ตอนที่แล้วตอนที่ 887 นิมิตหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 889 ข้อตกลงแลกเปลี่ยน

ตอนที่ 888 สูญเสียทรัพยากร


ถังเทียนพุ่งเข้าไปในใต้เรือรบไร้เทียมทานและเกาะติดกับผิวเรือ เขามาถึงที่ด้านข้างเรือ

เมื่อถังเทียนลอยตัวขึ้นมา เขาจึงได้รู้ว่าไม่มีใครอยู่เลยและไม่มีทหารปรากฏอยู่เลยสักคน  เขาส่ายหน้า  ‘เรือรบชั้นทองนี้เสียของจริงๆเมื่ออยู่ในเมือของกลุ่มการค้าอลิซาเบธ’เขามีทหารมากมาอยู่ใต้บัญชาการเขา แต่เขากล้ารับรองว่าจะไม่มีใครในพวกเขาเข้าร่วมสนุกต่อสู้ตะลุมบอนโดยไม่รู้จักตื่นตัวแบบพื้นฐานแน่

รายละเอียดเล็กๆ ดังกล่าวแสดงให้เห็นแนวโน้มทั่วไป  และในใจถัเงทียนพลังในการต่อสู้ของกองทัพของกลุ่มการค้าอลิซาเบธตกลงไป

การตัดสินของถังเทียนจะมากหรือน้อยก็ตาม  แต่เขาไม่รู้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ธรรมดามากในทวีปกวงหมิง  กองทัพของทวีปกวงหมิงเชี่ยวชาญในการสู้รบถือว่ายกระดับผ่านแผนการระยะยาว  ก่อนที่จะยกทัพลงภูมิภาคใต้  แม้ว่าจะไม่มีการสู้รบขนาดใหญ่แต่ก็ยังมีการสู้รบขนาดเล็กเกิดขึ้น นอกจากนี้ความสนใจในการพัฒนาของวิหารกวงหมิง กองทัพของวิหารฯ จึงมีพลังแข็งแกร่งมาก

แต่กองทัพของกลุ่มการค้ามีภาพแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ความปลอดภัยในทวีปกวงหมิงต้องกล่าวกันว่าดีที่สุดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  และสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจก็ดีที่สุด  ด้วยความคงอยู่ของวิหารการสู้รบและการต่อสู้ระหว่างกลุ่มการค้าจึงถูกควบคุม ดังนั้นกองทัพของกลุ่มองค์กรการค้าโดยปกติแล้วจะด้อยประสบการณ์ พวกเขารับพวกขุนพลแม่ทัพทหารที่เกษียณจากกองทัพของวิหาร แม่ทัพนายกองที่โดดเด่นเหล่านี้ทั้งหมดสามารถนำเอามาตรฐานที่ดีมาช่วยฝึกฝนและออกแบบกลยุทธที่โดดเด่นแต่แม้แต่แม่ทัพนายกองทหารก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในเรื่องขาดโอกาสในการสู้รบจริง เนื่องจากจำนวนของโจรและขโมยในทวีปกวงหมิงถือได้ว่าน้อยมาก

การขาดประสบการณ์ในการต่อสู้จริงกลายเป็นปัญหาทั่วไปสำหรับกองทัพขององค์กรการค้าในทวีปกวงหมิง  ทุกคนรู้ปัญหานี้  แต่ไม่มีใครคิดจริงจัง  ความจริงก็เห็นได้ชัดและทุกคนก็อยู่กับมัน

ไม่มีใครคิดว่าสงครามจะมาถึงอย่างรวดเร็ว  และไม่มีใครมีความคิดว่าสงครามจะส่งผลต่อพวกเขาโดยตรง

แต่กลุ่มการค้าส่วนใหญ่จะถูกคาดหวังและตื่นเต้นต่อการการลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์ แผนของิหารและความทะเยอทะยานไม่ใช่ความลับต่อตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ พวกเขาเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าวิหารจะได้ชัยชนะสุดท้าย และมักจะคาดหวังเช่นนั้นเพราะต้องการจะได้ส่วนหนึ่งของผลประโยชน์  มันคือความมั่งคั่งมหาศาลที่แม้มีแค่ส่วนหนึ่งก็สามารถสร้างสุดยอดเส้นทางการค้าได้

แต่ความแข็งแกร่งของวิหารไม่เหลืองานคั่งค้างอะไรไว้ให้พวกเขาแม้แต่ปลายเล็บ  ในทวีปกวงหมิงไม่มีใครกล้าต่อต้านวิหาร ถึงขนาดที่ตระกูลชั้นสูงยังไม่กล้าแม้แต่จะก่อตั้งความเป็นพันธมิตร

แต่ด้วยการลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์เป็นการส่งสัญญาณและโอกาสที่ตระกูลระดับสูงโหยหามาทั้งวันและทั้งคืน และตระกูลต่างๆทั้งหมดต่างเคลื่อนไหวด้วยความตื่นเต้น

เป็นโอกาสลงทุนที่หายากมาก!

