ตอนที่ 874 การสู้รบในทวีปรกร้าง
คอลลินเตรียมพร้อมไว้อย่างพอเพียง ค่ายมีกองของหินดวงดาวและทหารวางหีบหินดวงดาวไว้ในในเตาพลังงาน ที่ซึ่งพลังงานสามารถกระจายออกมาได้ เตานี้เป็นส่วนประกอบของเรือรบขนาดกลาง ประโยชน์ของมันใช้ปล่อยพลังงานผนึกภายในหินดวงดาวสำหรับให้เรือรบใช้ประโยชน์
คอลลินรู้ว่าอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการสู้รบก็คือภูมิประเทศพลังงานที่เบาบางจะเพิ่มความยากเย็นในการรบ ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มพลังให้ศัตรู
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าศัตรูใช้วิธีอะไรให้ทวีปรกร้างมีพลังงานเบาบาง แต่เนื่องจากพลังงานเบาบาง อย่างนั้นเขาต้องเพิ่มพลังงาน คอลลินคิดเรื่องหินดวงดาวซึ่งต้องเป็นหินดวงดาวคุณภาพสูงไม่ใช่วัสดุที่มีค่าสำหรับดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เรือรบเกือบทั้งหมดใช้งานมัน จากนั้นคอลลินคิดเรื่องของเตาพลังงานของเรือรบและเมื่อทดสอบดู ผลนับว่าน่าพอใจ แต่ข้อเสียประการเดียวก็คือสิ้นเปลืองหินดวงดาวมากเกินไป
วิหารกวงหมิงที่มั่งคั่ง การสิ้นเปลืองไม่เป็นปัญหา
คอลลินรวบรวมหินดวงดาวไว้ด้านหลังมากมายน่าประหลาดใจ และถ้าการสู้รบเริ่มต้น หินดวงดาวจะถูกโยนใส่เตาเหมือนกับว่าไม่มีราคา
พลังงานหนาแน่นทำให้ทหารเข้าร่วมสู้ดีใจมันมีความรู้สึกคุ้นเคย จังหวะที่พวกเขาใช้ พวกเขาเริ่มต้นแสดงฝีมือต่างๆทุกประเภทระดมโจมตีไปที่ป้อมปราการเหมือนสายฝน
ตราบใดที่พวกเขามีพลังงานเพียงพอ การฝึกของกองทัพของคอลลินเพื่อต่อสู้กลายเป็นสิ่งที่มองเห็นได้
ระเบิดเกิดขึ้นเองโดยไม่เจาะจง
คอลลินไม่มีความตั้งใจจะผลักดันกองกำลังเดินหน้าเข้าหาป้อมปราการเพื่อประจัญบานกับแดนบาป เขามีบริวารที่มาจากกลุ่มต่างๆและต้องเปลี่ยนเป็นโจมตีป้อมจากระยะไกล เขายังฉีกอาวุธเรือรบสองสามชุดมาไว้ทำให้ตู้เค่อและคนที่เหลือมีแรงกดดัน เนื่องจากอาวุธเรือรบมีพลังมาก
ด้านนอกค่ายทหาร นอกจากทหารยืนเฝ้ายามแล้วม่านพลังงานหนาแน่นป้องกันหน่วยสอดแนมศัตรูไม่ให้เข้ามาข้างใน คอลลินเลือกใช้ครื่งหนึ่งของกองกำลังตั้งแนวป้องกันสร้างเป็นกระดองเต่าเจาะไม่เข้า
หน่วยสอดแนมแดนบาป ได้แต่จับตาด้วยความสงสัยแต่ก็จนใจกับกระดองเต่า
ที่ป้อมปราการเองยังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยกองทัพของคอลลิน เปลวไฟแรงระเบิดยังเข้มข้นรุนแรง
ป้อมประตูบาปโจมตีตอบโต้
ร่างทีละร่างที่คล้ายกับเทพอสูรทะยานขึ้นในอากาศ ด้วยรัศมีที่สร้างขึ้นโดยกฎธรรมชาติในท้องฟ้าเหนือทวีปรกร้าง
ทั้งสองฝ่ายต่างตกใจกับพลังโจมตีของอีกฝ่าย
คอลลินมองดูนักสู้แดนบาปลอยตัวอยู่ในอากาศด้วยความประหลาดใจนักสู้แดนบาปทุกคนกำลังปลดปล่อยระลอกพลังที่น่ากลัว แม้ว่าเขารู้ว่านักสู้แดนบาปทุกคนจะมีพลังส่วนตัวที่ทรงพลัง แต่เมื่อเห็นพลังของพวกเขากับตาตนเองคอลลินก็ยังตกใจ
มีสายฟ้า ไฟ ฝน ลม พลังฟันอวกาศ...
พลังโจมตีของพวกเขาทุกอย่างแปลกประหลาดมากไม่มีพลังงานแฝงแต่อย่างใด แต่พวกเขากลับมีพลังอย่างน่าประหลาด
โชคดีที่นักสู้แดนบาปเหล่านี้สู้ตามลำพัง ถ้าพวกเขาเชี่ยวชาญในส่วนของกองทัพ นั่นจะเป็นเรื่องยุ่งยากจริงๆ
ตอนแรก กองทัพของคอลลินค่อนข้างสูญเสียมากเนื่องจากไม่คุ้นเคยกับกลยุทธต่อสู้ที่ประหลาด พลังโจมตีด้วยสายฟ้า สายฝนและเพลิงไม่สามารถใช้ม่านพลังงานป้องกันได้ แต่กฎอวกาศยากจะหยั่งถึงมาก
ในตอนแรกเริ่มทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหาย
แต่พอเวลาผ่านไปทั้งสองฝ่ายก็เริ่มคุ้นพลังกันและกัน กองทัพของคอลลินเริ่มจะได้เปรียบช้าๆ เทียบกับการโจมตีระยะไกลแล้ว กองทัพของคอลลินได้เปรียบมากมาย กองทัพของคอลลินดีกว่าในแง่โจมตีระยะไกล ขณะที่แดนบาปเสียเปรียบมาก เนื่องจากกฎธรรมชาติที่สามารถใช้โจมตีในระยะไกลได้มีอยู่จำกัด
คอลลินถอนหายใจโล่งอก สถานการณ์ไม่ต่างไปจากที่เขาคาด
ความคิดตั้งใจของคอลลินง่ายๆ ตราบใดที่หินดวงดาวมีพอ เขาสามารถทำให้ป้อมประตูบาปอ่อนแอลงและกองทัพของศัตรูจะออกมาล้อมเขา ขณะที่เขาจะรอให้พวกเขาหมดแรงลงจากนั้นจะจับพลังและเริ่มต้นจัดการได้ทันที
สำหรับหินดวงดาวเตรียมไว้อย่างเพียงพอ คลังสินค้าค่ายทหารและองค์กรทั้งหมดในเส้นทางถูกเขาระดมมาทั้งหมด ดังนั้นหินดวงดาวจึงมีมากมายซึ่งทำให้พวกเขาสามารถสู้รบได้เป็นเดือน
เขาไม่รีบเร่งใจร้อน กองทัพของเขาทำเหมือนกับว่าไม่เหนื่อยแม้แต่น้อยขณะที่พวกเขาผลัดกันโจมตี
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว เขารู้ว่าศัตรูของเขามีวิธีการเป็นของตนเองเช่นกัน
หน่วยสอดแนมของแดนบาปทั้งหมดที่นอกค่ายเริ่มการโจมตีกระบวนรบทันที
ตอนแรกคอลลินไม่สนใจพวกเขามาก เนื่องจากเขาวางกำลังป้องกันพิเศษไว้ตอบโต้พวกหน่วยสอดแนม แต่การโจมตีของหน่วยสอดแนมของแดนบาปเหนือกว่าที่เขาคาด พวกเขาไม่มีวินัยของกลุ่มเหมือนกับฝูงหมาป่า พวกเขามากันเป็นกลุ่มเล็กแตกต่างสามถึงห้าคนและเริ่มโจมตี
หน่วยสอดแนมทุกกลุ่มจะมีพลังระดับยอดฝีมือ ในการสู้ระยะใกล้คอลลินจึงได้พบได้ในที่สุดว่าพลังทำลายล้างของนักสู้แดนบาปมีมากเพียงไหน
พวกเขารวดเร็วเหมือนสายฟ้าและเคลื่อนที่ได้เหมือนภูตพราย พวกเขามาและไปอย่างรวดเร็วบางคนก็โผล่อย่างกะทันหันที่ด้านนอกม่านพลัง หรือบางคนก็โจมตีม่านพลังโดยตรง ทั้งสองฝ่ายสู้กันระยะใกล้และพวกเขาสามารถเห็นใบหน้าที่น่ากลัวของนักสู้แดนบาป มีผลมากต่อพวกทหารทำให้พวกทหารแตกตื่นทันทีและสับสนวุ่นการผสานพลังตกลงและม่านพลังกลายเป็นสภาพไม่เสถียร
หน้าของคอลลินดำคล้ำขณะที่เขาตวาดทหารของเขา เขาเชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาไม่แตกตื่น ศัตรูจะไม่สามารถทำลายผ่านม่านพลังงานได้ และม่านพลังงานที่สร้างขึ้นโดยทหารสามารถทนการโจมตีจากอาวุธเรือรบได้ ไม่สำคัญว่าศัตรูแข็งแกร่งเพียงไหน คอลลินไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถทำลายผ่านม่านพลังงานมาได้
แต่ในเวลารวดเร็ว คอลลินรู้ว่าความเข้าใจในแดนบาปของเขายังตื้นเขินเกินไป
ยอดฝีมือแดนบาปโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมโหดร้าย และนักสู้ผู้ลือชื่อเหล่านี้ทุกคนมีประสบการณ์ต่อสู้มานับไม่ถ้วน และยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้แดนบาปเป็นผู้ที่สร้างตัวขึ้นมาจากกองภูเขาซากศพที่พวกเขาฆ่า บางทีพวกเขาอาจไม่ได้บรรลุผลแบบสงคราม แต่ความเข้าใจเรื่องการรบของพวกเขา และความรู้สึกที่มีต่อโอกาสต่างๆ เป็นเรื่องที่คอลลิน แม่ทัพทหารเคยเข้าใจ
มักจะมีความเข้าใจที่อธิบายไม่ได้ระหว่างยอดฝีมือเสมอ
สายตาของหนึ่งในนักสู้แดนบาปเป็นประกายจ้องมองอย่างดุดัน พลังของเขาฉายออกมาจากผิวกฎธรรมชาติทันทีบอลสายฟ้าขนาดผลแตงโมเกินกว่าร้อยลูกปรากฏรอบตัวเขาทันทีบอลแสงสายฟ้าสีฟ้าแพรวพราวปล่อยรัศมีอันตรายพลังกฎธรรมชาติที่น่ากลัวทำให้อากาศโดยรอบบิดเบี้ยว
ทหารด้านหลังม่านพลังงานไม่เคยเห็นศัตรูที่น่ากลัวแบบนั้นมาก่อน ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการหวาดกลัวทันที
นักสู้แดนบาปผู้นี้ยิ้มน่ากลัวและความเกลียดที่พวกเขามีต่อทวีปกวงหมิงไหลเวียนอยู่ในสายเลือดพวกเขามานานแล้ว
บอลสายฟ้าเกินร้อยลูกกระทบเข้าในจุดเดียว รัศมีแสงแพรวพราวกระจายออกรวดเดียวทำให้พวกทหารตาพร่าไปชั่วคราว
แม้แต่คอลลินก็ยังตกใจแทบแย่จากแสงที่ระเบิดออกมาฉับพลัน ม่านพลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงสามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง
นักสู้ผู้ปล่อยพลังบอลสายฟ้าของเขาตอบรับจากสหายด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว เพราะพลังโจมตีของเขาหมดไปกับพลังผิวกฎทั้งหมด! แต่การกระทำของเขาเป็นเหมือนกับการจุดประกายทั้งสมรภูมิ กระแสนักสู้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องเป็นระลอกคลื่นปลดปล่อยพลังต่อสู้เต็มกำลัง
นักสู้ผู้ได้รับการรู้แจ้งในผิวกฎธรรมชาติไม่สนใจทุกอย่างและปลดปล่อยพลังโจมตีเต็มที่ซึ่งทรงพลังและน่ากลัวมาก
หัวของคอลลินมึนชาเขาตกตะลึงกับฉากภาพด้านหน้าของเขา เขาไม่เคยเห็นการโจมตีอย่างบ้าคลั่งแบบนั้นมาก่อน
ศัตรูเป็นเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟพวกเขาละทิ้งทุกอย่างและโจมตีม่านพลังงาน บางคนก็ใช้ร่างเข้ากระแทก ทุกคนในฝ่ายพวกเขาปล่อยพลังโจมตีอย่างหนึ่ง พวกเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงทันทีและจะถูกสหายของพวกเขาลากกลับไป และสหายของพวกเขาทุกคนมีรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง นัยน์ของพวกเขามีประกายเกลียดชังพวกเขาเข้ากระดูก ความหนาวเหน็บแล่นไปตามกระดูกสันหลังของคอลลิน
‘อาชญากรที่สิ้นหวัง!’
‘บ้าไปแล้ว’
การโจมตีอย่างบ้าคลั่งทำให้เกิดรอยแยกเล็กปรากฏที่ม่านพลังงาน เมื่อหนึ่งในนักสู้แดนบาปผู้เชี่ยวด้านกฎอวกาศกระพริบวาบก็หายไปในทันที
ในชั่วเวลาต่อมาเขามาปรากฏภายในกระบวนศึกของศัตรูเหมือนภูตพราย ในทันทีนั้นเลือดหลั่งเป็นทางจากลำคอทหารสองสามคน
คอลลินเป็นคนแรกที่รู้ตัว เขาตะโกนลั่น “ฆ่าเขาซะ!”
พลังงานภายในกระบวนศึกส่งผลต่อความแข็งแกร่งของนักสู้แดนบาปมากมาย แต่เขาไม่เกรงกลัว เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย หลังจากฆ่าทหารไปมากกว่าสิบคนเขาถูกกระบี่และหอกแสงแทงตาย
คอลลินไม่มีเวลาแม้แต่จะถอนหายใจโล่งอก เนื่องจากเขาตระหนักได้ทันทีว่าสถานการณ์ของเขาไม่เพียงแต่ไม่ผ่อนคลายแต่ยังรุนแรงมากขึ้น
หน่วยสอดแนมบ้าระห่ำของแดนบาปคลุ้มคลั่งกันไปหมด
พวกเขามองเห็นความหวังของชัยชนะ และไม่มีอะไรทำให้พวกเขาตื่นเต้นขึ้นมาก ดังนั้นพวกเขาจึงห้าวหาญไม่กลัวเกรง พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่ากำลังเผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่ทวีปกวงหมิง พวกเขามีโอกาสชนะ ศพนับไม่ถ้วนที่หน้าประตูบาปกลายเป็นตำนานฝังแน่นในใจของประชาชนแดนบาปทุกคน
เมื่อตำนานนี้แตกสลาย ความเกลียดชังและความตื่นเต้นที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของประชาชนแดนบาปจึงปะทุออกมาเหมือนภูเขาไฟ
พวกเขาทะลักออกมาจากทุกทิศทุกทางกระโจนใส่กระบวนศึกของทวีปกวงหมิง ทั้งหมดอยู่ในสภาพคลั่ง
คอลลินเชื่อว่าเขามองข้ามอะไรบางอย่างส่งผลให้ม่านพลังงานกลายเป็นอันตรายได้ แต่นั้นขณะนั้น เขาไม่มีเวลาไตร่ตรอง เขาต้องรวบรวมกำลังทหารเพื่อเพิ่มคนสนับนนุนม่านพลังงาน
ตอนนั้นเองเขาตระหนักได้ว่ามีหน่วยสอดแนมมากเกินไป!
เขาตกใจ ‘หรือเป็นไปได้ว่าหน่วยสอดแนมคือกองกำลังโจมตีที่แท้จริงของศัตรู?’
คอลลินเริ่มหงุดหงิด แต่เขารู้ว่าเขาไม่ควรจะเป็น เนื่องจากเขาต้องการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของศัตรูความกล้าหาญและอดทนของพวกเขาโดยไม่สนใจชีวิตเริ่มส่งผลต่อทหารของพวกเขา
กองทัพของคอลลินมีประสบการณ์และผ่านการฝึกมามีความสามารถทำงานได้ดี แต่ภายในทวีปกวงหมิงเมื่อพวกเขามีประสบการณ์ต่อสู้ที่สิ้นหวังนั้น เมื่อพวกเขาพบกับศัตรูที่น่ากลัวอย่างนั้น! ถ้าแม้แต่คอลลินเองก็ยังตกใจ ทุกคนก็คงคิดได้ว่าทหารของพวกเขาเป็นเช่นไร
คอลลินรู้สึกได้ถึงอันตราย กำลังใจของเขาไม่แน่นอน ถ้าสถานการณ์กลายเป็นเบี้ยล่าง พวกเขาอาจพังทลาย
คอลลินตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ป้องกันไว้ก่อน! จัดการสถานการณ์ให้มั่นคง!
เขาเตรียมเพิ่มพลังป้องกันและแม้แต่ยกเลิกการโจมตีป้อมปรากการ เขาต้องป้องกันศัตรูที่กำลังจะมาอีกให้ได้ก่อน พวกเขาเพียงแต่เพิ่มแรงยิงเพื่อให้ศัตรูตาย
‘สิ่งที่ศัตรูทำคือเสียสละ’
คอลลินใจเย็นลง เขาเตรียมการโจมตีศัตรูอย่างรุนแรง
ขณะนั้นเองตาของเขาชำเลืองมองเห็นคลื่นมนุษย์ด้านนอกพลังงานป้องกัน จากท่ามกลางความวุ่นวาย พวกเขาเปิดเส้นทางเดิน
คอลลินหรี่ตาทันที
‘นั่นคือ.....’