ตอนที่ 898 มือมืดในเงามืด
“เจ้าว่าไงนะ?”
ถังเทียนตกตะลึงราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องที่เหลือเชื่อ
เมลิซซาตื่นเต้นมาก เสียงของนางสั่น “เพิ่งมีรายงานเข้ามาว่าฐานของตระกูลชิวถูกอัศวินกวงหมิงลอบโจมตี ชิวหวินฉีตายทันทีชิวเป่ยฟงบาดเจ็บสาหัสและกองกำลังส่วนตัวของเขาถูกทำลาย”
“อัศวินพิเศษกวงหมิงบ้าไปแล้วหรือ?” ถังเทียนรู้สึกว่าข่าวดังกล่าวเหลวไหลเกินไปไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงกำลังของอัศวินพิเศษกวงหมิง เขามีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาก่อน เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่หน่วยทั้งหมดถูกทำลาย แต่สำหรับชิวเป่ยฟงเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บและหนีไปได้ แสดงว่าชิวเป่ยฟงเองก็ไม่อ่อนแอ
‘ดูไม่สมเหตุผลเสียเลย’
เชียนฮุ่ยกับเขาวิเคราะห์สถานการณ์กันอย่างหนักนอกจากตระกูลชิวไม่ยอมสำนึกบุญคุณของวิหารกวงหมิง ไม่มีเหตุอื่นที่วิหารกวงหมิงจะเคลื่อนไหวลงมือกับพวกเขา วิหารต้องการกำลังของตระกูลชั้นสูงเป็นที่สุด และตระกูลชิวก็เป็นตระกูลชั้นหนึ่ง ชิวซิ่วหัวเป็นแม่ทัพใหญ่ในสงครามกับสัมพันธมิตรใต้
ต่อให้พวกเขาจนปัญญา ทางวิหารคงไม่เคลื่อนไหวลงมือกับตระกูลชิวแน่นอน
ตาของถังเทียนมองดูเชียนฮุ่ย
เชียนฮุ่ยกล่าว “เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร?”
เมลิซซากล่าวทันที “เมื่อคืนนี้”
นางรู้ว่าเชียนฮุ่ยเป็นนายหญิงจึงให้เกียรติต่อนางเต็มที่ และไม่กล้าชักช้าแต่อย่างใด คนทั้งหมดที่ติดตามถังเทียนเข้าใจสถานะของนายหญิงผู้กำหัวใจของถังเทียนและไม่มีใครกล้าประมาท
หากมีใครกล่าวว่าถ้ามีคนที่โต้ตอบกับถังเทียนได้เป็นเวลานานและเข้าใจความแข็งแกร่งของเขา อย่างนั้นเชียนฮุ่ยเป็นคนเดียวที่ใช้เวลาตอบโต้สั้นๆ ได้และสามารถรู้สึกได้ว่านางแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน
ตาของเชียนฮุ่ยเป็นประกายแวววาว “ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่วิหารกวงหมิง! ส่งคนไปสืบดู นี่เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มี เอาข้อมูลมาให้ได้!”
“เข้าใจแล้ว!” เมลิซซากัดฟันตอบ
ในทวีปกวงหมิงพวกผู้ทรงอิทธิพลอำนาจเข้าใจว่าการเข้าใจความคิดของวิหารเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์มากกว่าอะไรอื่น การแทรกซึมเข้าไปในวิหารโดยปกติก็เป็นเรื่องยากมาก แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของตระกูล พวกเขาต้องทำไม่ว่าจะยากเพียงไหนก็ตาม
ด้วยเวลาและเงินความเพียรพยายามก็คงจะสำเร็จ
ตระกูลเมซฟิลด์อาจจะไม่แข็งแกร่ง แต่ในกรณีที่พวกเขาก้าวข้ามประตูกลายเป็นตระกูลชั้นสูง เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทรงอิทธิพลชั้นสูง แต่พวกเขามีสัมพันธ์ที่สนิทกับผู้อาวุโสคนหรือสองคน ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือให้ผู้อาวุโสวิหารเหล่านี้มีความสำราญกับอาหารและไม่จำเป็นต้องทำอะไรอื่น ความเคลื่อนไหวมีเท่านี้เอง
ผู้อาวุโสเบียงคี่มาถึงวิหารตามปกติ แต่เขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปทันที วิหารกลายเป็นเคร่งเครียดเต็มไปด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยและมีทหารยามอยู่ทุกที่
ทหารยามของวิหารมีชื่อเฉพาะเรียกว่า ‘ผู้พิทักษ์วิหาร’ ในเวลาธรรมดาผู้พิทักษ์วิหารอาจมองเห็นได้อยู่ในมุมหนึ่งพวกเขาเหมือนกับเขา และแม้แต่คำพูดที่หยิ่งยโสของผู้อาวุโสก็ไม่ส่งผลต่อพวกเขา
แต่เบียงคี่เห็นผู้พิทักษ์วิหารเกินกว่า200 ขณะที่เดินผ่านวิหาร จากนั้นเขาจึงได้ตระหนักว่ามีผู้พิทักษ์วิหารมากมายนัก
‘ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน’
เบียงคี่รู้สึกไม่สบายใจแต่ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อเห็นผู้อาวุโสซีอุส เขากับผู้อาวุโสซีอุสเป็นสหายสนิท นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้อาวุโสระดับต่ำแตกต่างจากซีอุส ซีอุสมีตำแหน่งสูงและเป็นผู้อาวุโสที่มีอำนาจแท้จริง
ซีอุสมีอำนาจมากและได้รับคำเชิญจากหลายแห่งโดยรอบและข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก็มีมาก
เบียงคี่เดินเข้ามาหาและพูดเบาๆ! “เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ซีอุสหน้าเข้ม เขาชะเง้อและมองดูรอบๆ จากนั้นพูดเบาๆ “มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น! ฝ่าบาทถูกลอบปลงพระชนม์”
ตาของของเบียงคี่แทบถลนเขาชะงักกับที่หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยรู้ตัว เขาตะกุกตะกักถาม “ปะ เป็น ไป ได้ยะ ยังไง...”
“คนที่มีคุณสมบัติเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ถูกจับหมด” ซีอุสพูดเบาๆ “ประมุขผู้อาวุโสสั่งการเอง”
เบียงคี่หวาดผวาเขาไม่โง่ที่จะยอมกลายเป็นผู้อาวุโสวิหาร ความตายของฝ่าบาทจะต้องนำไปสู่การสงสัยคนที่มีคุณสมบัติจะได้เป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์
“พวกเขากล้าได้ยังไง?” เบียงคี่ยังคงดูเหลือเชื่อ
“ถ้าเป็นเพียงพวกเขา พวกเขาก็ย่อมไม่กล้าเป็นธรรมดา” ซีอุสแค่นเสียง หน้าของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันและพูดกระท่อนกระแท่น “มีตระกูลชั้นสูงเหล่านั้นช่วยพวกเขา ก็เป็นเรื่องแตกต่างออกไป วันนี้มีคำพูดจากตระกูลเล็กๆ ว่าหวังให้เลือกโอรสศักดิ์สิทธิ์คนใหม่เร็วๆ”
หน้าของเบียงคี่แดงด้วยท่าทีที่เกลียดชัง “บัดซบเอ๊ย!”
“พวกเขาก็แค่กระสุนมนุษย์เหมือนกับแค่โยนก้อนหินถามทาง” ซีอุสหน้าเขียวคล้ำ “พวกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่อยู่เบื้องหลังเป็นมือมืดที่แอบอยู่ในเงาที่แท้จริง พวกเขาอำมหิตและเจ้าเล่ห์! กล้าวางแผนในเวลาที่วิกฤติเช่นนั้นได้!”
เบียงคี่ถูกความกลัวครอบงำ ‘ใช่แล้วพวกเขาไม่เห็นสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เราเผชิญอยู่หรือไง? พวกเขาไม่รู้ว่าถ้าเราแพ้ในสงคราม ทั้งทวีปกวงหมิงทั้งหมดก็จบกัน?”
“ถ้าเราทุกคนล่มสลาย,แต่ละคนก็จะล่มสลายไปด้วยเช่นกัน!” เขาโพล่งออกมา
“พวกเขารู้เรื่องนั้นดี” ซีอุสยังคงเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่จะพูดอย่างลังเล “แต่พวกเขายังรู้ว่ามีแต่สถานการณ์นี้ประมุขผู้อาวุโสจึงจะยอมประนีประนอม”
เบียงคี่ยังคงเงียบ ซีอุสพูดถูก ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นของประมุขผู้อาวุโส ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์วิกฤติ เขาจะต้องถอนรากถอนโคนตระกูลของพวกนั้นไม่เหลือให้ใครรอดชีวิต
เบียงคี่มีความรู้สึกเศร้าใจอย่างประหลาดและทันใดนั้นมีความรู้สึกว่าวิหารกวงหมิงที่ทรงอำนาจจะไม่สามารถปรากฏออกมาได้อีกต่อไป ความรู้สึกนี้รุนแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเขาติดอยู่กับความเศร้าโศก เขาถามอย่างยากลำบาก “ประมุขผู้อาวุโสพูดว่ายังไง?”
ซีอุสยังคงเงียบอยู่นานก่อนจะอ้อมแอ้มพูด“เขาไม่ได้พูดอะไร”
เบียงคี่ไม่รู้ตัวว่าเขากลับมาถึงบ้านได้ยังไงและเพียงแต่จำได้ว่าเมื่อเขาออกมาจากวิหาร เขาเห็นตัวแทนจากตระกูลชั้นสูงเดินเข้าไปในตำหนักกวงหมิง
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างหดหู่
“นายผู้เฒ่า,มีคนชื่อเบนมาขอเข้าพบท่าน” เสียงพ่อบ้านดังมาจากห้องหนังสือ
เบียงคี่รู้สึกตัวเอง เขารู้ว่าเบนมาจากกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ ‘เดี๋ยวนี้เราไม่สามารถควบคุมตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลเมซฟิลด์แล้วหรือนี่?’
เขาลอบถอนหายใจ และตอบอย่างเฉยเมย “ให้เขาเข้ามา”
เมลิซซาได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว และเมื่อนางได้รับข่าวนางแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง นางวิ่งเข้าไปหาถังเทียนและเชียนฮุ่ยพร้อมกับรายงาน
เมื่อถังเทียนเห็นรายงาน เขาตะลึงพอกัน เขาเคยเห็นชาร์ลส์มาก่อน และตั้งแต่ตอนแรกชาร์ลส์เคยอยู่ในบัญชีดำเขามาก่อน การฆ่าชาร์ลส์เคยเป็นแผนหนึ่งที่เขา เชียนฮุ่ยและปิงเคยปรึกษากันมาก่อน
ใครจะคาดกันเล่าว่าชาร์ลส์ถูกคนอื่นลอบสังหาร
เชียนฮุ่ยสงบกว่ามากนางไม่เคยเห็นชาร์ลส์มาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับข่าวมากนัก และคิดถึงข้อดีและข้อเสียทันที
อาซิ่นและซือหม่าเซี่ยวถูกเรียกมาพูดคุยปรึกษาด้วย อาซิ่นเชี่ยวชาญในกลยุทธ ขณะที่ซือหม่าเซี่ยวเชี่ยวชาญในการวางแผนและกลวิธี
“เราจำเป็นต้องเผยแพร่ข่าวออกไปทันที”
อาซิ่นและซือหม่าเซี่ยวเสนอคำแนะนำเหมือนกัน พวกเขาพูดออกมาพร้อมกัน
“เราจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากวิกฤติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเรา ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นเราก็ยิ่งได้เปรียบ และมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวมากขึ้นและโอกาสจะเปิดให้เรามากขึ้น” ตาของซือหม่าเซี่ยวเป็นประกายป่วนสถานการณ์เป็นเรื่องโปรดของเขา “เราสามารถฉวยโอกาสนี้กำจัดคนสำคัญในตระกูลสูงเหล่านั้นได้สักสองสามคน”
จากนั้นเขาพูดต่อ “ทันทีที่เราฆ่าพวกเขาพวกตระกูลระดับสูงจะต้องชี้นิ้วและเล็งอาวุธไปที่วิหาร ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความเข้าใจกันและจะต่อต้านกลายเป็นความรุนแรงมากขึ้น ตระกูลระดับสูงจะไม่มีทางถอย และถ้าพวกเขาแพ้ วิหารจะปล่อยพวกเขาไปไหม? ดังนั้นพวกเขาจะต้องเดินเส้นทางนี้ไปจนถึงที่สุดและบังคับให้วิหารต้องถอยและบังคับประมุขผู้อาวุโสให้ปล่อยวางอำนาจ!”
“นั่นเป็นความคิดที่ดี!” อาซิ่นส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น “เราต้องช่วยตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ด้วย แต่ห้าแม่ทัพใหญ่อยู่ภายใต้สังกัดวิหาร พวกเขายังจะภักดีต่อวิหารไหม?หรือว่าพวกเขาจะสนับสนุนตระกูลชั้นสูง? และทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาพวกเขา? ตราบใดที่ตระกูลชั้นสูงเข้าควบคุม ทวีปกวงหมิงจะเริ่มปรากฏแววแตกแยก แต่เพราะทหารผู้ภักดีเหล่านั้นอยู่ภายใต้บัญชาของวิหาร พวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งจากตระกูลชั้นสูงได้ยังไง? และตระกูลชั้นสูงที่เหลือจะรู้ได้หรือเปล่าว่าทหารใต้บัญชาของพวกเขายินดีจะเชื่อพวกเขาหรือไม่?”
ถังเทียนยินดีที่ได้ฟังอาซิ่นกับซือหม่าเซี่ยวพูดต่อประโยคกัน ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่เขาเผชิญกับปัญหาเขาทำได้แต่เพียงเค้นสมองของตนเอง แต่ตอนนี้บริวารเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งนั้นขุนพลผู้กล้ากับความคิดที่หลักแหลมสามารถคิดแผนออกมาได้ ถังเทียนคิดถึงตนเอง ‘ข้าเริ่มมีอำนาจตั้งแต่เมื่อใดกัน?’
เขากับปิงเห็นด้วยในการกระจายข่าวและนอกจากนี้ก็ทำได้โดยง่ายด้วยการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
ถังเทียนคิดถึงโกวเฉิงเวิ่นเต้า เขาไม่ได้รับข่าวจากแนวหลัง แต่การลอบสังหารชาร์ลส์ได้แพร่กระจายไปทั่วสัมพันธมิตรใต้ ‘หน้าของโกวเฉิงเวิ่นเต้าคงดูงดงามเป็นแน่’
‘เสียดายที่ข้าไม่ได้เห็น’
สำหรับแผนการเข้าไปในวิหารโดยปลอมตัวและกำจัดคนสำคัญของคนตระกูลสูงสักสองสามคน เป้าหมายอันดับแรกของพวกเขาผุดขึ้นมาในใจโดยไม่ต้องคิด
‘ตระกูลชิวแน่นอน!’
ความตายของชาร์ลส์ก่อให้เกิดความตกตะลึงไปทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
โอรสศักดิ์สิทธิ์ของทวีปกวงหมิงจัดว่าอยู่ในตำแหน่งสำคัญ เขาถูกจับตาว่าเป็นคนสำคัญที่สุดที่จะมาแทนที่ประมุขผู้อาวุโสในอนาคต และการตายของเขาสั่นสะท้านไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้น เขาถูกลอบสังหารและทุกคนต้องรู้ว่าไม่เคยมีใครที่มีตำแหน่งสำคัญในวิหารกวงหมิงถูกลอบสังหาร วิหารมีการป้องกันการลอบสังหารนอกจากนี้ระบบป้องกันที่เข้มงวดในตำหนักมีระดับที่สูงต่างจากการป้องกันการลอบสังหารภายนอกเป็นการป้องกันไม่ให้นักฆ่าจากภายนอกลอบเข้ามาในตำหนักกวงหมิง
ดังนั้นพวกที่สามารถลอบสังหารชาร์ลส์ได้ก็คือคนจากภายใน มิฉะนั้นก็ต้องเกี่ยวข้องกับคนภายใน สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือวิหารมีการควบคุมสมาชิกภายในอย่างเข้มงวดแน่นอนว่าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
สำหรับคนที่เข้าตำหนักกวงหมิงได้เขาต้องผ่านการตรวจสอบอยู่หลายรอบ ในแต่ละรอบจะต้องมีการสาบาน ทดสอบกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ใครๆก็ไม่สามารถคิดได้ว่านั่นเป็นการทดสอบ ในความเป็นจริง พวกเขาก็ได้รับผลเหมือนกันใครก็ตามที่หักหลังต่อคำสาบาน จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงนอกจากนี้การลงโทษก็มาจากวิญญาณซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยิ่งมีตำแหน่งสูงก็ต้องยิ่งเข้มงวดกับคำสาบาน
นอกจากผลประโยชน์แล้ว ความจริงก็คือวิหารไม่เคยมีคนทรยศซึ่งก็เป็นเหตุผลที่หลายคนเกลียดวิหาร สำหรับหลายคนการควบคุมร่างกายและจิตใจเป็นเรื่องขัดต่อมนุษยธรรมอย่างสิ้นเชิง
แต่ก็ต้องยอมรับวิธีการของวิหาร ขณะที่ตระกูลอื่นดิ้นรนต่อสู้กันเอง วิหารมักจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คำสั่งของระดับสูงต้องดำเนินการโดยไม่มีเงื่อนไข ทหารของพวกเขาเป็นพวกรุนแรงไม่มีความกลัวต้องเสียสละตัวเอง
นั่นคือเหตุผลที่คนภายนอกเต็มไปด้วยความเคารพและกลัวต่อวิหารสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องยากที่จะต้านทาน
แต่โอรสศักดิ์สิทธิ์กลับถูกลอบสังหาร ทุกอย่างแตกสลาย
สำหรับทุกคนระดับของข่าวแพร่กระจายไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญมากอย่างเห็นได้ชัดเป็นการเร่งเชื้อไฟของผู้กระทำความผิด
ทันใดนั้นความขัดแย้งกันระหว่างวิหารและตระกูลชั้นสูงมีปัญหาและกลายเป็นหัวข้อพูดคุยที่ร้อนแรงและคุ้นเคย
นี่คือคลื่นที่เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น