เพียงแต่เวลาเดียวที่เหมาะกับโอกาสนี้ก็คือเมื่อทวีปกวงหมิงเริ่มสงครามใหญ่เพื่อผนวกดินแดนทวีปอื่น  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วตระกูลชั้นหนึ่งทั้งหลายถูกสร้างขึ้นมาจากสงครามไม่ใช่หรือ? ตระกูลชั้นหนึ่งทั้งหมดในทวีปกวงหมิงถูกสร้างขึ้นมาในแนวทางเดียวกันผ่านการทำสงคราม

พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงเมื่อโอกาสเช่นนั้นมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา?

สำหรับพวกเขา การลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงการส่งสัญญาณที่วิหารเผชิญพบชั่วคราว ไม่มีใครรู้ชัดกว่าพวกเขาถึงพลังประหลาดของวิหารและพวกเขาทั้งหมดรู้ว่าวิหารสั่งสมความมั่งคั่งมาอย่างลึกล้ำเพียงไหน  วิหารจะแพ้? นั่นเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์ คนที่ส่งเสียงแสดงความเห็นว่าวิหารจะไม่มีทางยอมแพ้ได้ง่ายๆ วิหารในปัจจุบันนี้แข็งแกร่งกว่าวิหารในอดีตหลายเท่า!

ไม่มีใครกล้าชิงเอาชัยชนะไปจากวิหารได้ พวกเขาเพียงแต่ต้องการส่วนแบ่งผลประโยชน์ในการจัดเลี้ยงความมั่งคั่ง

บางคนเห็นไกลกว่านั้นว่า ถ้าพวกเขาพิชิตสวรรค์วิถีได้อย่างนั้นการรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็คงอยู่ในอนาคตอันใกล้ไม่ใช่หรือ? ความร่ำรวยและสภาพแวดล้อมที่ดีด้วยสายตาที่มองการณ์ไกลนี้ทำให้ทุกคนดีใจ  พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในการรบ  กองทัพที่พวกเขาใช้จ่ายเงินสร้างขึ้นมาจะไม่มีส่วนร่วมได้ยัไง?

“ดังนั้นแล้วไงถ้ากองทัพของเราอ่อนประสบการณ์?  ด้วยการมีส่วนร่วมในการสู้รบ ประสบการณ์ของพวกเขาจะมาเองโดยธรรมชาติ

กลุ่มการค้าอลิซาเบธก็มีความคิดเหมือนกับพวกเขา  แม้ว่าจะขาดประสบการณ์ไปบ้างแต่ด้วยเรือรบไร้เทียมทาน การป้องกันรักษาตัวเองย่อมไม่เป็นปัญหา  ถ้าพวกเขาเผชิญกับอันตราย  เมื่อเวลาผ่านไปและด้วยประสบการณ์ที่พานพบ  ความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ

กลุ่มการค้าอลิซาเบธคงไม่มีทางคาดได้ว่าพวกเขาจะเผชิญพบกับถังเทียน

สมาชิกลูกเรือบนเรือไปออรวมตัวกันอยู่ที่เรือข้างเดียวและสังเกตดูการต่อสู้  ขณะที่อีกด้านหนึ่งว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง  ดังนั้นเมื่อถังเทียนขึ้นเรือไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลย เป็นความหละหลวมเกินไปที่ถังเทียนเองยังทนไม่ได้ ม่านพลังงานของเรือรบไร้เทียมทานยังไม่เปิดใช้งาน บางทีกับเรือสินค้าของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามก็ได้  แต่โชคดีสำหรับถังเทียนที่ม่านพลังงานไม่ได้เปิดใช้งาน มิฉะนั้นคงเป็นปัญหาสำหรับเขาเมื่อเวลาที่เขาขึ้นมาบนเรือ  แม้ว่าถังเทียนจะมีพลังแข็งแกร่งแต่ก็ยังเป็นงานยากที่จะใช้พลังส่วนตัวผ่านเข้าไปในม่านพลังงานเรือรบชั้นทองได้

คนเดียวที่ถังเทียนมองหาก็คือคลอเดีย นางดูเด่นเกินไปในขณะที่ทุกคนกำลังร่วมมือกัน  มีเพียงคลอเดียที่อยู่คนเดียว  แฮงค์และกลุ่มของเขาร่วมกำลังกันต่อสู้ ขณะที่องครักษ์อื่นไม่กล้าเข้ามาใกล้คลอเดีย  เนื่องจากคลอเดียไม่พอใจกับการรวมกลุ่ม

เกี่ยวกับความปลอดภัย ‘เราอยู่ในเรือรบไร้เทียมทาน ทำไมต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วยเล่า?  นอกจากนี้ยังมีคนบนเรืออยู่มากมาย  ยังจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก?’  ไมมีใครกล้าขัดใจต่อหน้าคลอเดีย  นอกจากนั้นอารมณ์ของคลอเดียยังไม่ดีและด้วยความโกรธจัดจากความอับอายที่นางได้รับไม่มีใครอยากเป็นแพะรับบาป

ถังเทียนสังเกตได้ทันทีว่าคลอเดียชะงักนิ่งและจากนั้นหันไปมองรอบๆ และตระหนักได้ทันทีว่าคลอเดียรู้ว่าเขาหายไปแล้วและกำลังมองหาเขา

ถังเทียนลงมือทันทีโดยไม่ลังเล  ความลังเลใดๆ ในช่วงเวลาที่วิกฤติอย่างนั้นจะนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด  และถ้าคลอเดียรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติและเข้าไปอยู่ในความปกป้องขององครักษ์นางทันที ถังเทียนคงจะตกอยู่ในความยุ่งยาก

แต่ถังเทียนก็ประเมินคลอเดียต่ำไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อคลอเดียตระหนักได้ว่าถังเทียนไม่อยู่ในห่วงต้องห้ามปฏิกิริยาแรกของนางก็คือว่า ถังเทียนหลบไปได้และไม่เคยคิดมาก่อนว่าถังเทียนไม่เพียงแค่หลบไปได้เท่านั้นแต่ยังลอบขึ้นเรือและเล็งเป้าหมายอยู่ที่ตัวนาง

ทันใดนั้นตัวนางรู้สึกว่าหายใจไม่ออกและตัวลอยจากพื้น ท้องฟ้าในสายตานางหมุนคว้างเนื่องจากเรี่ยวแรงที่ทรงพลังบีบรัดจนนางหายใจไม่ออก  ดวงตาของนางกลอกกลับไปข้างหลัง

นางตะลึงอย่างสิ้นเชิงขณะที่ความคิดของนางว่างเปล่า

นางรู้สึกตัวกลับมาหลังจากไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปเท่าใด  ‘ข้าถูกลอบทำร้ายจริงๆ...’

มือที่บีบรัดรอบลำคอนางรู้สึกเหมือนกับเป็นปลอกเหล็ก  คลอเดียรู้สึกว่านางหายใจไม่ออก ความกลัวท่วมไปทั้งตัวนางทำให้นางสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด

‘ข้ากำลังจะตาย...’

นางต้องการกรีดร้องแต่ลำคอนางถูกกำไว้แน่นป้องกันไม่ให้นางส่งเสียง  นางหวาดกลัวมากจนสั่นไปทั้งตัวและจากนั้นจึงได้ตระหนักว่าความสวยที่นางภูมิใจครอบครัวที่น่าภูมิใจซึ่งคอยหนุนหลังล้วนไร้ประโยชน์ทั้งหมด  นางไม่กล้าต่อสู้ดิ้นรนด้วยกลัวว่าบุรุษผู้นี้จะหักคอนางเอง

องครักษ์บนเรือเพิ่งจะตื่นจากฝันกลางวันเมื่อถังเทียนบีบคอคลอเดียลอยขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของเรือรบไร้เทียมทาน

ราวกับว่าถังเทียนแหย่รังแตน

“เจ้าบังอาจนัก!  รีบปล่อยคุณหนูลง!  หรือว่าอยากตาย!”

“เจ้ากำลังหาที่ตาย!”

“เจ้าคนเสียสติ! รู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรลงไป? เจ้ากำลังสร้างหายนะใหญ่ให้กับตัวเจ้าเอง!”

“เจ้าอย่าทำอะไรดีกว่า  เราสามารถพูดคุยกันได้  จะไม่มีอันตรายกับการพูดจากันไม่ว่าเจ้ามีเงื่อนไขอะไร ตราบใดที่เจ้ายอมปล่อยคุณหนูไป เราสามารถพูดคุยกันได้!”

….

แฮงค์ที่กำลังสังเกตการณ์สู้รบได้ยินเสียงความโกลาหลบนเรือรบไร้เทียมทานทันทีและเขาหันไปมอง ในทันทีที่เห็นเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณแทบหลุดจากร่าง มือและเท้าเย็นเฉียบแทบกลายเป็นน้ำแข็ง  ที่ยอดเรือรบไร้เทียมทานมีบุรุษสวมหน้ากากยืนอยู่มือของเขากำอยู่ที่คอของคลอเดีย

ใจของแฮงค์สั่นสะท้าน เขาอาจไม่ใส่ใจอารมณ์ของคลอเดีย แต่เขาต้องรับประกันความปลอดภัยของนางด้วยการทุ่มเททุกอย่าง  เขาหันไปมองที่ห่วงต้องห้ามโดยไม่รู้ตัว  ม่านตาของเขาหดลีบ เนื่องจากไม่มีอะไรถูกผนึกไว้ในห่วงต้องห้าม

ความเย็นยะเยือกแผ่จากเท้าแล่นไปในใจเขา

‘เขาหลบหนีจากห่วงต้องห้ามได้จริงๆ!  และข้าไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้!

‘เป็น...เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...’

ความตื่นตระหนกครอบงำใจแฮงค์  ถ้าศัตรูออกมาจากห่วงต้องห้ามได้อย่างง่ายๆเขาคงไม่มีปฏิกิริยาขนาดนั้น  ‘เป็นไปได้ยังไงที่เขาหลุดรอดออกมาจากห่วงต้องห้ามโดยเขาไม่รู้ตัว?  เขารู้จักห่วงต้องห้ามดีนักหรือ?  แต่,ข้าเป็นคนสร้างวิชาห่วงต้องห้ามขึ้นมาเอง...’

ไม่ใช่แค่แฮงค์เท่านั้น สหายที่อยู่ข้างๆเขาเมื่อสังเกตได้ว่าในลำแสงมีแต่ความว่างเปล่าและถังเทียนไปอยู่บนเรือรบไร้เทียมทาน ทุกคนมีสีหน้าเหมือนกับเห็ผี

และการต่อสู้ที่รุนแรงในอากาศก็หยุดทันทีเมื่อสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนเรือรบไร้เทียมทาน  ทุกคนจากกลุ่มการค้าอลิซาเบธกังวลกันทุกคนราวกับว่าพวกเขาเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัว ถ้าคลอเดียประสบอุบัติเหตุอะไรไป ทุกคนเจอปัญหาแน่นอน

สำหรับจี๋เจ๋อและพวกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในช่วงการแสดงที่ดี พวกเขากลับไปที่เรือสินค้าและถลกแขนและเริ่มพูดคุยกันเองในกลุ่ม

“หึหึ, นายท่านไม่รู้จักปกป้องทนุถนอมความรู้สึกและไม่อ่อนโยนต่อสตรีเสียเลย!  ทั้งที่นางงดงามอย่างนั้น  ช่างน่าเสียดายจริงๆ

“อ่อนโยนต่อสตรีน่ะหรือ?  หึหึ มันทำให้เจ้ากินได้ไหมเล่า? ถ้าเจ้าสงสารนางก็ไปหานางเลย นายท่านจะได้สงสารเจ้าเป็นอย่างดีแน่นอน”

“อย่างไรก็ตามตายเพื่อสาวงามไม่ใช่นิสัยของข้าเสียด้วย ข้ามีความรู้สึกว่ากลุ่มการค้าอลิซาเบธ คงได้เสียเลือดกันบ้าง”

“ทำไมข้าก็รู้สึกอย่างนั้น?”

…..

เมื่อได้ยินจี๋เจ๋อกับฝูเจิ้งจือคุยกันหน้าของเมลิซซาซีดขาว การกระทำของถังเทียนทำให้ทุกคนพึงใจ แต่ก็เป็นการกระทบกระทั่งผ่านการสู้รบระหว่างสองกลุ่มการค้า  กลุ่มการค้าต่อสู้กันโดยเปิดเผยและลอบเร้น แต่มีกฎที่เข้มงวดซึ่งพวกเขาไม่สามารถละเมิดได้  และนั่นก็คือไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำอันตรายต่อทายาทของตระกูลที่จ้างโดยตรง  การละเมิดกฎนี้จะนำความตายมาให้คนอื่นๆ ในกลุ่ม

คลอเดียเป็นเจ้าหญิงของกลุ่มการค้าอลิซาเบธและเป็นที่รักและเอาใจใส่ของทุกคนที่สำคัญยิ่งกว่าคลอเดียเป็นผู้สืบทอดของกลุ่มการค้าอลิซาเบธ

ความเคลื่อนไหวของถังเทียนมีแนวโน้มว่าจะไปกระตุ้นสงครามระหว่างกลุ่มการค้าทั้งสอง

หน้าของเมลิซซากลับเป็นปกติอย่างรวดเร็วขณะที่นางฝืนหัวเราะ  ‘ก็ได้,  ด้วยนิสัยของถังเทียนเขามีบุคลิกยิ่งใหญ่อยู่แล้ว’ นางสูดหายใจลึก  ตาของนางกลับคืนสู่ความมุ่งมั่น  ‘ตอนนี้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์เข้าร่วมกับถังเทียนแล้ว  ข้าไม่ควรจะบ่นอะไรมากมาย’

เมื่อสงบลงได้แล้ว เมลิซซาชักสงสัยว่าถังเทียนจะหาข้อสรุปเรื่องนี้ได้ยังไง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด