ตอนที่แล้วบทที่ 33: จ้าวโม่ชิงตะลึง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35: เซอร์ไพรส์นักท่องเที่ยว! ทะเลเฟื่องฟ้าที่บ้านเกิดฉันเอง!

บทที่ 34: จูบที่มีกระรอกยืนดู! ลูกค้ารายแรก!


“หวัดดีครับเถ้าแก่!” เมื่อเฉินต้าเป่ยเห็นฉินหลินพาหลินเฟินและจ้าวโม่ชิงเข้ามาในห้องโถงเขาก็เดินออกมาต้อนรับ

เมื่อหลินเฟินเห็นว่ามีคนเรียกลูกชายว่าเถ้าแก่ก็ยิ่งแต่จะยิ้มหน้าบานเป็นจานเรดาห์  ในสายตาของเธอคือลูกชายได้ประสบความสำเร็จแล้ว  เพราะงั้นถึงได้มีความสุข

“เสี่ยวหลิน  ลูกรีบ ๆ พาโม่ชิงไปดูทะเลดอกไม้เร็ว ๆ เข้า  เดี๋ยวแม่เดินดูคนเดียวได้” หลินเฟินรู้ว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้ชอบความโรแมนติก  ดังนั้นเธอจึงกระทุ้งเขาให้รีบ ๆ จัดการซะ

เธออยากให้เด็กทั้งสองนี่รีบ ๆ แต่งงานกันเร็ว ๆ จึงผลักให้ทั้งคู่ไปอยู่กันสองต่อสอง

ฉินหลินเลยต้องพาโม่ชิงไปที่ทะเลเฟื่องฟ้าอย่างไม่มีทางเลือก

ในช่องขายตั๋วที่ทางเข้า  เกาเหยาเหยากับพนักงานเตรียมตัวพร้อมอยู่แล้ว

วันนี้เปิดทำการแล้ว  นักท่องเที่ยวจะมาเมื่อไหร่ก็ได้

“หวัดดีค่ะเถ้าแก่!” เกาเหยาเหยากับพนักงานขายตั๋วทักทาทันทีที่เห็นฉินหลิน

ฉินหลินพยักหน้าให้พวกเธอและจูงมือจ้าวโม่ชิงเข้าไปในโซนทะเลเฟื่องฟ้า

ในไม่ช้าจ้าวโม่ชิงก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

เมื่อได้มาเห็นด้วยตาเนื้อตัวเองตรง ๆ แล้วมันช่างสวยงามกว่าที่เห็นในคลิปโฆษณาซะอีก

และเมื่อเธอเดินไปถึงโซนกลางก็ได้เห็นฉากที่เกินจะเชื่อ  เพราะต้นเฟื่องฟ้าเจ็ดสี่ขั้นสุดเลเวล 3 มีหมู่ผีเสื้อสีสันสวยบินอยู่รอบ ๆ เต็มไปหมด  ทำให้เธอต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอย่างอดรนทนไม่ไหว

“เป็นไงจ๊ะ?  ถูกใจมั้ยเอ่ย?” ฉินหลินกอดจ้าวโม่ชิงจากด้านหลังพลางกระซิบข้างหู

“ในโรงแรมคืนนั้นเธอพูดเรื่องเฟื่องฟ้าขึ้นมาฉันเลยจำเอาไว้แล้วก็เอามาทำให้เธอโดยเฉพาะเลยน้า~”

แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าวโม่ชิงซึ้งใจมาก ๆ เป็นสิ่งที่คนที่เธอรักทำให้  แต่เธอก็ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญและถามเขาทันทีว่า “ฉินหลิน  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?  ถึงเธอจะขายปลาอะไรนั่นได้หกแสนกว่าก็เถอะ  แต่มันก็ไม่พอที่จะเอามาซื้อบ้านไร่กับทะเลเฟื่องฟ้านี่อยู่ดี  สารภาพมาซะว่าเธอไปเอาเงินมาจากไหน!”

