ตอนที่ 895 เจียย่าออกรบ
วิหารกวงหมิง
กระบวนทัพเคร่งขรึมและเงียบ เจียย่ามีสีหน้าจริงจังและภายใต้แสงสาดส่องที่คล้ายหิมะทำให้ฉากภาพดูขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสยืนอยู่บนเวทีสี่เหลี่ยมและสังเกตทหารว่าพร้อมจะเคลื่อนกำลังพลแล้ว
เจียย่าเป็นที่รู้จักกันดีว่าพลังตั้งรับของเขาทรงพลังและเป็นที่เชื่อถือของประมุขผู้อาวุโส ทำให้เขาใช้เวลาทั้งหมดส่วนใหญ่กับการป้องกันพื้นที่ใจกลาง ชีวิตของเขาน่าเบื่อมากเนื่องจากอยู่ห่างกิจกรรมทางโลก แม้ว่าทุกคนจะนับถือเขา แต่เวลาส่วนใหญ่แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่นี้เหมือนกับว่าจะไม่ได้มีตัวตนอยู่ และมักจะถูกคนส่วนใหญ่หลงลืมไปเสมอ
กองทัพของเจียย่าอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ภายในทวีปกวงหมิง ส่วนใหญ่จะเป็นอัศวินพิเศษกวงหมิงรับหน้าที่เป็นส่วนใหญ่ พวกเขาทุกคนมีตำแหน่งที่สูงและมีพลังส่วนตัวที่แข็งแกร่งและถือว่าไร้คู่ต่อสู้ อัศวินพิเศษกวงหมิงทะเยอทะยานเป็นส่วนใหญ่ และมีอายุน้อยกันหลายคน
แต่ขณะนั้น กองทัพของเจียย่าติดอาวุธพร้อมอย่างเห็นได้ชัด ผู้อาวุโสตระหนักได้ว่ามีความไม่สบายใจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ก่อนนี้เมื่อสถานการณ์เลวร้ายพร้อมกับแรงกดดันของกองทัพแดนเถื่อน พวกเขาไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขาเอง ไม่มีกองกำลังประจำการอยู่ในทวีปเซียน แต่กลับใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์แทน ทำให้กองทัพทั้งหมดที่อยู่ใต้ฟ้ามารวมตัวกันในทวีปเซียนทำให้กองทัพทั้งหมดมารวมตัวกัน แต่ก็ยังไม่ทำให้ความวิตกกังวลของพกวเขาลดลง
จากนั้นผู้อาวุโสตระหนักว่า กองทัพนี้อาศัยความรู้สึกถึงความคงอยู่คือเหตุผลที่แท้จริงที่พวกเขารู้สึกได้ง่าย
การจัดทัพของเจียย่าไม่ใช่เพื่อตะลุยสัมพันธมิตรใต้ แต่เป็นเว่ยเย่กวน มู่จื่อเสียหายเงียบและไปอยู่ที่ใดก็ไม่ทราบ ทวีปเว่ยเย่กวนตกอยู่ในที่อันตรายร้ายแรง และพวกเขาจำเป็นต้องได้แม่ทัพที่แข็งแกร่งไปประจำการที่นั่นในวิหารกวงหมิงมีเพียงคนเดียวที่สามารถรับหน้าที่ได้ก็คือท่านเจียย่า ผู้อาวุโสรู้ความสำคัญของทวีปเว่ยเย่กวน แม้ว่าจะต้องลดระดับการป้องกันของทวีปเซียนและคุกคามความปลอดภัยของพวกเขาก็ตาม แต่พวกเขารู้ว่ากองทัพใหญ่ของทวีปแดนเถื่อนเข้ามาในทวีปกวงหมิงแล้ว นั่นจะเป็นปัญหาน่ากลัวที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือเส้นทางเข้าสวรรค์วิถีในสัมพันธมิตรใต้ การฟื้นตัวของแดนบาปหรือโจรทวีปทองอาละวาด ไม่มีข่าวไหนเลยที่สำคัญเท่ากับทวีปเว่ยเย่กวน ความเคลื่อนไหวของทวีปแดนเถื่อนทำให้ทุกคนที่คิดได้สั่นสะท้านกันหมด นั่นคือรากเง่าที่ทำให้วิหารกวงหมิงสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง
