ตอนที่ 880 เหตุวิกฤติที่สุดของกวงหมิง
“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเราจะสามารถบุกเข้าทวีปเว่ยเย่กวนได้?” อาซือหมิงมองดูเถี่ยจี๋
ด้านหลังพวกเขากองทัพใหญ่ยาวเหยียดออกไปไม่สิ้นสุด นี่คือกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อน และเป็นกองทัพของกษัตริย์เพอซูสด้วยภารกิจที่ใหญ่ที่สุด อาซือหมิงไม่อาจถูกตำหนิได้เรื่องกังวล เขาไม่เคยบัญชาการกองทัพที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นมาก่อน
นอกจากนี้ยังเป็นการเผชิญหน้ากับมู่จือเสียแห่งทวีปเว่ยเย่กวน
ทวีปแดนเถื่อนไม่ขาดแคลนคนหยิ่งและภูมิใจในศักดิ์ศรี แต่ตั้งแต่เริ่มต้นทวีปเว่ยเย่กวนมักจะตั้งเด่นเป็นสง่าเหมือนกับหม้อน้ำร้อนคุ้มกันปกป้องเส้นทางใหญ่เข้าสู่ทวีปกวงหมิง ตั้งแต่มู่จือเสียเฝ้ารักษาการณ์ในทวีปเว่ยเย่กวน ไม่เคยมีใครบุกฝ่าเข้าไปได้เลย
มู่จือเสียสามารถยึดครองอยู่ที่ทวีปเว่ยเย่กวนอย่างมั่นคงและขณะเดียวกันก็แทรกซึมเข้าไปในทวีปแดนเถื่อนไม่ใช่เพราะเขาน่าคบหา แต่เพราะเขาแข็งแกร่ง ทวีปแดนเถื่อนบูชาความแข็งแกร่งและเชื่อว่าหมัดที่แข็งกว่าคือเหตุผลที่ถูกต้อง มิฉะนั้นทำไมเผ่าเล็กๆจึงยินดีรับคำแนะนำจากเขาเล่า? มู่จือเสียกลายเป็นคนนอกที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าทวีปแดนเถื่อน แม้ว่าจะมีคนน้อยรู้เรื่องที่เขามีกองทัพที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีใครเคยได้ยินว่ามู่จือเสียเคยแพ้คนอื่น
คนอย่างอาซือหมิงมีความรู้ในเรื่องอย่างนั้นมาก และเข้าใจชัดว่ามู่จือเสียน่ากลัวเพียงไหน
อาซือหมิงไม่เข้าใจทำไมราชินีถึงได้ตั้งใจโจมตีทวีปเว่ยเย่กวน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อใจราชินีอย่างที่สุดเขาคงคิดว่าต้องมีแรงจูงใจซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เถี่ยจี๋คัดค้านมุมมองของเขา “ตราบใดที่เราทำสิ่งที่ราชินีต้องการได้สำเร็จ ราชีนีจะต้องมีแผนแน่นอนหรือเจ้าคิดว่าเรายังแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่านาง?”
อาซือหมิงคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นส่ายหน้า“เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไง? ราชินีคือเทพธิดาสงครามของเรา นางไร้พ่าย ครั้งนี้มู่จือเสียโชคร้ายเสียแล้ว”
เขากำลังยินดีกับภัยพิบัติของมู่จือเสียผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในทวีปแดนเถื่อนไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อมู่จือเสีย มู่จือเสียมีเจตนาบางอย่างต่อทวีปแดนเถื่อนและเขาอาจจะหลอกเผ่าเล็กๆ ได้ แต่กลุ่มทรงอิทธิพลท้องถิ่นไม่ให้ความสำคัญต่อเขาแม้แต่น้อย
มู่จือเสียพยายามแอบติดต่อกลุ่มที่ทรงอำนาจสองสามกลุ่ม แต่แม้ว่าเขาจะมีพลังและความสามารถแต่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จ
สำหรับเถี่ยจี๋และอาซือหมิงสงสารเขาที่ต้องมาเจอกับราชินี
สำหรับอาซือหมิงคนที่เอาชนะมู่จือเสียในทวีปแดนเถื่อนแน่นอนก็คือราชินี แม้สำหรับเขาราชินีไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ เพราะนางมีเวลามากมายในการรวมทวีปแดนเถื่อน แต่แน่นอนเนื่องจากราชินีตัดสินใจทำเช่นนั้นแล้ว อาซือหมิงจะไม่ปฏิเสธ
“ไม่ว่ามู่จือเสียจะโชคร้ายหรือไม่ก็ตามข้าไม่รู้” เถี่ยจี๋ส่ายศีรษะ แต่ในพริบตา เขายิ้มกว้าง “แต่ข้ารู้แน่ๆ ว่าทวีปกวงหมิงหมดโชคแล้วในคราวนี้นอกจากนี้พวกเขาจะต้องเสียเลือดเนื้อสำหรับการนี้!”
‘เถี่ยจี๋รู้อะไรบางอย่างแน่นอน’ แต่อาซือหมิงไม่ถามต่อไป
ราชินีไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนางเองและเข้าสู่ทวีปกวงหมิง เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจอะไรบางอย่างที่นั่น
ความเกลียดชังที่มีต่อทวีปกวงหมิงครั้งนี้ทำให้อาซือหมิงมีความสุขมาก เขารู้สึกว่าราชินีกำลังแสดงความกล้าหาญและพลังของนาง ‘ราชินีไม่พอใจแค่กับการรวบรวมทวีปแดนเถื่อนเท่านั้น ตอนนี้นางยังจับตามองทวีปกวงหมิงด้วย นางมีจิตใจของผู้ทรงอำนาจจริงๆ’
เมื่อกองทัพมากมายปรากฏในพื้นที่ใกล้ทวีปเว่ยเย่กวนทหารรักษาการณ์ถึงกับตะลึง
ทวีปกวงหมิงก็ตกตะลึง วิหารกวงหมิงก็ตกตะลึง
คำร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินนับไม่ถ้วนทำให้วิหารกวงหมิงตกอยู่ในความแตกตื่น เหล่าผู้อาวุโสพยายามข่มความกังวลและความแตกตื่นในใจของพวกเขาและฝืนตนเองพูดคุยอย่างร่าเริง เป็นตลกฝืดและมีรอยยิ้มสุดฝืน แต่หน้าของพวกเขาซีดขาว ตาหมองคล้ำการก้าวเดินขัดกับสีหน้าของเขาดวงตาที่พ่ายแพ้ท่าทางที่ทำแบบขอไปทีทำให้ดูตลกมากกว่า
ทางวิหารไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นเลย
แนวหน้าสูญเสียพื้นที่ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง คำขอกำลังเสริมของโกวเฉิงเวิ่นเต้าแทบถูกส่งมาวันละสามเวลา ชิวซิ่วหัวประสบความสูญเสียหนักและม่อซินอยู่ในตำแหน่งแห่งใดไม่ทราบ
นอกจากนี้กองทัพใหญ่ของทวีปแดนเถื่อนปรากฏที่ด้านนอกทวีปเว่ยเย่กวน
เรื่องนี้กดดันเหล่าผู้อาวุโสจนสภาพใจของพวกเขาแทบจะพังทลายได้ทุกเมื่อ และยังเป็นต่อไปจนพวกเขาเกือบจะร้องไห้
‘ทวีปแดนเถื่อนเข้าร่วมลงมือปฏิบัติการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?’
ทวีปกวงหมิงมีความตั้งใจต่อทวีปแดนเถื่อนมิฉะนั้นพวกเขาคงไม่อดทนกับภารกิจแทรกซึมเข้าทวีปแดนเถื่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทวีปกวงหมิงจะกล้าตอแยทวีปแดนเถื่อน แม้ว่าพวกเขามักจะพูดถึงทวีปแดนเถื่อนอย่างเหยียดหยาม แต่ในใจพวกเขาพวกเขารู้อย่างชัดเจนถึงพลังที่น่ากลัวของทวีปแดนเถื่อน
ทวีปแดนเถื่อนเป็นเหมือนรังแตนขนาดใหญ่ ใครก็ตามเข้าไปตอแย อาจถึงตายได้
กองกระดูกนับไม่ถ้วนที่เป็นของคนทะเยอทะยานในทวีปแดนเถื่อนนี้พิสูจน์ตรงจุดนี้ได้
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ทวีปกวงหมิงสบายมากกว่าก็คือทวีปแดนเถื่อนไม่เคยขยับขยายดินแดนพวกเขามาก่อนในประวัติศาสตร์ เนื่องจากความสามารถของพวกเขาทั้งหมดใช้ในการปะทะกันเองภายในอยู่เสมอ ประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อนดูเหมือนจะมีสงครามวุ่นวายยุ่งเหยิงอยู่ตลอด นี่คือเหตุผลให้ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยรวมกันเป็นเอกภาพมาก่อน
แต่ทวีปแดนเถื่อนที่ไม่เคยขยายดินแดนกลับมีกองทัพมหึมาปรากฏอยู่ที่ชานทวีปเว่ยเย่กวน
ผู้อาวุโสหลายคนอดนึกถึงตำแหน่งของรายงานที่มู่จื่อเสียส่งมาก่อนหน้านั้นไม่ได้ เกี่ยวกับสตรีเทพธิดาสงครามคนหนึ่ง มู่จื่อเสียอ้างว่านางสร้างราชอาณาจักรเพอซูสและอาจรวมทวีปแดนเถื่อนให้เป็นเอกภาพได้ เวลานั้นพวกเขาทุกคนแค่นเสียงขึ้นจมูกเมื่ออ่านรายงาน ‘รวมทวีปแดนเถื่อนน่ะหรือ? นี่ไม่เคยทำได้มาก่อนเป็นหมื่นปีแล้ว และสตรีนางเดียวจะทำได้หรือ? เขากำลังเล่าเรื่องตลกอะไร!’ ถ้ารายงานไม่ได้ส่งมาโดยมู่จือเสียผู้มีตำแหน่งน่านับถือเหล่าผู้อาวุโสคงสั่งลงโทษไปแล้ว
ทันใดนั้น เมื่อผู้อาวุโสหลายคนจำรายงานนี้ได้ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านอยู่ในใจพวกเขา
‘เป็นไปได้ไหมว่า..รายงานนั้นจะเป็นความจริง?’
ทุกคนเริ่มกังวลใจในการแทรกซึมไม่กี่ทศวรรษมานี้ ทวีปกวงหมิงมีความเข้าใจต่อทวีปแดนเถื่อนลึกซึ้งมากกว่าในอดีต เหตุผลที่ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยมีท่าทีคุกคามต่อทวีปกวงหมิงเป็นเพราะพวกเขาขาดผู้นำ
กลุ่มคนเถื่อนเพียงแต่ขาดผู้นำ!
สำหรับทวีปกวงหมิง ถ้าพวกเขามีผู้นำสักคนจะกลายเป็นฝันร้าย
และในที่สุดฝันร้ายกำลังมาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา
“ท่านมู่จือเสียอยู่ที่ไหน? ทำไมถึงไม่มีใครได้ข่าวจากท่านมู่จือเสีย?” หนึ่งในผู้อาวุโสถาม
คำถามของเขากระตุ้นความสนใจของผู้อาวุโสอื่น สายตาทุกคู่มองดูที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ ถูกแล้วในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนั้นมีกองทัพใหญ่คุกคาม วิหารกวงหมิงไม่ได้รับข่าวจากท่านมู่จือเสียเลย
ในช่วงเวลาอันตรายอย่างนั้นแม่ทัพใหญ่อย่างมู่จือเสียสามารถคุ้มกันพวกเขาได้
หน้าของชาร์ลส์บูดบึ้งแต่เขาพยายามฝืนยิ้ม “ท่านมู่จือเสียยังไม่กลับมาเลย”
ผู้อาวุโสทุกคนโกลาหล ทุกคนมีสีหน้าเหลือเชื่อ พวกเขาทุกคนคิดว่าพวกเขาได้ยินผิด มีกองทัพศัตรูคุกคามอย่างนั้นแม่ทัพใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนให้ป้องกันพวกเขา กลับไม่ปรากฏตัว
นั่นคือเหตุผลที่เหล่าผู้อาวุโสมีปฏิกิริยาไปในทำนองเดียว มู่จือเสียมีศักดิ์ศรีสูงส่ง ความสำเร็จของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกเขา และในการทำงานที่หนักแน่นและรอบคอบมาเป็นเวลาสิบๆปีทำให้เขาเป็นแบบอย่างของแม่ทัพหลายคนในทวีปกวงหมิง
เขาจะมีความประมาทได้อย่างไร?
ชาร์ลส์กลับเป็นคนเดียวที่สงบ ขณะที่เขายิ้ม “ตอนนี้เขาอยู่ในทวีปแดนเถื่อนเพื่อทำภารกิจตามฆ่าราชินีเพอร์ซูส เราต้องมั่นใจในตัวเขา”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสทุกคนมีสีหน้ารับรู้ทันที ‘อย่างนั้นนั่นก็คือเหตุผลที่ท่านมู่จือเสียละเลยงานของเขา!’
ความกังวลของผู้อาวุโสทุกคนได้รับการปลดเปลื้อง สำหรับผู้อาวุโสที่ก่อนนั้นได้เห็นรายงานพวกเขาก็ยกย่องเขา ‘ตามที่มู่จื่อเสียคาด เขาสามารถเห็นรายละเอียดที่สำคัญที่สุด’ พวกเขาทุกคนลืมเรื่องเวลาเมื่อพวกเขาสบถใส่รายงานที่มู่จื่อเสียส่งให้พวกเขา
บรรยากาศผ่อนคลายลงทันที พวกเขาเชื่อว่าเมื่อมู่จื่อเสียรับมือกับสถานการณ์ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
ไม่มีใครสงสัยว่ามู่จื่อเสียจะล้มเหลว
“ข้าก็เหมือนกับทุกคนที่นี่พวกเขาทุกคนมีความมั่นใจในท่านมู่จื่อเสีย แต่ข้ามีข่าวร้ายจะแจ้งพวกท่านเช่นกัน” ชาร์ลส์มีสีหน้าเคร่งเครียด จนผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดสังเกตเห็นเขากำหมัดแน่นจนเล็บขาว
ผู้อาวุโสถึงกับเงียบลง พวกเขาทุกคนมองดูโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์อย่างประหลาดใจ สำหรับความประทับใจของพวกเขาโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์มักจะโดดเด่นและสง่างามและไม่เคยโกรธ พวกเขาไม่เคยเห็นเขาเคร่งเครียดและกังวล
ทุกคนเริ่มมีลางสังหรณ์ในใจ
“เราเพิ่งได้รับข่าว”
ชาร์ลส์พูดนุ่มนวลมีร่องรอยความเศร้าและท่าทีแตกตื่นมีกันทุกคน
พวกเขาอยู่ในความเงียบ สังหรณ์ร้ายเกิดขึ้นในใจของผู้อาวุโสเริ่มมีมากขึ้นทุกทีเขาผ่อนคลายบรรยากาศขณะหนึ่งและเปลี่ยนมาเป็นตึงเครียดอีกครั้ง
“คอลลินตายในการรบ กองทหารเขาทั้งหมดถูกกำจัด กองทัพของคอลลินถูกศัตรูลอบทำร้าย กองเรือ..” ชาร์ลส์หยุดสูดหายใจลึก เหมือนกับว่าเขาพยายามจะรวบรวมความกล้า “ทหารทั้งกองทัพถูกทำลาย”
เงียบเป็นป่าช้าเหมือนกับว่าไม่มีคนมีชีวิตอยู่ด้วย
ผู้อาวุโสตะลึง พวกเขาเอามือกุมศีรษะ สีหน้าของพวกเขายังคงชะงักค้าง ตาของพวกเขาเบิกค้างเหมือนกับปลาที่บังเอิญว่ายอยู่ในน้ำร้อน
เป็นเวลาสิบวินาทีทั่วทั้งสถานที่ไม่มีเสียงเลย
“มันคือโชคร้ายนี่คือข่าวล่าสุดที่เราได้รับ” หน้าของชาร์ลส์ยังคงซีดขาว “ศัตรูฟื้นคืนสภาพเรือรังสีกัมปนาทและสร้างเรือรบชั้นสูงสุดที่ทรงพลังมาก นั่นคือวิธีที่กองเรือของโอลิเวอร์พ่ายแพ้ สำหรับกองทัพของคอลลินเรายังไม่ได้รับรายละเอียด ศัตรูตัดการเชื่อมต่อของประตูดวงดาวระหว่างทวีปรกร้างและทวีปทุ่งขาว ดังนั้นไม่มีใครจากกองทัพของคอลลินที่ออกมาได้”
เสียงอุทานนับไม่ถ้วนดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อสถานที่มีเสียงฮือฮาดังขึ้นใจทุกคนมึนชาทันที
“วิหารกวงหมิงตกอยู่ในภาวะวิกฤติที่สุดแล้ว”
ขณะนั้นเองเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลังชาร์ลส์ และหยุดเสียงฮือฮาโกลาหลทันที รัศมีที่สง่างามและศักดิ์สิทธิ์คลุมเต็มสถานที่ทันที เหมือนกับว่ามีเทพชะลอลงมา ร่างที่เหมือนรูปสลักสีทองค่อยๆ เดินออกมา
“ประมุขผู้อาวุโส!”
ผู้อาวุโสทุกคนตื่นจากภวังค์สีหน้าของพวกเขาที่แตกตื่นก็หายไป กลับมีความเคารพนบนอบเข้ามาแทน ทุกคนก้มศีรษะคำนับ
ไม่ว่าประมุขผู้อาวุโสจะผ่านไปที่ใดก็ตามเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็จะไหลลงบนพื้น ตำหนักกวงหมิงจะส่งเสียงครืนๆ ขณะรัศมีพลังงานเริ่มร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ภายใต้พลังงานของเทพ ไม่มีใครสามารถทนได้!
ทุกคนที่เห็นภาพคุกเข่าลงกับพื้นทันทีตลอดทั้งตัวของพวกเขาสั่นสะท้านไม่หยุด ไม่ว่าจะมาจากความตื่นเต้นหรือความกลัวไม่มีใครรู้
เสียงที่เต็มไปด้วยความสง่างามและเฉยเมยดังก้องไปทั้งตำหนักกวงหมิงเหมือนสายฟ้า
“จงไปลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์”