ตอนที่ 894 ความเข้าใจของสาวขี้เมา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ความลับของดวงตาใต้พิภพจากจักรพรรดิหัวซิ่วรี่แต่เย่ว์หยางไม่กังวล และเมื่อฝ่าบาทหายกริ้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเสวี่ยอู๋เสียต้องคุยกับแม่สี่เย่ว์หยางสะกิดนางอยู่นาน แต่นางปฏิเสธจะคุยด้วย
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม่เสือสาวไปหาเย่ว์หวี่ที่บันไดสวรรค์ยังไม่กลับมา สงสัยว่าเย่ว์หวี่คงจะถูกโน้มน้าวให้ทำอะไรบางอย่าง?
เย่ว์หยางสงสัย ในที่สุดเขาคร้านจะคิดถึงเรื่องนี้ เขาหมกตัวกับการค้นคว้ากำไลอสูร เย่ว์หวี่ยังไม่กลับมา ไม่มีใครเป็นผู้ช่วยเย่ว์หยางและในที่สุดจุ้ยมาวอี้อดไม่ได้ที่จะเข้ามาช่วย
นางคุ้นเคยกับชีวิตที่ผ่อนคลายสบายๆ ใครจะคิดกันเล่าว่าเย่ว์หยางทดลองกับระเบิดหลายครั้งคราแทบจะทำให้นางหัวใจวาย โอกาสล้มเหลวในการทดลองสูงมากเกินไป!
โชคดีที่นางเข้ามาช่วยในช่วงสองสามวัน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนานจุ้ยมาวอี้คิดว่านางคงไม่รู้สึกว่านางไม่โกรธคาดว่าเย่ว์หยางคงช่วยทำหน้าที่รับผิดชอบพร้อมกับเขาทุกวัน ความสัมพันธ์อย่างนี้ทำให้นางยิ้มได้
“คนบ้านี่ไม่รู้จักเข็ดพอทำโน่นทำนี่ไม่ถูกก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น..” จุ้ยมาวอี้เห็นว่าเย่ว์หยางล้มเหลวถึงสามครั้งแต่ก็ยืนยันจะทำการทดลองอย่างเดิม นางอดจะคัดค้านไม่ได้ ในตอนเริ่มต้นนางสัญญากับเย่ว์หยางว่าไม่ว่าเขาทำอะไรก็จะไม่คัดค้าน คิดไม่ถึงเลยว่านางเข้ามาช่วยได้ไม่ถึงวันนางก็เริ่มคัดค้านการวิจัยค้นคว้าของเย่ว์หยาง
“ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ ถ้าการค้นคว้าไม่ผ่านความล้มเหลวมาหลายร้อยครั้ง อย่างนั้นจะไม่มีทางยืนยันผลการค้นคว้าได้ แม้ว่าผลของการค้นคว้าจะออกมาถูกต้องจริงๆแต่ก็ต้องทำการทดสอบให้รอบด้าน ช่างเถอะ, ไม่ต้องอธิบายให้เจ้าฟังมากนักหรอกพูดให้คนโง่อย่างเจ้าฟังไปก็เปลืองน้ำลาย” เย่ว์หยางทำสีหน้าท่าทางราวกับผู้เชี่ยวชาญของคนตระกูลสูงดูถูกคนธรรมดาผู้ช่างสงสัยแต่กลับไม่กล่าวว่า “ข้าพูดเรื่องจริง”
“......” จุ้ยมาวอี้ยอมคล้อยตามเขา ในที่สุดนางยอมเงียบ
“บอกความจริงกับเจ้าก็ได้ การทดลองนี้ อันตรายที่สุด ความจำที่สำคัญที่สุดย่อมดีกว่า ขั้นตอนการทดลองมิอาจผิดพลาดได้ ผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย เจ้าต้องมีความจำเหมือนกับข้าจึงจะไม่มีปัญหา หือ? แปลก ผลึกเพลิงแดงปีศาจอยู่ที่ไหน?” เย่ว์หยางรำพึงกับตนเอง
“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าทำผิดขั้นตอน?” จุ้ยมาวอี้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ
“มันจะระเบิด...” เย่ว์หยางไม่ได้หันหน้ากลับมา
“เจ้าเพิ่งบอกว่าผลึกปีศาจเพลิงแดงหายไปไม่ใช่หรือ?” จุ้ยมาวอี้หลั่งเหงื่อเยียบเย็น
“พบแล้วแค่ลืมใส่วงเวทรูนไปด้วย แต่ผลึกปีศาจน้ำแข็งสีน้ำเงิน ข้ายังหาไม่เจอ...” เย่ว์หยางเดินมองหา
“แย่แล้ว...” จุ้ยมาวอี้จำได้ว่าเจ้าเด็กนี่เพิ่งใส่ผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้าในวงเวทรูนระดับกลาง นางตกใจและหันหลังหนี ทว่าสายเกินไป
บึ้ม บึ้ม บึ้ม
วงเวทรูนเกิดการระเบิดรุนแรง
แรงระเบิดทำให้จุ้ยมาวอี้กลิ้งไปอยู่ที่มุมห้องและเกือบถูกซากหักพังจากแรงระเบิดฝังทั้งเป็น
เมื่อนางลุกขึ้น นางพบว่าเสื้อผ้านางขาดเป็นรูโหว่แม้ว่าคนจะปลอดภัย แต่ก็รู้สึกว่าหลังเย็นวาบ
ส่วนเย่ว์หยางถูกแรงระเบิดอัดไปติดบนหลังคามองดูเหมือนเนื้อรมควันตัวดำเกรียมมองดูไม่เหมือนคนมีชีวิต เย่ว์หยางก็เหมือนจุ้ยมาวอี้พอเขาร่วงกลับลงมา ทั้งตัวดำมืดมองเห็นแค่ตาและฟันเท่านั้นสีขาว จุ้ยมาวอี้ตะโกนใส่ตามที่เย่ว์หยางเคยโอ้อวดไว้ “เจ้าบอกว่าความจำเจ้าดีไม่ใช่หรือ?..”
เย่ว์หยางกุมผม “ความจำข้าไม่เลวจริงๆ แต่ข้าจำไม่ได้ว่าเอาผลึกปีศาจไปวางไว้ตรงไหนน่ะสิ หลายๆ อย่างปกติพี่หวี่จะเป็นคนจัดไว้ให้ ข้าเพียงแต่รับของที่นางส่งมาให้..” เขาพูดจนจุ้ยมาวอี้รู้สึกละอายใจ และตอนนี้นางจำได้ว่า ดูเหมือนว่านางค่อนข้างจะอึดอัดใจเล็กน้อยเมื่อนางช่วยเขา เพราะเกิดการระเบิดหลายครั้งอารมณ์นางพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ดูเหมือนว่าเมื่อพูดถึงผลึกปีศาจอัคคีสีแดงและผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้า นางคงจะเข้าใจผิด
บางทีความล้มเหลวของการทดลองไม่ใช่เป็นเพราะเขา
“แต่เป็นเพราะ....” นางตระหนักได้ว่าเป็นความผิดนาง จุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวว่าผิดมากและไม่โกรธเขาอีกต่อไป แน่นอนว่าถ้านางต้องการยอมรับผิดโดยตรงย่อมเป็นไปไม่ได้! นางตัดสินใจออกไปล้างหน้า ปรับความคิดและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นกลับมายังห้องทดลองของเขา ครั้งนี้ต้องให้ความร่วมมือกับเขาอย่างจริงจังเต็มร้อย
เมื่อจุ้ยมาวอี้ทำใจเปลี่ยนชุดและทำความสะอาดกลับมาที่ห้องทดลอง นางพบว่าเย่ว์หยางยังคงอยู่ในสภาพเดิมตัวดำเพราะแรงระเบิดแต่ก็ยังทดลองต่อ นางรีบวิ่งเข้าไปจัดพื้นที่มีซากหักพังและคอยหยิบสิ่งของที่เขาต้องการ
ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งจนหูอื้อ แรงระเบิดอัดจุ้ยมาวอี้จนกระแทกผนังล้มครืนสิ่งของหลายอย่างที่วางไว้ในห้องที่กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบอยู่ดูยุ่งเหยิงมากขึ้น
จุ้ยมาวอี้แทบจะร้องไห้ เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ที่นางจะทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง?
นางกัดฟันทำความสะอาด รอจนกระทั่งงานของนางเสร็จก็พบว่าเย่ว์หยางวาดวงเวทรูนใหญ่ขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น เพราะการวาดวงเวทต้องใช้พลังงานที่ซับซ้อนเขาจึงทำอะไรแทบไม่ได้ถึงสิบนาที แม้แต่จะพูดก็ทำไม่ได้ สายตาจับจ้องมองดูรูปวงเวทเมื่อเห็นเขาหลั่งเหงื่อ ใบหน้าที่ดำเปื้อนพอถูกเหงื่อก็ชะล้างเขม่าคราบสกปรกเป็นรูปหยดสีขาว จุ้ยมาวอี้อดใจอ่อนมิได้ ความจริงเจ้าเด็กนี่จริงจังมาก แม้ว่าจะบ้าผู้หญิงอยู่บ้างแต่เวลาทดลองจริงจังกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!
จุ้ยมาวอี้จำได้ว่าเคยเห็นเย่ว์หวี่ช่วยงานทดลองเย่ว์หยางมาก่อนและรู้ว่าเย่ว์หวี่จะถือผ้าเช็ดหน้าอยู่คอยซับเหงื่อให้เขา....
“จะบ้าเหรอ, อย่าบังสายตาข้าตอนเช็ดเหงื่อได้ไหม!” เย่ว์หยางสบถ
“เจ้า....” จุ้ยมาวอี้ต้องการพูดว่าเขาอยากจะเช็ดนางไม่จำเป็นต้องรอรับใช้เขาก็ได้! แต่คำพูดยังไม่ทันพูดออกมานางกล้ำกลืนอดกลั้นไว้ได้ เมื่อเย่ว์หวี่เช็ดเหงื่อให้เขานางไม่รู้สึกอิจฉาจริงๆ หรือ?
นางมักจะอ่อนโยนเสมอรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและทำอย่างสุภาพนุ่มนวลที่สุด แม้ว่าจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่จุ้ยมาวอี้ก็อดกลั้นไว้ นางเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างระมัดระวังและนำน้ำมาให้เขาดื่ม
คิดไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางหมกมุ่นกับการทดลองถึงกับตวาดด้วยความโมโห“ออกไปห่างๆ ข้า ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย ก็อย่าเพิ่งรบกวนข้าตอนนี้”
เหมือนกับถูกฟ้าผ่า!
จุ้ยมาวอี้โมโหเขากัดฟันกรอดๆเกือบจะเอาน้ำเทราดศีรษะของเขาแล้ว ในที่สุดนางหักห้ามใจได้ คาดว่าเย่ว์หวี่คงไม่เคยรบกวนเขาในเวลานี้ตัวนางเองที่ทำผิดพลาด นางวางแก้วน้ำไว้ที่ด้านหนึ่ง จุ้ยมาวอี้รออยู่นานและรู้สึกว่าเขาต้องดื่มน้ำบ้าง มิฉะนั้นเขาคงเสียเหงื่อจนตัวแห้งเหือดแน่ นางจะทำยังไงดี ถ้าเย่ว์หวี่อยู่ที่นี่ นางจะทำอย่างไร?
ใช้กระบวยตักป้อน?
ไม่ เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะใช้กระบวยตักน้ำดื่ม นั่นช้าเกินไป ถ้าอย่างนั้นยังใช้ไม่ได้ แล้วนางควรทำอย่างไร? ในเวลาอย่างนี้ปกติเย่ว์หวี่ทำอย่างไร?
นางคงต้องหาทางจนได้เย่ว์หวี่คงไม่ปล่อยให้น้องชายกระหายน้ำเป็นแน่ จุ้ยมาวอี้คิดอยู่เป็นเวลานาน และในที่สุดนางหาโอกาสจนได้นางคิดถึงตอนที่เย่ว์หยางทำหลอดให้หนูน้อยเย่ว์ซวงเป่าลูกโป่งฟองสบู่ ใช่แล้ว อย่างนี้ต้องใช้ได้แน่นอน
คิดได้ดังนี้แล้วจุ้ยมาวอี้รีบเข้าไปหาของในบ้านแต่ในบ้านไม่มีของที่นางต้องการ นางรีบวิ่งออกมาและเข้าไปในห้องของแม่สี่และห้องของซวงเอ๋อดึงกล่องสมบัติของซวงเอ๋อออกมาค้นหา และพบว่ามีหลอดอยู่สองสามชิ้นที่ยังไม่ได้ใช้ยังไม่ทันได้เก็บกล่องสมบัติจิปาถะของซวงเอ๋อกลับเข้าที่นางรีบวิ่งกลับออกมาและเอาหลอดใส่แก้วและยกไปให้เขานางเอาหลอดน้ำจ่อที่ริมฝีปากเขา
“ขออีกแก้ว..” เย่ว์หยางไม่ได้ขอบคุณนางเขาหมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้าและไม่มีเวลาจะพูดอะไรมากนัก ครั้งนี้วงเวทรูนเปล่งแสงสลับกระพริบอย่างซับซ้อน เย่ว์หยางเพ่งสมาธิเต็มที่เพื่อจดจำการเปลี่ยนแปลงของมัน ยังคงช้าไปหนึ่งวินาที
“ก็ได้” จุ้ยมาวอี้ดีใจนางไม่พูดอะไรต่อรีบกลับไปรินน้ำมาเพิ่มอีกทันที
พอไปได้ครึ่งทาง นางรู้สึกว่าแขนเสื้อนางรุ่มร่ามเกินไปนางจึงฉีกออกโดยตรง
หลังจากนั้นนางพบว่าแขนเสื้อฉีกขาดแล้วนางจำได้อย่างหนึ่ง เย่ว์หวี่พอออกมาจากห้องทดลองมักจะสวมเสื้อแขนกุดคาดได้ว่าเสื้อแขนยาวมักจะส่งผลกระทบต่องานได้ง่ายจึงไม่ควรใส่มาเลย รอจนจุ้ยมาวอี้รินน้ำและกลับมา นางพบว่าวงเวทรูนเริ่มส่องแสงเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
โอว.. มันกำลังจะระเบิดอีกแล้ว
ตอนแรกนางคิดจะหลบเลี่ยงทันที แต่เมื่อนางเห็นเย่ว์หยางในเวลานี้เขายังจ้องมองอย่างตั้งใจ ถ้าเขาต้องการหลบ เป็นไปไม่ได้ที่แรงระเบิดจะอัดกระแทกเขาจนกระเด็นด้วยอำนาจของสนามพลัง เขาสามารถต้านทานแรงระเบิดในการทดลองได้ แต่เขากลับไม่ทำ เขายังคงจ้องมองการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายของวงเวทรูนต่อไปโดยไม่รู้ตัวว่าจะเกิดการระเบิดในวินาทีต่อไป
วืดดดด บึ้ม!
ระเบิดดังขึ้นเป็นไปตามที่กำหนด
จุ้ยมาวอี้ยืนอยู่ด้านหน้าและต้านแรงระเบิดไว้
แม้ว่าจะเปลี่ยนชุดมาใหม่แต่ก็ขาดวิ่นเป็นรูอีก นางพบว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแม้แต่น้อย ตอนนี้นางเริ่มรู้เข้าใจความคิดของเย่ว์หวี่เมื่อนางทำงานกับเย่ว์หยาง
ตราบเท่าที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จยังมีอย่างอื่นที่นางทำได้หรือ
นี่มันชุดอะไรกัน!
นอกจากนี้ในบ้านเขา ไม่มีใครอื่นนอกจากเขาที่มองเห็นเสื้อผ้าของตนเองแม้ตนเองก็ยังไม่มีเวลาว่างมาดูแลตัวเอง เสื้อผ้าขาดวิ่นกระจายใครจะมาดูกันเล่า? แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือจุ้ยมาวอี้นางจำได้ว่า ก่อนการระเบิดครั้งแรกวงเวทรูนมีการเปลี่ยนแปลงสูงและต่ำสองครั้ง หลังจากเมื่อนางกำลังจะอารมณ์เสีย เขาผสมผสานวงเวทรูนชั้นที่สามเสริมเข้าไปอีก...จนถึงตอนนี้นอกจากชั้นบน ชั้นกลางและชั้นล่างรวมสามชั้นแล้วยังมีการเสริมพื้นที่โดยรอบกล่าวคือแม้ว่าจะมีการระเบิดเพราะล้มหลวในแต่ละครั้ง แต่ก็ทำให้เขาก้าวหน้า!
เขาค่อนข้างทนต่อแรงระเบิดและยืนยันในการสำรวจตรวจดูความจริง
ทัศนคติแนวความคิดเช่นนี้ทำให้การค้นคว้าของเขาก้าวหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
คนอื่นมักมองเห็นแต่ความสำเร็จของคุณชายสามตระกูลเย่ว์แต่ไม่รู้แม้แต่น้อยว่า บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ ต้องสูญเสียเหงื่อไปเท่าไหร่..”แววตาของจุ้ยมาวอี้แสดงความรู้สึกตื่นเต้น
ความทรงจำของเขายอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ทำไมเขาถึงทำผิดพลาดระหว่างวัสดุทั้งสองอย่างที่แตกต่างกันระหว่างผลึกปีศาจเพลิงแดงและผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้า วัสดุทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างมากมิใช่หรือ? นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแต่เขาทุ่มเทอย่างมากบันทึกความเปลี่ยนแปลงของวงเวทรูนอย่างสุดความสามารถ ความจริงนอกจากว้าวุ่นสับสนและวัสดุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดใหญ่ระหว่างผลึกปีศาจเพลิงแดงและผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้าแตกต่างมากเกินไป
เมื่อเขาเริ่มทดลองเขาจะทุ่มเทสมาธิทั้งหมดจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ความหิวกระหายก็ยังลืม
เพราะเหตุนี้นางจึงต้องการรู้จักเย่ว์หยางให้ดีที่สุด
ร่วมมือกับเขา
“อีกครั้ง ต้องลองอีกครั้ง....” จุ้ยมาวอี้ตระหนักได้ทันทีนางข่มความตื่นเต้นในใจเดินเข้าไปหาและแตะไหล่เขา “เจ้าสร้างวงเวทใหม่เถอะ เดี๋ยวข้าจะเตรียมวัสดุให้เจ้าเองครั้งนี้ข้าจะไม่ทำให้ผิดแน่นอน...” เย่ว์หยางต้องมองนางอีกครั้งด้วยสายประหลาดและงงงัน นางไม่ปรี๊ดปรอทแตกอีกแล้วหรือ?ดูเหมือนว่าอารมณ์ของนางจะดีขึ้น เกิดอะไรกันแน่?
“เช็ดเหงื่อก่อน!” จุ้ยมาวอี้พบว่าตัวนางเองไม่เคยสุภาพนุ่มนวลมาก่อนแต่นางใช้ผ้าเช็ดหน้าอย่างระมัดระวัง เช็ดเขม่าระเบิดออกจากหน้าของเขานางพยายามระมัดระวังอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการจัดวงเวทของเขาเท่าที่เป็นไปได้เมื่อเห็นสภาพเสื้อผ้าฉีกขาดรุ่งริ่งของเย่ว์หยาง นางคิดว่าไม่เคยเห็นสภาพของเขาแบบนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามการทดลองก็ทำให้เป็นอย่างนี้ เย่ว์หวี่ยังไม่กลัวทำไมนางต้องกลัวด้วย
บึ้ม!
อีกครั้ง
บึ้มมม!
“ไม่มีอะไรอีกแล้ว ลองอีกครั้ง....”
ด้วยความร่วมมือเต็มที่ของจุ้ยมาวอี้เย่ว์หยางทดลองวงเวทรูนเพื่อค้นคว้ากำไลอสูรต่อไป
สามวันต่อมาเมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาเย่ว์หวี่กลับมาจากบันไดสวรรค์ขณะที่นางผลักเปิดประตูห้องทดลองเสียงดังเอี๊ยด นางพบว่าจุ้ยมาวอี้กำลังป้อนกำลังหน้าแดงเช็ดเหงื่อให้เย่ว์หยางอย่างเบามือทั้งสองคนกำลังหมกมุ่นจดจ่อกับการทดลองแม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หยางจะผลักเปิดประตูห้อง พวกเขาก็ไม่รู้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะลึง นางไม่เคยเห็นจุ้ยมาวอี้อ่อนโยนอย่างนั้นมาก่อน
ขณะที่เย่ว์หวี่ยืนยิ้ม..