ตอนที่ 890 เพลิงมอดสลาย
จ้าวอัคคีปีศาจเหยียดมือจับอสูรเกรมลินภูเขาไฟที่อยู่รอบๆตัวเขา
และขว้างขึ้นไป
มันให้เกรมลินภูเขาไฟวิ่งเข้าหาวิถีดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เกรมลินภูเขาไฟรู้สึกถึงอันตราย ถ้ามันไม่ฉวยโอกาสลงมือก่อนมันต้องตายอย่างมิต้องสงสัย มันไม่อยู่ในเขตทะเลเพลิง แต่เป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยน้ำ ร่างของเกรมลินภูเขาไฟมีอุณหภูมิสูงเมื่อมันร่วงลงไป แม้ว่ามีพลังแข็งแกร่งแต่มันจะไม่มีทางรอดได้
“โฮกกกก!”
เกรมลินภูเขาไฟระเบิดพลังรุนแรงสูงสุดเหมือนกับกลุ่มอุกกาบาตพุ่งเข้าหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
อย่างน้อยก็ต้องสู้ให้อีกฝ่ายเจ็บตัวมากที่สุด
อย่างไรก็ตามมันประเมินสิ่งที่เรียกว่าสมบัติเทพต่ำเกินไป ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมพลังสายฟ้านับพันสายไว้ที่ปลายดาบอย่างเข้มข้น นางฟันผ่าร่างเกรมลินภูเขาไฟที่มีพลังระดับปราณฟ้าได้อย่างง่ายดายจนขาดครึ่งราวกับตัดเต้าหู้
นางวิ่งผ่านร่างที่ขาดครึ่งของเกรมลินภูเขาไฟและดาบเทพในมือนางยังคงไม่หยุดนิ่ง
ยิ่งเพิ่มความเร็วก็ยิ่งรุนแรงร้ายกาจ ระดับความยาวของปราณดาบยาวถึงสองกิโลเมตรฟันใส่จ้าวอัคคีปีศาจอย่างดุร้าย
“แค่นี้ไม่เท่าไหร่!”
จ้าวอัคคีปีศาจแค่เสียงเย้ยหยัน
หลังจากเริ่มจับเกรมลินภูเขาไฟขว้างไปทดสอบ เขาแค่ต้องการประเมินว่านักดาบหญิงผู้นี้ไม่สามารถใช้พลังของดาบเทพได้เต็มร้อย ถ้านี่เป็นพลังเต็มร้อยของสมบัติวิเศษทุกอย่างในโลกนี้ที่ขวางหน้าจะถูกตัดขาดทั้งหมดจ้าวอัคคีปีศาจมั่นใจและเหยียดมือขวาออกโดยไม่ป้องมีการป้องกันและจับพลังที่ยิงออกมาจากดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้
พลังของดาบเทพผ่านนิ้วและร่างของจ้าวอัคคีปีศาจเป็นรอยทางไปตามผิวทะเลสาบหนึ่งกิโลเมตร
แต่จ้าวอัคคีปีศาจที่ถูกพลังดาบเทพอัดใส่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าเขาจะไม่มีร่างมนุษย์อีกต่อไป
จ้าวอัคคีปีศาจก็ยังมีพลังปราณราชันย์ระดับแปด ถ้าดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ใช้พลังดาบเทพที่แท้จริงออกมา อย่างนั้นเขาจะไม่สนใจการโจมตีอย่างรุนแรงของนาง
“นังเห็บน้อยดูซิว่าข้าผู้เป็นเทพจะสำเร็จโทษเจ้ายังไง!” จ้าวอัคคีปีศาจรวบนิ้วทั้งห้าปล่อยพลังเพลิงเตรียมตัวฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในฝ่าเดียวทันที
“ฮ่า.....!”
ขุนพลเทพธิดาหิมะไม่ทราบกระโดดออกมาจากที่ใดทันทีที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดึงความสนใจของจ้าวอัคคีปีศาจนางรวบรวมพลังน้ำแข็งที่สามารถทำโลกสั่นสะเทือนได้ส่งพลังผ่านพายุหมุนรุนแรงนางปล่อยหมัดกระแทกใส่หลังศีรษะของจ้าวอัคคีปีศาจจนแตกกระจาย
จ้าวอัคคีปีศาจร่างสั่นสะท้านและพยายามจะยืดร่างขึ้น
อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเช่นนั้น ส่วนสูงของร่างกายของเขาเริ่มพังทลายลงบนสะพานไฟ
จากนั้นร่างของเขาหลอมละลายในลาวาปาก จมูกและผัสสะทั้งห้าถูกเผาในไฟ และลอยขึ้นไปในท้องฟ้าของเหลวเหมือนเลือดของมนุษย์ ฉีดพุ่งใส่ผิวทะเลสาบ
สายเกินกว่าที่วาฬภูเขาไฟและเลเวียธานจะช่วย
นอกจากนี้ด้วยสติปัญญาของพวกมันพวกมันไม่คิดว่าจะมียอดฝีมือระดับขุนพลเทพแฝงตัวอยู่ในความมืดขุนพลเทพลอบออกมาโจมตีโดยคาดไม่ถึงจ้าวอัคคีปีศาจเผชิญกับการโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรง ถ้าไม่ร่วงลงกับพื้น ถ้าเพียงแต่เขามีความสำเร็จถึงขอบเขตของเทพเพลิง
ขุนพลเทพธิดาวายุลอบโจมตีได้สำเร็จขณะที่เสี่ยวเหวินหลี ฮุยไท่หลาง และภูตฟ้าปั่นป่วนก็ร่วมโจมตีทันที
เสี่ยวเหวินหลียืนอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางและเรียกอสูรพิทักษ์ทั้งสี่คือเมดูซาศิลา เงือกวายุ นาคาสายฟ้า ปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง นางเงือกวายุเป่าสังข์เรียกลมพายุและเมฆครึ้มทันทีสายฟ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของนาคาสายฟ้าพุ่งลงมาพร้อมกับฝนตกราวกับลูกธนูที่ยิงออกมาทั้งวันที่สำคัญที่สุดคือในทะเลสาบตอนนี้มีน้ำในปริมาณมากอยู่แล้ว พลังของวาฬภูเขาไฟเลเวียธานและปลาไหลมังกรไฟซึ่งต้องได้รับการส่งเสริมจากพลังไฟถูกทำลายความแข็งแกร่งจนพลังลดลงเหลือในระดับต่ำที่สุด
อสูรธาตุไฟที่กำลังบินอย่างเช่นเหยี่ยวเพลิงค้างคาวไฟและกาอัคคีปีศาจพากันบินต่ำไปหลบอยู่ที่ใต้ตัววาฬภูเขาไฟที่มีร่างขนาดใหญ่ มันไม่ต้องการต้านพายุมันกลัวจะตกเป็นเป้าหมายของศัตรู
ฮุยไท่หลางปลดปล่อยพลังอสูรเทพ
ด้วยพลังกดดันของร่างมันมันกดร่างถล่มสะพานลาวาของจ้าวอัคคีปีศาจและบินเข้าไปหาเกรมลินภูเขาไฟระดับปราณฟ้าโดยตรง
พื้นสะพานแตกร้าวเหมือนกับใยแมงมุมฮุยไท่หลางเห็นว่าสะพานยังไม่ถล่ม มันใช้กรงเล็บช่วยพังสะพาน พื้นสะพานถล่มเป็นรูแต่ทั่วทั้งสะพานแค่สั่นสะเทือน ฮุยไท่หลางโมโห และหัวของมันแปลงเป็นเหมือนสว่านกระโดดลงไปบนสะพานแล้วเอาหัวไถเป็นทางยาวถึงสองสามร้อยเมตรเพื่อทำลายผิวสะพานโดยตรง
เทียบกับความหยิ่งผยองของฮุยไท่หลางแล้วภูตฟ้าปั่นป่วนไม่ได้ทำเช่นนั้น
นางเพ่งมองเป้าหมาย
นางใช้พลังเทพวิบัติจับเกรมลินภูเขาไฟและดูดพลังไฟจากอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งจากนั้นโยนร่างเจ้าอสูรโชคร้ายลงบนน้ำแข็ง
พญางูโลหิตทองและฉลามเสือทองกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ก้นทะเลสาบเห็นอสูรแช่เย็นตกลงมาในน้ำ พวกมันรีบเข้าไปฉุดลากลงไปในน้ำที่ลึกและเย็นมากขึ้น
วาฬภูเขาไฟพ่นลาวาออกมาอย่างน่ากลัว นางเงือกวายุต้านรับด้วยคลื่นพายุสูงหลายพันฟุต
หินลาวาจับตัวแข็งและร่วงตกลงทีละชิ้น
และเมื่อเลวิธานอ้าปากกว้างใหญ่เตรียมจะกลืนเสี่ยวเหวินหลีผู้เป็นต้นพลังงานน้ำแต่ฮุยไท่หลางปรากฏตัวที่ด้านหลังของมัน มันอ้าปากกว้างใหญ่กว่าเลเวียธาน ในคอของมันเหมือนกับสามารถซ่อนพลังดูดกินของหลุมดำเอาไว้ ฮุยไท่หลางเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกภายใต้พลังสนับสนุนของเย่ว์หยางให้กลืนกินเลเวียธาน
ร่างของเลเวียธานใหญ่มากอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะยังห่างไกลจากวาฬภูเขาไฟมาก แต่ไม่ใช่ว่าฮุยไท่หลางจะกลืนกินได้ง่ายๆ
ปากของฮุยไท่หลางเริ่มขยายขึ้น
เลเวียธานผู้โชคร้ายร่างและหางของมันเริ่มระเบิดมันดิ้นรนอย่างสุดกำลังขณะที่ฮุยไท่หลางค่อยๆ กลืนมันช้าๆ ทั้งสองยังสู้ยันกันอยู่เหยี่ยวเพลิงพ่นพลังเปลวเพลิงที่น่ากลัว เพลิงลุกติดพรึ่บไปทั่วบริเวณ ขณะที่นางเงือกวายุเป่าสังข์เรียกพายุอากาศเต็มไปด้วยความร้อน ฮุยไท่หลางมีไฟลุกติดอยู่บนหลังของมันเปลวไฟลุกท่วมจนถึงท้องฟ้า แต่ฮุยไท่หลางเป็นอสูรสายธาตุไฟ นอกจากนี้มันคือหมาป่าปีศาจล้างโลกในตำนานเป็นอสูรเทพ การใช้พลังไฟทำร้ายมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดที่รุนแรงแต่อย่างใด
เหยี่ยวเพลิงปีศาจเห็นพลังเพลิงที่มันพ่นโจมตีออกไปไม่ได้ผล มันโค้งและโฉบลงจากท้องฟ้า
กรงเล็บที่แหลมคมฉีกเข้าที่นัยน์ตาฮุยไท่หลาง
ฮุยไท่หลางกับเลเวียธานต่อสู้ติดพันกันขณะที่มันพะวงต่อสู้กับเหยี่ยวเพลิงปีศาจ มันพลิกตัวลงไปในทะเลสาบ
อย่างไรก็ตามมันไม่กลัวน้ำอย่างมากมันก็เหมือนกับสุนัขตกน้ำทั่วไป แต่เลเวียธานไม่สามารถทนได้ มันไม่ใช่ปลาทะเลธรรมดา แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลไฟ
ภัยคุกคามมีมากขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยเท่า
มันตีจนน้ำกระจายเป็นลำสูงหลายร้อยเมตรแต่ปากฮุยไท่หลางยังงับแน่นไม่ยอมปล่อย นั่นทำให้สถานการณ์ของมันไม่ดี...แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมปล่อยมันในตอนนี้ แค่มาดูกันว่าใครจะใช้พลังจนถึงที่สุด มีเย่ว์หยางอยู่ใกล้ๆฮุยไท่หลางอย่าว่าแต่เลเวียธานเลย ต่อให้เป็นวาฬภูเขาไฟมันก็ยังมั่นใจว่ากินฝ่ายตรงข้ามได้ มันไม่หยุดกัดไม่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะดิ้นรนหนักเพียงไหน มันไม่ยอมอ้าปากปล่อย
“ฮูววว..ฮา......”
มือยักษ์ข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในทะเลสาบอย่างไม่กลัวทันที
จากที่ก้นทะเลสาบมือนั้นจับร่างเลเวียธานที่กำลังจะตายเพราะฮุยไท่หลางได้
จ้าวอัคคีปีศาจที่ไม่ยอมตายกลับฟื้นมีชีวิตอีกครั้ง...จ้าวอัคคีปีศาจร่างกายมหึมาจับหางฮุยไท่หลางพร้อมทั้งร่างเลเวียธานเหวี่ยงฟาดกับพื้นสะพานลาวาสองสามครั้ง ฮุยไท่หลางเจ็บปวดแทบตายในที่สุดมันอ้าปากพ่นร่างเลเวียธานที่เหลืออยู่สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายออกมา...ขุนพลเทพวายุโจมตีใส่จ้าวอัคคีปีศาจเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้จ้าวอัคคีปีศาจระวังตัวอยู่แล้วเขาใช้มือยักษ์ป้องกันการโจมตีตีไว้ได้ ร่างมหึมาที่ใหญ่โตแข็งแกร่ง เขาใช้มือมหึมาทุบร่างขุนพลเทพธิดาวายุจนตกลงไปในน้ำ
ในร่างของจ้าวอัคคีปีศาจมีพลังสองสภาวะที่ปะทะกันนั่นคือส่วนหนึ่งเป็นพลังไฟ ส่วนหนึ่งเป็นพลังน้ำแข็งขณะที่พลังทั้งสองปะทะกันมองดูเป็นภาพที่น่าประหลาดยิ่งนัก
ขณะนี้เองเสี่ยวเหวินหลียังไม่ได้เคลื่อนไหนเริ่มลงมือโจมตีทันที
ดาบคู่ทั้งสองปล่อยพลังดาบสีเงินยาวเป็นกิโลเมตรฟันใส่หลังของเจ้าอัคคีปีศาจตรงส่วนที่เป็นน้ำแข็งทันที
น้ำแข็งแตกกระจายเต็มท้องฟ้า
“ฮ่า...!”
จ้าวอัคคีปีศาจระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่งสะท้านโลกและโจมตีใส่เสี่ยวเหวินหลี
อย่างไรก็ตามด้วยพลังปณิธานอสูรเทพของเธอพลังความเย็นของเธอกินลึกถึงกระดูกทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก
เสวี่ยอู๋เสียยืนอยู่แถวหน้าอยู่นานแล้วนางชูมือที่ขาวดุจหยกขึ้น สนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์แผ่คลุมในระยะสิบกิโลเมตรมังกรน้ำมากมายทะยานขึ้นในท้องฟ้าและวาฬภูเขาไฟและเหยี่ยวเพลิงปลาไหลมังกรไฟตัวเปียกโชกไปทั้งหมด... ดาบเทพขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่เกรมลินภูเขาไฟจนขาดครึ่งและนางตวัดดาบหันกลับมาฟันเหยี่ยวเพลิง เหยี่ยวเพลิงไม่ยอมปะทะกับดาบวิเศษแน่นอนมันยอมพุ่งเข้าโจมตีมังกรน้ำที่พุ่งออกมาจากผิวน้ำเพื่อหลบการโจมตีที่รุนแรง
เลเวียธานที่โชคร้ายเพิ่งถูกฮุยไท่หลางคายออกมาจากปาก
มันยังอยู่ในอาการมึนงงสับสน ขณะนั้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันดาบเทพผ่าศีรษะของมันทันที และปราณดาบฟันลึกเข้าไปในกะโหลกของมันถึงสิบเมตร
ฮุยไท่หลางชำเลืองมองตอนแรกถึงกับดีใจ
มันอ้าปากอีกครั้งและกินเลเวียธานที่ยังบาดเจ็บหนักเป็นครั้งที่สอง
ร่างของมันกลิ้งตกลงไปในน้ำและมันไม่ปล่อยให้จ้าวอัคคีปีศาจได้มีโอกาสช่วยเป็นครั้งที่สอง
“จงตายเสียให้หมด!” จ้าวอัคคีปีศาจโกรธจัดระเบิดพลังเปลวเพลิงทั่วทั้งร่างและพุ่งเข้าหาเสวี่ยอู๋เสียทันที ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจถึงความน่ากลัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ไม่ใช่ภูตฟ้าปั่นป่วนที่มีพลังเทพวิบัติไม่ใช่หมาป่าปีศาจล้างโลก หรือแม้แต่นักดาบหญิงผู้ใช้ดาบวิเศษที่ผ่าได้กระทั่งสวรรค์ แต่เป็นนางที่อยู่เงียบๆ และข่มพื้นที่ทั้งหมดด้วยสนามพลังของนาง นักปราชญ์หญิงผู้อยู่ในฐานะสังเกตการณ์ผู้นี้
นางสามารถเรียกขุนเทพธิดาซึ่งเป็นอสูรผู้เดียวที่คุกคามเขาได้ออกมาเล่นงานเขา
ถ้านางไม่ตายเขาไม่มีทางออกไปจากทะเลสาบนี้ได้สำเร็จ
มือทั้งสองของเสวี่ยอู๋เสียระเบิดพลังน้ำแข็งออกจากร่าง....ฝ่ามือของนางยิงพลังใส่ร่างยักษ์ทันที พลังน้ำแข็งสุดยะเยือกที่ไม่มีอะไรที่ไม่ถูกแช่แข็ง
จ้าวอัคคีปีศาจจ้องเขม็งด้วยดวงตาที่รู้สึกทึ่งถึงพลังน้ำแข็งบริสุทธิ์ เขาเกรงว่านอกจากเพลิงอมฤตแล้วไม่มีอะไรในโลกที่ไม่ถูกพลังนี้แช่แข็ง
บางทีอาจใช้เวลาไม่นานแต่ใครจะคิดกันเล่าว่าสตรีมนุษย์จะมีพลังเยือกแข็งบริสุทธิ์ขนาดนี้? นางเป็นใคร?
หรือว่านางเป็นศิษย์ของภูตไหมฟ้า?
ขณะที่จ้าวอัคคีปีศาจถูกแช่แข็งมือเหมือนกับว่าเย่ว์หยางบังเอิญแวะผ่านมา แต่เขาโจมตีทันที
เขาแปะเพลิงไว้ต่อหน้าของจ้าวอัคคีปีศาจและจ้าวอัคคีปีศาจก็สามารถกลืนเขาได้ในคำเดียว อย่างไรก็ตามจ้าวอัคคีปีศาจถึงกับร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก เพราะเขาพบว่าบุรุษที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยที่อยู่ต่อหน้าของเขาใช้เพลิงอมฤตต่อสู้! ถ้าเขาไม่ใช้มือที่ถูกแช่แข็งมาปิดไว้จ้าวอัคคีปีศาจอาจต้องทุ่มเทพลังทั้งชีวิตสู้ เพลิงอมฤตไม่ใช่เพลิงที่สามารถต่อต้านได้ นั่นคือไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมโลกไว้ได้ทั้งโลก... ไม่,นั่นยังน่ากลัวยิ่งกว่าเทพอัคคีในตำนานเสียอีก
“เจ้ามีอายุนานเป็นหมื่นปีถึงเวลาที่เจ้าจะหุบปากและนอนในโลงอย่างเงียบสงบได้แล้ว” เย่ว์หยางระเบิดพลังเพลิงอมฤตต่อหน้าจ้าวอัคคีปีศาจที่ผ่านปากของเขาทะลุขึ้นไปบนฟ้าและส่วนล่างตรึงอยู่บนพื้นโดยเขาไม่มีทางหลีกเลี่ยง จ้าวอัคคีปีศาจมองดูเพลิงอมฤตที่พุ่งทะลุผ่านปากของเขาจากด้านหลังคอตรงขึ้นไปในอากาศอย่างจนใจ เวลานี้เขาพบว่าวงจักรนิรันดรปรากฏอยู่ที่หน้าของเขา
วงจักรล้างโลกที่น่ากลัวยิ่งกว่าทำให้จ้าวอัคคีปีศาจถึงกับร้องลั่นเมื่อกะโหลกของเขาถูกวงจักรล้างโลกผ่าเป็นสองเสี่ยงอย่างสิ้นเชิง
จบกัน เขาเห็นเด็กหนุ่มผู้ที่เขาประเมินผิดไปอย่างสิ้นเชิงกำลังปล่อยปราณกระบี่แทงใส่ทะลุเข้าไปถึงผลึกปีศาจของจ้าวอัคคีปีศาจ
ดูเหมือนว่าเขาติดอยู่ในโลกวารีถ้าไม่มีบัณฑิตสตรีคอยดึงดูดความสนใจ ถ้าเขาไม่หยิ่งยโสเกินไปทระนงนึกว่าตนเองมีพลังเหนือกว่าประเมินพลังศัตรูผิดพลาด ถ้าเขายังอยู่ในทะเลเพลิงเกรงว่าเรื่องอย่างนี้คงจะไม่เกิดขึ้น ...
สายเกินไป สายเกินกว่าจะกอบกู้สถานการณ์ได้!-!