เมื่อพิธีการเสร็จสิ้นลง ผู้อาวุโสหลายคนที่คุ้นเคยกับเจียย่าเดินไปส่งเจียย่า เจียย่ายังคงยิ้มเล็กน้อยตลอดเวลา ความมั่นใจและความมั่นคงของเขาทำให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น
ประมุขผู้อาวุโสใช้เวลาทั้งคืนคุยกับเจียย่า แต่ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธีการปล่อยให้โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ประกอบพิธีการ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เดินไปข้างหน้า
เจียย่าแตะไหล่โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ “ข้าคงต้องปล่อยทวีปเซียนไว้ในมือฝ่าบาทเสียแล้ว”
หลังจากที่เขาออกจากทวีปเซียน การป้องกันของทวีปเซียนจะมีชาร์ลส์เป็นคนรับผิดชอบ แม้ว่าเขาจะกังวลความปลอดภัยของทวีปเซียน แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับจำนวนของกองทัพ ซึ่งเป็นกองกำลังส่วนตัวอยู่กับชาร์ลส์แล้วเขาสบายใจ
ชาร์ลส์โค้งตัวเล็กน้อย และกล่าวด้วยความเคารพ “โปรดมั่นใจได้ แสงสว่างจะคงอยู่นิรันดร์!”
เจียย่าพยักหน้า เขาคำนับชาร์ลส์จากนั้นหันไปออกคำสั่ง “เคลื่อนทัพ!”
กองทัพเริ่มเคลื่อนออกไป
ประมุขผู้อาวุโสมองดูกองทัพใหญ่จากระยะไกลและไม่ยอมละสายตาอยู่เป็นเวลานาน เพราะเหตุผลบางอย่าง ใจของทุกคนเริ่มตื้นตัน ‘แม้แต่ท่านเจียย่าก็ยังถูกส่งออกไป..’
การระดมทัพโดยห้าแม่ทัพใหญ่ทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ วิหารกลับกลายเป็นว่างเปล่า ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ปลอดภัย
เมื่อเรือรบของกองทัพเจียย่าหายลับสายตาไป ผู้อาวุโสทั้งหลายจึงหันกายและเดินออกมาสีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกังวลและเดียวดายอย่างเหลือเชื่อ
ชาร์ลส์สังเกตสีหน้าที่กังวลของทุกคนและเดินออกไปเงียบๆ
ชาร์ลส์นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องหนังสือ สีหน้าของเขาค่อนข้างกดดัน
โซเฟียเดินเข้ามาและเมื่อเห็นสีหน้าของเขานางพูดขึ้น “ไม่ต้องใส่ใจพวกเขา”
“ไม่ใส่ใจพวกเขา? เจ้าต้องการให้ข้าไม่ใส่ใจพวกเขาหรือ?” ชาร์ลส์ระเบิดความโกรธทันที ใบหน้าหล่อเหลาของเขาพลันน่ากลัว “จะให้ข้าทำให้พวกเขาไม่สบายใจได้ยังไง? มีหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงอยู่ที่นี่ และตระกูลชั้นหนึ่งมากมาย พวกผู้เฒ่าทั้งหมดเหล่านั้นจะกังวลถึงข้าที่นี่หรือ? ข้าไม่มีประโยชน์ในใจพวกเขาแล้วใช่ไหม?”
ขณะนั้นชาร์ลส์เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ติดอยู่ในกรงคำรามด้วยความดุร้าย แต่ยังคงดิ้นรนอย่างช่วยไม่ได้
โซเฟียยังเงียบ ตั้งแต่ประมุขผู้อาวุโสลงโทษชาร์ลส์ ชาร์ลส์กลายเป็นคนอ่อนไหวและอ่อนแอมากขึ้น ความมั่นใจของตัวเองหายไปในคืนนั้น เขากลายเป็นคนช่างสงสัย และโซเฟียไม่รู้ว่าจะไล่ความคิดที่เขามีเช่นนั้นได้ยังไง โซเฟียรู้เหตุผล แต่ช่วยไม่ได้
ประมุขผู้อาวุโสถือครองพลังในวิหาร แม้แต่ตำแหน่งของชาร์ลส์ในฐานะโอรสศักดิ์สิทธิ์ก็อาจถูกประมุขผู้อาวุโสถอดได้ถ้าเขาต้องการ
ตั้งแต่ชาร์ลส์ถูกลงโทษประมุขผู้อาวุโสแสดงความไม่พอใจชาร์ลส์ทำให้ข่าวลือกระจายไปภายในวิหาร
ข่าวลือไม่ได้เป็นส่วนที่น่ากลัว สิ่งที่ทำให้ชาร์ลส์กลัวก็คือเหล่าผู้อาวุโสจะได้รับผลกระทบไปด้วย และทัศนคติที่พวกเขามีต่อชาร์ลส์เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเคยได้ยินพวกผู้อาวุโสวิหารปรึกษากันเป็นส่วนตัวครั้งหนึ่ง เมื่อคิดว่าเขาไม่มีความสามารถในการรับหน้าที่แทนประมุขผู้อาวุโสได้
ชาร์ลส์เริ่มกลัว
เขาเป็นเพียงโอรสศักดิ์สิทธิ์ในวิหาร แต่เขารู้ว่าตราบใดที่วิหารยินดี ไม่สิ, ตราบใดที่ประมุขผู้อาวุโสยินดี วิหารกวงหมิงสามารถสร้างโอรสศักดิ์สิทธิ์ได้หลายคนในชั่วข้ามคืน เขารู้ว่ามีตัวเก็งที่มีความสามารถคนอื่นๆอยู่ด้านหลังเขาอีกหลายคน ผู้มีคุณสมบัติและศักยภาพที่ได้รับการคัดเลือกมาเหล่านี้มีพรสวรรค์ที่ไม่ด้อยไปกว่าเขา เป็นแต่ในทรัพยากรคนเหล่านั้นทั้งหมด เขาได้รับเลือกคนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อประมุขผู้อาวุโสสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเขา แหล่งทรัพยากรที่ทรงค่าทั้งหมดจะถูกดึงไปจากตัวเขาและมอบให้พวกเขา
เมื่อพวกเขามีทรัพยากรศักยภาพทั้งหมดของผู้มีคุณสมบัติเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นในระดับน่าทึ่งและสามารถแทนที่เขาได้ง่าย
ตำแหน่งของชาร์ลส์มักจะมั่นคงอยู่เสมอ แต่ความมั่นคงนี้ได้มาเพราะการสนับสนุนของประมุขผู้อาวุโส ตั้งแต่เด็ก ประมุขผู้อาวุโสจับตาดูชาร์ลส์ทำให้การเดินทางของเขาราบรื่น เขาไม่เคยได้รับความพ่ายแพ้ทำให้ความเชื่อถือของผู้อาวุโสมีมากขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าด้วยความล้มเหลวเพียงครั้งเดียว ด้วยการลงโทษเพียงแส้เดียวทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป
เขาเริ่มรู้สึกกดดันและอารมณ์ของเขาย่ำแย่
ในที่สุดเขาก็เข้าใจวิหารกวงหมิง มีเพียงแต่ประมุขผู้อาวุโสเท่านั้นไม่สามารถแทนที่ได้ ส่วนคนอื่นอาจถูกแทนที่หรือถูกปลดได้
หลังจากพิธีการผ่านไปผู้อาวุโสทั้งหมดก็ลืมความคงอยู่ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาแสดงความกังวลและความไม่สบายใจในใจเขา สำหรับชาร์ลส์ความไม่สบายใจที่แสดงออกมานี้แสดงให้เห็นความไม่ไว้วางใจในตัวเขา เพราะเขาอยู่ในช่วงดูแลป้องกันทวีปเซียน
ชาร์ลส์สีหน้าซีดได้สงบอารมณ์ได้ในที่สุด สีหน้าของเขากลับคืนเป็นปกติขณะที่เขาขอโทษโซเฟีย “ข้าขอโทษจริงๆโซเฟีย, ข้าไม่ควรระบายความโกรธกับเจ้า”
“ไม่เป็นไร” โซเฟียส่ายศีรษะ จากนั้นนางเปลี่ยนหัวข้อ “ฝ่าบาท เราจำเป็นต้องควบคุมตระกูลต่างๆ เร็วๆ นี้มีความขัดแย้งกันภายในทวีปเซียน อย่างเช่นตระกูลชิวพวกเขาขัดแย้งกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ แม้ว่าความขัดแย้งของพวกเขาจะควบคุมไว้ได้ และพวกเขาไม่ได้ละเมิดข้อห้าม แต่ถ้าเรายังไม่คลี่คลายสถานการณ์ ความขัดแย้งอาจกลายสภาพเป็นย่ำแย่”
ชาร์ลส์ขมวดคิ้ว “ตระกูลชิว? ทำไมพวกเขาขัดแย้งกับตระกูลเล็กๆ อย่างกลุ่มการค้าเมซฟิลด์?”
เทียบกับตระกูลชิว กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ถือว่าเป็นตระกูลเล็ก ในทวีปกวงหมิง อันดับตระกูลที่มีชื่อเสียงมีการจัดลำดับเข้มงวด ตระกูลระดับสูงอย่างตระกูลชิวไม่มีผลประโยชน์อะไรที่ขัดแย้งกับตระกูลเล็กๆ อย่างกลุ่มการค้าเมซฟิลด์
โซเฟียตอบ “ต้องเป็นเพราะตระกูลอลิซาเบธ ตระกูลอลิซาเบธพ่ายแพ้ตระกูลเมซฟิลด์และเนื่องจากชิวหวินฉีมีความสนใจคลอเดีย เขาตัดสินใจช่วยนาง แต่ใครจะรู้ว่าตระกูลเมซฟิลด์ไม่ยอมรับการคุกคามของตระกูลชิว”
“ทำไมพวกเขาไม่ชอบความสงบสุขกันนะ” น้ำเสียงชาร์ลส์เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เพราะพวกเขามาก่อปัญหาในช่วงเวลาเช่นนั้น
วิหารไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตระกูลชั้นหนึ่ง พวกเขาแตกต่างจากตระกูลธรรมดา พวกเขาไม่จำเป็นต้องให้วิหารยอมรับ และมีเงื่อนไขหลายอย่างกับวิหาร เริ่มมีความขัดแย้งในเรื่องที่น่าสนใจ ภาวะฉุกเฉินที่ตระกูลชั้นหนึ่งต้องให้ความสำคัญก็คือภาวะฉุกเฉินของทวีปกวงหมิง พวกเขาได้สร้างผลงานที่กล้าหาญไว้มากดังนั้นจึงไม่ค่อยเคารพยำเกรงวิหาร
นอกจากนั้นรากเหง้าของพวกเขาหยั่งรากลึกซึ้ง วิหารไม่เข้มงวดพวกเขา ขณะที่พวกเขากับตระกูลอื่นๆทั้งสองฝ่ายรักษาข้อตกลงที่เข้าใจกัน
สำหรับแผนกภายในของวิหารความต้องการปราบปรามตระกูลอันดับหนึ่งไม่เคยหยุด
แต่ขณะนั้นไม่มีใครพูดอะไร วิหารต้องอาศัยตระกูลที่มีชื่อเหล่านี้ พลังของพวกเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอจะชนะสงคราม วิหารต้องการดึงคนเข้าร่วมคาราวานสงคราม แม้ว่าสินสงครามจะต้องถูกแบ่งออกไป แต่ความสำคัญยังอยู่ที่ชัยชนะ
ถ้าพวกเขาแพ้ พวกเขาจะสูญเสียทุกอย่าง
ชาร์ลส์ต้องยอมรับว่าเขาเคารพการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพของประมุขผู้อาวุโส ก่อนที่สถานการณ์จะมีแนวโน้มไปในทางร้าย เขาเลือกใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์
แต่นี้ไม่ได้ทำให้ชาร์ลส์สบายใจ ความซาบซึ้งและความไม่พอใจกับตระกูลมีชื่อเสียงนั้นซับซ้อนมากซึ่งสาวร่องรอยไปได้เป็นร้อยๆ ปี ตระกูลทั้งหมดเหล่านี้สร้างความไม่สบายใจในหมู่ตระกูลอื่นและประกายเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ความขัดแย้งปะทุขึ้นได้ และความขัดแย้งระหว่างตระกูลชิวกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น
ชาร์ลส์รู้ว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ลงมือกันต่อ ถ้าความขัดแย้งระหว่างตระกูลรุนแรงขึ้นถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ พวกเขาไม่สามารถหยุดการต่อสู้ได้ ถึงเวลานั้นทางวิหารจะต้องถูกโยกคลอนและการลงโทษตระกูลเหล่านี้จะเป็นเหตุให้พวกเขาโกรธแค้นในใจมากขึ้น
“ส่งอัศวินพิเศษกวงหมิงไป” ชาร์ลส์กล่าว “บอกพวกเขาว่า ข้าไม่สนใจเรื่องความขัดเคืองในอดีตของพวกเขาแต่ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนั้น ใครก็ตามบังอาจก่อความยุ่งยาก วิหารจะไม่ยอมเด็ดขาด อัศวินพิเศษพร้อมแล้ว แต่ให้คำแนะนำว่าใครก็ตามที่ไม่ฟังวิหารจะต้องถูกฆ่าทันทีโดยไม่มีการเตือน!”
ตาของโซเฟียเป็นประกาย ความตั้งใจฆ่าที่เด็ดขาดและโอรสศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความมั่นใจนั่นคือโอรสศักดิ์สิทธิ์ที่นางรู้จัก
นางตอบด้วยเสียงหนักแน่น “รับทราบ!”
อัศวินพิเศษกวงหมิงก่อตั้งกระบวนและเริ่มลาดตระเวนไปทั่วทวีปเซียน ในช่วงเวลาสั้นๆ วันเดียวพวกเขารักษาความสงบ กว่า 40คนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถูกตัดศีรษะ ขณะที่ตระกูลมีชื่อเสียงถูกถอดถอนคุณสมบัติ
ในเวลานั้นกองทัพทั้งหลายที่รวมตัวเหนือทวีปเซียนค่อยมีมาตรฐานมากขึ้น
ถังเทียนไม่สนใจเรื่องราวทั้วงหมด เขาไม่สนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งกับตระกูลชิวและปล่อยให้จี๋เจ๋อรับมือ
ทั้งหมดที่เขาให้ความสนใจมีอยู่เรื่องเดียว
เชียนฮุ่ยมาถึงทวีปเซียนแล้ว!
ในใจของเขา ไม่มีอะไรที่สำคัญมากเท่านี้แล้ว
ความเพียรพยายามยาวนานผ่านเส้นทางยาวไกล ความคิดที่รุนแรง ความกังวลกับการรอคอยการดั้นด้นบุกตะลุยฝ่าฟันต่อสู้มาตลอดทาง ทั้งหมดนี้เพื่อการได้กลับมาพบเจอครั้งนี้