ตอนที่ 894 ตระกูลสุดยอดแล้วจะทำไม?
จี๋เจ๋อไม่เชื่อเด็ดขาด ‘พวกเขากล้ามาที่นี่ พวกเขามาจากตระกูลชิวหรอกหรือ? พวกเขาคิดจะตัดสินเรื่องที่ท่าเรือ? ยังมีคนไร้เดียงสาอย่างนั้นอยู่ในโลกด้วยหรือนี่?’
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งวิ่งมาหาพวกเขาด้วยความโกรธขนาดนั้นด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม จี๋เจ๋อตื่นเต้นมากจนขนลุก เมื่อคิดถึงเรื่องที่พวกเขาต้องติดอยู่ที่ท่าเรือเหมือนคนโง่เง่าอยู่สองชั่วโมง ใจของจี๋เจ๋อรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าเขาเพียงลำพังเขาคงวิ่งลุยเข้าใส่ตระกูลชิวแล้วฆ่าคนสักสองสามคน แต่เมื่อคิดว่าเจ้านายก็ได้รับอัปยศอดสูเหมือนกัน จี๋เจ๋อตำหนิตัวเอง แต่ไม่ว่าเขาจะทำยังไงเพลิงอารมณ์ร้ายในใจของเขาก็ไม่อาจดับได้
นับตั้งแต่เขาให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามถังเทียน เป้าหมายชีวิตของจี๋เจ๋อคือกลายเป็นมือซ้ายและขวาของถังเทียนเป็นองครักษ์ผู้ภักดีที่สุดของเขา อย่างน้อยที่สุดเขาต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของถังเทียน ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และภักดีในใจนี้ จี๋เจ๋อจึงติดตามถังเทียน แต่ไม่คาดเลยว่าเจ้านายต้องมาเผชิญกลุ่มมดแมลงก่อนเมื่อมาถึงทวีปเซียน
‘ด้วยสถานะของนายท่าน เขาจะไม่ทะเลาะกับมดแมลงเหล่านี้’ แต่จี๋เจ๋อไม่ตั้งใจจะปล่อยพวกเขาไป
เมื่อเขากังวลเรื่องที่ไม่สามารถหาอีกฝ่ายหนึ่งเจอ อีกฝ่ายหนึ่งก็มาหาพวกเขาถึงหน้าประตูบ้าน จี๋เจ๋อจะไม่ดีใจได้ยังไง? และเมื่อได้ยินว่าตระกูลชิวกำลังจะทำอะไรบางอย่างที่โจ่งแจ้ง จี๋เจ๋อก็ยิ่งดีใจมากขึ้น ยิ่งพวกเขาก้าวร้าวดุร้ายการต่อสู้จะยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น จี๋เจ๋อกำลังมองหาความขัดแย้งที่อาจเพิ่มถึงจุดเดือด วิธีนี้ในที่สุดเขาก็มีโอกาส เขาพอใจแม้ไม่ต้องฆ่ากัน จี๋เจ๋อไม่ใช่คนดีอยู่แล้วเมื่อเขาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบาปตามลำพัง เขามักจะปะปนอยู่กับหมู่ผู้คนที่ดุร้ายน่ากลัว เขามีวิธีการนับไม่ถ้วนให้คนตายโดยไม่ต้องลงมือฆ่า
แต่พัฒนาเหตุการณ์การที่ตามมาทำให้จี๋เจ๋อผิดหวัง
‘แค่จัดการผู้คุ้มกันไม่กี่คน พวกเจ้าก็ต้องการถอยหรือ? ได้โปรดเถอะพี่ชายพวกเจ้าใช้ความพยายามเดินทางมาตั้งไกลและยังด่าว่าพวกเราตั้งนานเป็นไปได้หรือว่าพวกเจ้าแค่ต้องการจะพูดคำไม่กี่คำนี้? พวกเจ้าคือตระกูลชิว,พวกเจ้าเป็นตระกูลที่มีศักดิ์ศรีเป็นอันดับหนึ่ง พลังที่น่ากลัวของตระกูลอันดับหนึ่งไปอยู่ที่ไหน? มันอยู่ที่ไหนกัน? ความคิดหยิ่งของพวกเจ้าไปอยู่ไหนหมด?แสดงความภาคภูมิใจของตระกูลชิวของเจ้าออกมา มาสู้กับพวกเรา เฮ้..อย่าเพิ่งไป!’
ชิวหย่งเกือบร้องโวยวาย
เขารู้ว่าเขาเสียหน้าและเป็นวันที่เป็นรอยด่างครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อเขามาถึงเขาไม่เคยคาดเลยว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะเด็ดเดี่ยวอย่างนั้น เขาเคยแข่งขันกับวิลลี่มาก่อนและเห็นว่าวิลลี่เป็นคนฉลาดมีความสามารถและมีพลัง แต่เนื่องจากกำไรและขาดทุนหลายอย่างมาจากธุรกิจ เขาจึงกลายเป็นคนรอบคอบมาก สาขาของตระกูลชิวในเมืองหิมะขาวไม่ใหญ่และไม่มีผู้ช่วยมาก เหตุผลที่ชิวหย่งกล้าเดินเข้ามาที่หน้าประตูกลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นเพราะความถือดีของตระกูลชิว และนอกจากนี้พวกเขาถือว่าเป็นการประณามกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ที่พวกเขาเกลียด
ใครจะรู้ว่าลงท้ายพวกเขาจะโดนคว่ำลงกับพื้น
เขาเพิ่งระบายอารมณ์ได้ไม่กี่คำและเตรียมจะกลับบ้าน ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ตั้งใจจะปล่อยเขาไปสีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว “อะไร? เจ้าต้องการจะรั้งตัวข้าไว้นี่หรือ?”
เขาไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ‘กักตัวคนจากตระกูลชิวน่ะหรือ? เรื่องแบบนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาจำไม่ได้เลย แต่ในความทรงจำของเขาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีคนที่กล้าใช้ความคิดแบบนั้นคุกคามตระกูลชิวถึงขนาดที่แม้แต่ศัตรูของตระกูลชิวก็ไม่มีทางทำเรื่องนั้น โล่ของตระกูลชิวมีชื่อเสียงไปทั้งทวีปกวงหมิง จะกักกันสมาชิกตระกูลชิว ด้วยความสัมพันธ์แบบนั้นอาจกระตุ้นการตอบโต้จากตระกูลชิวโดยไม่รู้ตัว แต่ชิวหย่งรู้แน่ว่าการตอบโต้จะรุนแรงและสมาชิกของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์หลายคนจะต้องตาย
กลุ่มที่อยู่รอบๆสับสนวุ่นวายทันที
หลายคนมีสีหน้าราวกับว่าถูกผีหลอก ‘กลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นอะไรไป? พวกเขาบ้าไปแล้วหรือ! ถึงได้กล้าขนาดรั้งสมาชิกของตระกูลชิวไว้เป็นเชลย โลกเรากลายเป็นอะไรไปแล้ว
คนบางส่วนที่มีความฉลาดสังเกตความเปลี่ยนแปลงในตระกูลกลุ่มการค้าเมซฟิลด์, และถึงกับคิดลึก ‘สำหรับพวกเขาประพฤติตัวผิดปกติเกินไป พวกเขามีบางอย่างหรือบางคนให้พึ่งพา แต่ผู้หนุนหลังแบบไหนกันถึงสามารถต่อต้านตระกูลชิวได้?’
จี๋เจ๋อไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง และตอบอย่างเย็นชา “พวกเจ้าคิดว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นตลาดนัดหรือไงคิดว่าจะไปมาได้ตามใจชอบหรือไง?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้คนอื่นส่งเสียงอื้ออึง
‘นี่ผิดปกติเกินไปแล้ว! คำพูดเหล่านั้นต้องเป็นตระกูลชิวพูดกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’
“เจ้า!” ชิวหย่งโกรธ เขาชี้ไปที่จี๋เจ๋อ เหมือนกับว่ากำลังจะกระโจนใส่เขา
“ข้า?มีอะไรกับข้า?” จี๋เจ๋อแค่นเสียง “เจ้ามาตั้งไกลเพื่อขวางทางพวกเรา กันเราไม่ให้เข้าบ้าน และยังเห็นเราเป็นคนตายด้วยไม่ใช่หรือ? หยุดทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้นได้แล้วข้าอยากจะเห็นจริงว่าตระกูลชิวจะมีวิธีอะไรให้ดู ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะแค่มาพูดพล่ามและเผ่นหนีไปในลักษณะนั้นในเมื่อเจ้าเองประกาศว่าเราเป็นศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่นี้ไป อย่างนั้นให้ข้าสอนเจ้าก็ได้ว่าศัตรูคู่อาฆาตคืออะไร เจ้าคิดว่าศัตรูคู่อาฆาตที่วิ่งมาถึงหน้าประตูบ้านศัตรูจะลำบากแค่เพียงปัดตูดเผ่นหนีหรือ? หึหึ เฮ้อ.. ได้โปรดอย่าปล่อยเราไว้เลย ตระกูลชิวก็แข็งแกร่งมากเจ้าสามารถบดขยี้เราให้ตายเหมือนมดก็ได้นี่”
ทั่วทั้งสถานที่เงียบกริบ ไม่มีใครส่งเสียง ทุกคนตะลึงกับคำพูดของจี๋เจ๋อ
ชิวหย่งสงบใจได้ ถ้าเขายังไม่เห็นความสงบของอีกฝ่าย เขาก็โง่เกินไป เขาพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าหมายความว่ายังไง?”
“ข้าหมายความว่ายังไง?” จี๋เจ๋อแค่นเสียง จู่ๆน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นเสียดกระดูก “ข้าหมายถึงเจ้าควรอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายและรอให้ตระกูลชิวของเจ้ามาช่วยเจ้า จะดีที่สุดที่เจ้าต่อต้าน ด้วยวิธีนี้ ข้าจะได้มีเหตุผลทุบตีเจ้าหรือเราจะมีการแข่งขันดี? ดาบใหญ่ของข้าอดกลั้นมาเป็นเวลานานแล้ว!”
เขาจ้องชิวหย่งด้วยสายตาอำมหิตเหมือนกับว่าทำความสะอาดเนื้อวัวและกะจุดที่จะลงมีด
ชิวหย่งรู้สึกราวกับว่ามีสัตว์ร้ายกำลังจ้องเขาอยู่ทำให้ความหนาวยะเยือกแล่นขึ้นมาตั้งแต่ใต้เท้าของเขา ใจของเขาถูกความกลัวครอบงำ ‘รังสีฆ่าฟันรุนแรงนัก!’
ทุกคนตกใจถึงความห้าวหาญของจี๋เจ๋อและการคุกคามซึ่งหน้าของเขา แม้แต่เจ้าเมืองหิมะขาวที่ปลอมตัวปนอยู่ในกลุ่มคนก็ยังอ้าปากค้าง หน้าของเขามีความรู้สึกประหลาดใจ ในแวดวงตระกูลที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นแวดวงชั้นสูงของทวีปกวงหมิงถือเรื่องมารยาทเป็นเรื่องสูงส่ง ไม่ว่าพวกเขาจะโกรธกันเพียงไหน พวกเขาจะไม่คุกคามอีกฝ่ายหนึ่งกันซึ่งหน้าด้วยคำพูดเช่นนั้น
การคุกคามอย่างดุร้าย เปิดเผยเช่นนั้นยังใช้พูดกับตระกูลชิว
เงียบราวกับป่าช้า
ไม่มีใครกล้าพูด แม้ว่าพวกเขาจะประเมินตัวเองไว้สูง แม้ว่าพวกเขาจะมีผู้หนุนหลังการพูดถ้อยคำก้าวร้าวเช่นนั้นกับตระกูลชิว คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไม่มีใครยินดีเข้าไปตอแย พวกเขามีมารยาทต่อตระกูลชิวมาก แต่ยังมีตระกูลอื่นในเมืองหิมะขาวที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตระกูลชิวหรือ?ไม่เลย
ผู้คนนับไม่ถ้วนมีสีหน้ายินดี เนื่องจากพวกเขาดีใจกับหายนะของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ พวกเขาเป็นกลุ่มคนเสียสติ ตระกูลชิวไม่ตอแยกับตระกูลธรรมดาแต่กลุ่มคนเสียสตินี่ จะมีเรื่องที่น่าสนใจอะไรตามมากันแน่
ไม่มีใครคาดเลยว่าชิวหวินฉีจะอยู่ปะปนในกลุ่มผู้คนด้วย หน้าของเขาดำคล้ำเป็นก้นหม้อ ไม่มีร่องรอยของสีหน้าปกติของเขา เขากำหมัดแน่นจนมือซีดขาว เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนตัวสั่น เขาไม่เคยคาดเลยว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะพูดคำน่ารังเกียจเช่นนั้น การหาเรื่องและความดุร้ายของอีกฝ่ายทำให้เขาตระหนักว่าเขาวางตัวอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ความเสียใจผุดขึ้นมาในใจของเขา
คลอเดียมองดูหน้าเขียวของชิวหวินฉีไม่กล้าพูดอะไรสักคำ นางไม่เคยคาดเลยว่าเรื่องจะส่งผลกระทบอย่างมาก นางตระหนักได้ว่านางยังประเมินกองพลหน้ากากเหล็กต่ำเกินไป ตอนแรกนางคิดว่าแม้พวกเขาจะไม่เห็นกลุ่มการค้าอลิซาเบธอยู่ในสายตา แต่พวกเขาคงไม่กล้าตอแยตระกูลชิว
แต่ไม่เพียงพวกเขาตอแยตระกูลชิวเท่านั้นแต่ยังสร้างความวุ่นวายขึ้นมากมายใหญ่โต
เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไป คลอเดียจึงรู้สึกกลัวเนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มเรื่องทั้งหมด ถ้าตระกูลชิวประสบความพ่ายแพ้สูญเสียเพราะเรื่องนี้ นางและธุรกิจของนางจะต้องอยู่ในสถานะที่แย่เป็นธรรมดา
ชิวหวินฉีสูดหายใจลึกและบังคับตนเองให้สงบลง เขารู้ว่าการหุนหันพลันแล่นไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ ดังนั้นเขาจะปล่อยเลยตามเลย ‘กลุ่มการค้าเมซฟิลด์คุกคามแล้วไม่ใช่หรือ? อย่างนั้นเราก็คงคุยกันด้วยกำปั้นเท่านั้น’
‘ก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง การพูดอะไรตอนนี้มีแต่จะทำให้เราเองอัปยศมากขึ้น’
ชิวหย่งยังคงเข้าใจจุดนี้ เขาประมาทเกินไป และพวกเขาจึงตกไปสู่ความสูญเสียในที่สุด การพูดอะไรต่อไปมีแต่จะเป็นเหตุให้เขาถูกเยาะเย้ย เขาไม่จากไป แต่พูดอย่างเย็นชา“เจ้าไม่ให้เราจากไปใช่ไหม? ได้เลย! เจ้าต้องการหน่วงเหนี่ยวข้าไว้ เอาเลย ใช้วิธีอะไรก็ได้ที่พวกเจ้ามี ข้าต้องการรอและดูว่าเจ้าจะส่งข้ากลับยังไงเมื่อเวลามาถึง”
ด้วยเหตุนี้เขาไม่พูดอีกต่อไป และนั่งลงกับพื้น องครักษ์คุ้มกันเขาก็นั่งลงกับพื้นล้อมเขาไว้
พวกคนสังเกตการณ์เห็นด้วยกับการกระทำของชิวหย่งในใจ ชิวหย่งเอาตัวเองโยนไปให้อีกฝ่ายหนึ่งทำให้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์อยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่ทุกคนเข้าใจว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับตระกูลชิวจริงๆแล้ว และทั้งสองฝ่ายจะไม่หยุดจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง การตอบโต้ของตระกูลชิวจะต้องรุนแรงแน่นอน ถ้าตระกูลชิวไม่สามารถคลี่คลายเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์โดยเร็ว พวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกในแวดวงสังคมชั้นสูง และชื่อของพวกเขาจะตกไปอยู่ในส่วนลึกของประวัติศาสตร์ทวีปกวงหมิง
จี๋เจ๋อไม่กลัวเกรง แต่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ‘ที่สำคัญ เขาจะอยู่ไปเรื่อยๆ จริงๆ หรือ?มันยังไงกันพวกตระกูลชั้นหนึ่ง?’
เขาโบกมืออย่างผิดหวังทำให้สมาชิกทั้งหมดผู้นั่งอยู่ข้างจ้องมองชิวหย่งและพวกองครักษ์ของพวกเขากรูกันออกมาและมัดพวกเขาไว้
ผู้สังเกตการณ์พูดไม่ออก ‘พวกเขากล้ามัดพวกชิวหย่ง! กลุ่มการค้าเมซฟิลด์น่ากลัวจริงๆ!’
ชิวหวินฉีใจเย็น ตระกูลชิวไม่มีทางเลือกอีกต่อไป นอกจากย่ำกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ให้ราบคาบ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
“อีกสองวัน เราจะกลับมาในอีกสองวัน”
ชิวหวินฉีพูดอย่างเฉยเมยไม่มีใครสามารถบอกได้จากสีหน้าของเขาว่าโกรธหรือดีใจกันแน่
คลอเดียรู้ว่าชิวหวินฉีพูดถึงการเตรียมตัวตอบโต้ นางลังเลเล็กน้อย จากนั้นแข็งใจถาม “ใครจะมาหรือ?”
หน้าชิวหวินฉีมีแววเคารพ แต่ลึกในดวงตาของเขามีทั้งกลัวและเคารพ มันกลัวลึกๆ กลัวจนตัวสั่นเล็กน้อย ไม่มีใครสังเกตว่าเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย “พี่ชายของข้าและทหารส่วนตัวของเขา”
‘อีกสองวันให้หลังกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะเป็นพื้นดินที่มีแต่ซากปรักหักพัง’
คลอเดียหรี่ตา ตาของนางเต็มไปด้วยความกลัวราวกับว่านางได้ยินข่าวที่น่ากลัวที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แม้แต่คุณชายสูงศักดิ์อื่นก็ยังมีแววหวาดกลัว มีสองสามคนที่กลัวจนตัวสั่นตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ข้า...ข้าคิดว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ...” คลอเดียตะกุกตะกักพูด
คนที่เหลือก็ยังพูดว่าพวกเขามีเรื่องที่ต้องไปจัดการเหมือนกัน
“เป็นไปได้ไหมว่าทุกคนไม่ต้องการพบกับพี่ชายของข้า?” ชิวหวินฉีมองดูทุกคน เสียงหัวเราะของเขาเป็นธรรมชาติ “ข้าคิดว่าพี่ชายของข้าต้องการพบกับทุกคนนะ”
ทุกคนหน้าซีดทันที