ตอนที่ 882 เราจะเป็นคู่หูที่ดีที่สุดในโลก
อุโมงค์ที่ถูกไส้เดือนภูเขายักษ์เจาะไชมีลักษณะคดโค้ง
มีหลายที่เพราะพบเจอพลังงานที่ไม่ธรรมดา ทำให้อ้อมโค้งเป็นวงอย่างประหลาด และมีความรู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกต ถ้าเป็นเมื่อก่อนเย่ว์หยางคงกระตือรือร้นเมื่อพบลักษณะแปรปรวนของพลังงานในพื้นที่นี้และพยายามตรวจหาความจริงอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงเร่งรีบ เขาปฏิเสธจะสำรวจบริเวณรอบๆ และพุ่งไปข้างหน้าดุจธนูที่หลุดจากแล่ง
“อะไรกันนี่? เกิดอะไรขึ้น?” อาจารย์ตาเหยี่ยว เซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยผู้รับผิดชอบอยู่ที่ท้ายอุโมงค์ เห็นเย่ว์หยางวิ่งเข้าราวกับประกายไฟ เขาถามด้วยความประหลาดใจ
“ฮุยไท่หลางเล่า?” เย่ว์หยางพบว่าพลังงานใจกลางพื้นที่เปลี่ยนไปและเกิดพลังหมุนวนที่น่ากลัวตรงกลางพื้นที่
ไม่พบเห็นฮุยไท่หลาง อย่างนั้นมันควรจะเข้าไปข้างในใจกลางพลังหมุนวน
เซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยรู้ดีว่าฮุยไท่หลางอยู่ข้างใน ความจริงวันก่อนเขากับฮุยไท่หลางยังร่วมสำรวจด้วยกัน เขาคิดว่าไม่เป็นอะไรกับการสำรวจซากหักพังของหุบเขาฝังดาบ และด้วยพลังของอสูรเทพอย่างฮุยไท่หลางไม่ควรมีปัญหา แต่เขาไม่คาดเลยว่าเย่ว์หยางจะเข้ามาตามหาเมื่อผ่านไปวันเดียว
ใบหน้าของเขามีความกังวล
เขาไม่เคยเห็นสีหน้าของเย่ว์หยางกังวลอย่างนี้มาก่อน เขายืดตัวทันที “ข้าจะเบิกทางให้เอง!”
เย่ว์หยางหยุดทันที “ข้างในอันตรายมาก ท่านตามไปด้วยจะมีอันตรายร้ายแรง ท่านรั้งอยู่เถอะ”
แคล้ง...เซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยกระชากดาบมาถือไว้ และดูเหมือนตั้งใจขวางเย่ว์หยาง “ทวีปมังกรทะยานขาดเซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยได้ไม่เป็นไร แต่ขาดคุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าท่านไม่ยอมให้ข้าร่วมสำรวจด้วย ข้าจะตายต่อหน้าท่าน!”
“ก็ได้, ท่านระวังตัวด้วย!”
เย่ว์หยางมองดูเซี่ยโหวเว่ยเจี๋ย และเห็นว่าเขาตั้งใจมาก
เขาพยักหน้าตอบรับ
ขณะที่เซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยหันกลับไปเตรียมจะวิ่งเข้าไปในวังวนพลังงาน เย่ว์หยางลอบโจมตีทันที
เขาฟันสันมือใส่ที่หลังคอของเซี่ยโหวเว่ยเจี๋ย ขณะที่กายกับใจของเขาจดจ่ออยู่ที่พลังหมุนวน และเขาไม่คิดจะป้องกันตัวจากเย่ว์หยาง นอกจากนี้ต่อให้เขาระวังตัว ด้วยระยะห่างของฝีมือของเขากับเย่ว์หยาง เขาจึงถูกเย่ว์หยางลอบทำร้ายอย่างช่วยไม่ได้ ความจริงเย่ว์หยางไม่ต้องการโกหกเขา แต่เขา จำกัดการโจมตีเพื่อให้เขาสลบ และกังวลว่าจะลงมือหนักเกินไปทำให้เซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยบาดเจ็บหนัก
ตุ้บ
ร่างของเซี่ยโหวเว่ยเจี๋ยค่อยๆ ล้มลงกับพื้น
เย่ว์หยางโบกมือทำให้ร่างของเขาปลิวห่างออกไปตามอุโมงค์ร้อยเมตร
เย่ว์หยางสูดหายใจลึกเพื่อข่มให้ใจกลับสู่สภาวะปกติด้วยพลังปณิธานราชันย์จนมีอารมณ์นิ่งไม่หวั่นไหว เขาเข้าไปในพลังหมุนวนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเชื่อมโยงกับที่ใด
พลังงานหมุนวนทะลุผ่านมิติที่จำกัดเชื่อมโยงกับมิติหลายแห่ง
แทบจะไม่มีทางเลือก เย่ว์หยางเข้าไปในพื้นมิติแรกอย่างรวดเร็วที่สุด และพบว่าโลกภายในนั้นไม่ค่อยกว้างใหญ่ นอกจากนี้ทั่วทั้งมิติสร้างจากพลังที่ไม่รู้จักที่เขาไม่ควรเข้าไปยุ่ง คาดว่าท้องฟ้าถูกสร้างจากหุบเขาฝังดาบ แต่ในสภาพทำลายล้างนี้ เย่ว์หยางรีบหลบออกมาจากข้างใน เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาฉีกขาดกระจุยเป็นชิ้นและสลายไปเป็นผุยผง
เย่ว์หยางสำรวจช่องว่างที่แตกต่างกันทั้งหก แต่ไม่พบอะไร
ในบางพื้นที่พบร่องรอยหักปรักพังที่ยังเหลือรอดอยู่ บางทีร่องรอยเหล่านั้นอาจเป็นหมู่บ้านฝังดาบก็ได้
สำหรับอาคารโบราณที่ปลอดภัยอยู่ใต้พิภพเหล่านี้เย่ว์หยางไม่มีเวลาตรวจสอบ เขารู้ว่ามันอาจถูกทำลายไปหมดเพราะการรุกล้ำของเขาเอง และต่อไปคงไม่เหลืออะไรให้เห็น
ไม่มีอะไรเทียบได้กับชีวิตของฮุยไท่หลาง
แม้ว่าโดยปกติแล้วเย่ว์หยางจะดุด่าฮุยไท่หลางและทุบตีมันในบางครั้ง อย่างไรก็ตามในใจของเขาฮุยไท่หลางไม่ใช่สุนัขเฝ้าบ้านธรรมดา ในอีกแง่หนึ่งเขากับฮุยไท่หลางคล้ายกันมาก อย่างน้อยก็ในแง่เอาชีวิตให้รอด เย่ว์หยางเด็กหนุ่มจากโลกอื่นพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชีวิตให้รอด และเพื่อความก้าวหน้าไม่ทราบว่าต้องใช้ความพยายามไปมากมายเท่าใด บางทีอาจไม่มีคนอื่นรู้นอกจากเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แม้แต่จุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเย่ว์หยางต้องเพียรพยายามอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าเย่ว์หยางเป็นอัจฉริยะไม่มีใครเทียบ แม้ไม่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก แต่เขาก็ก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง
ความจริงเย่ว์หยางเกียจคร้านแต่เพียงผิวเผิน แต่ความพากเพียรพยายามที่เขาใช้อยู่เบื้องหลังนั้นไม่มีใครทำได้เกินเขาอย่างแน่นอน
ภาพผิวเผินที่เกียจคร้านเป็นเพียงภาพลวงตา
เขาไม่ใช่ของปลอมแน่นอน เพียงแต่กระบวนการที่เขาฝึกนั้นรวดเร็ว และก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
เหตุผลหลักส่วนใหญ่เพราะความสามารถของเขา
ตรงจุดนี้ฮุยไท่หลางเหมือนกับเขา
ฮุยไท่หลางถ้ามองอย่างผิวเผิน ดูเหมือนมันเป็นอสูรที่เกียจคร้าน นอกจากแสดงออกถึงความแสนรู้แล้วมันมักจะหลับอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในบรรดาอสูรที่ดีที่สุดที่เขามีนอกเหนือจากเสี่ยวเหวินหลี นอกจากนี้มันยังคงเลื่อนระดับเป็นอสูรเทพ
ความจริงความสามารถที่ก้าวหน้าของฮุยไท่หลาง ทักษะในการต่อสู้ ไม่มีทางเป็นอสูรธรรมดาอย่างแน่นอน
มันก็มีความรู้สึกเหมือนกับเย่ว์หยาง มักจะกังวลอยู่เสมอว่าถ้ามันไม่พยายามให้หนักมากพอ มันจะสูญเสียทุกอย่างที่มีในอนาคต แม้ว่ามันจะกลายเป็นอสูรเทพ แต่ฮุยไท่หลางไม่ได้หยิ่งยโสหรือย่ามใจ เพื่อความก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น มันเป็นอสูรเทพที่มีพลังวิญญาณสูง มันไม่ใช่หมาป่าปีศาจล้างโลกที่จะถูกสิ่งอื่นกลืนได้ แต่มันคือสุนัขเฝ้าบ้านที่จะสูญเสียทุกอย่างหากมันไม่มีเจ้านาย
เพียงเพราะในใจของมันวางตัวเองให้อยู่ในบรรทัดฐานที่ปลอดภัยไว้ก่อน มันจึงไม่รู้สึกพอใจในสถานการณ์ปัจจุบัน
ถึงเป็นอสูรที่ไม่ได้ทำสัญญา แต่หนึ่งคนหนึ่งอสูร ทั้งสองนี้มีความรู้สึกพึ่งพาอาศัยกันและกัน
เมื่อพบเห็นฮุยไท่หลางเย่ว์หยางกล้าพูดว่าเขาเหมือนกับเห็นตนเองในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้รอดไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่คือความจริงเกี่ยวกับฮุยไท่หลาง
เมื่อได้พบเห็นเจ้านาย ก็เหมือนได้พบเห็นความหวังแห่งอนาคต
ถ้าไม่มีเจ้านายคอยให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่มัน อย่างนั้นแบบอย่างที่มันชื่นชอบและเป้าหมายที่มันไล่ตามก็จะหายมองไม่เห็น และโลกทั้งโลกของมันจะกลายเป็นอื่น.. มีคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นความภาคภูมิใจของโลก ก็ต้องมีฮุยไท่หลางที่อยู่เหนือเหล่าอสูรอีกหลายตน
ขณะที่เย่ว์หยางกำลังตามหาฮุยไท่หลางด้วยความห่วงใย ฮุยไท่หลางก็คิดถึงเจ้านายของมันเช่นกัน
“กรรรร กรรรร!”
ในปากของฮุยไท่หลางเป็นวาฬภูเขาไฟ อสูรขนาดยักษ์มีขนาดตัวยาวห้าร้อยเมตร และสูงแปดร้อยเมตร
แม้ว่าจะใช้พลังของหมาป่าปีศาจล้างโลก มันก็ยังไม่สามารถกลืนอสูรที่ใหญ่โตขนาดนั้นได้
วาฬภูเขาไฟเป็นอสูรปราณฟ้าชั้นสูงถึงระดับหก
สิ่งที่ทำให้ฮุยไท่หลางรู้สึกกลัวที่สุดก็คือพลังของวาฬภูเขาไฟที่อยู่ในทะเลเพลิงนี้ยังเหนือกว่าปราณฟ้าระดับหก เมื่อมันถูกปล่อยลงทะเลเพลิง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวของฮุยไท่หลางเอง ฮุยไท่หลางถูกโจมตีอย่างรุนแรง มันไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ใช้ความสามารถที่ทรงพลังที่สุด นั่นคือพลังกลืนโลก
มันกลืนด้านหน้าผากของวาฬภูเขาไฟและเกร็งคอยกวาฬภูเขาไฟขึ้นเพื่อไม่ให้มันกลับลงไปในทะเลเพลิงได้
มีแต่วิธีนี้ที่จะยับยั้งไม่ให้วาฬภูเขาไฟสู้ตอบโต้มันได้
วาฬภูเขาไฟดิ้นด้วยเรี่ยวแรงตามธรรมชาติของมัน แต่ฮุยไม่หลางไม่ขยับเคลื่อนไหว
ถ้าไม่มีมือที่สามแทรกเข้ามา มีแต่วาฬภูเขาไฟ ฮุยไท่หลางมีความอดทนพอจะกินวาฬภูเขาไฟขนาดยักษ์นี้ได้ ต่อให้มันต้องใช้เวลาค่อยๆ ย่อยร้อยปี หรือพันปีก็ตาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
มีเสียงหัวเราะด้วยความลำพองดังไปทั่วทั้งทะเลเพลิงไม่หยุด
เสียงหัวเราะลำพองใจดังก้องเกิดเป็นคลื่นกระจายออกไปไปทั่วทั้งทะเลเพลิงระยะหลายพันฟุต
เจ้าของเสียงหัวเราะนี้เป็นยักษ์ที่สูงเกือบหนึ่งกิโลเมตรมีเปลวเพลิงรุนแรงลุกท่วมทั้งตัว มันยังสูงยิ่งกว่ายักษ์ไตตันที่ฮุยไท่หลางเคยเห็นมาแล้ว มันคือเจ้านายของวาฬภูเขาไฟ จ้าวอัคคีปีศาจ
แม้ว่าร่างมนุษย์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ร่างวิญญาณที่ทรงพลังของจ้าวอัคคีปีศาจและความมุ่งมั่นจะเป็นเทพที่ไม่ธรรมดาสร้างร่างกายขึ้นมาได้ ทั่วทั้งทะเลเพลิงไม่เพียงแต่เป็นทักษะแฝงเร้นตามธรรมชาติของมัน แต่ยังคงเป็นสนามพลังที่ร้ายกาจ ในทะเลเพลิงนี้มันสามารถอัญเชิญอสูรไร้เทียมทานออกมาได้
ถ้ามันไม่ต้องการจะเอาชนะฮุยไท่หลาง จ้าวอัคคีปีศาจคงไม่เรียกวาฬภูเขาไฟออกมาง่ายๆ เป็นแน่
“ดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ และมันจะต้องตกเป็นของข้า!” แม้ว่าจะไม่มีร่างมนุษย์แต่จ้าวอัคคีปีศาจก็มีพลังปราณราชันย์ระดับแปด พลังที่ยังคงเหลืออยู่ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงที่มารุกรานหอทงเทียน หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้
“.......” ปาก คอและท้องของฮุยไท่หลางยังมีวาฬภูเขาไฟคาเอาไว้ ยังไม่สามารถกลืนให้สำเร็จได้ง่ายๆ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถส่งเสียงอะไรได้เลย
“ข้าเข้าใจถึงความเพียรพยายามของเจ้า, ถูกแล้วข้าไม่ต้องการจะปกปิดความชื่นชอบที่มีต่อเจ้า ข้าซาบซึ้งเจ้ายิ่งนัก เมื่อคิดๆ ดูแล้วเจ้ากับข้าเข้ากันได้ดีที่สุด เจ้าคือหมาป่ากลืนโลกที่มีคุณสมบัติหลักเป็นธาตุไฟ แต่ข้าคือจ้าวอัคคีปีศาจ ขอเพียงแต่อยู่ในเส้นทางเป็นเทพเจ้า ถ้าข้ากลายเป็นเทพเจ้าอัคคี เจ้าจะกลายเป็นพาหนะแห่งเทพอัคคี จะเป็นอสูรเทพอัคคีที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก! ปณิธานและสติปัญญาของเจ้าทำให้ข้าทึ่งและรู้สึกดีใจ ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้เจ้ารับมือกับวาฬภูเขาไฟได้ทั้งที่ข้าผู้เป็นเจ้านายยังมองดูอยู่ เจ้าก็กล้ากินมัน มาทำสัญญากับข้า และเป็นอสูรของข้า ข้าจะให้โลกอสูรกับเจ้าทั้งหมด ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าจะมอบให้เจ้าจนพอใจ! ข้ากล้าพูดได้ว่าเจ้าเป็นอสูรอัคคีแห่งโชคชะตามาเพื่อดึงข้าให้กลับมามีชีวิต เจ้าคืออนาคตของข้าและจะทำให้ข้ากลายเป็นเทพได้!” จ้าวอัคคีปีศาจพยายามชักชวนโน้มน้าวขณะที่พยามผนึกสัญญาที่หน้าผากของฮุยไท่หลาง
“......” ฮุยไท่หลางไม่มีวิธีอื่น ได้แต่ต้านทานอย่างดึงดัน
“บางทีเจ้าไม่คุ้นเคยกับการอยู่ภายใต้การควบคุมของคน บางทีเจ้ากำลังทดสอบความอดทนของข้าก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า บอกกับเจ้าก็ได้ หลังจากข้าหลบหนีออกจากผนึก ข้าอยู่ที่นี่มานานเป็นหมื่นปีแล้ว และข้ายังไม่เคยเบื่อ ความอดทนของข้าเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไป ยิ่งกว่านั้นเจ้าต้องรู้ว่าคนที่มีพลังสูงสุดจะไม่เปลี่ยนความคิดของเขาอย่างง่ายดาย เรามาทำสัญญาเป็นคู่หูที่ดีที่สุดในโลกกันเถอะ” จ้าวอัคคีปีศาจชักชวนอย่างอดทน
“.....” ฮุยไท่หลางปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อจ้าวอัคคีปีศาจโจมตีจิตใจของมันด้วยพลังวิญญาณที่ทรงพลัง มันปัดผลกระทบจากพลังปณิธานราชันย์ของฝ่ายตรงข้าด้วยการนึกเย่ว์หยางเป็นเกราะป้องกันให้มัน
ถ้าเจ้านายอยู่ที่นี่ มันคงไม่เป็นอะไร
มีเขาอยู่ด้วยต่อให้มันทำได้แค่บินหนีไปรอบๆ สิ้นเปลืองพลังเพียงน้อยนิด แต่ก็ยังง่ายกว่ามาก
เจ้าผู้นี้พูดมากเกินไป ขี้บ่นเหมือนยายแก่ที่ไม่มีฟันเหลือในปาก ต่างจากเจ้านายของมันพูดเป็นพูด ด่าเป็นด่า ตีเป็นตีตรงไปตรงมาไม่น่ารังเกียจ.. หากเจ้านายอยู่ที่นี่ มันไม่รู้ว่าเขาจะโกรธมากหรือเปล่า มันสร้างเรื่องลำบากให้เขาอีกครั้ง มันรู้ว่าสินค้าเหล่านี้น่ากลัวมาก มันควรจะรีบหนีไปก่อน
ฮุยไท่หลางรู้ว่าเจ้านายกำลังยุ่งกับงานแต่งงาน คงไม่มาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ยังต้องการเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้า สร้างความประหลาดใจตกตะลึงให้กับมัน
ต่อให้มันเป็นอสูรเทพ มันก็อยู่ลำพังได้
แต่การทำหน้าที่ประจำวันของมันนั้น
ยังเป็นสิ่งที่มันจำเป็นต้องมี !-!