ตอนที่ 880 พญามังกรฟ้าผู้ยิ่งใหญ่
กำไลข้อมืออสูรยังจะต้องศึกษาค้นคว้ากันต่อไป แม้ว่าทิศทางศึกษาจะมาถูกต้อง แต่ก็ยังมีหนทางอีกยาวไกล
แต่ก่อนจะได้ผลสรุปที่ชัดนั้น เย่ว์หยางไม่กล้ารบกวนจักรพรรดิหัวซิ่วรี่อีก
คาดว่าฝ่าบาทคงไม่พิโรธเกินไป
มิฉะนั้นคงไม่ทำแค่ยันเย่ว์หยางจนปลิวออกมาเท่านั้นเป็นแน่
แม้ว่าจะมีพลังจักษุทิพย์ แต่เย่ว์หยางก็รู้ว่า อะไรคือเรื่องไร้สาระ เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นเงาร่างวุ่นวายสับสนภายนอก
เดิมทีเย่ว์หยางต้องการพักอยู่อย่างสงบเสงี่ยมทำการค้นคว้าสักสองสามวันเพื่อให้ได้ผลการค้นคว้าที่ดี แต่อาจารย์จิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามาฉุดลากเขาออกไปข้างนอก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการประชาสัมพันธ์กองกำลังอัศวินมังกร ดังนั้นจะขาดเย่ว์หยางไปได้อย่างไร?
เวลาพลบค่ำในวันต่อมา
“นั่นอะไร?”
“นั่นดูคล้ายเมฆดำ แต่เคลื่อนไหวแปลกมาก”
“นั่นไม่ใช่เมฆดำแน่นอน หรือว่าจะเป็นนก, โอว..พระเจ้า ไม่ ไม่ใช่นก นั่นคือมังกรบินที่ซ่อนอยู่ในท้องฟ้า”
ทหารรับจ้างที่พักอยู่ในจัตุรัสใหญ่นอกหอทงเทียนพบเห็นเมฆดำกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาทีละนิด ในที่สุดก็รู้ว่านั่นเป็นมังกรบินจำนวนหลายพัน มังกรบินแทบทุกสายพันธุ์บินอยู่ในท้องฟ้า แม้ว่าพวกมันไม่มีความคิดจะโจมตี แต่พวกทหารรับจ้างก็หวาดกลัวจนแทบปัสสาวะราดกางเกง มังกรบินที่สามารถฆ่ากลุ่มทหารรับจ้างได้ จะมีสักกี่ตัว? มีมากเกินกว่าจะคำนวณได้ อย่างน้อยก็หมื่นตัว ถ้าพวกมันต้องการโจมตี คาดกันว่าเมืองใหญ่หรือแม้แต่ประเทศก็อาจถูกทำลายได้โดยตรง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ฝูงมังกรบินเกือบหมื่นตัวนี้ มีอยู่หลายร้อยตัวเป็นจ้าวมังกรบินระดับทอง
จ้าวมังกรทองบินเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นอสูรชั้นทองเท่านั้น แต่หลายตัวมีสติปัญญาอย่างต่ำพอๆ กับมนุษย์ มีพลังเทียบเท่ากับนักรบปราณก่อกำเนิด
มังกรบินแถวหน้ามีอัศวินขับขี่อยู่บนหลัง
ไม่ว่าผู้ใหญ่และผู้เยาว์
ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี
เกือบทั้งหมดเป็นนักรบสตรีที่แข็งแกร่ง
พวกหัวหน้าทหารรับจ้างหลายคนจำนักรบสตรีเหล่านี้ได้ว่าพวกนางคือมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ บริวารของคุณชายสาม เป็นสตรีที่แข็งแกร่งทรงพลัง แต่มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
พวกนางทรงพลัง แต่เป็นเหมือนทาสแรงงานที่ไม่ชอบดิ้นรนต่อสู้
อย่างไรก็ตาม พวกนางเพียงแต่จดจำว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นเจ้านายคนหนึ่ง นอกจากคุณชายสามแล้ว ทั่วทั้งหอทงเทียนไม่มีผู้ใดสั่งพวกนางได้.....
นักรบสตรีผู้สวมมงกุฏขับขี่จ้าวมังกรพิษก็คือราชินีซิก
ที่อยู่ไม่ไกลจากราชินีซิก มีบัณฑิตคนหนึ่งอยู่บนหลังมังกรพลาสมา ทหารรับจ้างจำได้ว่าเขาคือสุ่ยตงหลิวผู้อำนวยการสถาบันฉางชุนเฉิง เขาคือปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้เพิ่งจะกลายเป็นเสาหลักของพันธมิตรปราณก่อกำเนิดเมื่อไม่นานนี้ มีบางคนจำได้ว่าเขาเป็นครูของคุณชายสามตระกูลเย่ว์
บัณฑิตสุ่ยตงหลิวผู้นี้แม้ว่าจะไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน แต่เขามีพลังที่ไม่ธรรมดา มีภูมิปัญญากว้างขวางดุจทะเล
ผู้เยาว์ที่โดดเด่นของหอทงเทียนอย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์, เสวี่ยทันหลาง, เหยียนพั่วจวิน, ฟงชิซา, ไห่ต้าฟู่, เย่คง, หลี่ชิว, หลี่เกอ ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นศิษย์ของเขา
“โอว!”
ขณะที่ทหารรับจ้างมองขึ้นมาบนท้องฟ้า กำลังคิดว่าใครคือผู้นำใหญ่ในวันนี้
ที่จุดสูงสุดของท้องฟ้ามีเสียงมังกรตัวหนึ่งคำรามขึ้น
มีจุดสีดำพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
สายลมพัดกระโชก
มีพลังกดอากาศชนิดหนึ่งที่ไม่มีใครแทบทนได้ ทหารรับจ้างในที่นั้นรู้สึกได้ พวกเขารู้สึกว่าหายใจแทบไม่ออก
ปีกมังกรที่สยายกางออกมีขนาดสามสิบเมตร ใหญ่กว่ามังกรบินธรรมดากางปีกต่อกันถึงสามตัว เกล็ดสีทองเป็นประกายสะท้อนจนลืมตาไม่ขึ้น เสียงคำรามดุจฟ้าร้องดังมาจากท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งสร้างความยำเกรงให้กับมังกรบินนับหมื่นตัว มังกรทองยักษ์ปราณฟ้าชั้นแพลตตินัมระดับสิบบินออกมาจากใต้ก้อนเมฆ.... เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่ทวีปมังกรทะยานไม่มีอสูรชั้นจักรพรรดิอย่างนี้ นอกจากมังกรบินเกือบหมื่นตัว ยังมีมังกรทองยักษ์อีกหนึ่งตัวด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้ขับขี่อยู่ด้วย
ทั่วทั้งทวีปมังกรทะยานใครกันเล่าที่สามารถขับขี่มังกรทองอสูรปราณฟ้าได้?
แน่นอนว่าต้องเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ นอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว ใครอื่นจะมีพลังขนาดนั้นได้เล่า? นอกจากคุณชายสาม ใครจะมีคุณสมบัติเช่นนี้
“นั่น นั่น นั่น....”
“มังกรยักษ์ มังกรทองยักษ์จริงๆ!”
พวกทหารรับจ้างและหลายๆ คนส่งเสียงดีใจ แต่ก็กังวลว่าเสียงของตนจะเป็นการไม่แสดงความเคารพต่อเหล่านักสู้
ทันทีที่มังกรระดับปราณฟ้าปรากฏ มังกรบินเกือบหมื่นตัว ก็แยกตัวและจัดขบวนทันที และก้มหัวเพื่อแสดงความคารวะ
มนุษย์มังกรแดนสวรรค์ซึ่งขี่อยู่บนหลังของมังกรบินพากันมองดูเย่ว์หยาง ทุกคนล้วนหลั่งน้ำตา
พญามังกรฟ้า นี่คือจักรพรรดิมังกรฟ้าในใจของพวกนาง
พวกนางชูดาบตะโกนพร้อมกัน
เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งเพื่อแสดงการคารวะต่อเจ้านายและการกลับมาของตำนานนับตั้งแต่เวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคน
จักรพรรดิมังกรฟ้ากลับมาแล้ว!
เดิมทีเขาหายสาบสูญไปกับตำนาน แต่วันนี้เขากลับมาด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เขากลับมาแล้ว!
เสียงตะโกนโห่ร้องของมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ดังผสานพร้อมกับเสียงของมังกรบิน เสียงนั้นดังสนั่นสั่นสะเทือนไปไกลถึงเก้าไมล์ ที่เบื้องล่างอสูรทั้งหลายจะไม่บินต่อหน้ามังกรทองของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ พวกมันจะลงสู่พื้นอัตโนมัติเพื่อแสดงความเคารพยำเกรงสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขามนี้
พวกมันไม่มีศักดิ์ศรีพอจะแสดงความเคารพต่อสุดยอดฝีมือข้างหน้าได้โดยตรง
เพราะจักรพรรดิที่พวกมันเคารพ เป็นแค่เพียงพาหนะของสุดยอดนักสู้ข้างหน้านี้
พวกพ่อค้าและกรรมกรทั่วไปที่อยู่บนภาคพื้นดินต่างหวาดกลัวจนเข่าอ่อน ภายใต้อำนาจมังกรที่น่ากลัว พวกเขาหวาดกลัวเมื่อมังกรเหล่านั้นกวาดตามองมาทางพวกเขา พวกทหารรับจ้าง และทหารอาชีพยังดีกว่าเล็กน้อย พวกเขาคุ้นชินกับการต่อสู้เสียเลือดเนื้อเป็นอย่างดี แม้จะค่อนข้างกลัวแต่ตื่นเต้นมากกว่า ทหารรับจ้างนับไม่ถ้วนอดคุกเข่าลงไม่ได้ แสดงความเคารพต่อบุรุษหนุ่มผู้ยืนอยู่บนหลังมังกรทองปราณฟ้า
แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้?
นี่นักสู้จริงๆ เขาคือนักสู้ที่แท้จริง
ผู้คนแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า มังกรทองส่องประกายระยิบระยับในยามอาทิตย์ใกล้อัสดงค์
บุรุษผู้ไม่มีใครรู้จักนี้มีรัศมีรายล้อม บางทีเขาอาจเป็นเทพเจ้าในตำนาน ไม่, ไม่ใช่อย่างนี้!
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ขับขี่มังกรทองยักษ์อสูรปราณฟ้าเหมือนกับจักรพรรดินำพามังกรบินนับหมื่นมายังหอทงเทียนและตรงมาที่อาณาจักรต้าเซี่ย”
“จักรพรรดิต้าเซี่ยจุนอู๋โหย่วลงไปต้อนรับทุกคนด้วยพระองค์เอง”
“นักสู้สี่ตระกูลใหญ่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ตระกูลใหญ่ร่วมร้อยตระกูลเข้าร่วมยินดี!”
ข่าวด่วนแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในทันใดนั้นแทบทุกเมือง ร้านเหล้าและสถานที่สาธารณะทั้งหมดต่างพูดคุยกันถึงข่าวที่สั่นสะเทือนโลกนี้ ข่าวลือนั้นไม่เป็นเท็จ ไม่ได้พูดเกินจริงจนเกินไปจากประกาศจองสมาคมใหญ่ทั้งสาม สมาคมนักรบ สมาคมทหารรับจ้าง สมาคมขโมย (จารกรรม) ล้วนเป็นข่าวเดียวกันทั้งหมดว่า คุณชายสามตระกูลเย่ว์เตรียมก่อตั้งกองกำลังอัศวินมังกร ไม่จำกัดบุรุษ สตรี ไม่จำกัดสถานะ และอายุ ขอเพียงแต่เพื่อให้ได้พัฒนาศักยภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น
แทบทุกร้านเหล้าล้วนมีคำขวัญประชาสัมพันธ์ของสามสมาคมใหญ่ติดไว้ที่ประตูทางเข้า
มาเข้าร่วมเป็นอัศวินมังกรกันเถอะ ยังจะรอช้าอะไรอยู่อีก?
คนมีฝีมือดีต่อไปอาจเป็นท่านก็ได้!
ท่านอาจไม่รู้ว่าท่านมีศักยภาพมากมายเพียงไหน ท่านอาจไม่รู้ว่าขอบเขตความสำเร็จของพวกท่านจะมีได้ขนาดไหน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบใดที่ท่านพร้อมจะก้าวเท้าออกมา ท่านจะมีชีวิตที่ฝันใฝ่มานาน อย่ามัวลังเลต่อไป ตราบใดที่พวกท่านมีปณิธาน คุณชายสามจะมอบทุกอย่างให้ท่าน
ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่น้อย ตราบใดที่ท่านมีจิตใจที่กร้าวแกร่งตลอดไป อย่างนั้นท่านอาจจะเป็นอัศวินมังกรคนต่อไป หรือเป็นนักรบเลือดมังกรก็ได้!
ถ้าท่านไม่มีความทะเยอทะยาน ทำไมไม่ให้ลูกหลานของท่านลองดูเล่า? อัศวินมังกรคนต่อไปอาจจะเป็นลูกหลานของท่านก็ได้!
พ่อแม่บุพการีย่อมหวังให้ลูกหลานเติบโตประสบความสำเร็จ เส้นทางที่ดีที่สุดอยู่เบื้องหน้าท่านแล้ว!
ลูกๆ ของพวกท่านต้องการโอกาสนี้
……
ที่สาธารณะทุกแห่งมีประกาศโฆษณาเชิญชวนนี้ให้พบเห็น
ต้องบอกว่าถ้าไม่มีใครตื่นเต้น นั่นเป็นเรื่องผิดปกติแน่นอน
ไม่มีใครเคยมองว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ใจกว้างให้ทุกคนทดสอบศักยภาพฟรี แต่ไม่ได้บอกว่าจะมอบเกียรติยศและมังกรบินให้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไม่เคยมีคนที่มอบโอกาสให้กับคนธรรมดาได้ลุกขึ้นยืนหยัดเหมือนกับเขา
ต่อให้ตนเองไม่สามารถเป็นอัศวินมังกรที่ยิ่งใหญ่ แต่ลูกหลานของพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในนั้นได้!
ความจริงการได้เป็นอัศวินมังกรยังไม่อาจเชื่อได้ แต่ใครเล่าจะเห็นใจสามัญชนผู้ดิ้นรนเอาตัวรอดจากระดับล่างได้เล่า? ใครจะให้โอกาสแก่เหล่าทหารรับจ้างผู้มีชีวิตเสี่ยงตายบ้างเล่า? ใครเล่าจะให้โอกาสและดูแลผู้ลี้ภัยผู้รอคอยความตายอยู่ในชุมชนแออัดเล่า? ตั้งแต่เกิด ยกเว้นแต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ใครจะให้โอกาสพลิกผันชะตาชีวิตเล่า? ใครจะทำอย่างนี้ได้?
ไม่มีใครอื่น มีแต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น
มีแต่เขาเท่านั้น...
ทวีปมังกรทะยานไม่เพียงแต่มีบรรยากาศของวิชาการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังมีความต้องการอยู่รอด ความเชื่อในโชคชะตา และอื่นๆ ทั้งหมดปะทุขึ้นเหมือนภูเขาไฟระเบิด
ใครก็ตามที่เดินอยู่บนถนนสามารถเห็นได้ว่าแต่ก่อนนี้มีการสัญจรไปมาอย่างไร้ชีวิตชีวาไม่มีสง่าราศี แต่ตอนนี้ประกายความหวังเปล่งขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของเขา
ท้องพระโรงใหญ่ พระราชวังต้าเซี่ย
“ท่าน จะเอาข้าไปขึ้นเวทีอย่างนี้ ข้าไม่เห็นด้วย ข้าไม่มีเวลาว่างถ้าท่านจะให้ทำอย่างนี้” เย่ว์หยางไม่ได้ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาคิด เขาอึดอัดใจมากเพราะจุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่รู้สึกดีกับประกาศโฆษณาของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและอู๋เหินแล้วเขาคงได้ทุบผู้เฒ่าทั้งสองแน่
“นอกจากช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ในเวลาปกติ เจ้าไม่ต้องออกมาก็ได้ เจ้าสามารถไปจัดการธุระของเจ้าได้” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าปลอบโยนเย่ว์หยางไม่ให้โมโห
“กล่าวกันว่าการเป็นเทพ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือสร้างศรัทธาความเชื่อมั่นให้กับหลายๆ คน” จุนอู๋โหย่วเสริม
“นี่พวกท่านคิดว่าการเลื่อนเป็นระดับเทพง่ายเหมือนกินกะหล่ำปลีอย่างนั้นหรือ?” เย่ว์หยางพูดไม่ออก
“นี่เป็นเรื่องของเวลา!” จุนอู๋โหย่วหัวเราะ เขามีสถานะเป็นพ่อตาเย่ว์หยางไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วย
“เสี่ยวหยาง! ความรู้สึกเช่นนี้มีความหมายมากนะ” เมื่อแม่เฒ่าอู่เถิงช่วยพูด เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเป็นคนที่เคารพให้เกียรติครูบาอาจารย์อย่างแท้จริง และยอมรับฟังการจัดการของพวกท่าน เพราะความหมั่นไส้เย่ว์หยาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเตะจากใต้โต๊ะ เมื่อเย่ว์หยางหันไปมองนาง นางทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันหน้าไปคุยกับเย่ว์ปิง
แต่ด้วยความฉลาดของเย่ว์หยาง เขาคาดเดาความหมายของนางได้ทันที
ดูเหมือนว่าแม่เสือสาวจะมาเยี่ยมข้าตอนกลางคืน อะไรหลายๆ อย่างก็คงพัฒนาในทางที่ดีขึ้น!