ตอนที่ 882 ปัญหาร้ายแรง
บรรยากาศในทวีปกวงหมิงอยู่ในสภาพตึงเครียด จำนวนเรือรบในท้องฟ้ามีเพิ่มขึ้น เรือรบทั้งหมดมีทุกประเภททุกสัญลักษณ์นับว่าเปิดหูเปิดตาให้ถังเทียน แม้แต่เรือสินค้าและเรือขนส่งก็ยังเต็มไปด้วยผู้คนในแต่ละลำจะมีคนที่มีแววตาน่ากลัว จากเท่าที่เห็น เขารู้ว่าพวกนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลังทั้งนั้น
“สถานการณ์เลวร้ายมาก กองทัพของคอลลินถูกทำลายและเราไม่สามารถหยุดการฟื้นฟูของแดนบาปได้อีกต่อไป พวกเขาเกลียดชังต่อวิหารกวงหมิงอย่างลึกซึ้งถึงสายเลือด การเดินหน้าเข้าสู้กับสัมพันธมิตรใต้ก็ไม่ราบรื่น กล่าวกันว่าคำร้องขอเสริมกำลังของโกวเฉิงเวิ่นเต้ากองเป็นปัญหาอยู่บนโต๊ะของพวกเขา แต่ตอนนี้เหตุการณ์ที่วิกฤติที่สุดสำหรับวิหารก็คือที่ทวีปเว่ยเย่กวนกองทัพใหญ่จากทวีปแดนเถื่อนปรากฏอยู่ชายทวีปเว่ยเย่กวน ขนาดของกองทัพยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อวิหารได้รับทราบข่าว ผู้อาวุโสทุกคนถึงกับแตกตื่น”
ขณะที่เมลิซซากำลังพูดนางไม่ยอมมองถังเทียน และพยายามปิดบังอาการตกใจในใจนาง
ในช่วงเวลาที่วิกฤติเช่นนั้นเป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไปที่ทวีปแดนเถื่อนสามารถสร้างกองทัพได้ นางคิดถึงสตรีที่ชื่อเชียนฮุ่ยซึ่งถังเทียนพูดถึง ‘นางมาจากทวีปแดนเถื่อนไม่ใช่หรือ?’
ปู่ของนางตัดสินใจเข้าร่วมกับถังเทียนทำให้นางมักกังวลใจเสมอ ในใจนางพลังของวิหารยากจะหยั่งเหมือนกับมหาสมุทรเหมือนป้อมปราการที่โดดเด่นสง่างามน่าพิศวง แม้ว่าถังเทียนจะทรงอานุภาพมากมีพลังที่โดดเด่นและมีทหารที่แข็งแกร่งภายใต้บังคับบัญชาของเขา และมีสัมพันธมิตรใต้อยู่เบื้องหลังเขา แต่สำหรับนางความสูงส่งของพลังเป็นโลกที่แยกจากวิหาร
‘ทำไมปู่ถึงเลือกถังเทียน?’
เมื่อนางได้รับทราบข้อมูลอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดนางก็ตระหนักว่าถังเทียนมีอำนาจอิทธิพลเหนือทวีปแดนเถื่อน! และแดนบาปที่ฟื้นคืนจากความตายก็ยังอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาทำให้นางตกตะลึง
ความกังวลใจของนางลดลงโดยไม่รู้ตัว บุรุษคนหนึ่งทรงไว้ซึ่งสถานะผู้นำของสัมพันธมิตรใต้ไม่มีอะไรจะต้านวิหารได้ แต่พอเพิ่มทวีปแดนเถื่อนและแดนบาปเข้ามาถ่วงดุล แม้แต่เมลิซซาก็ต้องยอมรับว่าถังเทียนมีคุณสมบัติพอสู้กับวิหารได้
เมื่อระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น นางพอจะคาดเดาในใจได้ว่าอาจจะเป็นถังเทียนที่เป็นคนบีบบังคับให้วิหารกวงหมิงเข้ามุม แต่นางตระหนักว่านางยังประเมินถังเทียนต่ำไป
‘บีบเข้ามุมน่ะหรือ? เป็นการบังคับวิหารให้เข้าสู่ประตูมรณะ!’
‘มิน่าเล่าวิหารถึงต้องลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์!’
แม้วิหารจะไม่สามารถต้านรับการโจมตีสามทางได้ ไม่ว่าจะเป็นแดนบาป หรือทวีปแดนเถื่อนพวกเขาทั้งหมดตั้งใจเอามีดจ่อคอวิหาร
“ระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นเพราะประมุขผู้อาวุโสลั่นระฆังเอง เพราะสถานการณ์เปลี่ยนเป็นสภาพเลวร้าย ประมุขผู้อาวุโสไม่สามารถปิดประตูฝึกฝนต่อไป ดังนั้นจึงต้องออกมาสั่งการเอง” เมลิซซากล่าว “ตระกูลชั้นสูงทั้งหมดในทวีปกวงหมิงถูกเรียกระดม และทวีปกวงหมิงจะเริ่มเข้าสู่สภาวะสงคราม สินค้าทั้งหมดในตลาดจะขึ้นราคามากกว่าเดิมถึงห้าเท่า”
ถังเทียนค่อนข้างตื่นเต้น “ฟังดูเหมือนโกลาหลเลยนะ”
“มากเชียวละ” จากนั้นเมลิซซาเรียกพนักงานคุ้มกันให้นำหีบเข้ามา ภายในหีบมีหน้ากากโลหะและนางโยนให้ถังเทียนชิ้นหนึ่ง
ถังเทียนกวาดมือตามปกติรับหน้ากากไว้ ดูเหมือนเป็นหน้ากากอย่างง่ายๆไม่ได้ออกแบบซับซ้อน มันสร้างขึ้นจากเหล็กชิ้นเดียวมันวาวเผยให้เห็นแต่ดวงตาของผู้ใช้
“ทุกคนจะรับไปคนละหนึ่งใบ” เมลิซซาให้ทุกคนสวมหน้ากาก จากนั้นอธิบายต่อ “ตอนนี้วิหารมีความกังวลมาก ดังนั้นเราจำเป็นต้องระมัดระวังเต็มที่ อย่าดูถูกการรวบรวมข่าวกรองของวิหาร เป็นแต่ว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกเจ้าในก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกเจ้ามีความสำคัญ ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับพวกเจ้าจะไปถึงมือทางวิหารอย่างรวดเร็ว วิหารจะไม่ตรวจกองทัพของทุกตระกูล แต่เราไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ ตัวอย่างเช่น จี๋เจ๋อ! ดาบพิศวงของเจ้าโดดเด่นแตกต่างมากเกินไปเจ้าต้องเก็บไว้”
จี๋เจ๋อพยักหน้าและเก็บดาบพิศวงไว้ เขารู้ว่าดาบพิศวงของเขาสะดุดตาเกินไป
“สถานะของเจ้าตอนนี้จะเป็นองครักษ์ภายในของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์เรียกว่ากองพลหน้ากากเหล็ก” เมลิซซากล่าวต่อ “ที่เหลือก็ง่ายมากองค์กรการค้าทุกองค์กรล้วนมีกองพลหน้ากากเหล็กซึ่งไม่ค่อยเปิดเผยตัวเอง ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเปิดเผยตัว ตราบใดที่ไม่มีใครเปิดเผยตัวเองก็น่าจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ให้ระมัดระวังกองพลอื่นให้ดี”
“ต้องระวังกองทัพอื่นด้วยหรือ?” ถังเทียนประหลาดใจ “พวกเขาจะหาเรื่องเราหรือ?”
เมลิซซาฝืนยิ้ม “เป็นเรื่องง่ายที่อาจเกิดเรื่องขึ้นเมื่อมีกองทัพหลายหน่วยมารวมตัวกัน นอกจากนี้ตระกูลต่างๆทั้งหมดมีทั้งสู้โดยเปิดเผยและสู้แบบซ่อนเร้นปิดบังตัวดังนั้นใครจะยอมเปิดเผยไม้เด็ดของพวกเขากันเล่า? ตอนนี้พวกเขามีโอกาสและเป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องการพิสูจน์ตัวเอง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลมากเกินไป ชนะหรือแพ้ไม่สำคัญ ที่สำคัญยิ่งกว่าอย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำสามัญสำนึกของพวกเจ้า ถึงตอนนั้น เราจะตกอยู่ในความลำบากอย่างแท้จริง”
ถังเทียนตบอกและพูดด้วยความมั่นใจ “สบายใจได้, เราไม่แพ้แน่นอนและไม่ต้องให้เจ้าเสียหน้าอย่างแน่นอน!”
เมลิซซาเกือบพูดออกไปแล้ว‘ไม่เป็นไร, ข้ายอมเสียหน้า...’
สิ่งที่นางกังวลที่สุดก็คือถังเทียนและกลุ่มของเขาจะไม่ยอมอดกลั้นและฆ่ากองทัพของศัตรู! นั่นจะกลายเป็นเรื่องลำบากอย่างแท้จริง!
ทันใดนั้นเมลิซซามีความรู้สึกรุนแรงว่าการเดินทางคงจะไม่ราบรื่นแน่นอน
แต่นางไม่รู้จะทำยังไงถังเทียนและเชียนฮุ่ยพบตำแหน่งว่าอยู่ในทวีปเซียน ทวีปเซียนคือเมืองหลวงของทวีปกวงหมิง และเพราะความดำรงอยู่ของวิหารกวงหมิงจึงได้รับการยกย่องว่าทวีปเซียน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของวิหาร เป็นที่ตั้งของตำหนักกวงหมิง วิหารเซียนอยู่ในพื้นที่ใจกลางของทวีปกวงหมิงและเป็นทวีปที่รุ่งเรืองที่สุดของทวีปกวงหมิง ตราบใดที่องค์กรการค้าใหญ่เพียงพอหรือตระกูลที่มีศักดิ์ฐานะใหญ่ ล้วนตั้งอยู่ในทวีปเซียนทั้งนั้น
ทันใดนั้นถังเทียนคิดถึงปัญหาหนึ่งได้ทันที “เดี๋ยวก่อน, กองทัพทั้งหมดนี้จะไปทวีปเซียนใช่ไหม?”
“ถูกแล้ว”เมลิซซาพยักหน้า “ตำหนักอยู่ในทวีปเซียนและมีแต่เพียงทวีปเซียนจึงจะมีกองทัพมากมาย”
ถังเทียนตะลึงงง
เมลิซซาตกใจจากที่เห็นสีหน้าของถังเทียนจึงถามเบาๆ“มีบางอย่างผิดปกติหรือ?”
ถังเทียนร้องไห้ไม่มีน้ำตา ในที่สุดเขาก็มีความรู้สึกเหมือนกับทุ่มหินใส่เท้าตัวเอง ตามแผนการเดิมของพวกเขา เมื่อทวีปกวงหมิงถูกไฟสงครามรุมล้อมกำลังทหารของวิหารจะตึงเครียด และจะเกิดความวุ่นน่ากลัวมีการระดมพลเข้าสู่สมรภูมิ เพียงแค่นั้นวิหารจะว่างเปล่าทำให้ถังเทียนได้โอกาสเข้าโจมตีพวกเขา
ไม่มีปัญหากับแผน แต่ไม่มีใครคาดว่าประมุขผู้อาวุโสจะลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์
กองทัพจากตระกูลต่างๆจะมารวมกันทั้งหมดที่ทวีปเซียน ถังเทียนและพวกเขาได้คิดแผนทุกอย่างกับการเผชิญทวีปเซียนที่ว่างเปล่า แต่กลับกลายเป็นว่ากำลังคนในทวีปเซียนจะกลายเป็นแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว
‘นั่นหมายความว่าแผนการสลายหายไปไม่ใช่หรือ? เหมือนจะเป็นอย่างนั้น...’
ในที่สุดถังเทียนก็รู้สึกตัว‘ทำไมข้าถึงได้รู้ตัวช้านัก? ก็ได้ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องธรรมดามาก’ เห็นได้ชัดว่าถังเทียนตัดสินใจโยนปัญหาทิ้งไปจากใจ ‘ยังไงก็ตามยิ่งข้าพบเชียนฮุ่ยได้เร็ว ข้าจะปล่อยให้นางคิด’
‘ข้าจะทำแค่นั้น’
หลังจากคิดดูแล้ว ถังเทียนเริ่มไตร่ตรองถึงคำพูดเมลิซซา ‘นางพูดถูก ถ้าเรามีส่วนร่วมขัดแย้ง สถานะของเราจะต้องถูกเปิดเผยและเราก็แค่รอถูกทุบเละเท่านั้น’ แม้ว่าถังเทียนจะมั่นใจในพลังของตัวเองมากมายก็ตาม แต่เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าการสุมหัวและทุบฝ่ายอื่นเป็นความรู้สึกน่าพอใจแต่เขาไม่ต้องการพบกับเหตุการณ์ที่เป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้ง
‘ข้าจะดูแย่ไม่ได้เมื่อตอนพบกับเชียนฮุ่ย’ นั่นเป็นความคิดแรกที่ถังเทียนมี แต่เขารู้สึกได้ทันทีว่าเป็นเรื่องสมควรคิดเช่นนั้น ‘ข้าไม่ได้พบเชียนฮุ่ยมาหลายปีแล้วจะปล่อยให้นางเห็นข้าถูกคนอื่นสุมหัวเล่นงานข้าได้ยังไงกัน’
‘นั่นจะต้องเป็นเรื่องน่าอายมาก!’ ถังเทียนรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่แย่ยิ่งกว่าตายและไม่อาจยอมรับได้
‘นอกจากนี้ เป็นเวลาที่จะกลับไปพบกับเชียนฮุ่ย ข้าจะเสียเวลาต่อสู้กับคนอื่นได้อย่างไร? อย่างน้อยที่สุดเราสามารถสู้ได้หลังจากยินดีกับการพบนางแล้ว’
‘เดี๋ยวก่อน!’
หน้าถังเทียนเปลี่ยน เขาคิดถึงปัญหาสำคัญอื่นได้อีก ‘ขณะนั้นเชียนฮุ่ยกับข้าจะใกล้ชิดกันได้ยังไง?’
‘เอ่, ทำไมหัวใจข้าเต้นเร็วนักนะ? เอ่, ทำไมมือข้าถึงมีเหงื่อออก? โธ่, ข้าคิดคำตอบไม่ออกเลย ทำไมข้าถึงคิดคำตอบไม่ออก! โธ่เว้ย! ข้ากังวลมากเกินไป แล้วข้าจะทำยังไงดี?’
เมื่อเมลิซซาเห็นถังเทียนคิดลึงซึ้งอยู่เบื้องหลังหน้ากาก ในที่สุดนางถอนหายใจโล่งอก ‘ดูเหมือนเขาจะตระหนักได้ถึงความรุนแรงของปัญหา เขารู้ถึงผลที่จะตามมา ถ้าพวกเขาเปิดเผยสถานะตนเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องรักษาเอาไว้อย่างจริงจัง’ ตราบใดที่ถังเทียนให้ความสำคัญอย่างจริงจัง เมลิซซาเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะนางรู้ว่าเขาน่ากลัวเพียงไหน
ขณะนั้นจอห์นสันสังเกตสถานณ์เบื้องหลังนั้น เรือรบลำหนึ่งเร่งความเร็วเข้ามาหาพวกเขา
อีกฝ่ายหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดว่าตรงมาทางพวกเขา
จอห์นสันสายตาดีและสามารถเห็นได้ดี เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์บนเรือรบอีกฝ่ายหนึ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยน “คุณหนู นั่นคือเรือไร้เทียมทานของกลุ่มการค้าอลิซาเบธ!”
หน้าของเมลิซซาเขียวคล้ำทันที ที่ข้างนางสมาชิกอื่นทุกคนของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์มีท่าทีไม่พอใจ กลุ่มการค้าอลิซาเบธเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ ทั้งสองฝ่ายเป็นเหมือนน้ำกับไฟมาหลายปีแล้ว กลุ่มการค้าอลิซเบธข่มกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ พวกเขาข่มเหงกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ในทุกด้าน ทำให้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ตกต่ำลงทุกวัน นอกจากการรับช่วงที่เป็นของตนเอง เงาของกลุ่มการค้าอลิซเบธสามารถพบเห็นได้ทุกที่
สมาชิกทุกคนที่อยู่ในกลุ่มการค้าเมซฟิลดิ์รู้ว่ากลุ่มการค้าอลิซเบธมีความทะเยอทะยานคิดจะยึดกลุ่มการค้าเมซฟิลด์
ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายใกล้เข้ามา ขณะที่เรือไร้เทียมทานมีขนาดขยายใหญ่ขึ้นทุกที ทำให้หน้าของเมลิซซาเขียว เรือไร้เทียมทานเป็นเรือรบที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มการค้าอลิซเบธและเป็นเรือชั้นทอง วิหารกวงหมิงไม่เข้มงวดในการควบคุมกองทัพ และทุกตระกูลและกลุ่มธุรกิจได้รับอนุญาตให้สร้างกองทัพของตนเอง แต่เกี่ยวกับเรือรบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือรบชั้นทองเป็นเรือรบที่ทรงพลังมากมีการควบคุมอย่างเข้มงวด
เฉพาะบ้านที่ได้รับการยอมรับจากวิหารกวงหมิงจึงมีคุณสมบัติมีเรือรบชั้นทองเป็นของตนเอง เพราะพวกนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากวิหาร ถ้าพวกเขาซื้อหรือสร้างเรือรบระดับทองพวกเขาจะถูกลงโทษ
เมลิซซาจ้องมองเรือรบไร้เทียมทานที่กำลังเข้ามาใกล้โดยไม่เกรงใจ ในอดีตกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ก็มีเรือรบชั้นทอง
เพียงแต่หลังจากธุรกิจพวกเขาประสบความยุ่งยากพวกเขาไม่มีทางเลือกได้แต่ปล่อยให้เรือรบชั้นทองหลุดมือไป
นั่นคือความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดของเมลิซซา ในวันนั้นที่ปู่ผู้ใจดีของนางดูเหมือนจะอายุเพิ่มขึ้นเป็นสิบๆ ปีในคืนเดียว
เมลิซซารู้ว่าหายนะที่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ประสบจะต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มการค้าอลิซาเบธ
“แย่จริง! พวกเขายังไม่ชะลอความเร็วลงเลย!” จอห์นสันสีหน้าเปลี่ยน
เรือรบไร้เทียมทานเข้ามาใกล้มาก แต่ดูเหมือนไม่ตั้งใจจะลดความเร็วลงทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับภูเขาใหญ่ร่วงลงมาหาพวกเขา
เงาที่เกิดจากเรือลำขนาดใหญ่คลุมไปทั้งเรือสินค้าขนาดเล็ก