ตอนที่แล้วบทที่ 219 ปรมาจารย์หวนซี? โง่เง่า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 221 หลิวซุนฮวนเปลี่ยนสีหน้า

(ฟรี) บทที่ 220 สองจักรพรรดิเผชิญหน้า


ปรมาจารย์หวนซีตกตะลึง

เกิดอะไรขึ้น?

หลี่หรานกับฉินหรูเหยียนเป็นเหมือนปลาบนเขียง และพวกเขาไม่สามารถกระตุ้นระลอกคลื่นใดๆได้

ก่อนหน้านี้เขายังคงอวดดีและเย่อหยิ่ง เพลิดเพลินกับท่าทางหวาดกลัวของคู่ต่อสู้

แต่สุดท้ายเขากลับพบว่าตัวเองเป็นแค่ปลาที่กระโดดโลดเต้นไปรอบๆ?

เขามองไปที่ร่างนั้นและกลืนน้ำลาย ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

เสื้อคลุมนักพรตและผ้าคลุมหน้าสีขาว ความรู้สึกที่ห่างไกลราวกับดวงดาว กลิ่นอายที่เย็นชาและไม่แยแส... ควบคู่ไปกับความสามารถในการจัดการขอบเขตเหนือวิบัติขั้นสูงสุดในชั่วพริบตา

มันคืออวี้ชิงหลัน

แต่นางมาที่นี่ทำไม?

นี่คือเทพธิดาแห่งสถาบันเทียนซู เจ้าแห่งเทือกเขาหยุนเฟิง ยักษ์ในหมู่ยักษ์ เป็นตัวตนที่ทรงพลังท่ามกลางผู้ยิ่งใหญ่

แม้แต่หลิวซุนฮวนก็ต้องวิ่งหนี

นางจะลงมาจากภูเขาเพื่อคนตัวเล็กๆอย่างเขาได้ยังไง?

มีเครื่องหมายคำถามมากมายในหัวของปรมาจารย์หวนซี

เขาพยายามสงบสติอารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “นักพรตเต๋าอี้ เราไม่มีความขัดแย้งกัน ทำไมท่านถึงโจมตีข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้?”

อวี้ชิงหลันนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา

ปรมาจารย์หวนซียังคงรักษาท่าทางของเขาพร้อมกับเหงื่อเย็นที่ไหลลงมาจากหน้าผาก “นักพรตอวี้ นี่เป็นเรื่องภายในนิกายเหอหวนของเรา มันคงไม่ใช่เรื่องดีที่สถาบันเทียนซูของท่านจะเข้ามาแทรกแซงใช่ไหม?”

อวี้ชิงหลันยังคงเพิกเฉยต่อเขา

ปรมาจารย์หวนซีตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น

“ข้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเหอหวน” เขากล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม “สตรีศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเหอหวนและบุตรศักดิ์สิทธิ์ของวิหารโหยวหลัวเองก็อยู่ที่นี่ ท่านตั้งใจจะเป็นศัตรูกับนิกายปีศาจทั้งหมดหรือไม่?”

ฮ่าๆๆๆ

หลี่หรานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

เขาหันหน้าไปพูดกับอวี้ชิงหลันว่า “นักพรตอวี้ สหายคนนี้ใช้ตัวตนของข้าเพื่อคุกคามท่านจริงๆ ฮ่าๆๆ”

ในที่สุดอวี้ชิงหลันก็เปิดปากพูดอย่างเฉยเมยว่า “โง่เง่า”

ปรมาจารย์หวนซีพูดไม่ออก “……”

หลี่หรานส่ายหัวและพูดว่า “ข้าพึ่งบอกว่าเจ้าโง่เง่าและเจ้าก็โง่เง่าจริงๆ เจ้ายังไม่สามารถบอกได้อีกว่าเราอยู่ด้วยกัน?”

ร่องรอยแปลกๆฉายผ่านดวงตาของอวี้ชิงหลัน

นางอดไม่ได้ที่จะพูดผ่านกระแสจิต ‘ฮึ่ม! ใครจะไปอยู่กับเจ้ากัน’

หลี่หรานเลิกคิ้วและตอบกลับว่า ‘ท่านไม่ยอมรับอีกแล้วเหรอ?’

‘หุบปาก!’

‘เอาล่ะๆ’

ปรมาจารย์หวนซีมองไปที่พวกเขาสองคน จิตใจของเขายุ่งเหยิง

ผู้นำนิกายของวิถีธรรมอยู่ฝ่ายเดียวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของนิกายปีศาจ?

มันไร้สาระเกินไป!

อย่างไรก็ตาม ความจริงปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา และเขาทำได้เพียงต้องเชื่อมัน

ฉินหรูเหยียนก็ตกตะลึงเช่นกัน

ตาของนางแดงและน้ำตายังคงค้างอยู่บนใบหน้าของนาง

นางเตรียมพร้อมที่จะตายแล้ว แต่อวี้ชิงหลันช่วยพวกเขาไว้?

“เกิดอะไรขึ้น บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่?”

หลี่หรานส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “โชคดีที่ข้าได้เตรียมการไว้แล้ว”

ฉินหรูเหยียนเติบโตขึ้นมาในนิกายปีศาจและคุ้นเคยกับการวางอุบายใส่กัน อย่างไรก็ตาม นางยังประเมินความมุ่งมั่นของปรมาจารย์หวนซีต่ำเกินไป

ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาลงมือด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว

แต่หลี่หรานแตกต่างออกไป

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เขาก็แน่ใจว่าปรมาจารย์หวนซีจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก มีโอกาสมากที่เขาจะลงมือด้วยตัวเอง

ดังนั้นเขาจึงแจ้งให้อวี้ชิงหลันทราบถึงตำแหน่งของเขาล่วงหน้า

เขากระตุ้นด้ายสีแดงทันทีที่เห็นปรมาจารย์หวนซี...

หลี่หรานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “น้ำแข็งพันปี ฆ่ามัน!”

อวี้ชิงหลันกลอกตาใส่เขาและนั่งอยู่ที่เดิม

“…” ร่องรอยของความอับอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่หราน “น่าขายหน้าชะมัด... เอาล่ะ ข้ำทำเองก็ได้”

เขาหยิบดาบมารกู่เซี่ยออกมาและตวัดไปที่ร่างของปรมาจารย์หวนซี “ช่วยข้าจับเขาไว้ก่อน ข้าอยากรู้ว่าน้องชายหรือเอวของเขาจะขาดก่อนกัน”

“ไอ้คนวิปริต!”

สีหน้าของปรมาจารย์หวนซีเกร็งขึ้นและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

อวี้ชิงหลันหัวเราะและพูดว่า “เอาล่ะ เลิกแสดงได้แล้ว ข้าจะฆ่าเขาทีหลัง มีอีกคนที่ยังมาไม่ถึง”

“อีกคน?”

หลี่หรานผงะไปครู่หนึ่งและความคิดของเขาก็แล่นอย่างรวดเร็ว “ท่านหมายถึงหลิวซุนฮวน?”

ทันทีที่เขาพูดจบ คลื่นแห่งความผันผวนก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

ชายผู้ดูอ่อนโยนก้าวออกมาจากความว่างเปล่า ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ ดวงตาของเขาหรี่ลง

เขายิ้มและพูดว่า “นักพรตอวี้ ไม่เจอกันนาน”

เมื่อเห็นบุคคลนี้ หัวใจของปรมาจารย์หวนซีก็เย็นเยียบ

หลิวซุนฮวน!

เขาออกมาด้วยตัวเองจริงๆ!

“มันจบแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว!”

หลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นเพราะผู้มาใหม่ทั้งสอง

หลิวซุนฮวนเดินไปยังที่ว่างและนั่งลงตรงข้ามอวี้ชิงหลัน

มีจักรพรรดิสองคนในโรงเตี๊ยมเล็กๆแห่งนี้ รวมกับจุดสูงสุดของขอบเขตเหนือวิบัติและบุตรศักดิ์สิทธิ์กับสตรีศักดิ์สิทธิ์ของนิกายชั้นนำ...

หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มันอาจจะสั่นสะเทือนทั้งดินแดนอันกว้างใหญ่!

หลิวซุนฮวนมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ดวงตาของเขาไม่กะพริบ

ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะออกมาจากการกักตน มันเป็นเสียงเต๋าของอวี้ชิงหลันที่ดังผ่านเทือกเขาอู๋เซียงและปลุกเขาอย่างแรง

เดิมทีเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากได้เห็นปรมาจารย์หวนซีและฉินหรูเหยียน เขาก็พอคาดเดาได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอวี้ชิงหลันอย่างไร?

นอกจากนี้ทำไมหลี่หรานถึงอยู่ที่นี่?

“นักพรตอวี้เรียกหาข้าอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ เจ้ามีคำแนะนำอะไรหรือไม่?” แม้ว่าตัวตนของพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาต

มีความสมดุลที่บอบบางระหว่างจักรพรรดิของแต่ละนิกาย

แม้ว่าศิษย์ของนิกายจะเกิดความขัดแย้ง แต่พวกเขาจะไม่โจมตีกันโดยพลการ ตราบใดที่สงครามระหว่างนิกายไม่ปะทุขึ้น พวกเขาก็จะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกัน

อวี้ชิงหลันกล่าวอย่างเฉยเมย “จัดการขยะในนิกายเจ้าด้วย ข้าไม่ต้องการให้มือสกปรก”

หลิวซุนฮวนมองไปที่ปรมาจารย์หวนซีด้วยดวงตาที่หรี่ลง

“เซียนหยูชวน เจ้าถึงกับกล้ารุกรานนักพรตอวี้?”

เซียนหยูชวนเป็นชื่อจริงของปรมาจารย์หวนซี และมีเพียงไม่กี่คนในโลกที่รู้เรื่องนี้

การเรียกเขาด้วยชื่อนั้นหมายความว่าหลิวซุนฮวนโกรธมากจริงๆ

ปรมาจารย์หวนซีเปล่งเสียงออกมาว่า “ผู้นำนิกาย นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าไม่เคยรุกราน นักพรตอวี้เลย!”

หลิวซุนฮวนพ่นลมอย่างเย็นชาและเปิดเผยจิตสังหาร “เจ้าจะบอกว่านักพรตอวี้พูดโกหก?”

“แต่ข้าทำไม่ได้จริงๆ!”

หลิวซุนฮวนขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่อวี้ชิงหลัน “นักพรตอวี้ เซียนหยูชวนทำให้ท่านขุ่นเคืองได้อย่างไร? ไม่ต้องห่วง ข้าจะลงโทษเขาอย่างสาสม!”

อวี้ชิงหลันส่ายหัว “เขาไม่ได้ทำให้ข้าขุ่นเคือง”

“อา?” หลิวซุนฮวนตกตะลึง “เช่นนั้นเจ้าเรียกข้ามาที่นี่...”

“แต่เขาทำให้หลี่หรานขุ่นเคือง” อวี้ชิงหลันกล่าวอย่างสงบ

“หลี่หรานเป็นผู้มีพระคุณของสถาบันเทียนชู แขกผู้มีเกียรติของเทือกเขาหยุนเฟิง”

“ในเมื่อเขาต้องการฆ่าหลี่หราน เขาย่อมเป็นศัตรูของสถาบันเทียนซูและนักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้”

ทุกคนล้วนตกตะลึง!

ฉินหรูเหยียนปิดปากของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

หลิวซุนฮวนลดศีรษะลง หัวใจของเขากระเพื่อมไหวด้วยคลื่นลูกใหญ่

ความนัยที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของอวี้ชิงหลันนั้นมากเกินไป มันใหญ่พอที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ของวิถีธรรมและวิถีมาร

แขกผู้มีเกียรติของเทือกเขาหยุนเฟิง?

นับตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันเทียนซู ไม่เคยมีบุรุษคนใดขึ้นไปบนเทือกเขาหยุนเฟิง!

แม้กระทั่งตอนที่เฉินหยุนเต๋าไปเยือนในตอนนั้น เขาก็ยังคุยเรื่องเต๋ากับนางที่เชิงเขาเท่านั้น!

ความสัมพันธ์ของหลี่หรานกับอวี้ชิงหลันคืออะไรกันแน่?

/////