ตอนที่ 876 ล้างเท้าแม่ครั้งแรก
สามวันต่อมาเย่ว์หยางไม่พบเห็นจุ้ยมาวอี้เลย
กลับเป็นเด็กหญิงแพนดาหนิวหนิวได้มีเวลาเล่นซุกซนกับหนูน้อยเย่ว์ซวง
ในตอนเย็นเธอกับซวงเอ๋อจะย่องขึ้นไปบนเตียงของเย่ว์หยางและส่งเสียงกรี๊ดใส่เขา เย่ว์หยางมีช่วงเวลาเพลิดเพลินกับชีวิตที่หาได้ยากอยู่สองสามวัน เวลากลางวันเด็กหญิงทั้งสองจะเล่นสนุกกับเขาเป็นครั้งคราว เขาพยายามสอนสิ่งต่างให้เด็กหญิงโดยไม่รู้ตัว บางครั้งเขาก็เข้าครัวช่วยแม่สี่หั่นผัก สับกระดูก แม้ว่าบางครั้งจะดูวุ่นวายจนแม่สี่ไล่ตะเพิดออกมา แต่เขาก็มีความสุขเสมอ
พฤติกรรมที่เกินเลยที่สุดของเขาก็คือเขายกอ่างน้ำใบใหญ่ไปเล่นกับซวงเอ๋อ และบอกซวงเอ๋อว่าเป็นสิ่งที่ลูกกตัญญูพึงทำ ตอนแรกแม่สี่คัดค้าน แต่ในที่สุดก็ต้องยอมตาม
เย่ว์หยางนั่งข้างหนึ่ง เด็กหญิงนั่งข้างหนึ่ง แม่สี่นั่งนิ่งอยู่กับที่ นางยิ้มและคอยเช็ดน้ำตาเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเย่ว์ซวง เธอกำลังเหงื่อตกจนร่างชุ่มไปทั้งตัว เธอพยายามอดทน แม่สี่ปลาบปลื้มจนอดกอดเด็กหญิงหลั่งน้ำตามิได้
จุ้ยมาวอี้แอบมองอย่างมีความสุขอยู่นาน
และค่อยหายไปเงียบๆ
ต่อมาไม่นานเย่ว์ปิงกลับมาพร้อมกับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางไม่รู้ตัวว่าอักขระรูนโบราณเป็นเย่ว์หยางสงวนเอาไว้ให้นาง นางรายงานผลการศึกษาให้พี่ชายนางอย่างตื่นเต้นว่านางได้รับความช่วยเหลือจากพี่สะใภ้ทั้งสองทำให้นางดูดซับพลังอักขระรูนจนบรรลุระดับใหม่ได้ นางรู้สึกว่านางยังด้อยกว่าพี่ชายอยู่แล้วแต่ก็ยังรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย เนื่องจากพี่ชายนางต้องการให้นางดูดซับพลังอักขระรูนโบราณ นางจะได้ไม่ทิ้งห่างจากพี่ชายมากเกินไป การดูดซับพลังอักขระรูนโบราณเป็นสิ่งเดียวที่นางทำได้ในตอนนี้
นี่คือการพัฒนาฝีมือไม่ใช่หรือ?
เย่ว์ปิงคิดอย่างนี้ ถ้านางรู้ว่าอักขระรูนโบราณเป็นเย่ว์หยางสงวนเอาไว้ให้นางโดยเฉพาะ นางคงจะกังวล และเพราะความกังวลว่าน้องสาวจะปฏิเสธไม่ยอมรับป่าโบราณนี้ เย่ว์หยางจึงเก็บไว้เป็นความลับ
“ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติ!” ด้วยทักษะหกรับรู้ทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกสงสัย
“ไม่มีอะไร” เย่ว์หยางเหงื่อซึม
“ไม่ว่าจะผิดปกติยังไงก็ตาม แต่เกี่ยวกับเราหรือเปล่า?” เสวี่ยอู๋เสียยังคงยิ้มเหมือนคาดคั้น ความจริงนางมีคัมภีร์แห่งสัจจะ ตราบเท่าที่นางเห็นเย่ว์หยาง นางก็สามารถรู้ได้บ้างเล็กน้อย นางแค่ประสานเสียงกับแม่เสือสาวเท่านั้น
“ข้าน้อยมิกล้า มิกล้าจริงๆ!” เย่ว์หยางแก้ตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กนี้ไม่เคยทำเสียชื่อเสียง
“แต่ความจริงก็คือความกล้าของเจ้าสูงเทียมฟ้าได้กระมัง!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองเหมือนจับผิด
“พี่สามก็สารภาพมาดีๆ เถอะ” แม้แต่เย่ว์ปิงก็ร่วมซักถามอย่างตื่นเต้น
“ข้าต้องบอกเดี๋ยวนี้ ความจริงข้าเห็นด้วยกับการบังคับแต่งงานของพวกเขา แค่อีกสามเดือนจากนี้ไป เจ้าก็รู้ว่าข้าอยู่คนเดียว ลำพังข้าคนเดียวจะต่อกรกับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ยังไง ข้าได้แต่ยกมือยอมแพ้” เย่ว์หยางทำตัวเหมือนกับว่าการก่อการกบฏไมใช่ความผิดของเขา
“ดูเหมือนว่าคงต้องแสดงความยินดีกับพี่สามแล้ว!” เย่ว์ปิงยินดีกับพี่ชายและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกับเสวี่ยอู๋เสีย
“ไม่รู้ว่าในงานแต่งงามมีขนมหวานแจกบ้างหรือเปล่า?” เด็กหญิงรู้สึกว่าสมเหตุผลเมื่อมีงานแต่งงานก็จะมีขนมหวานให้กินมากขึ้น เธอได้ยินว่าพี่ชายจะแต่งงาน ก็รีบออกมาทันที
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่ต้องรู้ก็ได้” เย่ว์ปิงส่งเสียงดุ
ความจริงเรื่องแต่งงานไม่มีความหมายอยู่ในหัวนางเท่าใดนัก การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในความคิดของเย่ว์ปิงที่พยายามฝึกฝนตนเองอย่างหนักเพื่อให้ฝีมือเข้าใกล้พี่ชายนาง โดยไม่ถูกทิ้งห่างมากเกินไป อย่างไรก็ตามนางรู้ว่าพี่ชายนางจะต้องแต่งงานอย่างเป็นทางการกับพี่สะใภ้หลายๆ คน...แล้วนั่นจะมีอะไรต่างกัน? ตอนนี้พี่สะใภ้กับพี่ชายนางก็อยู่ด้วยกัน ฝึกฝนด้วยกันอยู่แล้ว! เย่ว์ปิงไม่คิดอะไรมากเกินไป นางคิดว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่จัดการ และนั่นคงเป็นเรื่องที่ดีต่อพี่ชายนางด้วยเช่นกัน!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียได้รับข่าวแล้ว นางเคยได้ยินข่าวลือมาก่อนแล้ว แต่ก็ยังอดหน้าแดงมิได้ เสวี่ยอู๋เสียตั้งหลักได้เร็วกว่าเล็กน้อย นางพยักหน้ารับทราบอย่างสงบ
เป็นแม่เสือสาวองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่คิดว่าต้องเป็นเย่ว์หยางที่เร่งรัดเรื่องนี้แน่ เขาไม่ถามความยินยอมจากนาง นางยังไม่ทันจะเตรียมตัวบอกคนทั่วไป นางเงื้อหมัดและทุบเขาโดยไม่ยอมให้เขาแก้ตัว “ใครสัญญาว่าจะแต่งกับเจ้า?”
เย่ว์หยางจับหมัดนางไว้และจูบนาง “แม่เสือสาว นี่เจ้าจะเบี้ยวกันเหรอ?”
คราวนี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหน้าแดงจนถึงคอ นางจ้องมองเขาทันที “เด็กๆ, มองอะไร, ไปได้แล้ว!”
เย่ว์ปิงได้ยินคำพูดของนาง นางทำสีหน้าท่าทางเหมือนกับว่าไม่เห็นอะไร
เด็กหญิงไม่ให้ความร่วมมือกับนาง เธอปิดตาแต่แอบมองลอดง่ามนิ้วมือ แล้วหัวเราะ “ข้าเห็นแล้ว พี่สามอยากจะจูบพี่เชี่ยนเชี่ยน ข้าเห็นนะ ข้าจะไปฟ้องท่านแม่!”
เย่ว์ปิงไม่รอให้ซวงเอ๋อ นางส่งเสียงดุและอุ้มเธอ และฝืนยิ้มแห้งๆ “เด็กน้อยจอมก่อกวนจริงๆ พี่สามจูบที่ไหนกัน พูดเพ้อเจ้อ ข้าเอาผลไม้แห้งมาด้วย เจ้าไม่เอาใช่ไหม! งั้นข้าจะยกให้หนิวหนิวทั้งหมด!”
“ข้าเอา ข้าจะเอา อย่าให้หนิวหนิวหมดนะ.. โอว.. พี่สาวคนดีที่หนึ่ง!” เย่ว์ซวงพอได้ยินเช่นนี้ก็พูดประจบพี่สาวตนเองทันที
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพอถูกเย่ว์หยางจูบ นางค้อนใส่เขา นักดาบหญิงผู้กล้าหาญหน้าแดงกึ่งอายกึ่งโกรธยิ่งเพิ่มพูนเสน่ห์เหมือนสาวน้อยผู้น่ารัก เย่ว์หยางอธิบายไม่ถูกว่าทำไมแม่เสือสาวผู้ดุร้ายไม่เคยน่ารักอย่างนี้มาก่อน เขาอดหัวเราะไม่ได้ จนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทนไม่ไหวกัดเขาอย่างดุดัน
เสวี่ยอู๋เสียยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างเย่ว์หยาง นางมองชายคนรักเงียบๆ นางไม่จำเป็นต้องเริ่มก่อน แค่รอเล็กน้อยเขาก็กลับมาจูบนางอย่างนุ่มนวล ไม่สำคัญว่าหญิงสาวที่ปรากฏต่อหน้าเขาจะมีกี่คน หากอยู่ไม่ห่างจากเขาสตรีผู้นั้นจะรอเขาเงียบๆ เพราะเป็นโชคชะตา เพราะตรงจุดนี้เองนางไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเสมอไป แต่จะมีที่ให้นางได้ยืนเคียงข้างเสมอ เหมือนกับว่าในหัวใจเขาไม่เคยพรากห่างจากนางเลย
เย่ว์หยางโน้มหน้าเข้าไปหานางและสัมผัสริมฝีปากนาง ความคิดของทั้งสองแลกเปลี่ยนผ่านจุมพิตที่นุ่มนวลนี้
“น่าอิจฉาจริง ทีกับอู๋เสียเจ้าอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เห็นเหมือนกับข้าเลย!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม้ว่านางจะรู้สึกว่าวิธีจูบของเย่ว์หยางก็เหมาะสมกับนางแล้ว พอเห็นเจ้าเด็กนี่ทำกับเสวี่ยอู๋เสียไม่เหมือนกันนางกลับไม่ยอมแพ้
“มานี่เถอะ, แม่เสือสาว เดี๋ยวข้าจะชดเชยให้เป็นอย่างดี!”
“ใครจะต้องกันเล่า!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบเจ้าเด็กร้ายกาจดังตุ้บ
จุ้ยมาวอี้แอบมองอยู่ในมุมมืด ทักษะหกรับรู้และสำนึกเทพของเสวี่ยอู๋เสียที่กว้างไม่สิ้นสุดสังเกตได้ แต่นางไม่เปิดเผยออกมา ทุกคนมีความลับของตนเองไม่ใช่หรือ?
ในเวลาเย็นเย่ว์หยางพาน้องสาวถืออ่างน้ำไปล้างเท้าแม่สี่ เย่ว์ปิงตาแดง นางโตแล้วแต่ยังไม่เคยล้างเท้ามารดาเลย! นางอยู่ตรงกลางระหว่างเย่ว์หยางกับเย่ว์ซวง ขณะล้างเท้ามารดาทั้งน้ำตา ใบหน้าสีชมพูของนางมีน้ำตานองหน้า
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียก็อดตะลึงไม่ได้
หลังจากเวลาผ่านไป
เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกตัว นางพยักหน้าให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและค่อยๆ นั่งราบกับพื้นรับผ้าเช็ดตัวจากมือเย่ว์หยางและค่อยๆ เช็ดเท้าแม่สี่
แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังลังเล รอจนกระทั่งแม่สี่สะอื้นโอบกอดซวงเอ๋อและมองเย่ว์หยางจากนั้นพยักหน้าให้ เขาค่อยๆ นั่งคุกเข่าเข้าไปแทนที่ซวงเอ๋อ.. เย่ว์ปิงร้องไห้น้ำตานอง การเคลื่อนไหวของนางงุ่มง่าม แต่ว่านุ่มนวล นางกลัวว่ามารยาทตัวเองจะดูกระโดกกระเดก
จุ้ยมาวอี้ที่แอบอยู่ที่มุมลอบเช็ดน้ำตา ไม่มีเสียง แต่นางหลั่งน้ำตาไปแล้ว
วันที่สององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียอำลาเย่ว์หยาง
“ข้าต้องกลับไปก่อน อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้คิดอะไร ก็แค่กลับไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่า!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ความจริงหลังจากที่นางได้พบกับเย่ว์หยาง ความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างนางกับจักรพรรดิจุนอู๋โหย่วห่างเหินมากขึ้น นางไม่อยากยกโทษให้บิดานาง แต่นางบอกเย่ว์หยางและคนอื่นๆ ว่านางไม่ใช่เจ้าหญิงผู้เจ้าอารมณ์อีกต่อไป ที่สำคัญหลังจากสู้ศึกใหญ่มาต่อเนื่องทำให้นางตระหนักว่าถ้านางไม่ดีต่อบิดานางในตอนนี้ ถ้ามีสงครามใหญ่เกิดขึ้นอีกและพระบิดาของนางอาจจากไปไกล นางจึงไม่ลังเลอีกต่อไป นางต้องการทำหน้าที่บุตรกตัญญูก่อนจะสายเกินไป
“จะไม่ให้ข้ากลับไปพร้อมกับเจ้าจริงๆ หรือ?” เย่ว์หยางมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและถามเสวี่ยอู๋เสีย
“ครั้งต่อไปก็ได้ วันนี้แม้แต่เราก็ไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตปกตินานแล้ว แค่อยู่ที่บ้านสักวันสองวันพอให้หายคิดถึงบ้าน” เสวี่ยอู๋เสียกอดเย่ว์หยางและกระซิบข้างหูเขา “แล้วข้าจะกลับมาสอบสวนต่อทีหลังและอย่าหวังว่าจะปกปิดความจริงอย่างเมื่อวานนี้อีก”
“ไม่ ไม่ต้องมาแต๊ะอั๋งข้า!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตั้งท่าสู้ แต่เย่ว์หยางยังกอดนางอยู่ดี เย่ว์ปิงและซวงเอ๋อไม่ได้มองโดยตรง พวกนางเอามือปิดตามองผ่านระหว่างนิ้วมือ นี่ทำให้นางรู้สึกอาย นี่ไม่รู้จักสั่งสอนกันบ้างเลย เด็กร้ายกาจ
“องค์หญิงที่รัก, ธรรมเนียมฝ่ายข้าเป็นอย่างนี้เอง เมื่อพบหน้าต้องกอดและจูบครั้งหนึ่ง!” เย่ว์หยางอ้างธรรมเนียมประเพณี
“แล้วทำไมเจ้าไม่กอดเจ้าอ้วนไห่?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบเขา
“จะบ้าเหรอ? ธรรมเนียมนี้จำกัดเฉพาะสาวงามเท่านั้น!” เย่ว์หยางพูดเย็นชา
“นี่เจ้าไปเอาธรรมเนียมแบบนี้มาจากไหน?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดไม่ออก
“เขาอุปโลกน์ขึ้นเอง!” เสวี่ยอู๋เสียรู้จักเย่ว์หยางดีที่สุด
“อย่างนั้นข้าจะอุปโลกน์เพิ่มอีกข้อ... ใครก็ตามที่เห็นธรรมเนียมแบบนี้ในอนาคตอีก อย่างนั้นต้องมาสู้กัน!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องการตะโกนใส่เย่ว์หยางผู้ไม่รู้จักกาลเทศะ ครั้งนี้เย่ว์หยางระวังตัวรวบทั้งแขนและตัวจูบนาง
ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพยายามใช้ปากกัดเขา เขาคงไม่ยอมรามือ
“เด็กๆ ห้ามมอง” เย่ว์ปิงมองตาเย่ว์ซวงและยิ้ม
“จูบนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ข้าจะจูบพี่สามทุกวันเลย!” เย่ว์ซวงพูดแบบนั้นเธอแบะปากล้อเลียน เธอปีนตัวเย่ว์หยางและตะโกนดังมากกว่าปกติ ทำให้ทุกคนหัวเราะ
ที่มุมห้องมีเงาสายหนึ่งแว่บผ่านไป
เสียงแว่วหัวเราะทำให้นางอดยิ้มไม่ได้
เย่ว์หยางเมื่อตอนเป็นเด็ก หลายครั้งเมื่อมีโอกาสเขาจะล้างเท้าให้มารดา!-!