ตอนที่แล้วตอนที่ 889 น้ำกับไฟเข้ากันไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 891 ข้ามีลางสังหรณ์

ตอนที่ 890 เพลิงมอดสลาย


จ้าวอัคคีปีศาจเหยียดมือจับอสูรเกรมลินภูเขาไฟที่อยู่รอบๆตัวเขา

และขว้างขึ้นไป

มันให้เกรมลินภูเขาไฟวิ่งเข้าหาวิถีดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  เกรมลินภูเขาไฟรู้สึกถึงอันตราย  ถ้ามันไม่ฉวยโอกาสลงมือก่อนมันต้องตายอย่างมิต้องสงสัย มันไม่อยู่ในเขตทะเลเพลิง  แต่เป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยน้ำ ร่างของเกรมลินภูเขาไฟมีอุณหภูมิสูงเมื่อมันร่วงลงไป แม้ว่ามีพลังแข็งแกร่งแต่มันจะไม่มีทางรอดได้

“โฮกกกก!”

เกรมลินภูเขาไฟระเบิดพลังรุนแรงสูงสุดเหมือนกับกลุ่มอุกกาบาตพุ่งเข้าหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

อย่างน้อยก็ต้องสู้ให้อีกฝ่ายเจ็บตัวมากที่สุด

อย่างไรก็ตามมันประเมินสิ่งที่เรียกว่าสมบัติเทพต่ำเกินไป ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมพลังสายฟ้านับพันสายไว้ที่ปลายดาบอย่างเข้มข้น  นางฟันผ่าร่างเกรมลินภูเขาไฟที่มีพลังระดับปราณฟ้าได้อย่างง่ายดายจนขาดครึ่งราวกับตัดเต้าหู้

นางวิ่งผ่านร่างที่ขาดครึ่งของเกรมลินภูเขาไฟและดาบเทพในมือนางยังคงไม่หยุดนิ่ง

ยิ่งเพิ่มความเร็วก็ยิ่งรุนแรงร้ายกาจ ระดับความยาวของปราณดาบยาวถึงสองกิโลเมตรฟันใส่จ้าวอัคคีปีศาจอย่างดุร้าย

“แค่นี้ไม่เท่าไหร่!”

จ้าวอัคคีปีศาจแค่เสียงเย้ยหยัน

หลังจากเริ่มจับเกรมลินภูเขาไฟขว้างไปทดสอบ เขาแค่ต้องการประเมินว่านักดาบหญิงผู้นี้ไม่สามารถใช้พลังของดาบเทพได้เต็มร้อย  ถ้านี่เป็นพลังเต็มร้อยของสมบัติวิเศษทุกอย่างในโลกนี้ที่ขวางหน้าจะถูกตัดขาดทั้งหมดจ้าวอัคคีปีศาจมั่นใจและเหยียดมือขวาออกโดยไม่ป้องมีการป้องกันและจับพลังที่ยิงออกมาจากดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้

พลังของดาบเทพผ่านนิ้วและร่างของจ้าวอัคคีปีศาจเป็นรอยทางไปตามผิวทะเลสาบหนึ่งกิโลเมตร

แต่จ้าวอัคคีปีศาจที่ถูกพลังดาบเทพอัดใส่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บ

แม้ว่าเขาจะไม่มีร่างมนุษย์อีกต่อไป

จ้าวอัคคีปีศาจก็ยังมีพลังปราณราชันย์ระดับแปด ถ้าดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ใช้พลังดาบเทพที่แท้จริงออกมา  อย่างนั้นเขาจะไม่สนใจการโจมตีอย่างรุนแรงของนาง

“นังเห็บน้อยดูซิว่าข้าผู้เป็นเทพจะสำเร็จโทษเจ้ายังไง!” จ้าวอัคคีปีศาจรวบนิ้วทั้งห้าปล่อยพลังเพลิงเตรียมตัวฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในฝ่าเดียวทันที

“ฮ่า.....!”

ขุนพลเทพธิดาหิมะไม่ทราบกระโดดออกมาจากที่ใดทันทีที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดึงความสนใจของจ้าวอัคคีปีศาจนางรวบรวมพลังน้ำแข็งที่สามารถทำโลกสั่นสะเทือนได้ส่งพลังผ่านพายุหมุนรุนแรงนางปล่อยหมัดกระแทกใส่หลังศีรษะของจ้าวอัคคีปีศาจจนแตกกระจาย

จ้าวอัคคีปีศาจร่างสั่นสะท้านและพยายามจะยืดร่างขึ้น

อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเช่นนั้น  ส่วนสูงของร่างกายของเขาเริ่มพังทลายลงบนสะพานไฟ

จากนั้นร่างของเขาหลอมละลายในลาวาปาก จมูกและผัสสะทั้งห้าถูกเผาในไฟ และลอยขึ้นไปในท้องฟ้าของเหลวเหมือนเลือดของมนุษย์ ฉีดพุ่งใส่ผิวทะเลสาบ

สายเกินกว่าที่วาฬภูเขาไฟและเลเวียธานจะช่วย

นอกจากนี้ด้วยสติปัญญาของพวกมันพวกมันไม่คิดว่าจะมียอดฝีมือระดับขุนพลเทพแฝงตัวอยู่ในความมืดขุนพลเทพลอบออกมาโจมตีโดยคาดไม่ถึงจ้าวอัคคีปีศาจเผชิญกับการโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรง ถ้าไม่ร่วงลงกับพื้น  ถ้าเพียงแต่เขามีความสำเร็จถึงขอบเขตของเทพเพลิง

ขุนพลเทพธิดาวายุลอบโจมตีได้สำเร็จขณะที่เสี่ยวเหวินหลี ฮุยไท่หลาง และภูตฟ้าปั่นป่วนก็ร่วมโจมตีทันที

เสี่ยวเหวินหลียืนอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางและเรียกอสูรพิทักษ์ทั้งสี่คือเมดูซาศิลา เงือกวายุ นาคาสายฟ้า ปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง นางเงือกวายุเป่าสังข์เรียกลมพายุและเมฆครึ้มทันทีสายฟ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของนาคาสายฟ้าพุ่งลงมาพร้อมกับฝนตกราวกับลูกธนูที่ยิงออกมาทั้งวันที่สำคัญที่สุดคือในทะเลสาบตอนนี้มีน้ำในปริมาณมากอยู่แล้ว พลังของวาฬภูเขาไฟเลเวียธานและปลาไหลมังกรไฟซึ่งต้องได้รับการส่งเสริมจากพลังไฟถูกทำลายความแข็งแกร่งจนพลังลดลงเหลือในระดับต่ำที่สุด

อสูรธาตุไฟที่กำลังบินอย่างเช่นเหยี่ยวเพลิงค้างคาวไฟและกาอัคคีปีศาจพากันบินต่ำไปหลบอยู่ที่ใต้ตัววาฬภูเขาไฟที่มีร่างขนาดใหญ่  มันไม่ต้องการต้านพายุมันกลัวจะตกเป็นเป้าหมายของศัตรู

ฮุยไท่หลางปลดปล่อยพลังอสูรเทพ

ด้วยพลังกดดันของร่างมันมันกดร่างถล่มสะพานลาวาของจ้าวอัคคีปีศาจและบินเข้าไปหาเกรมลินภูเขาไฟระดับปราณฟ้าโดยตรง

พื้นสะพานแตกร้าวเหมือนกับใยแมงมุมฮุยไท่หลางเห็นว่าสะพานยังไม่ถล่ม มันใช้กรงเล็บช่วยพังสะพาน พื้นสะพานถล่มเป็นรูแต่ทั่วทั้งสะพานแค่สั่นสะเทือน ฮุยไท่หลางโมโห และหัวของมันแปลงเป็นเหมือนสว่านกระโดดลงไปบนสะพานแล้วเอาหัวไถเป็นทางยาวถึงสองสามร้อยเมตรเพื่อทำลายผิวสะพานโดยตรง

เทียบกับความหยิ่งผยองของฮุยไท่หลางแล้วภูตฟ้าปั่นป่วนไม่ได้ทำเช่นนั้น

นางเพ่งมองเป้าหมาย

นางใช้พลังเทพวิบัติจับเกรมลินภูเขาไฟและดูดพลังไฟจากอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งจากนั้นโยนร่างเจ้าอสูรโชคร้ายลงบนน้ำแข็ง

พญางูโลหิตทองและฉลามเสือทองกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ก้นทะเลสาบเห็นอสูรแช่เย็นตกลงมาในน้ำ พวกมันรีบเข้าไปฉุดลากลงไปในน้ำที่ลึกและเย็นมากขึ้น

วาฬภูเขาไฟพ่นลาวาออกมาอย่างน่ากลัว  นางเงือกวายุต้านรับด้วยคลื่นพายุสูงหลายพันฟุต

หินลาวาจับตัวแข็งและร่วงตกลงทีละชิ้น

และเมื่อเลวิธานอ้าปากกว้างใหญ่เตรียมจะกลืนเสี่ยวเหวินหลีผู้เป็นต้นพลังงานน้ำแต่ฮุยไท่หลางปรากฏตัวที่ด้านหลังของมัน มันอ้าปากกว้างใหญ่กว่าเลเวียธาน ในคอของมันเหมือนกับสามารถซ่อนพลังดูดกินของหลุมดำเอาไว้ ฮุยไท่หลางเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกภายใต้พลังสนับสนุนของเย่ว์หยางให้กลืนกินเลเวียธาน

ร่างของเลเวียธานใหญ่มากอยู่แล้ว  แม้ว่ามันจะยังห่างไกลจากวาฬภูเขาไฟมาก  แต่ไม่ใช่ว่าฮุยไท่หลางจะกลืนกินได้ง่ายๆ

ปากของฮุยไท่หลางเริ่มขยายขึ้น

เลเวียธานผู้โชคร้ายร่างและหางของมันเริ่มระเบิดมันดิ้นรนอย่างสุดกำลังขณะที่ฮุยไท่หลางค่อยๆ กลืนมันช้าๆ ทั้งสองยังสู้ยันกันอยู่เหยี่ยวเพลิงพ่นพลังเปลวเพลิงที่น่ากลัว เพลิงลุกติดพรึ่บไปทั่วบริเวณ  ขณะที่นางเงือกวายุเป่าสังข์เรียกพายุอากาศเต็มไปด้วยความร้อน ฮุยไท่หลางมีไฟลุกติดอยู่บนหลังของมันเปลวไฟลุกท่วมจนถึงท้องฟ้า แต่ฮุยไท่หลางเป็นอสูรสายธาตุไฟ นอกจากนี้มันคือหมาป่าปีศาจล้างโลกในตำนานเป็นอสูรเทพ การใช้พลังไฟทำร้ายมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดที่รุนแรงแต่อย่างใด

เหยี่ยวเพลิงปีศาจเห็นพลังเพลิงที่มันพ่นโจมตีออกไปไม่ได้ผล  มันโค้งและโฉบลงจากท้องฟ้า

กรงเล็บที่แหลมคมฉีกเข้าที่นัยน์ตาฮุยไท่หลาง

ฮุยไท่หลางกับเลเวียธานต่อสู้ติดพันกันขณะที่มันพะวงต่อสู้กับเหยี่ยวเพลิงปีศาจ มันพลิกตัวลงไปในทะเลสาบ

อย่างไรก็ตามมันไม่กลัวน้ำอย่างมากมันก็เหมือนกับสุนัขตกน้ำทั่วไป แต่เลเวียธานไม่สามารถทนได้ มันไม่ใช่ปลาทะเลธรรมดา  แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลไฟ

ภัยคุกคามมีมากขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยเท่า

มันตีจนน้ำกระจายเป็นลำสูงหลายร้อยเมตรแต่ปากฮุยไท่หลางยังงับแน่นไม่ยอมปล่อย นั่นทำให้สถานการณ์ของมันไม่ดี...แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมปล่อยมันในตอนนี้ แค่มาดูกันว่าใครจะใช้พลังจนถึงที่สุด มีเย่ว์หยางอยู่ใกล้ๆฮุยไท่หลางอย่าว่าแต่เลเวียธานเลย ต่อให้เป็นวาฬภูเขาไฟมันก็ยังมั่นใจว่ากินฝ่ายตรงข้ามได้  มันไม่หยุดกัดไม่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะดิ้นรนหนักเพียงไหน มันไม่ยอมอ้าปากปล่อย

“ฮูววว..ฮา......”

มือยักษ์ข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในทะเลสาบอย่างไม่กลัวทันที

จากที่ก้นทะเลสาบมือนั้นจับร่างเลเวียธานที่กำลังจะตายเพราะฮุยไท่หลางได้

จ้าวอัคคีปีศาจที่ไม่ยอมตายกลับฟื้นมีชีวิตอีกครั้ง...จ้าวอัคคีปีศาจร่างกายมหึมาจับหางฮุยไท่หลางพร้อมทั้งร่างเลเวียธานเหวี่ยงฟาดกับพื้นสะพานลาวาสองสามครั้ง ฮุยไท่หลางเจ็บปวดแทบตายในที่สุดมันอ้าปากพ่นร่างเลเวียธานที่เหลืออยู่สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายออกมา...ขุนพลเทพวายุโจมตีใส่จ้าวอัคคีปีศาจเป็นครั้งที่สอง  แต่ครั้งนี้จ้าวอัคคีปีศาจระวังตัวอยู่แล้วเขาใช้มือยักษ์ป้องกันการโจมตีตีไว้ได้ ร่างมหึมาที่ใหญ่โตแข็งแกร่ง เขาใช้มือมหึมาทุบร่างขุนพลเทพธิดาวายุจนตกลงไปในน้ำ

ในร่างของจ้าวอัคคีปีศาจมีพลังสองสภาวะที่ปะทะกันนั่นคือส่วนหนึ่งเป็นพลังไฟ ส่วนหนึ่งเป็นพลังน้ำแข็งขณะที่พลังทั้งสองปะทะกันมองดูเป็นภาพที่น่าประหลาดยิ่งนัก

ขณะนี้เองเสี่ยวเหวินหลียังไม่ได้เคลื่อนไหนเริ่มลงมือโจมตีทันที

ดาบคู่ทั้งสองปล่อยพลังดาบสีเงินยาวเป็นกิโลเมตรฟันใส่หลังของเจ้าอัคคีปีศาจตรงส่วนที่เป็นน้ำแข็งทันที

น้ำแข็งแตกกระจายเต็มท้องฟ้า

“ฮ่า...!”

จ้าวอัคคีปีศาจระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่งสะท้านโลกและโจมตีใส่เสี่ยวเหวินหลี

อย่างไรก็ตามด้วยพลังปณิธานอสูรเทพของเธอพลังความเย็นของเธอกินลึกถึงกระดูกทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก

เสวี่ยอู๋เสียยืนอยู่แถวหน้าอยู่นานแล้วนางชูมือที่ขาวดุจหยกขึ้น สนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์แผ่คลุมในระยะสิบกิโลเมตรมังกรน้ำมากมายทะยานขึ้นในท้องฟ้าและวาฬภูเขาไฟและเหยี่ยวเพลิงปลาไหลมังกรไฟตัวเปียกโชกไปทั้งหมด... ดาบเทพขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่เกรมลินภูเขาไฟจนขาดครึ่งและนางตวัดดาบหันกลับมาฟันเหยี่ยวเพลิง  เหยี่ยวเพลิงไม่ยอมปะทะกับดาบวิเศษแน่นอนมันยอมพุ่งเข้าโจมตีมังกรน้ำที่พุ่งออกมาจากผิวน้ำเพื่อหลบการโจมตีที่รุนแรง

เลเวียธานที่โชคร้ายเพิ่งถูกฮุยไท่หลางคายออกมาจากปาก

มันยังอยู่ในอาการมึนงงสับสน ขณะนั้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันดาบเทพผ่าศีรษะของมันทันที และปราณดาบฟันลึกเข้าไปในกะโหลกของมันถึงสิบเมตร

ฮุยไท่หลางชำเลืองมองตอนแรกถึงกับดีใจ

มันอ้าปากอีกครั้งและกินเลเวียธานที่ยังบาดเจ็บหนักเป็นครั้งที่สอง

ร่างของมันกลิ้งตกลงไปในน้ำและมันไม่ปล่อยให้จ้าวอัคคีปีศาจได้มีโอกาสช่วยเป็นครั้งที่สอง

“จงตายเสียให้หมด!” จ้าวอัคคีปีศาจโกรธจัดระเบิดพลังเปลวเพลิงทั่วทั้งร่างและพุ่งเข้าหาเสวี่ยอู๋เสียทันที  ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจถึงความน่ากลัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อย  ไม่ใช่ภูตฟ้าปั่นป่วนที่มีพลังเทพวิบัติไม่ใช่หมาป่าปีศาจล้างโลก หรือแม้แต่นักดาบหญิงผู้ใช้ดาบวิเศษที่ผ่าได้กระทั่งสวรรค์  แต่เป็นนางที่อยู่เงียบๆ  และข่มพื้นที่ทั้งหมดด้วยสนามพลังของนาง  นักปราชญ์หญิงผู้อยู่ในฐานะสังเกตการณ์ผู้นี้

นางสามารถเรียกขุนเทพธิดาซึ่งเป็นอสูรผู้เดียวที่คุกคามเขาได้ออกมาเล่นงานเขา

ถ้านางไม่ตายเขาไม่มีทางออกไปจากทะเลสาบนี้ได้สำเร็จ

มือทั้งสองของเสวี่ยอู๋เสียระเบิดพลังน้ำแข็งออกจากร่าง....ฝ่ามือของนางยิงพลังใส่ร่างยักษ์ทันที พลังน้ำแข็งสุดยะเยือกที่ไม่มีอะไรที่ไม่ถูกแช่แข็ง

จ้าวอัคคีปีศาจจ้องเขม็งด้วยดวงตาที่รู้สึกทึ่งถึงพลังน้ำแข็งบริสุทธิ์  เขาเกรงว่านอกจากเพลิงอมฤตแล้วไม่มีอะไรในโลกที่ไม่ถูกพลังนี้แช่แข็ง

บางทีอาจใช้เวลาไม่นานแต่ใครจะคิดกันเล่าว่าสตรีมนุษย์จะมีพลังเยือกแข็งบริสุทธิ์ขนาดนี้?  นางเป็นใคร?

หรือว่านางเป็นศิษย์ของภูตไหมฟ้า?

ขณะที่จ้าวอัคคีปีศาจถูกแช่แข็งมือเหมือนกับว่าเย่ว์หยางบังเอิญแวะผ่านมา แต่เขาโจมตีทันที

เขาแปะเพลิงไว้ต่อหน้าของจ้าวอัคคีปีศาจและจ้าวอัคคีปีศาจก็สามารถกลืนเขาได้ในคำเดียว อย่างไรก็ตามจ้าวอัคคีปีศาจถึงกับร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก  เพราะเขาพบว่าบุรุษที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยที่อยู่ต่อหน้าของเขาใช้เพลิงอมฤตต่อสู้! ถ้าเขาไม่ใช้มือที่ถูกแช่แข็งมาปิดไว้จ้าวอัคคีปีศาจอาจต้องทุ่มเทพลังทั้งชีวิตสู้ เพลิงอมฤตไม่ใช่เพลิงที่สามารถต่อต้านได้ นั่นคือไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมโลกไว้ได้ทั้งโลก... ไม่,นั่นยังน่ากลัวยิ่งกว่าเทพอัคคีในตำนานเสียอีก

“เจ้ามีอายุนานเป็นหมื่นปีถึงเวลาที่เจ้าจะหุบปากและนอนในโลงอย่างเงียบสงบได้แล้ว” เย่ว์หยางระเบิดพลังเพลิงอมฤตต่อหน้าจ้าวอัคคีปีศาจที่ผ่านปากของเขาทะลุขึ้นไปบนฟ้าและส่วนล่างตรึงอยู่บนพื้นโดยเขาไม่มีทางหลีกเลี่ยง จ้าวอัคคีปีศาจมองดูเพลิงอมฤตที่พุ่งทะลุผ่านปากของเขาจากด้านหลังคอตรงขึ้นไปในอากาศอย่างจนใจ  เวลานี้เขาพบว่าวงจักรนิรันดรปรากฏอยู่ที่หน้าของเขา

วงจักรล้างโลกที่น่ากลัวยิ่งกว่าทำให้จ้าวอัคคีปีศาจถึงกับร้องลั่นเมื่อกะโหลกของเขาถูกวงจักรล้างโลกผ่าเป็นสองเสี่ยงอย่างสิ้นเชิง

จบกัน เขาเห็นเด็กหนุ่มผู้ที่เขาประเมินผิดไปอย่างสิ้นเชิงกำลังปล่อยปราณกระบี่แทงใส่ทะลุเข้าไปถึงผลึกปีศาจของจ้าวอัคคีปีศาจ

ดูเหมือนว่าเขาติดอยู่ในโลกวารีถ้าไม่มีบัณฑิตสตรีคอยดึงดูดความสนใจ ถ้าเขาไม่หยิ่งยโสเกินไปทระนงนึกว่าตนเองมีพลังเหนือกว่าประเมินพลังศัตรูผิดพลาด  ถ้าเขายังอยู่ในทะเลเพลิงเกรงว่าเรื่องอย่างนี้คงจะไม่เกิดขึ้น ...

สายเกินไป  สายเกินกว่าจะกอบกู้สถานการณ์ได้!-!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด