ตอนที่แล้วตอนที่ 874 การสู้รบในทวีปรกร้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 876 เรือขยะรังสีกัมปนาท

ตอนที่ 875 ไม้ตายของกองทัพแดนบาป


‘...กองทัพ!’

คอลลินเกือบคิดว่าเขาตาฝาด  ‘กองทัพ,แดนบาปมีกองทัพ!’ แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับรูปแบบกระบวนศึกของพวกเขา แต่เขาไม่เคยเห็นรูปขบวนที่ยุ่งเหยิงมาก่อน  แต่คอลลินมั่นใจเต็มร้อยว่านั่นคือกองทัพ  กองทัพจริงๆ!

‘แดนบาปมีกองทัพ!’

หัวใจของเขากระตุกวูบ  เขารู้ว่าเขาผิดพลาด, วิหารผิดพลาด,ทุกคนผิดพลาด!

ในข้อมูลทั้งหมดที่เขาติดต่อได้มาวิธีการต่อสู้ของแดนบาปคือคนเดียวยกระดับพลัง แดนบาปรู้แต่วิธีสู้รบของส่วนบุคคลและไม่มีกองทัพในข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ นี่เป็นการวิเคราะห์ไว้อย่างละเอียด

คอลลินเชื่อในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เขาไม่เคยคิดว่าวิหารกวงหมิงจะทำข้อผิดพลาดเช่นนั้นในเรื่องสำคัญขนาดนี้

แต่เห็นได้ชัดว่าวิหารกวงหมิงผิดถนัด  ‘แดนบาปผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปแล้วโดยที่วิหารกวงหมิงไม่รู้เรื่อง’

‘เดินหมากผิดไปหนึ่งตาก็ล่มสลายทั้งกระดานได้’

การวางแผนทั้งหมดของเขามีโครงร่างเพื่อต่อต้านการสนับสนุนเส้นทางต่อสู้ของแดนบาป  และในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเขาทำผิดไปมาก  แทบจะทันที คอลลินเข้าใจจุดสำคัญของศัตรูสองสามจุด

‘พวกเขาฉลาดมากกว่าที่ข้าคิดไว้’

‘ที่เรียกว่าป้อมปราการเป็นเหมือนฝาครอบไม้ตายที่แท้จริงของแดนบาปก็คือกองทัพของพวกเขา!  พวกเขาเจ้าเล่ห์มาก ที่ส่งหน่วยสอดแนมจำนวนมากมาในตอนแรกเริ่มเพื่อฆ่าหน่วยสอดแนมของข้า’  หน่วยสอดแนมแดนบาปที่คอลลินคุ้นเคยอยู่นานทำให้เขาสั่น

คอลลินคาดได้อย่างรวดเร็ว  “ดูสิ” พวกหน่วยสอดแนม พวกเขาทั้งหมดมีพลังส่วนตัวแข็งแกร่ง แต่ขาดระบบรวมตัว พวกเขาไม่มีกระบวนรบใดๆ และด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาล คอลลินเพียงแต่ต้องรักษารูปกระบวนทัพไว้ให้สำเร็จเพื่อป้องกันหน่วยสอดแนมโดยปลุกเร้าทหารไว้ และคงไม่มีอะไรต้องกลัว

‘แต่งานทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ศัตรูต้องการให้ข้าเห็น’

‘และมีป้อมอยู่ตรงนั้น!’

ป้อมปราการทำให้เป้าหมายสมบูรณ์แบบ  ตราบใดที่เขายึดป้อมได้  เขาสามารถคลี่คลายการสู้รบได้ นี่คือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดที่จัดเตรียมไว้เพื่อเขา  มันสมบูรณ์แบบมากจนคอลลินไม่อาจปฏิเสธได้  เวลา สิ่งที่ขาดมากที่สุดก็คือเวลา  สิ่งที่วิหารกวงหมิงขาดมากที่สุดก็คือเวลา

ดังนั้นคอลลินจึงนำอาวุธเรือรบมาด้วยสองสามชนิด  และวางแผนล้อมป้อม  แต่โดยไม่รู้ตัวพวกเขาเล่นอยู่ในเงื้อมมือศัตรูไปแล้ว

กับดักเป็นชุดเพิ่งจะเปิดเผยอาวุธที่ทรงพลังมากที่สุด

และอาวุธที่รุนแรงมากที่สุด ก็คือกองทัพแดนบาป

ความคิดของคอลลินถูกจัดระเบียบอย่างหนัก  และเขารู้ว่าเขาแพ้แล้ว

‘แม้ว่าไม้ตายสุดท้ายของเขาถูกคิดเอาไว้อย่างรอบคอบ ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางหน่วยสอดแนมที่กระจัดกระจายและบ้าคลั่งก็คือโอกาสที่พวกเขาจะโจมตี’

‘ทรงพลังอย่างแท้จริง!’

‘รังสีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเข้ามาในสายตาของคอลลิน’

สมรภูมิที่รุนแรงสงบลงทันที แรงกดดันที่ที่ไม่อาจอธิบายได้ครอบคลุมไปทั่วสถานที่ แม้แต่พลังงานที่ใช้งานสำหรับตั้งกระบวนรบก็ซบเซาลง  จนถึงขนาดที่หดตัวลง

กองทัพแดนบาปเข้าสู่สภาพพร้อมรบอย่างสมบูรณ์

เมื่อตู้เค่อสร้างกองทัพแดนบาป เขาได้รวมกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดและมีพรสวรรค์ทุกคนจากแดนบาป ซึ่งแม้แต่กองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียนก็ยังไม่อาจเทียบกับกองพลแดนบาปของตู้เค่อได้ในแง่คุณภาพของคน อาจกล่าวได้ว่ากองทัพของตู้เค่อประกอบไปด้วยนักสู้ฝีมือดีทั่วทั้งแดนบาป

พวกเขาทุกคนภูมิใจจนดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น แต่พอถูกกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียนข่มไว้ได้  กองพลเกราะเทพเจ้าประกอบไปด้วยกำลังพล 200 คนสามารถครอบงำพวกเขาในแง่พลังต่อสู้ ดังนั้นคนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ จะทนกล้ำกลืนได้อย่างไร?

พวกเขาเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งต่างจากที่ทุกคนเคยทำเหมือนเมื่อก่อน!

สำหรับอัจฉริยะเหล่านี้ที่เติบโตในสถานที่อบรมขัดเกลา การฝึกฝนมาตลอดชีวิตของพวกเขาเป็นสถานการณ์ธรรมดา  ในแดนบาปที่โหดร้ายและอำมหิตผู้คนต้องทุ่มเทชีวิตเพื่อให้อยู่รอด เทียบกันตรงนี้ การฝึกอย่างบ้าคลั่งหนักหน่วงจะมีอะไร?

พวกเขาทุกคนเก็บงำความไม่พอใจไว้ในใจพวกเขา

นอกจากนี้ พวกเขายังเผชิญหน้ากับทวีปกวงหมิง!

ความเกลียดชังระหว่างแดนบาปและทวีปกวงหมิงทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องมีการสั่งการ  ทั่วทั้งแดนบาปไม่ต้องการถูกควบคุม  ตาของทุกคนแดงเป็นเลือด ดูเหมือนกองทหารบ้าคลั่งกำลังมีไฟลุกโชนอยู่ในหัวใจพวกเขา

นักสู้แดนบาปทุกคนเหล่านี้ถูกตู้เค่อระดมมาก่อนหน้านั้น  ตู้เค่อสามารถรวบรวมคนได้เท่าใดกันแน่?  ไม่มีใครรู้ แม้แต่ตู้เค่อเองก็ตอบไม่ได้ แต่ทุกคนเห็นว่าครอบครัวตระกูลของนักสู้คนแล้วคนเล่าหลั่งไหลเข้าประตูบาปรวมแล้วคนที่เข้ามาในทวีปรกร้างเกินหมื่นคน

ความจริง ทหารกองทัพแดนบาปไม่หวังอะไรมากกับนักสู้เหล่านี้

อาวุธของพวกเขาหักพังและชำรุดตั้งแต่แรก  พวกเขามีพลังต่อสู้และพรสวรรค์ปานกลาง  และทหารที่เต็มไปด้วยความภูมิใจเหล่านี้คนแดนบาปถือว่าเป็นแค่กระสุนมนุษย์

กองทัพแดนบาปเชื่ออย่างหนักแน่นว่าพวกเขาเป็นปัจจัยตัดสินการสู้รบ

ใช่แล้ว พวกเขาเป็นปัจจัยอย่างแท้จริง  พวกเขารับผิดชอบในการโจมตีสุดท้าย

แต่เมื่อพวกเขาเห็นนักสู้ธรรมดาเหล่านี้ทุกคน  คนเหล่านี้ทุกคนที่พวกเขาแทบจะไม่เหลียวมองซ้ำสองกลับโจมตีอย่างดุดันโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง การโจมตีของพวกเขาที่ไม่คำนึงถึงผลตามมาทั้งหมดยากจะพบเห็นได้ในแดนบาป  แต่ทุกคนจากคลื่นมหาชนกำลังทำอยู่   ใบหน้าที่กระตือรือร้นของพวกเขา  เสียงคำรามดุดันของพวกเขา การใช้ร่างของตนเองกระแทกเข้ากับม่านพลังงาน  ตราบใดที่รอยแยกถูกสร้างขึ้นบนม่านพลังป้องกัน  คนนับไม่ถ้วนจะวิ่งกรูกันเข้าไป  แม้เมื่อพวกเขารู้ว่าเข้าไปในม่านพลังงานแล้วพวกเขาจะต้องตาย

ทุกคนตามหลังกันไปติดๆ

ตกตะลึง เป็นเรื่องน่าตกตะลึงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

นักสู้ผู้หยิ่งยโสทุกคนในกองทัพแดนบาปตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง!

ทุกคนรู้สึกลมหายใจเริ่มถี่กระชั้น  ตาของพวกเขาแดงความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยล้นเอ่อออกมาจากหัวใจ

มันรู้สึกราวกับว่าพวกเขาทุกคนแบกภาระหนักหน่วงอยู่บนหลังพวกเขา

เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้สึก  ในแดนบาป การฆ่าและการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดเป็นความรู้สึกที่ทุกคนคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

ตรรกะที่ตู้เค่อและพวกที่เหลือพูดถึง  ทุกคนเข้าใจเหมือนกับว่าพวกเขาฉลาด

ความมุ่งมั่นของชาวแดนบาปคืออะไร  ทะเลโลหิตและความเกลียดชังเกิน 300 ปีมันคือความหวังเดียวของแดนบาปที่ถูกทิ้งไว้ที่แดนจองจำนั้น  เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่จะสู้รบเพื่อเอาสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของพวกเขากลับมา

พวกเขาทุกคนเข้าใจเรื่องนั้น

แต่พวกเขาไม่รู้สึกลึกซึ้งเท่ากับพวกที่มองดูเหมือนกับนักสู้ธรรมดา

พวกเขาทุกคนทุ่มชีวิตเข้าสู้!

คนพวกที่พวกเขาเห็นว่าเป็นมดแมลงในแดนบาป  พวกเขาแต่ละคนเสี่ยงชีวิตเข้าต่อสู้และทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขามี

ทำไมกัน?

ตู้เค่อข่มความความตื่นเต้นที่ครอบงำอยู่เต็มหัวใจของเขา เขาไม่เคยคาดเลยว่าการสู้รบจะกลับกลายเป็นรุนแรงมาก  เมื่อเขาเดินทางไปที่แดนบาป  เขาเพียงแต่หวังว่าจะให้ผู้คนมาช่วยสนับสนุนการต่อสู้ในทวีปรกร้าง  จำนวนคนที่มาร่วมมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้  และวิธีการที่พวกเขาสู้ก็ทุ่มต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงก็ยังเป็นเรื่องเกินคาด  ไม่มีใครเข้าใจได้ชัดเจนมากกว่าเขา  ในอดีต 300 ปี ทวีปกวงหมิงได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้กับประชาชนชาวแดนบาป  ในช่วงเวลา 300 ปีประตูบาปกองไว้ด้วยกระดูกมากมายทำให้พลเมืองแดนบาปสูญเสียความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณต่อสู้

ตู้เค่อรู้เรื่องนั้นและไม่เคยฝากความหวังไว้กับคนอื่น และทุกอย่างที่เขาทำสืบเนื่องจากเขาไม่เต็มใจ

แต่ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขามีอารมณ์ตื้นตัน

ไม่ใช่แต่เพียงเขาเท่านั้น  ตู้ซินหวี่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน  นางไม่เพียงแค่ตื่นเต้นเพราะทัศนคติที่ไม่เอื้ออำนวยของทุกคน  แต่เป็นความปลาบปลื้มเพราะนางเห็นโอกาสชนะ  นางจัดการและวางแผนทุกอย่างและในแผนของนาง นักสู้ธรรมดาเพียงแต่คุ้นชินกับการซ่อนตัวอยู่หลังกองทัพแดนบาป แต่นางไม่เคยคาดเลยว่านักสู้ธรรมดาจะมีประโยชน์มากกว่าที่นางวางแผนไว้

เมื่อเห็นม่านพลังงานถูกระลอกโจมตีกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง  ตู้ซินหวี่รู้ว่าโอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว!

‘โอกาสเอาชนะได้มาถึงแล้ว!’

ตราบใดที่พวกเขาพังทลายม่านพลังของศัตรูได้  จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสชนะได้มาก! การสู้ระยะใกล้หรือในท่ามกลางความสับสนไม่สำคัญ   ทวีปกวงหมิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่นอน!

นางไม่มีความลังเลและตวาดสุดเสียง  “กลยุทธหมายเลขเก้า!”

เกือบทุกคนในกองทัพแดนบาปรู้สึกใจสั่นสะท้าน!

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะต้องใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เริ่มแรก  กลยุทธหมายเลขเก้าเนื่องจากนางเคยเห็นกับตาว่ากองพลเกราะเทพเจ้าใช้กลยุทธหมายเลขเก้าเพื่อพิชิตประตูบาป  ตู้ซินหวี่ได้รับผลกระทบอย่างมาก และตัดสินใจสร้างกลยุทธสำหรับกองทัพแดนบาป!

ตู้เค่อและนางใช้ความพยายามอย่างหนักสร้างท่าไม้ตายออกมาได้  และตู้ซินหวี่ปรับใช้ในชื่อเดียวกัน  กลยุทธหมายเลขเก้า

ในใจนางกลยุทธหมายเลขเก้าคือกลยุทธที่แข็งแกร่งที่สุด!

ไม่มีใครคาดว่าตู้ซินหวี่จะใช้กลยุทธหมายเลขเก้าตั้งแต่เริ่มต้น  แม้แต่ตู้เค่อก็ยังคาดไม่ถึง  แต่ในกองทัพแดนบาป  ตู้ซินหวี่ถือได้ว่ามีอำนาจมากที่สุดขนาดที่ตู้เค่อยังต้องฟังคำสั่งจากนาง

ขณะนั้น ตู้เค่อมีแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่  เมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของตู้ซินหวี่  เขาเข้าร่วมเคลื่อนไหวทันที

รัศมีแสงเหมือนทองกระจายจากใต้เท้าของตู้เค่อซึ่งแพร่กระจายออกไปในทุกตำแหน่ง คลุมทั้งกองทัพแดนบาปอย่างรวดเร็ว กองทัพแดนบาปดูเหมือนกำลังยืนอยู่ในของเหลวสีทองรัศมีสีทองนับไม่ถ้วนฉายออกจากพื้นลำแสงแล้วลำแสงเล่าพันเป็นเกลียวในอากาศ

ก่อตัวเป็นรูปตำหนักสีทองและขณะเดียวกันรังสีนับไม่ถ้วนสร้างอยู่ภายในตำหนัก

บางส่วนกระพริบวาบด้วยแสง  แสงที่เหมือนกล้ามเนื้อพันขึ้นไปตามตำหนักทองเหมือนกับงู  บางส่วนก็สร้างลมด้วยมือของพวกเขา  ดาบสายลมหวีดหวิวและรายล้อมอยู่รอบตำหนัก บางส่วนก็ปล่อยรัศมีเย็นและขยายเข้าไปในตำหนักทอง...

ทุกๆคนปลดปล่อยพลังกฎธรรมชาติของเขาระดับสูงสุด!

หลายคนเข้าสู่ดินแดนของผิวกฎธรรมชาตินานแล้ว  และกลายเป็นผู้ทรงพลังมาก

ในครั้งนี้ ตำหนักทองสว่างไสวด้วยสิ่งต่างๆมากมาย  ฟ้าแล่บฟ้าผ่าระเบิดสนั่น  พายุลูกเห็บถูกเรียกออกมา และเพลิงรุนแรงอยุ่ในอากาศ

แต่ไม่ว่ารัศมีจะทรงพลังมากเพียงไหนตำหนักทองตั้งตระหง่านอยู่กับที่เด่นสง่าไม่มีอันตราย  เพราะนั่นคือสนามพลังกฎธรรมชาติของตู้เค่อ

มีคนผู้เดียวที่ได้รับการรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติ ภายใต้แรงกดดันจากกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียน  ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งที่สุดถึงกฎธรรมชาติของเขา  และด้วยสติปัญญาของตู้ซินหวี่  ขณะที่มียอดฝีมือจากแดนบาปที่ทรงพลังอยู่ด้วยเช่นกัน  พวกเขาจึงสร้างไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา

ตำหนักทองดูเหมือนจะคลุมไปด้วยสีมากมายดูสง่างาม

แสงรัศมีทั้งหมดในท้องฟ้าดูเหมือนจะถูกกลืนหาย เกิดเป็นฉากหลังที่ดีที่สุด  เสียงคำรามทั้งหมดในสมรภูมิหายไป  เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง  อากาศมีพลังงานซึมเซาและไม่เคลื่อนเป็นกระแส

ความเงียบและความกดดันอย่างไม่เคยมีมาก่อนตรึงอยู่ทั่วสมรภูมิทั้งหมด

ภายในสนามรบที่ยุ่งเหยิง ทุกคนหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำและมองดูท้องฟ้าอย่างมึนงง  ตำหนักที่หลากสีสัน

ตำหนักชนเข้ากับม่านพลังงานไม่มีเสียง

พิง!!!

เสียงเหมือนแก้วแตกดังขึ้นในใจของทุกคน

ในสายตาคอลลิน  ม่านพลังงานหนาแน่นมากแตกทำลายอย่างสิ้นเชิง

เรียบราวกับป่าช้า

หลังจากนั้น พื้นดินสั่นสะเทือนเสียงคำรามดังออกมาเหมือนเป็นพายุหมุนใหญ่ที่กลืนกินเขาได้อย่างง่ายดาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด