ตอนที่แล้วตอนที่ 876 เรือขยะรังสีกัมปนาท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 878 เรือรบไร้เทียมทาน

ตอนที่ 877 กลัวและอ่อนแอ


ภายในเรือรบรังสีกัมปนาท

ทุกคนกลั้นลมหายใจดวงตาลุกโพลงราวกับว่าพวกเขากำลังมองเห็นศัตรูที่ทรงพลัง พวกเขามีประสบการณ์ในการสู้รบมามากมายทุกคน  แต่ขณะนั้นเอง กลับมีอาการกระวนกระวายที่ยากจะเห็นได้  ในอดีตการสู้รบจะทำในลักษณะที่พวกเขาคุ้นเคยซึ่งแม้แต่ในแดนบาป กลยุทธที่ไม่คุ้นเคยหลายอย่างก็ยังอยู่ในความเข้าใจของพวกเขา  แต่การรบแบบยุทธนาวีแตกต่างจากวิธีที่พวกเขาเคยสู้รบ เป็นการสู้รบในวิถีแบบใหม่

ทุกคนฝึกกันอย่างขมขื่นและละเอียดลออ  แต่ก็ยังไม่สามารถลบรอยกังวลในหัวใจของทุกคนได้

ต้องทราบไว้ก่อนว่าเรือรบที่ใหญ่โตอย่างน่าทึ่งนี้เป็นชิ้นส่วนวัสดุที่รวมรวมมาจากกองขยะ  แม้ว่าจะได้รับการตกแต่งสร้างใหม่  แต่มันจะทรงพลังได้ยังไง  แม้แต่เซรีนก็ยังไม่กล้ารับรองอะไรทั้งนั้น

เนี่ยชิวรู้ว่าทุกกองทัพของพวกเขา ทุกชัยชนะของพวกเขาสามารถส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมอย่างมาก  พวกเขาอยู่ในดินแดนศัตรู  และถ้าพวกเขาประมาทไปแม้แต่น้อยอาจหมายถึงการถูกกำจัด แต่ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะศึกได้ กำลังคนของศัตรูจะลดลงต่อเนื่องอีก และความตึงเครียดของกองทัพที่มีอยู่แต่ก่อน  ก็จะหนักมากขึ้นกว่าเดิม

เขาไม่รู้แผนเต็มของถังเทียน แต่เขาสามารถเห็นได้ว่าแผนการของเจ้านายสำคัญมาก เขาไม่หวังว่าแผนของเจ้านายจะล้มเหลวเพราะความล้มเหลวของหน่วยสุญญตา  นั่นคือสิ่งที่เขาไม่มีทางยอมรับได้

เพราะเขาไม่มีโอกาสอะไร เนี่ยชิวจึงออกจากกลุ่มดาวราชสีห์เข้าร่วมใต้ร่มธงของถังเทียน  ถังเทียนเองไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อเขา  แต่กลับเชื่อใจเขาอย่างมาก  ซึ่งเขาก็รู้ว่าไม่ง่ายที่จะทำเช่นนั้น  ทหารจะตายเพื่อผู้ยกย่องเขา  นั่นไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่า

เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดเรื่องนั้น  แต่หน่วยสุญญตาทุกคนก็คิดเหมือนกัน

กำลังหลักของหน่วยสุญญตามาจากเผ่าหมาป่าที่อุทิศตนและมีความพจงรักภักดีต่อถังเทียน  พร้อมๆ กับอาโมรี่ หานปิงหนิง ฯลฯทุกคนเป็นสหายของถังเทียนตั้งแต่อายุน้อย พวกเขาทุกคนรู้ชัดเจนว่าศัตรูแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน

นอกจากชนะ พวกเขาไม่มีทางอื่นให้เลือก

เป็นแรงกดดันที่มองไม่เห็น

ภายใต้การนำของจงหลีไป๋  กองทัพสัตว์ประหลาดสู้รบต่อเนื่องอย่างสวยงามทำให้หน่วยสุญญตามีแรงกดดันเช่นกัน  ตอนแรกเมื่อหน่วยสุญญตาเฉิดฉายอยู่ในสมรภูมิกองทัพสัตว์ประหลาดยังคงเป็นกลุ่มโจร!

โดยไม่คำนึงถึงอะไร พวกเขาไม่อาจถูกครอบงำโดยผลงานของกองพลสัตว์ประหลาดได้

นี่คือพลังแห่งการแข่งขัน

ขณะนั้นสมาชิกหน่วยสุญญตาภายในเรือเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ตื่นเต้น กังวลเป็นอารมณ์ที่แตกต่างหลากหลาย แต่การฝึกฝนอย่างรุนแรงทำให้พวกเขายังคงรักษาความมั่นคงได้  พวกเขามองดูเรือรบของศัตรูใกล้เข้ามาทุกที  ขณะที่ภายในเรือรบรังสีกัมปนาทไม่มีเสียงแม้แต่น้อย นับว่าเงียบมาก

เหมือนกับความสงบก่อนเกิดพายุ!

ภายในความเงียบงันตาของเนี่ยชิวเป็นประกายรัศมี ขณะที่เขาพูดเสียงดัง  “เตรียมตัวรบ!”

วืด..สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนยืดหลังตรงพร้อมกัน ตาของพวกเขาเป็นประกายแสงแวววาว เหมือนพยัคฆ์ร้ายกำลังจะออกจากถ้ำ รังสีฆ่าฟันทะลักออกมาจากตัวเรือทันที

“โจมตี!”

คำสั่งของเนี่ยชิวเป็นการเปิดฉากการสู้รบ

ทุกคนที่ประจำตำแหน่งรบเปล่งรัศมีสว่างเหมือนปลาวาฬยักษ์ที่ดำน้ำลึก ตัวเรือรบรังสีกัมปนาทสว่างเป็นจุดแสงหลายจุดทันที  เรือโบราณนี้หลับใหลมาสองสามศตวรรษดูเหมือนจะตื่นขึ้นและอวดเขี้ยวเล็บต่อชาวโลกอีกครั้ง

โดยไม่มีคำเตือนกลุ่มแสงพร่างพรายข้างหน้ากองทัพของโอลิเวอร์สว่างวาบทันที

กลุ่มแสงครอบคลุมทุกซอกมุมสายตาของพวกเขา  แสงสว่างเจิดจ้าทำให้ทุกคนถึงกับตาพร่า

รังสีฆ่าฟันแผ่กระจาย

ผู้บังคับการเรือกลืนเมฆคำรามลั่นเมื่อเขารู้สึกได้“ศัตรู...”

ก่อนที่เขาจะเปล่งคำว่า “..ลอบโจมตี” ออกมาเสียงของเขาก็ถูกแสงกลืนไปด้วย เหมือนกับว่าเรือรบกลืนเมฆกระทบกับยอดเขาทั่วทั้งตัวเรือสั่นสะเทือน พลังรุนแรงทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าชนกับฝูงสัตว์ร้ายจนสูญเสียสมดุลและบินออกทันที

ปัง!

ความเจ็บปวดรุนแรงมาจากด้านหลังของเขา  เขาไม่สามารถขยับเอวได้  เขาไม่รู้ว่าหน้าผากของเขากระแทกกับอะไร  แต่บางอย่างดูเหมือนจะหยดไหลออกมา

‘น่าจะเป็นเลือด’

แต่ขณะนั้น เขาไม่อาจสนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองได้ ความกลัวมากมายท่วมทะลักใจของเขา

‘เรือรบชั้นสูงสุด!’

ชื่อนั้นวาบขึ้นมาในใจของเขาเหมือนสายฟ้าทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว  ‘ใช่แล้ว เรือรบชั้นสูงสุด, เรือรบชั้นสูงสุดแน่นอน’  ในชีวิตสิบหกปีที่เป็นผู้บังคับการเรือ  เขาไม่เคยเข้าใจผิด พลังทำลายล้างที่น่ากลัวมีแต่จะสร้างขึ้นมาจากเรือรบชั้นสูงสุดเท่านั้น

‘นี่คือเรือรบชั้นสูงสุดจริงๆ!’

เขารู้ว่าการตัดสินของเขาถูกต้อง  แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของเขาแตกต่างไปจากเดิม  ในการเผชิญหน้ากับเรือรบชั้นสูงสุด  เรือกลืนเมฆเป็นเรือรบขนาดกลางไม่มีความสามารถต้านทานได้ ทั้งสองฝ่ายมีระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นพลังรับหรือรุก เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนแกะที่อยู่ต่อหน้าพยัคฆ์  เขาไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง  และไม่รู้ว่าเขาควรจะหนียังไง เหมือนกับว่าเขาเห็นฟันแหลมคมที่มีน้ำลายหกปนเลือดออกมา ความกลัวครอบงำเขาจนทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านยิ่งขึ้น

การเยาะเย้ยและการล้อเลียนทั้งหมดก่อนหน้านั้นเมื่อเผชิญกับพลังยิงที่น่ากลัวก็เท่ากับล้อเล่นกับพระยามัจจุราชชัดๆ

การระเบิดอย่างรุนแรงดังอึกทึกต่อเนื่องทั้งมีความเข้มข้น ทำให้รู้สึกเหมือนโดนกระแทกหนักหน่วงจากกระแสลมกระชากรุนแรง ตัวเรือเป็นเหมือนกระสอบทรายสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ไฟลุกโชติช่วงรุนแรงเหมือนกับดอกไม้แห่งความตาย

อย่างไรก็ตามระเบิดไม่สามารถเทียบได้จากการโจมตีของศัตรู ขณะที่ผู้บังคับการเรือของเรือกลืนเมฆเริ่มฟื้นทัศนวิสัยขึ้นมาบ้าง

เมื่อเขาเห็นภาพที่อยู่ต่อหน้า  เขามีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังตกนรกเขาตะลึงทันที

หัวเรือกลืนเมฆหายไปทั้งหมดไม่เหลือและพายุทำให้เกิดกระแสย้อนกลับ ทำให้เปลวเพลิงที่ด้านหลังของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้นเสียงแตกหักดังขึ้นทุกทีเหมือนกับจะเร่งเพลิงให้แรงขึ้น  ภายในเพลิงได้ยินเสียงแผดเสียงร้องโหยหวน และทหารจำนวนมากโดดลงจากเรือรบไม้กระดานที่มอดไหม้เต็มไปด้วยเลือด เรือที่มั่นคงมองเห็นแต่รอยแตกหักทำให้ทั่วทั้งเรือดูเป็นสภาพที่น่ากลัว ข้างหน้าเขาว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง เรือหักทำลายและเขาอยู่ในกลางอากาศ

แค่โจมตีครั้งเดียวแต่เรือกลืนเมฆถูกตัดเป็นสองท่อนทันทีและสูญเสียความสามารถในการต่อสู้

‘นี่คือพลังของเรือรบชั้นสูงสุดหรือ?’

เขาก้าวเดินไปได้สองสามก้าวมาถึงไม้กระดานและมองดูสมรภูมิจากรูโหว่

สิ่งที่เขาเห็นก็คือลำแสงหนายิงตรงใส่เรือแสงเหนือและทำลายได้ทันที  สองวินาทีต่อมาเพลิงไม้รุนแรงจากภายในเรือรบ  เพลิงน้ำเงินยิงออกมาจากหน้าต่างทั้งสองด้านและพวยพุ่งออกมาจากช่องเปิดที่ลำแสงยิงเข้าไป

ผู้บังคับการเรือกลืนเมฆชะงักค้างอยู่กับที่

เขารู้ว่าเพลิงน้ำเงินน่ากลัวมากเหมือนกับสร้างขึ้นจากระเบิดหินดวงดาวที่สะสมอยู่ในเรือรบ  อุณหภูมิของมันสูงมากและไม่มีใครสามารถทนความร้อนสูงได้ เมื่อเพลิงน้ำเงินนั้นปรากฏ ก็หมายความว่าเรือรบจบสิ้นกัน และที่น่ากลัวยิ่งกว่า  ไม่มีใครหลบหนีได้

‘ใช่แล้วเรือกลืนเมฆก็ไม่ต่างจากเรือรบแสงเหนือ’

‘ข้ายังหลบทันไหม?’ ผู้บังคับการเรือหัวเราะอย่างสุดฝืน หน้าของเขาที่มีเขม่าปกคลุมเต็มไปด้วยแววสิ้นหวัง

ด้านหลังเรือรบเคิร์ทและกั๊ตหน้าซีดขาวพวกเขาตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“เรือรบชั้นสูงสุด...”  เคิร์ทพึมพำ เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

เรือรบสุดอัปลักษณ์คือเรือรบชั้นสูงสุดจริงๆ!

แต่กั๊ตที่อยู่ข้างเขาเอามือกุมศีรษะเขาแทบไม่อาจเชื่อสายตาตนเองได้ แต่ลูกเพลิงขนาดใหญ่ทั้งสองลูกเตือนพวกเขาให้รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น

ก่อนหน้าความรุนแรงของพลังโจมตีที่เรือขยะเริ่มก่อนเป็นที่แน่นอนว่าคือเรือรบชั้นสูงสุด!

กั๊ตสูดหายใจหนาวเหน็บสั่นไปทั้งตัวขณะที่เขาข่มความกลัวในตัวเอง เขาสงบอารมณ์ตนเองและกล่าว “ดูเหมือนว่าเราพบกับความยุ่งยากเสียแล้ว”

มีความเงียบที่แปลกชั่วคราวอยู่ในเรือรบ

การเยาะเย้ยทั้งหมดที่ทำต่อเรือขยะทำให้เคิร์ทรู้สึกโง่และอับอาย เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาต้องกลายเป็นคนโง่ ความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงทำให้เขายอมรับมันชัดเจนขึ้น

ทันใดนั้นกั๊ตตบไหล่ของเขา ทำให้เขาเงยหน้าขณะที่รู้สึกสูญเสีย

กั๊ตพูดเสียงดัง  “อย่าลังเล!  ไม่สำคัญว่าเรือรบชั้นสูงสุดจะทรงพลังขนาดไหน  พวกเขามีเรืออยู่ลำเดียว!  เรายังมีโอกาส!”

เสียงของกั๊ตดังมาก  ทำให้ทั่วทั้งกองเรือรบได้ยินเขา

เคิร์ทสะท้าน เขาเรียกความรู้สึกกลับมาได้ทันที และตำหนิตนเอง  ‘ข้าทำอะไรอยู่? ข้าจะสูญเสียกำลังใจที่ข้ามีได้ยังไง?’  เขามองดูกั๊ตด้วยความรู้สึกขอบคุณและพูดเสียงดังเช่นกัน  “ถูกแล้วไม่ว่าพวกเขาจะทรงพลังเพียงไหน พวกเขาก็มีเรือเพียงลำเดียว เรามีเรืออยู่มากมายหลายลำ  ตราบใดที่ทุกคนทุ่มเทกำลัง  เราจะชนะแน่นอน!”

นี่ทำให้ดวงตาของทหารหลายคนเปลี่ยนเป็นสว่างสดใส

พวกเขาตกตะลึงกับพลังโจมตีที่น่ากลัวจากเรือรบชั้นสูงสุด  แต่สองขุนพลกระตุ้นให้พวกเขากระหายชัยชนะ  ‘ใช่แล้วแม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่ง  แต่เรามีจำนวนมาก’

เมื่อขจัดสภาวะผิดหวังได้แล้วความคิดของเคิร์ทเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว “การโจมตีของศัตรูทรงพลังมาก  เราควรจะแบ่งกำลังของเราและกระจายอำนาจในการยิงของศัตรู  เรือรบศัตรูไม่มีม่านพลังงาน  การป้องกันไม่ควรจะเข้มแข็งนักนั่นจะเป็นโอกาสของเรา”

ทหารอีกหลายคนพยักหน้า ม่านพลังงานไม่เหมือนอาวุธเรือรบที่สามารถติดตั้งได้ตามใจต้องการ  สำหรับเรือรบลำหนึ่งวิทยาการป้องกันจะสูงมากกว่าพลังรบ ม่านพลังงานของเรือรบลำหนึ่งไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยลูกเรือ  แต่กระตุ้นโดยลำเรือ

ที่อยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา เรือรบรังสีกัมปนาทเกินกว่าที่พวกเขาจะยอมรับได้  มันถูกเปลี่ยนจนดูยุ่งเหยิงไปหมด  ลำเรือเสียหายอย่างมาก  และม่านพลังงานก็ไม่สามารถใช้ได้ นี่คือเหตุผลที่หลังจากจอดนิ่งที่สุสานเรือรบมาเป็นเวลาหลายปีจึงไม่มีใครตั้งใจจะเอาเรือรบรังสีกัมปนาทมาใช้

เมื่อมันถูกตกแต่งสร้างใหม่ ม่านพลังงานดั้งเดิมก็ต้องถูกทำลาย และเพราะเรือรบรังสีกัมปนาทซึ่งตัวลำเรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะนำมาตกแต่งสร้างใหม่

พวกเขามีเรือรบที่ไม่มีม่านพลังป้องกัน แม้ว่าพวกเขาจะมีหลายร้อยวิธีเพื่อสร้างรอบลำเรือ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างม่านพลังป้องกันได้สมบูรณ์แบบ

สำหรับเรือรบลำใดๆม่านพลังป้องกันสำคัญมากกว่าอาวุธเรือรบเสียอีก เรือรบที่ไม่มีม่านพลังป้องกัน โอกาสรอดเป็นศูนย์ และไม่มีประโยชน์ใดๆ ในทางปฏิบัติ

ถุงขยะที่ห้อยอยู่รอบลำเรือแกว่งไกวอยู่ในอากาศ  แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ภายใน แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าของที่ห้อยอย่างนุ่มนวลนอกเรือนั้นจะมีความสามารถในการป้องกันเรือ

“เมื่อเราแยกกัน เราจะเดินหน้าทั้งหมดใช้ความเร็วเต็มที่เข้าหาศัตรูจากทิศทางของเรา ตราบใดที่หนึ่งในเรือรบสมารถเข้าไปในแนวยิงได้  พวกเขาจะจบสิ้นกัน!”

เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้าย เคิร์ทใช้หมัดทุบสีหน้าของเขาน่ากลัว

ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น  หน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน  กั๊ตรู้สึกเลือดลมเดือดพล่านความตั้งใจต่อสู้ลุกฮืออยู่ในใจ เขาชูแขนตะโกนลั่น “ฆ่าพวกมันให้หมด!”

ทุกคนตะโกนพร้อมกัน  “ฆ่าพวกมันให้หมด!”

ตาของเคิร์ทเป็นประกายเยือกเย็น  ‘การต่อสู้เพิ่งเริ่ม!’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด