเคลื่อนไหวมีเท่านี้เอง

ผู้อาวุโสเบียงคี่มาถึงวิหารตามปกติ  แต่เขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปทันที  วิหารกลายเป็นเคร่งเครียดเต็มไปด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยและมีทหารยามอยู่ทุกที่

ทหารยามของวิหารมีชื่อเฉพาะเรียกว่า ‘ผู้พิทักษ์วิหาร’  ในเวลาธรรมดาผู้พิทักษ์วิหารอาจมองเห็นได้อยู่ในมุมหนึ่งพวกเขาเหมือนกับเขา และแม้แต่คำพูดที่หยิ่งยโสของผู้อาวุโสก็ไม่ส่งผลต่อพวกเขา

แต่เบียงคี่เห็นผู้พิทักษ์วิหารเกินกว่า200 ขณะที่เดินผ่านวิหาร จากนั้นเขาจึงได้ตระหนักว่ามีผู้พิทักษ์วิหารมากมายนัก

‘ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน’

เบียงคี่รู้สึกไม่สบายใจแต่ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อเห็นผู้อาวุโสซีอุส เขากับผู้อาวุโสซีอุสเป็นสหายสนิท นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้อาวุโสระดับต่ำแตกต่างจากซีอุส  ซีอุสมีตำแหน่งสูงและเป็นผู้อาวุโสที่มีอำนาจแท้จริง

ซีอุสมีอำนาจมากและได้รับคำเชิญจากหลายแห่งโดยรอบและข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก็มีมาก

เบียงคี่เดินเข้ามาหาและพูดเบาๆ!  “เกิดอะไรขึ้น?  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ซีอุสหน้าเข้ม  เขาชะเง้อและมองดูรอบๆ จากนั้นพูดเบาๆ  “มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!  ฝ่าบาทถูกลอบปลงพระชนม์”

ตาของของเบียงคี่แทบถลนเขาชะงักกับที่หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยรู้ตัว เขาตะกุกตะกักถาม  “ปะ เป็น ไป ได้ยะ ยังไง...”

“คนที่มีคุณสมบัติเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ถูกจับหมด”  ซีอุสพูดเบาๆ “ประมุขผู้อาวุโสสั่งการเอง”

เบียงคี่หวาดผวาเขาไม่โง่ที่จะยอมกลายเป็นผู้อาวุโสวิหาร ความตายของฝ่าบาทจะต้องนำไปสู่การสงสัยคนที่มีคุณสมบัติจะได้เป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์

“พวกเขากล้าได้ยังไง?”  เบียงคี่ยังคงดูเหลือเชื่อ

“ถ้าเป็นเพียงพวกเขา  พวกเขาก็ย่อมไม่กล้าเป็นธรรมดา”  ซีอุสแค่นเสียง  หน้าของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันและพูดกระท่อนกระแท่น “มีตระกูลชั้นสูงเหล่านั้นช่วยพวกเขา ก็เป็นเรื่องแตกต่างออกไป วันนี้มีคำพูดจากตระกูลเล็กๆ ว่าหวังให้เลือกโอรสศักดิ์สิทธิ์คนใหม่เร็วๆ”

หน้าของเบียงคี่แดงด้วยท่าทีที่เกลียดชัง  “บัดซบเอ๊ย!”

“พวกเขาก็แค่กระสุนมนุษย์เหมือนกับแค่โยนก้อนหินถามทาง” ซีอุสหน้าเขียวคล้ำ “พวกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่อยู่เบื้องหลังเป็นมือมืดที่แอบอยู่ในเงาที่แท้จริง  พวกเขาอำมหิตและเจ้าเล่ห์!  กล้าวางแผนในเวลาที่วิกฤติเช่นนั้นได้!”

เบียงคี่ถูกความกลัวครอบงำ  ‘ใช่แล้วพวกเขาไม่เห็นสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เราเผชิญอยู่หรือไง?  พวกเขาไม่รู้ว่าถ้าเราแพ้ในสงคราม  ทั้งทวีปกวงหมิงทั้งหมดก็จบกัน?”

“ถ้าเราทุกคนล่มสลาย,แต่ละคนก็จะล่มสลายไปด้วยเช่นกัน!”  เขาโพล่งออกมา

“พวกเขารู้เรื่องนั้นดี”  ซีอุสยังคงเงียบไปชั่วขณะ  ก่อนที่จะพูดอย่างลังเล  “แต่พวกเขายังรู้ว่ามีแต่สถานการณ์นี้ประมุขผู้อาวุโสจึงจะยอมประนีประนอม”

เบียงคี่ยังคงเงียบ  ซีอุสพูดถูก ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นของประมุขผู้อาวุโส ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์วิกฤติ เขาจะต้องถอนรากถอนโคนตระกูลของพวกนั้นไม่เหลือให้ใครรอดชีวิต

เบียงคี่มีความรู้สึกเศร้าใจอย่างประหลาดและทันใดนั้นมีความรู้สึกว่าวิหารกวงหมิงที่ทรงอำนาจจะไม่สามารถปรากฏออกมาได้อีกต่อไป  ความรู้สึกนี้รุนแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว  หัวใจของเขาติดอยู่กับความเศร้าโศก เขาถามอย่างยากลำบาก  “ประมุขผู้อาวุโสพูดว่ายังไง?”

ซีอุสยังคงเงียบอยู่นานก่อนจะอ้อมแอ้มพูด“เขาไม่ได้พูดอะไร”

เบียงคี่ไม่รู้ตัวว่าเขากลับมาถึงบ้านได้ยังไงและเพียงแต่จำได้ว่าเมื่อเขาออกมาจากวิหาร เขาเห็นตัวแทนจากตระกูลชั้นสูงเดินเข้าไปในตำหนักกวงหมิง

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างหดหู่

“นายผู้เฒ่า,มีคนชื่อเบนมาขอเข้าพบท่าน”  เสียงพ่อบ้านดังมาจากห้องหนังสือ

เบียงคี่รู้สึกตัวเอง  เขารู้ว่าเบนมาจากกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  ‘เดี๋ยวนี้เราไม่สามารถควบคุมตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลเมซฟิลด์แล้วหรือนี่?’

เขาลอบถอนหายใจ  และตอบอย่างเฉยเมย “ให้เขาเข้ามา”

เมลิซซาได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว  และเมื่อนางได้รับข่าวนางแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง นางวิ่งเข้าไปหาถังเทียนและเชียนฮุ่ยพร้อมกับรายงาน

เมื่อถังเทียนเห็นรายงาน  เขาตะลึงพอกัน เขาเคยเห็นชาร์ลส์มาก่อน  และตั้งแต่ตอนแรกชาร์ลส์เคยอยู่ในบัญชีดำเขามาก่อน การฆ่าชาร์ลส์เคยเป็นแผนหนึ่งที่เขา เชียนฮุ่ยและปิงเคยปรึกษากันมาก่อน

ใครจะคาดกันเล่าว่าชาร์ลส์ถูกคนอื่นลอบสังหาร

เชียนฮุ่ยสงบกว่ามากนางไม่เคยเห็นชาร์ลส์มาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับข่าวมากนัก และคิดถึงข้อดีและข้อเสียทันที

อาซิ่นและซือหม่าเซี่ยวถูกเรียกมาพูดคุยปรึกษาด้วย  อาซิ่นเชี่ยวชาญในกลยุทธ  ขณะที่ซือหม่าเซี่ยวเชี่ยวชาญในการวางแผนและกลวิธี

“เราจำเป็นต้องเผยแพร่ข่าวออกไปทันที”

อาซิ่นและซือหม่าเซี่ยวเสนอคำแนะนำเหมือนกัน  พวกเขาพูดออกมาพร้อมกัน

“เราจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากวิกฤติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเรา  ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นเราก็ยิ่งได้เปรียบ และมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวมากขึ้นและโอกาสจะเปิดให้เรามากขึ้น”  ตาของซือหม่าเซี่ยวเป็นประกายป่วนสถานการณ์เป็นเรื่องโปรดของเขา “เราสามารถฉวยโอกาสนี้กำจัดคนสำคัญในตระกูลสูงเหล่านั้นได้สักสองสามคน”

จากนั้นเขาพูดต่อ  “ทันทีที่เราฆ่าพวกเขาพวกตระกูลระดับสูงจะต้องชี้นิ้วและเล็งอาวุธไปที่วิหาร  ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความเข้าใจกันและจะต่อต้านกลายเป็นความรุนแรงมากขึ้น  ตระกูลระดับสูงจะไม่มีทางถอย  และถ้าพวกเขาแพ้  วิหารจะปล่อยพวกเขาไปไหม?  ดังนั้นพวกเขาจะต้องเดินเส้นทางนี้ไปจนถึงที่สุดและบังคับให้วิหารต้องถอยและบังคับประมุขผู้อาวุโสให้ปล่อยวางอำนาจ!”

“นั่นเป็นความคิดที่ดี!” อาซิ่นส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น “เราต้องช่วยตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ด้วย แต่ห้าแม่ทัพใหญ่อยู่ภายใต้สังกัดวิหาร พวกเขายังจะภักดีต่อวิหารไหม?หรือว่าพวกเขาจะสนับสนุนตระกูลชั้นสูง? และทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาพวกเขา? ตราบใดที่ตระกูลชั้นสูงเข้าควบคุม ทวีปกวงหมิงจะเริ่มปรากฏแววแตกแยก แต่เพราะทหารผู้ภักดีเหล่านั้นอยู่ภายใต้บัญชาของวิหาร พวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งจากตระกูลชั้นสูงได้ยังไง? และตระกูลชั้นสูงที่เหลือจะรู้ได้หรือเปล่าว่าทหารใต้บัญชาของพวกเขายินดีจะเชื่อพวกเขาหรือไม่?”

ถังเทียนยินดีที่ได้ฟังอาซิ่นกับซือหม่าเซี่ยวพูดต่อประโยคกัน  ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่เขาเผชิญกับปัญหาเขาทำได้แต่เพียงเค้นสมองของตนเอง แต่ตอนนี้บริวารเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งนั้นขุนพลผู้กล้ากับความคิดที่หลักแหลมสามารถคิดแผนออกมาได้  ถังเทียนคิดถึงตนเอง  ‘ข้าเริ่มมีอำนาจตั้งแต่เมื่อใดกัน?’

เขากับปิงเห็นด้วยในการกระจายข่าวและนอกจากนี้ก็ทำได้โดยง่ายด้วยการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา

ถังเทียนคิดถึงโกวเฉิงเวิ่นเต้า  เขาไม่ได้รับข่าวจากแนวหลัง แต่การลอบสังหารชาร์ลส์ได้แพร่กระจายไปทั่วสัมพันธมิตรใต้  ‘หน้าของโกวเฉิงเวิ่นเต้าคงดูงดงามเป็นแน่’

‘เสียดายที่ข้าไม่ได้เห็น’

สำหรับแผนการเข้าไปในวิหารโดยปลอมตัวและกำจัดคนสำคัญของคนตระกูลสูงสักสองสามคน  เป้าหมายอันดับแรกของพวกเขาผุดขึ้นมาในใจโดยไม่ต้องคิด

‘ตระกูลชิวแน่นอน!’

ความตายของชาร์ลส์ก่อให้เกิดความตกตะลึงไปทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

โอรสศักดิ์สิทธิ์ของทวีปกวงหมิงจัดว่าอยู่ในตำแหน่งสำคัญ เขาถูกจับตาว่าเป็นคนสำคัญที่สุดที่จะมาแทนที่ประมุขผู้อาวุโสในอนาคต และการตายของเขาสั่นสะท้านไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนั้น เขาถูกลอบสังหารและทุกคนต้องรู้ว่าไม่เคยมีใครที่มีตำแหน่งสำคัญในวิหารกวงหมิงถูกลอบสังหาร  วิหารมีการป้องกันการลอบสังหารนอกจากนี้ระบบป้องกันที่เข้มงวดในตำหนักมีระดับที่สูงต่างจากการป้องกันการลอบสังหารภายนอกเป็นการป้องกันไม่ให้นักฆ่าจากภายนอกลอบเข้ามาในตำหนักกวงหมิง

ดังนั้นพวกที่สามารถลอบสังหารชาร์ลส์ได้ก็คือคนจากภายใน  มิฉะนั้นก็ต้องเกี่ยวข้องกับคนภายใน สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือวิหารมีการควบคุมสมาชิกภายในอย่างเข้มงวดแน่นอนว่าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

สำหรับคนที่เข้าตำหนักกวงหมิงได้เขาต้องผ่านการตรวจสอบอยู่หลายรอบ ในแต่ละรอบจะต้องมีการสาบาน  ทดสอบกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ใครๆก็ไม่สามารถคิดได้ว่านั่นเป็นการทดสอบ ในความเป็นจริง พวกเขาก็ได้รับผลเหมือนกันใครก็ตามที่หักหลังต่อคำสาบาน จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงนอกจากนี้การลงโทษก็มาจากวิญญาณซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยิ่งมีตำแหน่งสูงก็ต้องยิ่งเข้มงวดกับคำสาบาน

นอกจากผลประโยชน์แล้ว  ความจริงก็คือวิหารไม่เคยมีคนทรยศซึ่งก็เป็นเหตุผลที่หลายคนเกลียดวิหาร สำหรับหลายคนการควบคุมร่างกายและจิตใจเป็นเรื่องขัดต่อมนุษยธรรมอย่างสิ้นเชิง

แต่ก็ต้องยอมรับวิธีการของวิหาร  ขณะที่ตระกูลอื่นดิ้นรนต่อสู้กันเอง  วิหารมักจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  คำสั่งของระดับสูงต้องดำเนินการโดยไม่มีเงื่อนไข ทหารของพวกเขาเป็นพวกรุนแรงไม่มีความกลัวต้องเสียสละตัวเอง

นั่นคือเหตุผลที่คนภายนอกเต็มไปด้วยความเคารพและกลัวต่อวิหารสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องยากที่จะต้านทาน

แต่โอรสศักดิ์สิทธิ์กลับถูกลอบสังหาร  ทุกอย่างแตกสลาย

สำหรับทุกคนระดับของข่าวแพร่กระจายไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญมากอย่างเห็นได้ชัดเป็นการเร่งเชื้อไฟของผู้กระทำความผิด

ทันใดนั้นความขัดแย้งกันระหว่างวิหารและตระกูลชั้นสูงมีปัญหาและกลายเป็นหัวข้อพูดคุยที่ร้อนแรงและคุ้นเคย

นี่คือคลื่นที่เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด