ตอนที่แล้วตอนที่ 879 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 881 ระฆังศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 880 เหตุวิกฤติที่สุดของกวงหมิง


“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเราจะสามารถบุกเข้าทวีปเว่ยเย่กวนได้?” อาซือหมิงมองดูเถี่ยจี๋

ด้านหลังพวกเขากองทัพใหญ่ยาวเหยียดออกไปไม่สิ้นสุด นี่คือกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อน  และเป็นกองทัพของกษัตริย์เพอซูสด้วยภารกิจที่ใหญ่ที่สุด  อาซือหมิงไม่อาจถูกตำหนิได้เรื่องกังวล เขาไม่เคยบัญชาการกองทัพที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นมาก่อน

นอกจากนี้ยังเป็นการเผชิญหน้ากับมู่จือเสียแห่งทวีปเว่ยเย่กวน

ทวีปแดนเถื่อนไม่ขาดแคลนคนหยิ่งและภูมิใจในศักดิ์ศรี แต่ตั้งแต่เริ่มต้นทวีปเว่ยเย่กวนมักจะตั้งเด่นเป็นสง่าเหมือนกับหม้อน้ำร้อนคุ้มกันปกป้องเส้นทางใหญ่เข้าสู่ทวีปกวงหมิง ตั้งแต่มู่จือเสียเฝ้ารักษาการณ์ในทวีปเว่ยเย่กวน ไม่เคยมีใครบุกฝ่าเข้าไปได้เลย

มู่จือเสียสามารถยึดครองอยู่ที่ทวีปเว่ยเย่กวนอย่างมั่นคงและขณะเดียวกันก็แทรกซึมเข้าไปในทวีปแดนเถื่อนไม่ใช่เพราะเขาน่าคบหา  แต่เพราะเขาแข็งแกร่ง  ทวีปแดนเถื่อนบูชาความแข็งแกร่งและเชื่อว่าหมัดที่แข็งกว่าคือเหตุผลที่ถูกต้อง มิฉะนั้นทำไมเผ่าเล็กๆจึงยินดีรับคำแนะนำจากเขาเล่า? มู่จือเสียกลายเป็นคนนอกที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าทวีปแดนเถื่อน  แม้ว่าจะมีคนน้อยรู้เรื่องที่เขามีกองทัพที่ประสบความสำเร็จ  แต่ไม่มีใครเคยได้ยินว่ามู่จือเสียเคยแพ้คนอื่น

คนอย่างอาซือหมิงมีความรู้ในเรื่องอย่างนั้นมาก  และเข้าใจชัดว่ามู่จือเสียน่ากลัวเพียงไหน

อาซือหมิงไม่เข้าใจทำไมราชินีถึงได้ตั้งใจโจมตีทวีปเว่ยเย่กวน  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อใจราชินีอย่างที่สุดเขาคงคิดว่าต้องมีแรงจูงใจซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เถี่ยจี๋คัดค้านมุมมองของเขา “ตราบใดที่เราทำสิ่งที่ราชินีต้องการได้สำเร็จ  ราชีนีจะต้องมีแผนแน่นอนหรือเจ้าคิดว่าเรายังแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่านาง?”

อาซือหมิงคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นส่ายหน้า“เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไง? ราชินีคือเทพธิดาสงครามของเรา นางไร้พ่าย ครั้งนี้มู่จือเสียโชคร้ายเสียแล้ว”

เขากำลังยินดีกับภัยพิบัติของมู่จือเสียผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในทวีปแดนเถื่อนไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อมู่จือเสีย  มู่จือเสียมีเจตนาบางอย่างต่อทวีปแดนเถื่อนและเขาอาจจะหลอกเผ่าเล็กๆ ได้  แต่กลุ่มทรงอิทธิพลท้องถิ่นไม่ให้ความสำคัญต่อเขาแม้แต่น้อย

มู่จือเสียพยายามแอบติดต่อกลุ่มที่ทรงอำนาจสองสามกลุ่ม  แต่แม้ว่าเขาจะมีพลังและความสามารถแต่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จ

สำหรับเถี่ยจี๋และอาซือหมิงสงสารเขาที่ต้องมาเจอกับราชินี

สำหรับอาซือหมิงคนที่เอาชนะมู่จือเสียในทวีปแดนเถื่อนแน่นอนก็คือราชินี แม้สำหรับเขาราชินีไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้  เพราะนางมีเวลามากมายในการรวมทวีปแดนเถื่อน  แต่แน่นอนเนื่องจากราชินีตัดสินใจทำเช่นนั้นแล้ว อาซือหมิงจะไม่ปฏิเสธ

“ไม่ว่ามู่จือเสียจะโชคร้ายหรือไม่ก็ตามข้าไม่รู้”  เถี่ยจี๋ส่ายศีรษะ  แต่ในพริบตา เขายิ้มกว้าง  “แต่ข้ารู้แน่ๆ ว่าทวีปกวงหมิงหมดโชคแล้วในคราวนี้นอกจากนี้พวกเขาจะต้องเสียเลือดเนื้อสำหรับการนี้!”

‘เถี่ยจี๋รู้อะไรบางอย่างแน่นอน’ แต่อาซือหมิงไม่ถามต่อไป

ราชินีไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนางเองและเข้าสู่ทวีปกวงหมิง เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจอะไรบางอย่างที่นั่น

ความเกลียดชังที่มีต่อทวีปกวงหมิงครั้งนี้ทำให้อาซือหมิงมีความสุขมาก เขารู้สึกว่าราชินีกำลังแสดงความกล้าหาญและพลังของนาง  ‘ราชินีไม่พอใจแค่กับการรวบรวมทวีปแดนเถื่อนเท่านั้น  ตอนนี้นางยังจับตามองทวีปกวงหมิงด้วย  นางมีจิตใจของผู้ทรงอำนาจจริงๆ’

เมื่อกองทัพมากมายปรากฏในพื้นที่ใกล้ทวีปเว่ยเย่กวนทหารรักษาการณ์ถึงกับตะลึง

ทวีปกวงหมิงก็ตกตะลึง วิหารกวงหมิงก็ตกตะลึง

คำร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินนับไม่ถ้วนทำให้วิหารกวงหมิงตกอยู่ในความแตกตื่น เหล่าผู้อาวุโสพยายามข่มความกังวลและความแตกตื่นในใจของพวกเขาและฝืนตนเองพูดคุยอย่างร่าเริง เป็นตลกฝืดและมีรอยยิ้มสุดฝืน  แต่หน้าของพวกเขาซีดขาว  ตาหมองคล้ำการก้าวเดินขัดกับสีหน้าของเขาดวงตาที่พ่ายแพ้ท่าทางที่ทำแบบขอไปทีทำให้ดูตลกมากกว่า

ทางวิหารไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นเลย

แนวหน้าสูญเสียพื้นที่ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง คำขอกำลังเสริมของโกวเฉิงเวิ่นเต้าแทบถูกส่งมาวันละสามเวลา  ชิวซิ่วหัวประสบความสูญเสียหนักและม่อซินอยู่ในตำแหน่งแห่งใดไม่ทราบ

นอกจากนี้กองทัพใหญ่ของทวีปแดนเถื่อนปรากฏที่ด้านนอกทวีปเว่ยเย่กวน

เรื่องนี้กดดันเหล่าผู้อาวุโสจนสภาพใจของพวกเขาแทบจะพังทลายได้ทุกเมื่อ  และยังเป็นต่อไปจนพวกเขาเกือบจะร้องไห้

‘ทวีปแดนเถื่อนเข้าร่วมลงมือปฏิบัติการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?’

ทวีปกวงหมิงมีความตั้งใจต่อทวีปแดนเถื่อนมิฉะนั้นพวกเขาคงไม่อดทนกับภารกิจแทรกซึมเข้าทวีปแดนเถื่อน  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทวีปกวงหมิงจะกล้าตอแยทวีปแดนเถื่อน แม้ว่าพวกเขามักจะพูดถึงทวีปแดนเถื่อนอย่างเหยียดหยาม  แต่ในใจพวกเขาพวกเขารู้อย่างชัดเจนถึงพลังที่น่ากลัวของทวีปแดนเถื่อน

ทวีปแดนเถื่อนเป็นเหมือนรังแตนขนาดใหญ่  ใครก็ตามเข้าไปตอแย อาจถึงตายได้

กองกระดูกนับไม่ถ้วนที่เป็นของคนทะเยอทะยานในทวีปแดนเถื่อนนี้พิสูจน์ตรงจุดนี้ได้

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ทวีปกวงหมิงสบายมากกว่าก็คือทวีปแดนเถื่อนไม่เคยขยับขยายดินแดนพวกเขามาก่อนในประวัติศาสตร์  เนื่องจากความสามารถของพวกเขาทั้งหมดใช้ในการปะทะกันเองภายในอยู่เสมอ ประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อนดูเหมือนจะมีสงครามวุ่นวายยุ่งเหยิงอยู่ตลอด นี่คือเหตุผลให้ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยรวมกันเป็นเอกภาพมาก่อน

แต่ทวีปแดนเถื่อนที่ไม่เคยขยายดินแดนกลับมีกองทัพมหึมาปรากฏอยู่ที่ชานทวีปเว่ยเย่กวน

ผู้อาวุโสหลายคนอดนึกถึงตำแหน่งของรายงานที่มู่จื่อเสียส่งมาก่อนหน้านั้นไม่ได้  เกี่ยวกับสตรีเทพธิดาสงครามคนหนึ่ง มู่จื่อเสียอ้างว่านางสร้างราชอาณาจักรเพอซูสและอาจรวมทวีปแดนเถื่อนให้เป็นเอกภาพได้ เวลานั้นพวกเขาทุกคนแค่นเสียงขึ้นจมูกเมื่ออ่านรายงาน  ‘รวมทวีปแดนเถื่อนน่ะหรือ? นี่ไม่เคยทำได้มาก่อนเป็นหมื่นปีแล้ว  และสตรีนางเดียวจะทำได้หรือ?  เขากำลังเล่าเรื่องตลกอะไร!’ ถ้ารายงานไม่ได้ส่งมาโดยมู่จือเสียผู้มีตำแหน่งน่านับถือเหล่าผู้อาวุโสคงสั่งลงโทษไปแล้ว

ทันใดนั้น เมื่อผู้อาวุโสหลายคนจำรายงานนี้ได้ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านอยู่ในใจพวกเขา

‘เป็นไปได้ไหมว่า..รายงานนั้นจะเป็นความจริง?’

ทุกคนเริ่มกังวลใจในการแทรกซึมไม่กี่ทศวรรษมานี้ ทวีปกวงหมิงมีความเข้าใจต่อทวีปแดนเถื่อนลึกซึ้งมากกว่าในอดีต  เหตุผลที่ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยมีท่าทีคุกคามต่อทวีปกวงหมิงเป็นเพราะพวกเขาขาดผู้นำ

กลุ่มคนเถื่อนเพียงแต่ขาดผู้นำ!

สำหรับทวีปกวงหมิง ถ้าพวกเขามีผู้นำสักคนจะกลายเป็นฝันร้าย

และในที่สุดฝันร้ายกำลังมาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา

“ท่านมู่จือเสียอยู่ที่ไหน? ทำไมถึงไม่มีใครได้ข่าวจากท่านมู่จือเสีย?”  หนึ่งในผู้อาวุโสถาม

คำถามของเขากระตุ้นความสนใจของผู้อาวุโสอื่น สายตาทุกคู่มองดูที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์  ถูกแล้วในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนั้นมีกองทัพใหญ่คุกคาม วิหารกวงหมิงไม่ได้รับข่าวจากท่านมู่จือเสียเลย

ในช่วงเวลาอันตรายอย่างนั้นแม่ทัพใหญ่อย่างมู่จือเสียสามารถคุ้มกันพวกเขาได้

หน้าของชาร์ลส์บูดบึ้งแต่เขาพยายามฝืนยิ้ม “ท่านมู่จือเสียยังไม่กลับมาเลย”

ผู้อาวุโสทุกคนโกลาหล ทุกคนมีสีหน้าเหลือเชื่อ  พวกเขาทุกคนคิดว่าพวกเขาได้ยินผิด  มีกองทัพศัตรูคุกคามอย่างนั้นแม่ทัพใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนให้ป้องกันพวกเขา กลับไม่ปรากฏตัว

นั่นคือเหตุผลที่เหล่าผู้อาวุโสมีปฏิกิริยาไปในทำนองเดียว  มู่จือเสียมีศักดิ์ศรีสูงส่ง  ความสำเร็จของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกเขา และในการทำงานที่หนักแน่นและรอบคอบมาเป็นเวลาสิบๆปีทำให้เขาเป็นแบบอย่างของแม่ทัพหลายคนในทวีปกวงหมิง

เขาจะมีความประมาทได้อย่างไร?

ชาร์ลส์กลับเป็นคนเดียวที่สงบ  ขณะที่เขายิ้ม “ตอนนี้เขาอยู่ในทวีปแดนเถื่อนเพื่อทำภารกิจตามฆ่าราชินีเพอร์ซูส  เราต้องมั่นใจในตัวเขา”

ทันใดนั้นผู้อาวุโสทุกคนมีสีหน้ารับรู้ทันที  ‘อย่างนั้นนั่นก็คือเหตุผลที่ท่านมู่จือเสียละเลยงานของเขา!’

ความกังวลของผู้อาวุโสทุกคนได้รับการปลดเปลื้อง  สำหรับผู้อาวุโสที่ก่อนนั้นได้เห็นรายงานพวกเขาก็ยกย่องเขา  ‘ตามที่มู่จื่อเสียคาด เขาสามารถเห็นรายละเอียดที่สำคัญที่สุด’ พวกเขาทุกคนลืมเรื่องเวลาเมื่อพวกเขาสบถใส่รายงานที่มู่จื่อเสียส่งให้พวกเขา

บรรยากาศผ่อนคลายลงทันที พวกเขาเชื่อว่าเมื่อมู่จื่อเสียรับมือกับสถานการณ์  ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว

ไม่มีใครสงสัยว่ามู่จื่อเสียจะล้มเหลว

“ข้าก็เหมือนกับทุกคนที่นี่พวกเขาทุกคนมีความมั่นใจในท่านมู่จื่อเสีย แต่ข้ามีข่าวร้ายจะแจ้งพวกท่านเช่นกัน” ชาร์ลส์มีสีหน้าเคร่งเครียด  จนผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดสังเกตเห็นเขากำหมัดแน่นจนเล็บขาว

ผู้อาวุโสถึงกับเงียบลง พวกเขาทุกคนมองดูโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์อย่างประหลาดใจ  สำหรับความประทับใจของพวกเขาโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์มักจะโดดเด่นและสง่างามและไม่เคยโกรธ  พวกเขาไม่เคยเห็นเขาเคร่งเครียดและกังวล

ทุกคนเริ่มมีลางสังหรณ์ในใจ

“เราเพิ่งได้รับข่าว”

ชาร์ลส์พูดนุ่มนวลมีร่องรอยความเศร้าและท่าทีแตกตื่นมีกันทุกคน

พวกเขาอยู่ในความเงียบ สังหรณ์ร้ายเกิดขึ้นในใจของผู้อาวุโสเริ่มมีมากขึ้นทุกทีเขาผ่อนคลายบรรยากาศขณะหนึ่งและเปลี่ยนมาเป็นตึงเครียดอีกครั้ง

“คอลลินตายในการรบ  กองทหารเขาทั้งหมดถูกกำจัด  กองทัพของคอลลินถูกศัตรูลอบทำร้าย  กองเรือ..” ชาร์ลส์หยุดสูดหายใจลึก เหมือนกับว่าเขาพยายามจะรวบรวมความกล้า  “ทหารทั้งกองทัพถูกทำลาย”

เงียบเป็นป่าช้าเหมือนกับว่าไม่มีคนมีชีวิตอยู่ด้วย

ผู้อาวุโสตะลึง  พวกเขาเอามือกุมศีรษะ  สีหน้าของพวกเขายังคงชะงักค้าง  ตาของพวกเขาเบิกค้างเหมือนกับปลาที่บังเอิญว่ายอยู่ในน้ำร้อน

เป็นเวลาสิบวินาทีทั่วทั้งสถานที่ไม่มีเสียงเลย

“มันคือโชคร้ายนี่คือข่าวล่าสุดที่เราได้รับ” หน้าของชาร์ลส์ยังคงซีดขาว “ศัตรูฟื้นคืนสภาพเรือรังสีกัมปนาทและสร้างเรือรบชั้นสูงสุดที่ทรงพลังมาก  นั่นคือวิธีที่กองเรือของโอลิเวอร์พ่ายแพ้  สำหรับกองทัพของคอลลินเรายังไม่ได้รับรายละเอียด  ศัตรูตัดการเชื่อมต่อของประตูดวงดาวระหว่างทวีปรกร้างและทวีปทุ่งขาว  ดังนั้นไม่มีใครจากกองทัพของคอลลินที่ออกมาได้”

เสียงอุทานนับไม่ถ้วนดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อสถานที่มีเสียงฮือฮาดังขึ้นใจทุกคนมึนชาทันที

“วิหารกวงหมิงตกอยู่ในภาวะวิกฤติที่สุดแล้ว”

ขณะนั้นเองเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลังชาร์ลส์ และหยุดเสียงฮือฮาโกลาหลทันที รัศมีที่สง่างามและศักดิ์สิทธิ์คลุมเต็มสถานที่ทันที เหมือนกับว่ามีเทพชะลอลงมา  ร่างที่เหมือนรูปสลักสีทองค่อยๆ เดินออกมา

“ประมุขผู้อาวุโส!”

ผู้อาวุโสทุกคนตื่นจากภวังค์สีหน้าของพวกเขาที่แตกตื่นก็หายไป กลับมีความเคารพนบนอบเข้ามาแทน  ทุกคนก้มศีรษะคำนับ

ไม่ว่าประมุขผู้อาวุโสจะผ่านไปที่ใดก็ตามเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็จะไหลลงบนพื้น ตำหนักกวงหมิงจะส่งเสียงครืนๆ ขณะรัศมีพลังงานเริ่มร่วงลงมาจากท้องฟ้า

ภายใต้พลังงานของเทพ  ไม่มีใครสามารถทนได้!

ทุกคนที่เห็นภาพคุกเข่าลงกับพื้นทันทีตลอดทั้งตัวของพวกเขาสั่นสะท้านไม่หยุด ไม่ว่าจะมาจากความตื่นเต้นหรือความกลัวไม่มีใครรู้

เสียงที่เต็มไปด้วยความสง่างามและเฉยเมยดังก้องไปทั้งตำหนักกวงหมิงเหมือนสายฟ้า

“จงไปลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด