ตอนที่ 885 ห่วงต้องห้าม
คลอเดียนัยน์ตาน่ากลัวขณะที่รังสีฆ่าฟันพลุ่งออกมาจากใจนาง
นางไม่ใส่ใจสายตาของเมลิซซา ไม่มีใครหยุดกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ให้ตกต่ำได้ ไม่ต้องคำนึงถึงการใช้เรือของนางข่มอีกฝ่ายหนึ่งหรือการเยาะเย้ยเมลิซซาอย่างเปิดเผย นางทำเรื่องทุกอย่างด้วยความดื้อด้าน นางไม่ได้เห็นกองพลหน้ากากเหล็กอยู่ในสายตานาง กลุ่มการค้าอลิซาเบธมีนักสู้ฝีมือดีอยู่ภายใต้บังคับพวกเขามากมาย กองพลหน้ากากเหล็กจะมีความหมายอะไรต่อพวกเขา? หรือว่าทหารที่มีกำลังพลแค่ร้อยคนจะคุกคามกลุ่มการค้าอลิซาเบธได้? น่าขันจริงๆ!
ความสนใจที่นางมีต่อกองพลหน้ากากเหล็กก็แค่เป็นข้ออ้าง นางต้องการทิ้งบาดแผลให้กับเมลิซซา ถูกทรยศโดยไพ่เด็ดของนางเอง นางต้องการแค่รู้สึกสาสมใจ!
นางมั่นใจมากในเสน่ห์ของนางเอง เทียบกับเมลิซซาที่น่าเยาะเย้ยโดยตรงแล้วนางอยากจะเย้ยหยันเมลิซซาให้หนักกว่าเดิม
แต่...กองพลหน้ากากเหล็กท้าทายนางจริงๆ ถามว่านางมีคุณสมบัติอะไรพอจะจ้างพวกเขา!”
คลอเดียรู้สึกเหมือนกับว่านางถูกตบหน้า นอกจากนี้ยังเป็นต่อหน้าเมลิซซา! สำหรับนางแล้ว กองพลหน้ากากเหล็กนางตั้งใจหยอกเย้านางมาตลอด และนางติดกับมาตั้งแต่แรก
เมื่อคิดวิธีที่นางต้องกลายเป็นเหมือนคนโง่ นางโกรธจัดจนตัวเริ่มสั่น
‘ข้าเคยถูกหยามศักดิ์ศรีจนถึงขนาดนั้นเมื่อไหร่กัน? เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้!’
ด้วยความโกรธของนางคลอเดียต้องการเห็นพวกเขาถูกทุบตีและไม่สนใจแม้ว่านางจะต้องมีส่วนร่วมในการต่อสู้เต็มที่กับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ ‘กลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะมีอะไร? องค์กรธุรกิจที่ไม่มีแม้แต่เรือรบชั้นทอง พวกเขาไม่คู่ควรกับการมีสมบัติมั่งคั่งขนาดนั้น’
‘แย่จริงกับข้อห้ามของระฆังศักดิ์สิทธิ์!’
ถ้าไม่ใช่เพราะข้อห้าม นางคงไม่มีทางปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งไปแน่ และจะต้องฆ่าพวกเขาให้หมด!
นางกำหมัดแน่น นางตัดสินใจแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ถูกฆ่า นางจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
แต่นางเริ่มหัวเราะและค่อยๆคลายหมัด ‘เจ้าโง่พวกนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ทุกวิธีการของพวกเขาจะไร้ประโยชน์ และมีแต่จะทำให้พวกเขาย่ำแย่หนัก?’
เพื่อสนับสนุนวิหารกวงหมิงกลุ่มการค้าอลิซาเบธส่งพวกฝีมือดีของพวกเขาและเรือรบทั้งหมดออกไปช่วยพวกเขายอดฝีมือที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง ‘มันง่ายต่อพวกเขาในการรับมือกับเรือสินค้าโทรมๆไม่ใช่หรือ? ข้าก็แค่รอสักครู่ องครักษ์ของข้าก็สามารถนำเจ้าพวกบัดซบเหล่านี้มาอยู่ต่อหน้าข้า’
‘ถึงเวลานั้น ข้าต้องสะใจเมื่อได้เจ้าพวกนั้นคุกเข่าขอความเมตตาจากข้า’
‘นอกจากนี้...’
ตาของคลอเดียมองดูคนผู้หนึ่ง ‘แม้แต่แฮงค์ที่ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวตามปกติ ก็ยังอดใจลงมือไม่ได้ นี่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง!’
ถังเทียนตกใจ เขารู้สึกว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เขาแค่มึนงงในตอนแรก
แต่ในเรื่องการสู้รบเขาไม่เคยถอยมาก่อน นอกจากนี้ยังต้องใช้วิธีที่ไม่ได้ควบคุมต่อหน้าเขา พวกเขารู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
“หักขาและตบหน้าทุกคนคนละห้าสิบที”
ถังเทียนทบทวนคำสั่งของคลอเดียและจากนั้นร่างของเขากระพริบหายและพุ่งตรงเข้าหาคลอเดีย จับโจรให้จับหัวหน้า เขาไม่ชอบคลอเดีย ดังนั้นเขาตัดสินใจจับนางก่อน นอกจากนี้ถังเทียนสนใจเรือรบชั้นทอง
ในพริบตาเขาอยู่ในกลางอากาศ
แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีคนอื่นจับตาดูเขาอยู่ องครักษ์กลุ่มเล็กมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา
องครักษ์เหล่านี้แต่งตัวแตกต่างจากคนอื่นทุกคนอยู่ในชุดสีดำ ตาของพวกเขาเย็นชาไร้ประกาย และไม่มีใครพูดอะไรสักคำ พวกเขาแยกกันเผยให้เห็นอารมณ์ที่รุนแรงของพวกเขา บุรุษที่มีรูปร่างใหญ่ที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นผู้นำดูมีสีหน้าเฉยเมยท่าทางของเขาราวกับว่านอนมาไม่พอ ตาของเขาแดงเหมือนสายเลือดเบิกกว้าง มองดูรอบๆด้วยแววตาที่น่ากลัวจนทำให้คนอื่นตื่นตัว
ถังเทียนประหลาดใจ สายตาของเขากวาดผ่านพวกองครักษ์และสังเกตรูปกระบวนของพวกเขาได้ทันที
‘ดูเหมือนจะเป็นพยุหะรบขนาดเล็ก...น่าสนใจ’
ถังเทียนหัวเราะและก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะหายไป เขาเคลื่อนไหว เขาขยับข้อเท้าก็พุ่งไปข้างหน้า ปล่อยเงาร่างลวงตาตามหลังเขา เขาเหมือนกับสายฟ้าพุ่งลงไปที่จุดตายของกลุ่มทันที
แฮงค์คือหัวหน้าองครักษ์ของคลอเดีย และยากมากที่จะลงมือเอง บิดาของคลอเดียรักและเอ็นดูลูกสาวและตามใจนางมาก ดังนั้นองครักษ์ทั้งหมดของนางจึงมีพลังแข็งแกร่งมาก ทุกคนถูกจ้างมาด้วยเงินมหาศาล ไม่ว่าในกรณีใดๆองครักษ์เพียงสองสามคนก็สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ และพวกเขาไม่จำเป็นต้องให้แฮงค์ลงมือ
แต่ครั้งนี้แฮงค์เคลื่อนไหวตั้งแต่แรก
ไม่ใช่เพราะความโกรธของคลอเดีย แต่ตำแหน่งของแฮงค์นั้นสูงส่งมาก เขาจำเป็นต้องมั่นใจในความปลอดภัยของคลอเดียไม่ได้รับผิดชอบหรือมีภาระผูกพันต่ออารมณ์ของคลอเดีย ตั้งแต่แรกเขายังคงสนุกกับการดูเหตุการณ์ข้างหน้า สำหรับการกระทำโง่ๆ ของคุณหนูเขาเอง เขาหัวเราะออกมาง่ายๆ และไม่เก็บเอามาใส่ใจ แต่เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัย เขาชินกับการสังเกตอีกฝ่ายหนึ่ง
เมื่อสายตาของเขาอยู่ที่ตัวถังเทียน,เขารู้สึกได้ถึงร่องรอยอันตรายได้ทันที
เมื่อเขาตรวจสอบต่อไป เขาไม่สามารถพบอะไร เหมือนกับว่าความรู้สึกอันตรายเป็นเรื่องคิดไปเอง
ไม่เพียงแต่แฮงค์ไม่วางใจเท่านั้น แต่เขายิ่งระมัดระวังมากขึ้น เขารู้ว่าความรู้สึกถึงอันตรายไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เขาเชื่อในสัญชาตญาณของตนเอง นี่ทำให้เขาระมัดระวังมาก และเมื่อคลอเดียออกคำสั่งให้พวกเขาลงมือ เขาลังเลใจเล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจเริ่มเคลื่อนไหว
การริเริ่มของแฮงค์ทำให้องครักษ์คนอื่นตื่นเต้น
‘หัวหน้าแฮงค์ลงมือสู้ด้วยตนเอง นั่นเป็นเหตุการณ์พบได้ยากหรือว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะทรงพลังอย่างแท้จริง?’
เมื่อแฮงค์เตือนพวกเขาให้ตั้งกระบวนศึก พวกเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งกองทัพหมายถึงอำนาจ, กลยุทธกระบวนรบและการผสานพลัง ทั้งหมดนี้ได้รับการสั่งสอนและสื่อให้ทุกคนให้รู้มาตั้งแต่ยังอายุน้อยมาก และทุกคนต้องคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้มาไม่น้อยแต่กระบวนศึกไม่ง่ายจะใช้ในหน่วยป้องกัน องครักษ์ต้องเพิ่มพลังความแข็งแกร่งส่วนบุคคล แต่รูปกระบวนศึกของพวกเขาได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษโดยแฮงค์ และกลายเป็นประโยชน์มากขึ้น
แต่แม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนในกระบวนศึกของเขามานาน พวกเขาไม่เคยมีโอกาสใช้ได้เลย พวกเขาทุกคนมีพลังส่วนตัวแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในอดีตโชกโชน แน่นอนไม่มีใครกล้าตอแยกลุ่มการค้าอลิซาเบธ
ถ้าไม่ใช่เพราะแฮงค์มีชื่อเสียงในหมู่องครักษ์ พวกเขาจะไม่มีทางฝึกกระบวนศึกแน่
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากพวกเขาคาดหวังมานานแล้วว่าในที่สุดจะได้ใช้กระบวนศึกที่พวกเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน
พวกเขาไม่รู้ว่ากระบวนศึกจะทรงพลังขนาดไหน แต่พวกเขาจำเป็นต้องใช้มันด้วยหรือ? ต่อเมื่อแฮงค์นำพวกเขาไปล้อมตัวถังเทียนไว้ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าคู่ต่อสู้ที่พวกเขากำลังเผชิญก็คือเขา ก่อนนั้นเมื่องพวกเขาเห็นคนอื่นๆมีความภักดีต่อถังเทียน พวกเขามีความรู้สึกเหมือนกับว่าคนธรรมดาผู้นี้จะเป็นหัวหน้าของกองพลหน้ากากเหล็ก
‘ก็ได้ หัวหน้ากองพลหน้ากากเหล็กก็น่าจะคู่ควรให้เราได้ใช้กระบวนศึกนี้’
แม้ว่าหลายคนจะรู้สึกว่าหัวหน้าแฮงค์กำลังทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่พวกเขาต้องการฝึกซ้อมอย่างไม่ลังเลใจ
ปฏิกิริยาของถังเทียนรวดเร็วทำให้พวกเขาตกใจกลัว ในพริบตาเขาก็พุ่งมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา
ร่างของถังเทียนเอนไปข้างหน้ามือทั้งสองป้องกันศีรษะไว้ ร่างท่อนบนโค้งเหมือนกับสัตว์ป่าก้มศีรษะลงและเร่งความเร็ว
องครักษ์ที่อยู่ด้านหน้าถังเทียนเพียงแต่รู้สึกว่าภาพในสายตาเขาบิดเบี้ยว หน้าของเขาเปลี่ยนเป็นภาพที่เกิดจากการที่บรรยากาศถูกก่อกวนซึ่งก็หมายความว่าความเร็วของศัตรูไวถึงระดับน่ากลัวจริงๆ!
เขาไม่ทันคิดอะไรใช้มือทั้งสองป้องกันอกไว้ขณะที่เขารีบเร่งถ่ายพลังเข้าไปที่แขนของเขาสร้างม่านพลังแสงปกป้องตัวเขาไว้
ภาพเงาตามหลังของถังเทียนปะทะในม่านพลังงานโดยตรง
ปึ้ก!
เสียงดังฟังชัดกระจายออก องครักษ์ผู้นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าถูกค้อนหนักพันชั่งกระแทกใส่อกโดยตรง
เขาครางโลหิตไหลออกจากปาก ขณะที่ร่างของเขากระเด็นทันที
องครักษ์คนอื่นๆตกใจ พวกเขาที่ตอนแรกรู้สึกว่าแฮงค์ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จนกระทั่งพวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ในขณะนั้นองครักษ์อีกคนเข้าแทนตำแหน่งองครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บ
ห่วงแสงลอยออกมาจากมือของแฮงค์ ขณะคนที่เหลือทุกคนยิงกระสุนแสงออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดพลังคลื่นที่มองไม่เห็นขยายตัว และห่วงแสงขยายตัวอย่างรุนแรง
‘หือ?’ ถังเทียนมีสีหน้าประหลาดใจ ‘คลื่นผสานพลังงาน!’
ถ้าเป็นอย่างที่เขาสงสัยถังเทียนจะสนใจมากขึ้น การผสานพลังที่สมบูรณ์แบบมาก นอกจากนี้ ยังค่อนข้างแตกต่างจากผลานพลังงานของทหาร
ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับตกลงไปในบึงอากาศรอบตัวเขาหายไปทันที และการเคลื่อนไหวของเขาเปลี่ยนเป็นช้าและหน่วงสิ่งที่น่าแปลกใจมากขึ้นก็คือพลังงานรอบตัวเขามีความหนืดสูงเป็นครั้งแรกที่ถังเทียนพบกับสถานการณ์เช่นนั้น หมัดเทพเจ้าของเขาสามารถบิดเบือนกฎอวกาศและจากตรงนั้นเขาสามารถสร้างผลแช่แข็งในพื้นที่นั้น แต่รูปกระบวนที่คนกลุ่มนี้สร้างขึ้นต่อหน้าเขาแตกต่าง ไม่เพียงแต่รูปกระบวนของพวกเขาเปลี่ยนแปลงอากาศรอบตัวพวกเขาเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถลดพลังงานในพื้นที่
‘เป็นวิชาที่แข็งแกร่งทรงพลัง!’ ถังเทียนอดชื่นชมพวกเขาในใจไม่ได้
ต้องรู้ไว้ก่อนว่าถ้านักสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เขาจะเสี่ยงความสามารถในการต่อสู้ในขณะนั้น พลังงานรอบตัวจะลดน้อยลง และพลังงานภายในวงแหวนจะกลายเป็นควบคุมไม่ได้พลังต่อสู้ของนักสู้ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะลดฮวบนอกจากนั้นอากาศรอบตัวจะกลายเป็นโซ่ตรวน เขาทำได้เพียงรอถูกจับ
แฮงค์มีความมั่นใจอย่งมากในพยุหะที่เขาออกแบบ นี่เรียกว่าห่วงต้องห้ามซึ่งเป็นวิทยายุทธที่แฮงค์ได้รับมาผ่านการรู้แจ้ง แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าพลังของส่วนบุคคลไม่เพียงพอจะปลดปล่อยพลังของห่วงต้องห้ามดังนั้นเขาจึงออกแบบให้เป็นพยุหะโดยใช้คนสิบคน
แต่ในเวลาอันรวดเร็วสีหน้าเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขารู้สึกเหมือนกับกำลังปล้ำอยู่กับสัตว์ป่าที่ไม่มีวันหมดเรี่ยวแรง อีกฝ่ายหนึ่งดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลังทำให้พลังที่น่ากลัวโจมตีห่วงต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง ถ้าเขาเพียงลำพังต่อต้านด้วยพลังอย่างนั้นห่วงต้องห้ามของเขาคงแตกสลายไปนานแล้ว
“นี่เขาเป็นมนุษย์หรือเปล่า? ไปเอาพลังขนาดนั้นมาจากไหน!” หนึ่งในองครักษ์อุทาน
คนที่เหลือเริ่มจะเคร่งเครียด พวกเขาเพิ่มพลังเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังคงผสานพลังกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ รัศมีของห่วงต้องห้ามสว่างขึ้นทุกคน แสงหนาแน่นจนแทบจะแตะต้องได้
พลังของห่วงต้องห้ามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนไม่กล้าออมมือ หัวหน้ากองพลหน้ากากเหล็กอยู่ภายในห่วงต้องห้ามเป็นเหมือนสัตว์ป่าคลุ้มคลั่งที่ถูกล่ามโซ่ที่เริ่มสงบลงใครๆ ก็สามารถบอกได้จากร่างที่กำลังสั่นของเขาว่าไม่ยอมแพ้ แต่เนื่องจากพลังที่มากเกินไปจากห่วงต้องห้ามข่มเขาไว้อยู่
แฮงค์และองครักษ์คนอื่นตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อที่กลายเป็นไอก่อนจะไหลหยดลงมา
แสงของห่วงด้านบนยิงลำแสงที่ครอบคลุมตัวถังเทียนไว้ ภายในลำแสงถังเทียนเหมือนแมลงที่ติดอยู่ในเปลวเพลิงไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ความรู้สึกว่าศัตรูถูกตรึงหนาแน่นทำให้แฮงค์ถอนหายใจโล่งอก เมื่อห่วงต้องห้ามใช้งานได้สำเร็จ ก็จะดูดซึมพลังงานจากอากาศโดยรอบมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น
เพียงแต่เมื่อแฮงค์มีเวลาสังเกตดูคนที่เหลือ
เขาต้องตะลึงในสิ่งที่เขาเห็น