ฉินหลินรู้ว่าจ้าวม่อชิงนั้นไม่ง่ายเหมือนแม่ของเขา  ดังนั้นเขาจึงต้องปั้นเรื่องให้เนียนกริ๊บว่า “ฉันขายปลาให้เถ้าแก่รวย ๆ คนนั้นได้ใช้ปะ?  เถ้าแก่คนนั้นแกมีเงินใช้ไม่หมด  ตอนที่ทำความรู้จักกันฉันก็เลยเปรย ๆ แผนบ้านไร่ให้แกฟัง  จากนั้นแกก็เลยให้ฉันยืมเงินมา”

“ในโลกเรามีคนที่ให้เธอยืมเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ด้วยเหรอ?” จ้าวโม่ชิงงงงวย

“มีเงื่อนไขสิ  อีกฝ่ายรักปลาเท่าชีวิตเลยอยากให้ฉันช่วยหาปลาไปขายให้อีกถ้ามีโอกาส  แล้วฉันก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เค้าด้วยนา  ตอนนี้เลยมีหนี้เพิ่มเป็นสองสามล้านแล้วอะ” ฉินหลินยังคงตอแหลกันสด ๆ ไม่ใส่ถั่วงอกอยู่

“ฮึ่ยยยยยยยย!” จ้าวโม่ชิงได้ยินก็โมโห  เธอหยิกเอวฉินหลินอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์

“ไอ้บ้า  ไอ้โง่นี่...  เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่คุยกันก่อนเล่า!  ไม่กลัวว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้บ้างรึไงกัน!?”

ก็ไม่กลัวไง  ฉินหลินไม่ได้กลัวเรื่องไม่หาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้อยู่แล้ว  ก็หนี้ที่ว่ามันไม่ได้มีอยู่จริงนี่นาจะให้กลัวทำไมล่ะ?

เมื่อเห็นว่าข้อแก้ตัวนี้เนียนกริ๊บใช้ได้ผลจริง ๆ เขาก็รีบตีเหล็กตอนยังร้อน ๆ “ฉันก็อยากลองเสี่ยงดูอะ  อยากจะหาเงินให้ได้เร็ว ๆ จะได้พาเธอเข้าบ้านได้อย่างเปิดเผยซักที”

เมื่อจ้าวโม่ชิงได้ยินแบบนี้ก็อ่อนยวบสอบสวนต่อไม่ได้  ทำแค่ขึ้นเสียงใส่ว่า “ตั้งแต่นี้ไปห้าเธอสูบบุหรี่  ดื่มเหล้า  ทำเรื่องอันตรายโดยเด็ดขาด  เธอต้องสุขภาพแข็งแรงห้ามเจ็บห้ามป่วย  พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว  เกิดเธอเป็นอะไรไปล่ะก็ฉันจะเอาเงินตั้งหลายล้านจากไหนมาใช้หนี้ให้”

“เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ  ว่าฉันน่ะไม่สูบบุหรี่  ไม่ดื่มเหล้า  ไม่เคยทำเรื่องอันตราย” ฉินหลินโน้มตัวเข้าไปใกล้และจูบปากเธอ

จ้าวโม่ชิงก็กอดเอวฉินหลินอย่างที่ทำเป็นประจำ

“วี้ดวิ้ว~”

สองผัวเมียกำลังดื่มด่ำกับความโรแมนติกส่วนตัวจู่ ๆ ก็ต้องแยกออกอย่างเร็วชนิดหายใจหายคอไม่ทัน  เหตุเพราะดันมีเสียงร้องแหลม ๆ ดังเข้าหู  เมื่อมองตามเสียงก็พบว่ามาจากด้านบนหัว  เป็นเจ้ากระรอกน้อยสามตัวยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งปิดระยะตรงคาคบไม้ยืดคอมองคนทั้งสองด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พวกนี้มัน…” เมื่อจ้าวโม่ชิงเห็นแบบนี้ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงรู้สึกเขิน ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ประมาณว่าเธอกับฉินหลินไม่ได้ถูกกระรอกมองแต่ถูกคนมองอยู่มากกว่า

............................…

บ้านไร่ชิงหลินตั้งอยู่นอกตัวเมืองอำเภอโหยวเฉิง  ตรงแยกถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองโหยวเฉิงกับเมืองชาเฉิง

รถมายบัค (Maybach) 62S ได้หยุดกึกเอาตรงสี่แยกอย่างกะทันหัน

คนขับลงจากรถมาตรวจสอบก่อนจะพูดกับคนที่นั่งอยู่เบาะหลังด้วยความเคารพว่า “ท่านประธานครับ  ล้อด้านขวาแฟบไปแล้วครับ  คงโดยเหล็กเส้นเอาตอนวิ่งผ่านถนนที่ยังสร้าไม่เสร็จก่อนหน้านี้  คงต้องหาที่เปลี่ยนยางใกล้ ๆ นี้ก่อน  กว่าจะเสร็จน่าจะประมาณเที่ยงครับ”

ประธานเงยหน้าไปเห็นป้ายโฆษณาของบ้านไร่ชิงหลินและถูกมันดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก “บ้านไร่นี่ดูดีไม่เลว  ส่งฉันไปที่นั่นก่อนแล้วนายค่อยเอารถไปซ่อมละกัน”

รูปโปรโมตนี้สวยมาก  อย่างกับภาพตามงานแสดงศิลปะ

หรือว่าจะให้ช่างภาพระดับปรมาจารย์มาถ่ายให้?

เขาเคยไปเที่ยวบ้านพักมาแล้วหลายแห่ง  และแม้แต่บ้านไร่ระดับสุดยอดก็ไปเหยียบมาแล้ว  ทว่าที่เหล่านั้นก็ไม่มีที่ไหนสิ้นเปลืองขนาดเอาภาพของปรมาจารย์ช่างภาพมาติดโฆษณาริมถนนแบบนี้

“ครับท่านประธาน” คนขับรถพยักหน้าและขับไปที่บ้านไร่ชิงหลิน

พอเห็นป้ายโฆษณาตรงทางเข้าก็รู้สึกถูกดึงดูดอีกแล้ว  ยิ่งแต่จะทำให้เขามั่นใจว่าคนที่ถ่ายภาพนี้ต้องเป็นปรมาจารย์ช่างภาพระดับแนวหน้าชัวร์ ๆ

ฉินหลินพาจ้าวโม่ชิงกลับไปที่ห้องโถงและเห็นว่ามีชายในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามา

ดูก็รู้แล้วว่าเป็นลูกค้า

เมื่อเข้ามาในโถงต้อนรับเฉินเชิ่งเฟยก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เพราะภาพถ่ายโฆษณาทะเลเฟื่องฟ้านั้นอย่างกับงานศิลปะของแท้  เขายังไม่ได้เข้าไปที่ทะเลเฟื่องฟ้าแต่ระหว่างทางมาเขาได้เจอกับโถงต้อนรับนี้ก่อนเลยลองเข้ามาดู  ซึ่งมันก็ช่างแตกต่างจากที่หวังไว้ไปไกลโข

ห้องโถงไม่ใหญ่  มีโต๊ะอาหารตั้งเรียงรายและชั้นวางผลไม้ตรงกลาง  โล่งโจ้งว่างเปล่าจนเหงาขึ้นมาเลย

เมื่อเกาเหยาเหยาเห็นว่ามีแขกมาแล้วเธอก็เข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า  ยินดีต้อนรับนะค้า  ทางเรามีบริการชมทะเลเฟื่องฟ้า  ผจญภัยในป่า  สไลด์เดอร์หญ้าสีรุ้ง...”

เกาเหยาเหยานำเสนอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างโปรเฟสชันแนล

ตอนนี้เฉินเชิ่งเฟยยืนมองรอบ ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจฟังซักเท่าไหร่  และเมื่อเห็นราคาที่ติดที่แผงมันก็ทำเอาเขาประหลาดใจ

เขาเห็นสตรอว์เบอร์รี่แดงราคาจินละ 25 หยวนกับ 50 หยวน  แตงโมมีราคาจินละ 2 หยวนกับ 10 หยวนนั่นน่ะช่างหัวมันเถอะของกาก ๆ ไม่สนใจ  แต่ไอ้สตรอว์เบอร์รี่จินละ 200 หยวน  แตงโมจินละ 100 หยวน  กับกระเจี๊ยบเขียวจินละ 400 หยวนนี่เหลือจะเชื่อเลยจริง ๆ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่องว่าของราคาขนาดนี้จะมีอยู่จริง  เขาเคยกินของดี ๆ ราคาแพง ๆ เป็นสินค้านำเข้าคัดพิเศษมามากมายแล้วด้วยซ้ำ  แต่เขาตะลึงตรงที่ว่าของเหล่านั้นกลับดูไม่น่าจะปรากฏอยู่ในบ้านไร่ซอมซ่อนี่ได้เลยต่างหาก

ดูก็รู้แล้วว่าบ้านไร่แห่งนี้ไม่ได้เลเวลสูงพอที่จะจัดหาของพวกนั้นมาได้

“เฮ่ย!” ทันใดนั้นเฉินเชิ่งเฟยก็หันไปเห็นบ่อปลาเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ กันซึ่งเป็นบ่อปลาที่ไว้ตักขายเผื่อมีลูกค้ามาซื้อ

“ทั้งบ่อนั่นปลาป่าหมดเลยรึเปล่า?”

เขาเห็นปลาขนาดใหญ่มาก ๆ ว่ายอยู่ในบ่อ 6 ตัวและจำได้ว่าเป็นปลาตะเพียนป่า  ปลาเฉาป่า  และปลาคาร์ปดำป่า  ที่จำได้ก็เพราะว่าเขาเป็นคนชอบตกปลาจึงมีความรู้เรื่องปลาอยู่บ้าง

และรู้ดีด้วยว่าตัวใหญ่ขนาดนี้มันหายากขนาดไหน  เป็นของที่ต่อให้เอาเงินมากองไว้ก็หาซื้อไม่ได้  ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอทีเดียวหกตัว!

“คุณลูกค้าตาแหลมมากเลยค่า  ทั้งปลาตะเพียน  ปลาเฉา  และปลาคาร์ปดำนี้ล้วนเป็นปลาป่า  เป็นปลาจากธรรมชาติล้วน ๆ เลยค่ะ” เกาเหยาเหยาตอบทันที

“เอาปลาตัวนึง” เฉินเชิ่งเฟยพูดทันทีโดยไม่ถามราคาเลยว่าตัวเท่าไหร่

ราคาอะไรไร้สาระ  เขามีเงินจ่ายอยู่แล้ว

รีบ ๆ เอาเจ้าปลานี่มาซักทีซิ

“คุณลูกค้าคะ  เรามีบ่อตกปลาที่มีปลาป่าอีกเพียบแถมยังมีตัวสั่มนี่ด้วยนะคะ!  ถ้าคุณลูกค้าสนใจล่ะก็สามารถเช่าเบ็ดไปตกได้ค่ะจะได้สนุกหน่อย  ไม่แน่คุณลูกค้าอาจจับเจ้าตัวสั่มนี่ได้ก็เป็นได้น้า~” เกาเหยาเหยาทำมือทำไม้บอกขนาดเจ้าพวกปลาเลเวล 2 พร้อมนำเสนอบริการอย่างเหมาะเจาะ

“มีแบบไอ้หกตัวนี่อีกเพียบ?  แถมยังมีไอ้ตัวสั่มนี่อีกด้วยเรอะ?” เฉินเชิ่งเฟยถามพลางทำไม้ทำมือตามทันที

‘แม่เด็กกะโปโลนี่โกหกป่าวนิ?’

เขาเชื่ออยู่ว่าน่าจะมีปลาป่าอีกเพียบ  แต่ไอ้ปลาตัวสั่มนี่นี่มันก็...?  ‘หรือหล่อนจะคิดว่าเราโง่วะ?’

ขนาดตลาดสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองยังไม่กล้าพูดเลย!

ในความคิดของเขาแค่เถ้าแก่บ้านไร่แห่งนี้หาเจ้าหกตัวนี่มาลงบ่อได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว

และพอจ้องดูดี ๆ ก็เห็นว่าแม่เด็กคนนี้ก็ท่าทางจริงจังไม่ได้ล้อเล่น  เมื่องมองลงไปก็เห็นเจ้าหกตัวแหวกว่ายไปมา

‘อืม~  เอาก็เอาวะ!  ลองดู!’

ในฐานะผู้ที่รักการตกปลาแล้วมีใครบ้างที่ไม่อยากเย่อปลาตัวใหญ่ ๆ แล้วลากมันขึ้นจากน้ำ?

“งั้นก็สาวน้อย  พาฉันไปเช่าเบ็ดซักสองคันซิ!” เฉินเชิ่งเฟยกล่าวทันที

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่สตรอว์เบอร์รี่เลเวล 2 ราคาจินละ 200 หยวน “แล้วก็ชั่งสตรอว์เบอร์รี่นั่นมาสองจินด้วย  จะเอาไว้กินตอนตกปลาใหญ่  ขอลอหน่อยซิว่าเมื่อเทียบกับบ้านไร่หรู ๆ แล้วจะเป็นยังไง  หึหึ”

“โอเคค่า~” เกาเหยาเหยาที่เห็นว่าตัวเองขายของออกก็ยิ้มอย่างสดใส  เธอเรียกให้พนักงานอีกคนมาชั่งสตรอว์เบอร์รี่ส่วนตัวเธอไปทำเรื่องเช่าเบ็ดตกปลาให้เฉินเชิ่งเฟยซึ่งราคาก็ไม่แพง  คันหนึ่ง 20 หยวน  สองคันก็ 40 หยวน  และเหยื่องอีก 45 หยวน

ทว่าเฉินเชิ่งเฟยก็ต้องรู้สึกผิดหวังอีกรอบ

เพราะไม่ว่าจะคันเบ็ดหรือเหยื่อมันก็...  อุบาทว์เกิ๊น!

นี่ถ้าคนขับยังไม่เอารถไปซ่อมล่ะก็เขาจะเรียกให้คนขับเอาเบ็ดจากหลังรถมาให้แล้ว!

แถมสิ่งอำนวยความสะดวกก็แย่เกิ๊น  มีแค่เก้าอี้กับโต๊ะตัวจิ๊ดเดียวหันหน้าเข้าบ่อตกปลา

ช่างเป็นคนละโลกกับบ่อตกปลาที่เขาเคยไปมาโดยสิ้นเชิง

ตุ๋มมม...

กระนั้นเฉินเชิ่งเฟยก็ยังคงเล่นกับเบ็ดตกปลาอย่างชำนาญ  ตีวงสวิงอย่างสวยแล้วก็รอ...

เมื่อเหลือบเห็นสตรอว์เบอร์รี่ที่เอามาด้วยก็เดินไปล้างมือจากนั้นก็มาจกสตรอว์เบอร์รี่ใส่ปากรอให้ปลามาติดเบ็ด

แล้ว...  เมื่อสตรอว์เบอร์รี่เข้าไปอยู่ในปากปุ๊บเฉินเชิ่งเฟยก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ! “รสชาตินี่มัน…!”

5 3 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด