ตอนที่ 895 ตัดสินใจ..จะเอาอย่างไรดี
เมื่อจุ้ยมาวอี้ลืมตาตื่น นางพบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียงเหมือนกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่
ไม่มีใครช่วยงานทดลองของเย่ว์หยางหรือ?
จุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวอย่างนี้และนางจำได้ว่านางหมดสติไปเพราะทุ่มเทเกินกำลังช่วยงานสร้างวงเวทรูนเจ็ดสิบสองดาวกับเย่ว์หยางจนสำเร็จ
แม้ว่าวงเวทเจ็ดสิบสองดาวเป็นเพียงหนึ่งในสามวงเวทรบชั้นล่างแต่ก็สามารถทำได้สำเร็จ การสร้างกำไลอสูรจะผ่านเวลาช่วงนี้ไปได้ ด้วยความสำเร็จในการค้นคว้านี้ จะเป็นมาตรฐานนางเชื่อว่าอีกสองวงเวทจะสามารถสร้างขึ้นได้ในไม่ช้า โชคดีที่นางมีส่วนร่วมและช่วยให้เขาสร้างวงเวทเจ็ดสิบสองดาวจนสำเร็จก่อนที่นางจะหมดสติ
จำได้ว่าในเวลานั้นเพราะแรงระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เสื้อผ้าของนางฉีกขาดรุ่งริ่ง
ในเวลานั้นนางไม่รู้สึกอะไรในเมื่อนางมีแรงบันดาลใจ แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกอายและขายหน้านางอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยถึงสามวัน นั่นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง และนางไม่รู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะคิดยังไงกับนาง
“ตื่นแล้วหรือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันมายิ้มให้ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเหนื่อยข้าเข้ามาดูเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าไม่ฟื้นจนกระทั่งตอนนี้”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรินน้ำชาให้จุ้ยมาวอี้
และส่งให้นาง
จุ้ยมาวอี้หยิบผ้าห่มมาคลุมร่าง และรับน้ำชา ตอนนี้นางอยู่ในห้องขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันใดนั้นนางรู้ตัวว่านางคงไม่สามารถช่วยอะไรได้จึงถูกพามาจากห้องทดลอง นางจิบน้ำชารู้สึกชุ่มคอทั้งยังช่วยสงบความรู้สึกว้าวุ่นใจได้เสียงที่พูดออกจากปากนางเบาเหมือนเสียงกระซิบ “ข้าทุ่มเทกำลังมากไปหน่อย ลืมไป...”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะ “พี่เย่, ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังก็ได้ ดีแล้วที่ทุ่มเทค้นคว้าทดลอง ท่านไม่ต้องอายถ้าท่านจะร่วมทำงานพร้อมกับเขา ที่สำคัญท่านเป็นเจ้าสาวที่จะต้องร่วมทำงานกับเขาอยู่แล้วและแม่สี่ก็เห็นดีกับเรื่องนั้นด้วย”
“ข้าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?ข้าอาวุโสกว่าเจ้าถึงสองรุ่น แม้ว่าเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เจ้าเรียกเองโดยพลการ จะต้องมีการจัดลำดับญาติใหม่อย่างแท้จริงเพราะรุ่นของข้าสูงเกินไป” จุ้ยมาวอี้เขินอายมากจนนางกลัวเรื่องการพูดหัวข้อนี้ที่สุด คำพูดของฝ่าบาทนางคงไม่กล้าฝืน สำหรับแม่สี่ นางยังคงให้ความเคารพ และสำหรับเย่ว์หยางเจ้าเด็กร้ายกาจอาจพูดได้ว่านางชื่นชมลับๆ แม้ว่าข้อบกพร่องของเขาจะมีมากมาย แต่นางแค่แสดงความรังเกียจอย่างผิวเผิน แต่ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบเขา การแต่งงานกับเขาจุ้ยมาวอี้คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการนับรุ่น อู๋เสีย,อู๋เหินและเชี่ยนเชี่ยน พวกนางลำดับสูงกว่า ยังมีทั้งโล่วฮัวและอี้หนาน พวกนางทุกคนนับว่ามีลำดับอยู่ก่อนกว่า
“ความสัมพันธ์อาวุโสก่อนหลังอะไรกัน ถ้าท่านยังไม่ต้องการจะแต่งงานมีลูกกับเจ้าตัวร้ายสักคน ข้าเกรงว่าวันคืนจะผ่านไปเปล่าๆ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดจริงจัง
“ข้ายังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้”จุ้ยมาวอี้รู้สึกอึดอัด นางหมกตัวอยู่ในผ้าห่ม
“ก่อนนี้อู๋เสียไม่รู้ความจริงของเรื่องราว ข้าไม่รู้ว่าเรื่องจริงจังเพียงไหนจนกระทั่งตอนนี้ ถ้าพ่อหนุ่มตัวร้ายไม่ปรากฏตัวขึ้นข้าเกรงว่าตระกูลร้อยบุปผาคงจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของหอทงเทียนความจริงแล้วการที่เราได้พบเจอกับเขาอาจเป็นเรื่องของชะตาลิขิต ในท่ามกลางความเมตตาของเทพโบราณและความพยายามตลอดหลายปีของมารดาของเย่ว์หยางคิดดูสิ ว่าเราโชคดีขนาดไหน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจ
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ?” จุ้ยมาวอี้มองหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“แล้วเจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้มและย้อนถาม
“บางครั้งก็คิดเหมือนกัน...” จุ้ยมาวอี้ไม่กล้าสบตา นางก้มหน้า เสียงของนางเบาลงๆจนกระทั่งไม่มีเสียงออกมา
“ในเมื่อนี่เป็นชะตาลิขิตเจ้ายังต้องกังวลเรื่องอะไรอีก? นอกจากนี้ความสุขในชีวิตไม่ใช่หาได้ง่าย ต้องกล้าหาญเหมือนอี้หนาน,กล้าแสดงแสดงออกเหมือนโล่วฮัวอดทนเหมือนอู๋เหินและรักครอบครัวเหมือนอู๋เสียถึงจะถูก”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเอามือแตะไหล่จุ้ยมาวอี้เบาๆ “ข้ารู้ว่าท่านสามารถหาความสุขนั้นได้ อย่างไรก็ตาม เราต้องพยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ตระกูลร้อยบุปผารุ่งเรืองขึ้นมาอีกเจ้าพักผ่อนให้ดี ข้าจะออกไปฝึกดาบก่อน!”
“เชี่ยนเชี่ยน...” จุ้ยมาวอี้มองตามหลัง จากนั้นพรวดพราดลุกขึ้นแต่เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันหน้ากลับมา นางรีบส่ายหน้า “ข้าสบายดี ไม่มีอะไร!”
“ความจริงถ้าเจ้าตั้งใจทำ เจ้าก็ทำได้ดี”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว นางยิ้มให้ “ด้วยความทุ่มเทของเจ้าทำให้พี่หวี่,อู๋เหินและอู๋เสียช่วยให้เขาสร้างวงเวทติดตั้งกำไลอสูรสำหรับทำสัญญาวิญญาณได้สำเร็จ ตอนนี้มีปัญหาเล็กน้อยแค่สองข้อประการแรกคือคนทดสอบ ประการที่สองคือ วัสดุสังเคราะห์ขั้นสุดท้ายเมื่อเห็นการทุ่มเทแสดงออกของท่าน อู๋เสียตัดสินใจมอบหมายให้ท่านเป็นคนแก้ปัญหาสองข้อนี้!”
“ไม่นะทำอย่างนั้นไม่ได้!” จุ้ยมาวอี้ทั้งประหลาดใจ ทั้งมีความสุขอายและกังวล
นี่ชัดเจนว่าเป็นการมอบความดีความชอบให้กับนางทั้งหมด
นอกจากนี้ยังให้โอกาสนางสร้างทัศนคติที่ดีต่อเขา
แม้ว่าจิตใจพวกนางจะน่านับถือ แต่นางก็ยังรู้สึกน่าอึดอัดเกินไป ความจริงทั้งสองคนไม่ได้คิดอะไร...การทดลองนั้นไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายอะไรกับเขา เชี่ยนเชี่ยนและอู๋เสียไม่รู้เหตุการณ์เบื้องหลังการทดลองนี้
จุ้ยมาวอี้พอคิดถึงเรื่องนี้ นางรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
“ท่านแม่, แม่ไม่สบายเหรอ?” หนูน้อยแพนด้าวิ่งเข้ามาหาในมือยังถือว่าวตัวใหญ่ ดูเหมือนเธอกำลังเล่นกับซวงเอ๋อและบังเอิญผ่านมา แต่ก็ไม่ลืมเข้ามาทักทายมารดา
“ไม่ได้ป่วย, เจ้าไปเล่นต่อเถอะ!” ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกตินางต้องให้หนิวหนิวฝึกและให้เล่นน้อยลง แต่วันนี้นางลูบศีรษะของหนิวหนิวด้วยความเอ็นดูเป็นพิเศษแพนดาน้อยหนิวหนิวพอได้ยินเท่านั้นก็ร่าเริงดีใจอย่างไรก็ตามขณะที่เธอจะออกไปเล่นข้างนอก จุ้ยมาวอี้เรียกเธออีกครั้ง “หนิวหนิว! เจ้าชอบพี่ชายหรือเปล่า?”
“ชอบสิ,นอกจากแม่แล้ว หนิวหนิวชอบพี่ชายที่สุด!” เมื่อหนิวหนิวพูดถึงเย่ว์หยางเธอพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน
“ชอบก็ดีแล้ว...ไปเล่นเถอะไป” จุ้ยมาวอี้โบกมืออนุญาต แพนดาน้อยร่าเริงวิ่งออกไปนอกประตูได้ยินเสียงแว่วเธอคุยกับซวงเอ๋อ “วันนี้แม่ไม่ร้องไห้แล้ว แล้วยังอนุญาตให้ข้าไปเล่นได้ด้วย ดีจริงๆ เราไปหาพี่ชายกันเถอะ!”
“พี่ชายเพิ่งหลับแม่บอกว่าอย่าไปรบกวนเขา เราไปชวนเสี่ยวเหวินหลีเล่นว่าวกันเถอะ!”
ดีแล้ว
พอได้ยินเสียงหนิวหนิวเล่นอย่างร่าเริง จุ้ยมาวอี้อดละอายใจมิได้
เมื่อก่อนนั้นนางอารมณ์ไม่ค่อยดีแอบร้องไห้จริงๆหนิวหนิวเห็นด้วยหรือ? หรือว่าเธอไปฟ้องเจ้าเด็กร้ายกาจนั่น? ถ้าเขารู้เขาจะคิดยังไง? เรื่องนี้น่าอายจริงๆต่อให้แอบร้องตอนกลางคืน ต่อไปในภายหลังเขาจะต้องเอาเรื่องนี้มาล้ออย่างแน่นอนเรื่องนี้คงถูกยกมาพูดในอนาคตแน่
เมื่อจุ้ยมาวอี้เอนกายลงนอนนางรู้สึกเหมือนว่าสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ดูเหมือนอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางอยู่ในหัวใจนางถูกยกหายไปโดยไม่รู้ตัว
แต่งงาน?
แม้ว่าจะค่อนข้างสนิทกับเขาแต่ถ้านางต้องเร่งรัดแต่งงานกับเขา นางจะไม่เร่งรัดให้เขาสัญญามากขึ้น อย่างไรก็ตาม นางจะไม่ตีเสมอกับเชี่ยนเชี่ยนมิฉะนั้นคนอื่นจะมองว่านางเห็นแก่ตัว
จุ้ยมาวอี้ผลอยหลับไปอย่างง่ายดาย
ในช่วงที่นางหลับดูเหมือนว่านางฝันถึงบางอย่างที่น่าสนใจ
ใบหน้านางปรากฏรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข
ภาพนี้ถ้านางให้หนิวหนิวเห็นเธอคงคิดว่าเธอไม่เห็นแม่ยิ้มมาเป็นเวลานานแล้ว
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งจุ้ยมาวอี้จู่ๆก็อยากพบเย่ว์หยางทันที แต่นางหักห้ามใจไว้ หลังจากผ่านไปสามวัน แสดงออกต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกนางคุยถึงเขา จุ้ยมาวอี้จะทำเป็นเหมือนไม่ตั้งใจฟัง เมื่อได้ยินว่าเย่ว์หวี่ช่วยเขาลงวงเวทรูนขั้นสุดท้ายในกำไลอสูรจนเสร็จสิ้น นอกจากนี้ด้วยการออกแบบพื้นฐานของอู๋เสียและอู๋เหินทำให้ได้กำไลอสูรสามรูปแบบ นางอดลอบถอนหายใจมิได้ ความจริงเย่ว์หวี่ผู้อ่อนโยนและสนิทกับเขากลับมาแค่วันเดียวยังช่วยให้เขาสร้างแบบมาตรฐานได้ เขาใช้เวลาสามวันก็ทดลองวงเวทรูนระดับสูงได้นางยังห่างไกลจากเย่ว์หวี่ช่วงใหญ่จริงๆ
เวลาเที่ยงคืน
“เจ้ายังไม่หลับใช่ไหม?” เย่ว์หยางเคาะประตูห้องจุ้ยมาวอี้
“ข้าจะหลับอยู่แล้ว เจ้าจะทำอะไร?” จุ้ยมาวอี้คิดถึงเรื่องงานค้นคว้าทดลองกับเย่ว์หยางแล้วร่างกายนางอดร้อนผ่าวมิได้ นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะมาตามหานางนางตกใจตะโกนตอบ “ข้าไม่มีอะไรมาก แค่อยากพัก พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่!”
นางกลัวว่าเขาจะเข้ามาและทำอะไรบางอย่างโดยพลการ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นางไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขายังไง
แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงจูบ และแม่สี่จะเห็นดีด้วยและเชี่ยนเชี่ยนกับอู๋เสียไม่ได้คัดค้านอะไร แต่พวกเขายังไม่พร้อม นั่นเร็วเกินไป!
เย่ว์หยางผลักเปิดประตูเข้ามาข้างในทันที เมื่อจุ้ยมาวอี้ตกใจพรวดพราดลุกขึ้นจากเตียง “พี่หวี่มาแล้ว แต่นางปฏิเสธไม่ได้ช่วยข้าทดลองและเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่รู้หายไปไหน จับได้ต้องตีก้นเสียบ้าง เหมียวเหมียว เจ้ามาช่วยข้าก่อน!”
“อย่ามาเรียกข้าว่าเหมียวเหมียว..ข้าไม่ได้ชื่อเหมียวเหมียว!” จุ้ยมาวอี้รีบกล่าว แต่นางไม่รู้สึกว่าคำว่าเหมียวเหมียวไม่ดีแต่นางรู้สึกว่าสนิทเกินไป
“เร็วเข้า!” เย่ว์หยางไม่ได้ใส่ใจถึงชื่อนาง เขาฉุดดึงนางไป
“รอให้ข้าเปลี่ยนชุดก่อน!” จุ้ยมาวอี้ยังคงสวมชุดนอนนางพยายามแกะมือเย่ว์หยางเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุด
“มันยุ่งยากเกินไป ชุดนั้นนั่นแหละ!” เย่ว์หยางไม่คิดว่าแค่ใส่ชุดนอนกลางคืนคงไม่มีอะไรผิดแม้ว่าจะเหมือนยั่วยวนบ้าง แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ไม่มีอะไรผิด
“นี่, เจ้าช้าลงหน่อยได้ไหม,ข้าไปกับเจ้าก็ได้ แต่ช่วยช้าลงหน่อย..” ตอนนี้จุ้ยมาวอี้ใจเต้นแรงขึ้นแม้ว่านางต้องการปฏิเสธ แต่ตัวของนางตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่านางไม่ยอมรับว่านางประหลาดใจและดีใจและคิดว่าเขาคงฉุดดึงนางไปช่วยเขา
หลังจากจุ้ยมาวอี้เข้าไปในห้องทดลองเย่ว์หยางเตรียมทำงานทันที
นางมองดูแผนการทำงาน
นางเตรียมพร้อมทำความคุ้นเคยกับกระบวนการเพื่อให้เข้ากันได้กับเขาอย่างดีที่สุด
ใครไม่รู้
แค่เพียงมองวูบแรก นางถึงกับหลั่งน้ำตาทันที ตามที่อู๋เสีย อู๋เหินและเชี่ยนเชี่ยนออกแบบไว้ กำไลอสูรแรกจะต้องทำสัญญากับเย่ว์หยางเต็มที่ ถ้าแต่กายกับใจไม่เชื่อมโยงกันเต็มที่นั่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนได้ ที่สำคัญที่สุดในการทดลองครั้งสิ่งที่ต้องทำกับเย่ว์หยาง ไม่ต่างจากฝึกฝนพลังคู่รักเขาจะต้องเข้าไปสำรวจจิตใจในโลกวิญญาณสัมผัสความรู้สึกที่อ่อนไหวที่สุด
มิน่าเล่าเย่ว์หวี่ถึงปฏิเสธจะร่วมมือทดลองกับเย่ว์หยาง! การทดลองอย่างนี้เมื่อทดลองเสร็จแล้วก็ไม่ต่างจากเป็นคู่รักของเขา ถ้าเย่ว์หยางคิดมิดีมิร้าย ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไป นางจะทำอย่างไรดี?
ไม่น่ามาเลย แต่ก็ต้องทำ แต่นี่มันเป็นเรื่องเกินคาดไปมาก
หรือว่าคืนนี้ ข้าจะต้องสละโสด?
จุ้ยมาวอี้พอคิดเช่นนั้น ร่างของนางสะท้านเล็กน้อย และนางไม่ได้เตรียมใจมาก่อนจะยอมเขาในลักษณะนี้หรือ? นี่, ไวเกินไปหรือเปล่า?จำเป็นหรือไม่ที่ต้องบอกเขาว่าไม่สามารถเข้าร่วมในการทดสอบครั้งแรกได้?จะออกจากประตูไป หรือร่วมมือเต็มที่กับเขาทดลองและร่วมออกแบบกับเขา
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินอนาคตของนางเอง
นางจะทำอย่างไร?