ตอนที่แล้วตอนที่ 894 ความเข้าใจของสาวขี้เมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 896 เปิดใจจะพบความสุข

ตอนที่ 895 ตัดสินใจ..จะเอาอย่างไรดี


เมื่อจุ้ยมาวอี้ลืมตาตื่น นางพบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียง

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียงเหมือนกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่

ไม่มีใครช่วยงานทดลองของเย่ว์หยางหรือ?

จุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวอย่างนี้และนางจำได้ว่านางหมดสติไปเพราะทุ่มเทเกินกำลังช่วยงานสร้างวงเวทรูนเจ็ดสิบสองดาวกับเย่ว์หยางจนสำเร็จ

แม้ว่าวงเวทเจ็ดสิบสองดาวเป็นเพียงหนึ่งในสามวงเวทรบชั้นล่างแต่ก็สามารถทำได้สำเร็จ การสร้างกำไลอสูรจะผ่านเวลาช่วงนี้ไปได้  ด้วยความสำเร็จในการค้นคว้านี้ จะเป็นมาตรฐานนางเชื่อว่าอีกสองวงเวทจะสามารถสร้างขึ้นได้ในไม่ช้า โชคดีที่นางมีส่วนร่วมและช่วยให้เขาสร้างวงเวทเจ็ดสิบสองดาวจนสำเร็จก่อนที่นางจะหมดสติ

จำได้ว่าในเวลานั้นเพราะแรงระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เสื้อผ้าของนางฉีกขาดรุ่งริ่ง

ในเวลานั้นนางไม่รู้สึกอะไรในเมื่อนางมีแรงบันดาลใจ  แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกอายและขายหน้านางอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยถึงสามวัน นั่นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง และนางไม่รู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะคิดยังไงกับนาง

“ตื่นแล้วหรือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันมายิ้มให้ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเหนื่อยข้าเข้ามาดูเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าไม่ฟื้นจนกระทั่งตอนนี้”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรินน้ำชาให้จุ้ยมาวอี้

และส่งให้นาง

จุ้ยมาวอี้หยิบผ้าห่มมาคลุมร่าง และรับน้ำชา  ตอนนี้นางอยู่ในห้องขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันใดนั้นนางรู้ตัวว่านางคงไม่สามารถช่วยอะไรได้จึงถูกพามาจากห้องทดลอง  นางจิบน้ำชารู้สึกชุ่มคอทั้งยังช่วยสงบความรู้สึกว้าวุ่นใจได้เสียงที่พูดออกจากปากนางเบาเหมือนเสียงกระซิบ “ข้าทุ่มเทกำลังมากไปหน่อย  ลืมไป...”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะ  “พี่เย่, ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังก็ได้  ดีแล้วที่ทุ่มเทค้นคว้าทดลอง ท่านไม่ต้องอายถ้าท่านจะร่วมทำงานพร้อมกับเขา ที่สำคัญท่านเป็นเจ้าสาวที่จะต้องร่วมทำงานกับเขาอยู่แล้วและแม่สี่ก็เห็นดีกับเรื่องนั้นด้วย”

“ข้าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?ข้าอาวุโสกว่าเจ้าถึงสองรุ่น แม้ว่าเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เจ้าเรียกเองโดยพลการ จะต้องมีการจัดลำดับญาติใหม่อย่างแท้จริงเพราะรุ่นของข้าสูงเกินไป”  จุ้ยมาวอี้เขินอายมากจนนางกลัวเรื่องการพูดหัวข้อนี้ที่สุด  คำพูดของฝ่าบาทนางคงไม่กล้าฝืน  สำหรับแม่สี่ นางยังคงให้ความเคารพ และสำหรับเย่ว์หยางเจ้าเด็กร้ายกาจอาจพูดได้ว่านางชื่นชมลับๆ แม้ว่าข้อบกพร่องของเขาจะมีมากมาย แต่นางแค่แสดงความรังเกียจอย่างผิวเผิน แต่ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบเขา การแต่งงานกับเขาจุ้ยมาวอี้คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการนับรุ่น  อู๋เสีย,อู๋เหินและเชี่ยนเชี่ยน พวกนางลำดับสูงกว่า ยังมีทั้งโล่วฮัวและอี้หนาน พวกนางทุกคนนับว่ามีลำดับอยู่ก่อนกว่า

“ความสัมพันธ์อาวุโสก่อนหลังอะไรกัน ถ้าท่านยังไม่ต้องการจะแต่งงานมีลูกกับเจ้าตัวร้ายสักคน  ข้าเกรงว่าวันคืนจะผ่านไปเปล่าๆ”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดจริงจัง

“ข้ายังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้”จุ้ยมาวอี้รู้สึกอึดอัด นางหมกตัวอยู่ในผ้าห่ม

“ก่อนนี้อู๋เสียไม่รู้ความจริงของเรื่องราว ข้าไม่รู้ว่าเรื่องจริงจังเพียงไหนจนกระทั่งตอนนี้ ถ้าพ่อหนุ่มตัวร้ายไม่ปรากฏตัวขึ้นข้าเกรงว่าตระกูลร้อยบุปผาคงจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของหอทงเทียนความจริงแล้วการที่เราได้พบเจอกับเขาอาจเป็นเรื่องของชะตาลิขิต ในท่ามกลางความเมตตาของเทพโบราณและความพยายามตลอดหลายปีของมารดาของเย่ว์หยางคิดดูสิ ว่าเราโชคดีขนาดไหน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจ

“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ?” จุ้ยมาวอี้มองหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

“แล้วเจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้มและย้อนถาม

“บางครั้งก็คิดเหมือนกัน...” จุ้ยมาวอี้ไม่กล้าสบตา  นางก้มหน้า เสียงของนางเบาลงๆจนกระทั่งไม่มีเสียงออกมา

“ในเมื่อนี่เป็นชะตาลิขิตเจ้ายังต้องกังวลเรื่องอะไรอีก? นอกจากนี้ความสุขในชีวิตไม่ใช่หาได้ง่าย ต้องกล้าหาญเหมือนอี้หนาน,กล้าแสดงแสดงออกเหมือนโล่วฮัวอดทนเหมือนอู๋เหินและรักครอบครัวเหมือนอู๋เสียถึงจะถูก”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเอามือแตะไหล่จุ้ยมาวอี้เบาๆ  “ข้ารู้ว่าท่านสามารถหาความสุขนั้นได้  อย่างไรก็ตาม เราต้องพยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ตระกูลร้อยบุปผารุ่งเรืองขึ้นมาอีกเจ้าพักผ่อนให้ดี ข้าจะออกไปฝึกดาบก่อน!”

“เชี่ยนเชี่ยน...”  จุ้ยมาวอี้มองตามหลัง จากนั้นพรวดพราดลุกขึ้นแต่เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันหน้ากลับมา นางรีบส่ายหน้า “ข้าสบายดี ไม่มีอะไร!”

“ความจริงถ้าเจ้าตั้งใจทำ  เจ้าก็ทำได้ดี”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว นางยิ้มให้ “ด้วยความทุ่มเทของเจ้าทำให้พี่หวี่,อู๋เหินและอู๋เสียช่วยให้เขาสร้างวงเวทติดตั้งกำไลอสูรสำหรับทำสัญญาวิญญาณได้สำเร็จ  ตอนนี้มีปัญหาเล็กน้อยแค่สองข้อประการแรกคือคนทดสอบ ประการที่สองคือ วัสดุสังเคราะห์ขั้นสุดท้ายเมื่อเห็นการทุ่มเทแสดงออกของท่าน อู๋เสียตัดสินใจมอบหมายให้ท่านเป็นคนแก้ปัญหาสองข้อนี้!”

“ไม่นะทำอย่างนั้นไม่ได้!”  จุ้ยมาวอี้ทั้งประหลาดใจ ทั้งมีความสุขอายและกังวล

นี่ชัดเจนว่าเป็นการมอบความดีความชอบให้กับนางทั้งหมด

นอกจากนี้ยังให้โอกาสนางสร้างทัศนคติที่ดีต่อเขา

แม้ว่าจิตใจพวกนางจะน่านับถือ  แต่นางก็ยังรู้สึกน่าอึดอัดเกินไป ความจริงทั้งสองคนไม่ได้คิดอะไร...การทดลองนั้นไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายอะไรกับเขา เชี่ยนเชี่ยนและอู๋เสียไม่รู้เหตุการณ์เบื้องหลังการทดลองนี้

จุ้ยมาวอี้พอคิดถึงเรื่องนี้ นางรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดิน

“ท่านแม่, แม่ไม่สบายเหรอ?” หนูน้อยแพนด้าวิ่งเข้ามาหาในมือยังถือว่าวตัวใหญ่ ดูเหมือนเธอกำลังเล่นกับซวงเอ๋อและบังเอิญผ่านมา  แต่ก็ไม่ลืมเข้ามาทักทายมารดา

“ไม่ได้ป่วย, เจ้าไปเล่นต่อเถอะ!”  ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกตินางต้องให้หนิวหนิวฝึกและให้เล่นน้อยลง แต่วันนี้นางลูบศีรษะของหนิวหนิวด้วยความเอ็นดูเป็นพิเศษแพนดาน้อยหนิวหนิวพอได้ยินเท่านั้นก็ร่าเริงดีใจอย่างไรก็ตามขณะที่เธอจะออกไปเล่นข้างนอก จุ้ยมาวอี้เรียกเธออีกครั้ง  “หนิวหนิว!  เจ้าชอบพี่ชายหรือเปล่า?”

“ชอบสิ,นอกจากแม่แล้ว หนิวหนิวชอบพี่ชายที่สุด!” เมื่อหนิวหนิวพูดถึงเย่ว์หยางเธอพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน

“ชอบก็ดีแล้ว...ไปเล่นเถอะไป”  จุ้ยมาวอี้โบกมืออนุญาต  แพนดาน้อยร่าเริงวิ่งออกไปนอกประตูได้ยินเสียงแว่วเธอคุยกับซวงเอ๋อ “วันนี้แม่ไม่ร้องไห้แล้ว แล้วยังอนุญาตให้ข้าไปเล่นได้ด้วย ดีจริงๆ เราไปหาพี่ชายกันเถอะ!”

“พี่ชายเพิ่งหลับแม่บอกว่าอย่าไปรบกวนเขา เราไปชวนเสี่ยวเหวินหลีเล่นว่าวกันเถอะ!”

ดีแล้ว

พอได้ยินเสียงหนิวหนิวเล่นอย่างร่าเริง จุ้ยมาวอี้อดละอายใจมิได้

เมื่อก่อนนั้นนางอารมณ์ไม่ค่อยดีแอบร้องไห้จริงๆหนิวหนิวเห็นด้วยหรือ? หรือว่าเธอไปฟ้องเจ้าเด็กร้ายกาจนั่น?  ถ้าเขารู้เขาจะคิดยังไง? เรื่องนี้น่าอายจริงๆต่อให้แอบร้องตอนกลางคืน ต่อไปในภายหลังเขาจะต้องเอาเรื่องนี้มาล้ออย่างแน่นอนเรื่องนี้คงถูกยกมาพูดในอนาคตแน่

เมื่อจุ้ยมาวอี้เอนกายลงนอนนางรู้สึกเหมือนว่าสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ดูเหมือนอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางอยู่ในหัวใจนางถูกยกหายไปโดยไม่รู้ตัว

แต่งงาน?

แม้ว่าจะค่อนข้างสนิทกับเขาแต่ถ้านางต้องเร่งรัดแต่งงานกับเขา นางจะไม่เร่งรัดให้เขาสัญญามากขึ้น  อย่างไรก็ตาม นางจะไม่ตีเสมอกับเชี่ยนเชี่ยนมิฉะนั้นคนอื่นจะมองว่านางเห็นแก่ตัว

จุ้ยมาวอี้ผลอยหลับไปอย่างง่ายดาย

ในช่วงที่นางหลับดูเหมือนว่านางฝันถึงบางอย่างที่น่าสนใจ

ใบหน้านางปรากฏรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข

ภาพนี้ถ้านางให้หนิวหนิวเห็นเธอคงคิดว่าเธอไม่เห็นแม่ยิ้มมาเป็นเวลานานแล้ว

เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งจุ้ยมาวอี้จู่ๆก็อยากพบเย่ว์หยางทันที แต่นางหักห้ามใจไว้ หลังจากผ่านไปสามวัน แสดงออกต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน  อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกนางคุยถึงเขา จุ้ยมาวอี้จะทำเป็นเหมือนไม่ตั้งใจฟัง เมื่อได้ยินว่าเย่ว์หวี่ช่วยเขาลงวงเวทรูนขั้นสุดท้ายในกำไลอสูรจนเสร็จสิ้น  นอกจากนี้ด้วยการออกแบบพื้นฐานของอู๋เสียและอู๋เหินทำให้ได้กำไลอสูรสามรูปแบบ  นางอดลอบถอนหายใจมิได้ ความจริงเย่ว์หวี่ผู้อ่อนโยนและสนิทกับเขากลับมาแค่วันเดียวยังช่วยให้เขาสร้างแบบมาตรฐานได้ เขาใช้เวลาสามวันก็ทดลองวงเวทรูนระดับสูงได้นางยังห่างไกลจากเย่ว์หวี่ช่วงใหญ่จริงๆ

เวลาเที่ยงคืน

“เจ้ายังไม่หลับใช่ไหม?” เย่ว์หยางเคาะประตูห้องจุ้ยมาวอี้

“ข้าจะหลับอยู่แล้ว เจ้าจะทำอะไร?”   จุ้ยมาวอี้คิดถึงเรื่องงานค้นคว้าทดลองกับเย่ว์หยางแล้วร่างกายนางอดร้อนผ่าวมิได้  นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะมาตามหานางนางตกใจตะโกนตอบ “ข้าไม่มีอะไรมาก แค่อยากพัก พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่!”

นางกลัวว่าเขาจะเข้ามาและทำอะไรบางอย่างโดยพลการ

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นางไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขายังไง

แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงจูบ และแม่สี่จะเห็นดีด้วยและเชี่ยนเชี่ยนกับอู๋เสียไม่ได้คัดค้านอะไร แต่พวกเขายังไม่พร้อม นั่นเร็วเกินไป!

เย่ว์หยางผลักเปิดประตูเข้ามาข้างในทันที  เมื่อจุ้ยมาวอี้ตกใจพรวดพราดลุกขึ้นจากเตียง  “พี่หวี่มาแล้ว แต่นางปฏิเสธไม่ได้ช่วยข้าทดลองและเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่รู้หายไปไหน จับได้ต้องตีก้นเสียบ้าง เหมียวเหมียว เจ้ามาช่วยข้าก่อน!”

“อย่ามาเรียกข้าว่าเหมียวเหมียว..ข้าไม่ได้ชื่อเหมียวเหมียว!”  จุ้ยมาวอี้รีบกล่าว  แต่นางไม่รู้สึกว่าคำว่าเหมียวเหมียวไม่ดีแต่นางรู้สึกว่าสนิทเกินไป

“เร็วเข้า!”  เย่ว์หยางไม่ได้ใส่ใจถึงชื่อนาง เขาฉุดดึงนางไป

“รอให้ข้าเปลี่ยนชุดก่อน!”  จุ้ยมาวอี้ยังคงสวมชุดนอนนางพยายามแกะมือเย่ว์หยางเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุด

“มันยุ่งยากเกินไป  ชุดนั้นนั่นแหละ!” เย่ว์หยางไม่คิดว่าแค่ใส่ชุดนอนกลางคืนคงไม่มีอะไรผิดแม้ว่าจะเหมือนยั่วยวนบ้าง แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ไม่มีอะไรผิด

“นี่, เจ้าช้าลงหน่อยได้ไหม,ข้าไปกับเจ้าก็ได้ แต่ช่วยช้าลงหน่อย..”  ตอนนี้จุ้ยมาวอี้ใจเต้นแรงขึ้นแม้ว่านางต้องการปฏิเสธ แต่ตัวของนางตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่านางไม่ยอมรับว่านางประหลาดใจและดีใจและคิดว่าเขาคงฉุดดึงนางไปช่วยเขา

หลังจากจุ้ยมาวอี้เข้าไปในห้องทดลองเย่ว์หยางเตรียมทำงานทันที

นางมองดูแผนการทำงาน

นางเตรียมพร้อมทำความคุ้นเคยกับกระบวนการเพื่อให้เข้ากันได้กับเขาอย่างดีที่สุด

ใครไม่รู้

แค่เพียงมองวูบแรก นางถึงกับหลั่งน้ำตาทันที  ตามที่อู๋เสีย อู๋เหินและเชี่ยนเชี่ยนออกแบบไว้ กำไลอสูรแรกจะต้องทำสัญญากับเย่ว์หยางเต็มที่  ถ้าแต่กายกับใจไม่เชื่อมโยงกันเต็มที่นั่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนได้  ที่สำคัญที่สุดในการทดลองครั้งสิ่งที่ต้องทำกับเย่ว์หยาง ไม่ต่างจากฝึกฝนพลังคู่รักเขาจะต้องเข้าไปสำรวจจิตใจในโลกวิญญาณสัมผัสความรู้สึกที่อ่อนไหวที่สุด

มิน่าเล่าเย่ว์หวี่ถึงปฏิเสธจะร่วมมือทดลองกับเย่ว์หยาง!  การทดลองอย่างนี้เมื่อทดลองเสร็จแล้วก็ไม่ต่างจากเป็นคู่รักของเขา ถ้าเย่ว์หยางคิดมิดีมิร้าย ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไป  นางจะทำอย่างไรดี?

ไม่น่ามาเลย แต่ก็ต้องทำ แต่นี่มันเป็นเรื่องเกินคาดไปมาก

หรือว่าคืนนี้ ข้าจะต้องสละโสด?

จุ้ยมาวอี้พอคิดเช่นนั้น ร่างของนางสะท้านเล็กน้อย และนางไม่ได้เตรียมใจมาก่อนจะยอมเขาในลักษณะนี้หรือ? นี่, ไวเกินไปหรือเปล่า?จำเป็นหรือไม่ที่ต้องบอกเขาว่าไม่สามารถเข้าร่วมในการทดสอบครั้งแรกได้?จะออกจากประตูไป หรือร่วมมือเต็มที่กับเขาทดลองและร่วมออกแบบกับเขา

การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินอนาคตของนางเอง

นางจะทำอย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด