ตอนที่ 892 ความลับของหน้ากากคนคู่
ในที่สุดขุนพลเทพธิดาวายุได้รับความช่วยเหลือจากเย่ว์หยางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงช่วยระเบิดพลังโจมตีวาฬภูเขาไฟที่ได้รับบาดแผลบาดเจ็บหนัก
วาฬภูเขาไฟยอมตายดีกว่ายอมแพ้
อย่างไรก็ตามยังเป็นเรื่องลำบากกับการโจมตีมันให้ตายในรวดเดียว ขุนพลเทพธิดาวายุต้องใช้พลังน้ำแข็งไปมากมายเพื่อจัดการกับเจ้าปลาเค็มตัวเดียว และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือกฎสวรรค์น้อยและกล่องแพนดอราที่บรรจุพลังเทพวิบัติไว้ซึ่งเป็นพลังโจมตีทวีคูณ วาฬภูเขาไฟไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ไม่สามารถตายได้มันถูกใช้เป็นเครื่องทดลองวิธีการทรมานต่างๆ ของเย่ว์หยางในที่สุดหลังจากพบเห็นว่าฮุยไท่หลางกลืนกินอสูรเลเวียธานลงท้องไปทั้งตัว ดูเหมือนว่ามันอาจจะต้องโดนกินเป็นลำดับถัดไป มันรีบก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้ต่อขุนพลเทพธิดาวายุ
เสี่ยวเหวินหลีไล่ติดตามเหยี่ยวเพลิงมันไวกว่าขุนพลเทพธิดาวายุมาก
ด้วยพลังปัญญาระดับสูงของเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์มันรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีได้พ้น
ภายใต้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีมักถูกโจมตีหลายครั้งและไม่มีทางตอบโต้กลับ
ภูตฟ้าปั่นป่วนกระตือรือร้นจะสูบพลังงานไฟ กาเพลิงทั้งสองเต็มใจยอมแพ้ แต่นางไม่สนใจมันนางฆ่าเกรมลินภูเขาไฟตามรายทางทั้งหมดและไล่ล่าพวกมันลงทะเลเพลิงเตรียมฆ่าอีกาอัคคีปีศาจ กาอัคคีปีศาจเหมือนกับปลาที่ได้น้ำเพราะภูตฟ้าปั่นป่วนมัวแต่จับเกรมลินภูเขาไฟฆ่าทำให้เสียเวลา กาทั้งสองตัวกลัวพวกมันไม่ได้รับประกันว่าจะรอดชีวิต
กาไฟทั้งสองบินวนแต่ไกลพวกมันหนีไปทางเย่ว์หยางเพื่อหาความปลอดภัย
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างภูตฟ้าปั่นป่วน ถ้าพวกมันไม่ยอมสยบ
ผลมีเพียงประการเดียว
นั่นคือถูกกินทั้งเป็น
“น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้รับข่าวสารมากนัก” สิ่งที่เย่ว์หยางต้องการที่สุดไม่ใช่อสูรปราณฟ้าแต่เป็นความลับเกี่ยวกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งหก และอักขระรูนโบราณที่ดียิ่งกว่า
“ใจเย็นเถอะบางทีหลังจากเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ เราอาจเปิดประตูความลับยุคโบราณก็ได้” เสวี่ยอู๋เสียปลอบโยนเย่ว์หยางอย่างอ่อนโยน
“จะจัดการกับอสูรเหล่านี้ยังไง?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยกปัญหานี้ขึ้นถามเหมือนกับว่าปล่อยเสือขึ้นภูเขา เย่ว์หยางคงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนปัญหาก็คือวาฬภูเขาไฟ ปลาไหลมังกร เหยี่ยวเพลิงและกาอัคคีปีศาจไม่เพียงแต่เป็นอสูรที่มีระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นอสูรเต็มวัย มีคุณค่ากับการฝึกแค่เพียงเล็กน้อยที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าอสูรทุกตัวที่มีปัญญา ในหุบเขาอสูรการได้ผ่านประตูหวนกำเนิดนับว่าเป็นเรื่องโชคดี
สำหรับเย่ว์หยางอสูรเหล่านี้ยังถือว่าไม่เลวและพวกมันคุ้นกับการอยู่ด้วยกัน หลังจากเทียบดูแล้วศักยภาพของพวกมันยังด้อยกว่าฮุยไท่หลางและภูตฟ้าปั่นป่วน
เย่ว์หยางไม่ชอบอสูรที่มีข้อดีและข้อเสียปรากฎชัดเจนเกินไป
มันมีแต่เพียงขนาดร่างกายที่มหึมาซึ่งทำให้เขาไม่สนใจจะฝึกมัน
อสูรที่ยอมแพ้เหล่านี้อย่างเช่นวาฬภูเขาไฟและและปลาไหลมังกรไฟเป็นอสูรที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตมหึมาทั้งหมด
เรื่องฝึกพวกมันยังไม่ต้องพูดถึงถ้าเขานำพวกมันออกไปด้วยและปล่อยพวกมันไว้ในทวีปมังกรทะยาน นั่นจะเป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้า อสูรเหล่านี้ทั้งทรงพลังและมีขนาดมหึมา ถ้าเขาปล่อยให้มันเที่ยวไปมาในทวีปมังกรทะยานผลก็คือจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในหลายที่
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะพาพวกมันออกไปด้วยเขาคงไม่ปล่อยพวกมันไว้ในทวีปมังกรทะยาน
ถ้าเขาเอาพวกมันไปปล่อยในแดนสวรรค์ คงมีสักวันที่พวกมันอาจจะหนีหาย
นั่นก็คงไม่ดีนัก
หลังจากไตร่ตรองแล้วเย่ว์หยางจัดเจ้าพวกนี้ไว้ในฐานะเป็นอสูรที่เป็นผลเก็บเกี่ยวโดยบังเอิญในหอทงเทียนชั้นที่หก ป้อมสายฟ้าเป็นสถานที่มีทะเลสาบลาวาถือว่าเป็นสวรรค์ให้พวกมันได้ใช้ชีวิต
“เจ้าตัวนี้มันใหญ่โตน่ากลัวจริงๆ! อย่างไรก็ตามมันมีศักดิ์ศรีเป็นอสูรปราณฟ้าระดับหกและมีขนาดใหญ่โตมหึมา พอถูกนำออกมาสู่สาธารณชน มันเป็นอสูรชั้นหนึ่ง” สำหรับเรื่องน่าทึ่งประหลาดใจของเย่ว์หยางผู้แก่ผู้เฒ่าอย่างอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและจุนอู๋โหย่วถึงกับเดินทางไปยังป้อมสายฟ้าหลังได้ทราบข่าว ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง พวกเขายังต้องการเอาวาฬภูเขาไฟซึ่งสามารถพ่นลาวาได้เป็นกิโลเมตรเอากลับไปยังทวีปมังกรทะยาน... “นายท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ” เจ้ากบจั๊ดด์ตื่นเต้นจนตัวสั่น
ในฐานะผู้รับใช้คนสนิทของเย่ว์หยางสถานะของเขาพลอยมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่เพียงแต่พ่อค้าที่ถามหาเท่านั้น แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดเมื่อเห็นเจ้ากบจั๊ดด์ก็ยังพยักให้เกียรติ
เพราะครั้งนี้เย่ว์หยางได้ผลเกี่ยวที่ดีผู้เฒ่าหนานกง มารสัมฤทธิ์ฟ้า, จักรพรรดิมังกร, จักรพรรดิใต้พิภพและนักสู้อื่นๆล้วนตามมาชมดู เมื่อพวกเขาเห็นเย่ว์หยางพิชิตวาฬภูเขาไฟขนาดตัวสองสามกิโลเมตรทั้งยังจับเหยี่ยวเพลิงและปลาไหลมังกรไฟมีกระทั่งกาอัคคีปีศาจที่มีพลังปราณฟ้าระดับสอง ทว่าจิตใจของมันขลาดเขลา
ในที่สุดมารสัมฤทธิ์ฟ้าใช้มุกมารฟ้าสมบัติจากคลังสมบัติวังมารฟ้าเพื่อให้มารแค้นฟ้าใช้แลกกับกาอัคคีปีศาจสองตัว
จักรพรรดิใต้พิภพมองดูน้ำลายแทบหก เขาก็ต้องการแลกเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน
แต่สมบัติของเขาดวงตาใต้พิภพเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียว และไม่มีทางด้อยกว่าสมบัติวิเศษอย่างมุกมารฟ้า ดังนั้นเขาได้แต่มองดูมารแค้นฟ้าทำสัญญากับกาอัคคีปีศาจ ขณะที่ปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิงไม่ใช่ว่ามันไม่มีสมอง แต่พลังของทั้งสองแข็งแกร่งเกินไป และพวกมันยังมีสติปัญญา เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะพลั้งพลาดด้วยหรือเปล่า บางทีมันอาจหักหลังและหลบหนีไป เมื่อเขาอยากจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก เย่ว์หยางก็ให้ความสนใจดวงตาใต้พิภพเช่นกัน เขาตบอกให้คำรับรองกับจักรพรรดิใต้พิภพว่าเขาจะต้องหาอสูรที่แข็งแกร่งเหมาะกับการฝึกฝนมาให้เขาแลก
จอมปีศาจและราชาปีศาจมาถึงสายกว่าคนอื่นเขาต้องการแลกเปลี่ยนกับเย่ว์หยางด้วยเช่นกัน
แต่เขาไม่ต้องการอสูรอื่นนอกจากมังกรดำ
นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่าการขับขี่มังกรดำเป็นประเพณีโบราณตกทอดสืบกันมาของจอมปีศาจ มังกรดำควบคุมได้ดีนักหรือ?เย่ว์หยางที่ได้รับขวดวิเศษแทบจะอาเจียนออกมา
“เหตุผลเป็นเพราะการฝึกฝนข้ายังไม่ได้ไปยังมิติพื้นที่ฝึกฝนในทันที ข้าจะเดินทางไปแดนสวรรค์อีกสองสามวันข้างหน้า ถ้าข้าได้พบกับอสูรที่เหมาะสมข้าจะเพิ่มความสนใจให้มากไว้ เชื่อสายตาข้าเถอะ ข้ามองไม่ผิดแน่นอน!” เย่ว์หยางคิดว่าสหายอาวุโสเหล่านี้ยังมีสมบัติวิเศษอีกมาก เขาคงจะรีดสมบัติเหล่านี้ออกมาได้อีก
“ยังคงต้องให้ความสำคัญกับการฝึกฝน เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งธรรมดาที่จะพบเจอ!” ผู้เฒ่าหนานกงให้ความสำคัญตามคำแนะนำของเย่ว์หยางมากที่สุดและแนะนำเขาไม่ให้ไขว้เขว
“นี่เป็นเรื่องปกติ ข้าคงจะมีเวลาค้นหาดูอีกครั้ง แต่ข้าเชื่อว่าในอีกไม่ช้าข้าคงจับอสูรที่เหมาะสมได้!” จักรพรรดิใต้พิภพมั่นใจในตัวเย่ว์หยางมาก ถ้าเย่ว์หยางบอกเรื่องจริงกับเขาจ้าวอัคคีปีศาจนักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดอยู่ในทะเลเพลิงที่ได้เปรียบที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ยังทำให้เขากลัวแทบตาย
“ไม่มีใครต้องการปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิงแล้วใช่ไหม?” เย่ว์หยางเตรียมปิดการขาย
“แข็งแกร่งมันก็ดีอยู่เหมือนกันแต่ต้องบอกว่าสติปัญญาของมันสูงเกินไป และมันเป็นอสูรโตเต็มวัยยากจะฝึกให้เชื่องได้จริงๆ” จักรพรรดิมังกรบอกเย่ว์หยางว่าถ้าไม่ต้องการทำสัญญากับมันก็ให้ฆ่าพวกมันหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก
ปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิงแม้ว่าพวกมันจะมีสติปัญญาแน่นอน แต่ไม่มีทางเหมือนอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้
แน่นอนว่ามีคุณค่าในการฝึกฝนเล็กน้อย
ภูตฟ้าปั่นป่วนต้องการจะกินและสูบกินพลังของพวกมันอยู่เสมอ แต่เย่ว์หยางไม่ให้โอกาสนางกลับให้โอกาสสาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชรับพวกมันไว้ด้วยกัน สาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชได้อสูรยักษ์เพิ่ม และถ้าวิวัฒนาการเป็นอสูรเทพอีกทั้งสามร่วมมือด้วยกัน ก็คงจะมองเห็นอนาคตได้ นี่เป็นวิธีคลี่คลายที่ดีที่สุดสำหรับเย่ว์หยางอสูรน้อยหนึ่งกับอสูรใหญ่สองตน ถ้าไม่เข้ากัน ศัตรูคงปวดหัวเป็นแน่
ฮุยไท่หลางท้องป่องไม่มีใครรู้ว่ามันกินอสูรเลเวียธานยักษ์ลงไปทั้งตัว
จนถึงบัดนี้มันยังคงย่อยไม่หมด
คนอื่นๆที่มาเยี่ยมชมอสูรที่ถูกจับได้ไม่เคยให้ความสนใจมัน
ไม่มีใครให้ความสนใจมันจนกระทั่งกลับไปยังเทียนหลัว หนูน้อยซวงเอ๋อพบเห็นความผิดปกตินี้ก่อน
“พี่สาม,เจ้าหมาตัวนี้กินอะไรผิดสำแดงหรือ? ทำไมปากของมันไม่หุบเลย?” ซวงเอ๋อใช้ปลายเท้าเขี่ยหน้าผากฮุยไท่หลาง
“ผลของความตะกละก็เป็นอย่างนี้แหละ!” เย่ว์หยางพูดถึงกับขู่ขวัญจนซวงเอ๋อหน้าซีด
ในบางแง่มุมเด็กหญิงน้อยก็สู้กับฮุยไท่หลางในแง่ความตะกละได้
เมื่อได้ยินว่าความตะกละทำให้เป็นอย่างนี้จึงขู่ขวัญนางจนเม้มปากกลัวว่าปากนางจะเป็นเหมือนกับฮุยไท่หลาง เพราะคางยาวบิดผิดรูปทำให้บางครั้งปากของมันหุบไม่สนิท
ฮุยไท่หลางเกิดอาการกรามค้างแต่มันก็มีความภูมิใจมาก และเลเวียธานอสูรปราณฟ้าระดับสี่ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็กินได้
ถ้ามันสามารถย่อยเลเวียธานนี้ได้หมดพลังของมันจะต้องก้าวหน้า
ปากเบี้ยวไปสองสามวันก็คงไม่เป็นไร!
“อะไรกัน? เจ้าไม่ต้องการขนมหรือ?” ปกติเย่ว์หยางมักจะเอาลูกอมออกมาล่อเด็กหญิงอยู่เป็นประจำ แต่หนูน้อยกลัวเรื่องการกินมากเกินไปเธอกลัวจะไม่สามารถหุบปากได้เหมือนกับฮุยไท่หลางจึงจำใจปฏิเสธและเกือบจะร้องไห้ ในที่สุดเสวี่ยอู๋เสียพาเธอไปหาแม่สี่และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่รบกวนการฝึกของเย่ว์หยางนางถือร่มชี่หลัวไปตามหาเย่ว์หวี่
“ท่านค่อยๆ ค้นคว้าดู ถ้าได้ผลค้นคว้า หรือความลับอะไรเราค่อยคุยกัน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเดินออกไปอย่างแผ่วเบานั่นทำให้นางดูดี
“มุกมารฟ้า นั่นก็ของดี! ดวงตาใต้พิภพก็ไม่เลวเช่นกันขวดที่บารุธนำมาด้วยก็มีพลังแปลกประหลาด ดูเหมือนจะเป็นของวิเศษยุคโบราณข้าเพิ่งลองค้นคว้าดู” เดิมทีเย่ว์หยางต้องการค้นคว้าอักขระรูนเพลิงโบราณที่จ้าวอัคคีปีศาจวาดขึ้นแต่รอจนพวกเขากลับ และมุกมารฟ้าซึ่งใช้แลกกับกาอัคคีปีศาจ เย่ว์หยางไม่เห็นความลับอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่พบว่าของวิเศษดวงตาใต้พิภพสามารถติดเข้าตรงเบ้ากลางหน้าผากของหน้ากากเจมิไนหรือ?
เบ้ากลวงระหว่างหน้าผากของหน้ากากเจมิไนมีดวงตาอยู่ตรงกลางอย่างนั้นหรือ?
เพราะหน้ากากเจมิไนถูกผนึกไว้เดิมทีเป็นแค่สมบัติวิเศษชั้นทอง
หลังจากเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระแล้วจึงปรากฏลักษณะใหม่มีพัฒนาการก้าวหน้า และหน้ากากนี้ฟื้นฟูพลังได้เกือบทั้งหมดมันมีพลังด้อยกว่าสมบัติชั้นเทพเท่านั้น
การณ์กลับปรากฏว่าเย่ว์หยางคิดว่าเกิดการแตกเสียหายที่ระหว่างคิ้วที่เป็นเบ้ากลมกลวงเย่ว์หยางพยายามลองทุกอย่างแต่ไม่พบว่าจะใช้วัตถุอะไรใส่เข้าไปได้เขาคิดว่ามีบางส่วนตรงกลางสูญหายไปมันเกิดขึ้นหลังจากจักรพรรดิใต้พิภพเอาดวงตาใต้พิภพของวิเศษเผ่าใต้พิภพออกมาเย่ว์หยางจึงพบว่าดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี
หน้ากากเจมิไนและผนึกสุดท้ายนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้ ดังนั้นนี่จะมีความลับชนิดใดคงอยู่?
ความจริงเป็นเช่นไรกันแน่!-!
**************
*** เรียกหน้าเจมินี่ตามที่เคยเห็นแปลในการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่นาน ตอนนี้ขอเรียกเป็น “เจมิไน” ครับ