ตอนที่ 873 คอลลิน
เป็นครั้งแรกของคอลลินที่ย่างเท้าไปบนดินของทวีปรกร้าง
แย่จริงๆ
พลังงานในอากาศเบาบางมากเพิ่มความรู้สึกที่ไม่สบาย คอลลินรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเหมือนปลาที่บังเอิญกระโดดขึ้นมาจากน้ำ ความรู้สึกหอบหายใจอย่างรุนแรงทำให้เขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าได้ยากลำบาก นอกจากนี้เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างของเขากำลังจะหมดลงซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถทำการสู้รบใดๆ ได้ซึ่งมีแต่จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบ
‘นี่จะเป็นการสู้รบที่แย่มาก’
‘อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเช่นนี้ ยังไม่ต้องคำนึงถึงการเตรียมพร้อมของทหาร พวกเขาต้องทนกับแรงกดดันมากเป็นประวัติการณ์’
หน้าของคอลลินดูหวาดกลัว สถานการณ์รุนแรงมากกว่าที่เขาจะนึกภาพออก
สายตาของเขามองเห็นหนึ่งในหน่วยสอดแนมของแดนบาป นี่เป็นครั้งแรกที่คอลลินพบกับนักสู้แดนบาป วิหารหมิงกวงระงับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแดนบาป และประชาชนไม่สามารถหาข้อมูลอะไรๆได้จากที่ไหนๆ เลย
คนสอดแนมของแดนบาปเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว พลังงานที่เบาบางไม่ส่งอิทธิพลต่อพวกเขาแม้แต่น้อย พวกเขาเป็นเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ
คอลลินสามารถเห็นความเกลียดชังในดวงตาของนักสู้แดนบาป พวกเขามีความกล้าและเต็มไปด้วยความก้าวร้าวขณะที่หน่วยสอดแนมของคอลลินถูกฆ่าตายไปมากกว่าสิบคนแล้ว
คอลลินลอบส่ายศีรษะและโยนความคิดที่ใช้ไม่ได้ออกไปจากใจ
ความเกลียดชังกันระหว่างสองฝ่ายไม่อาจประนีประนอมกันได้ และเพราะการสู้รบจบจะต้องมีฝ่ายหนึ่งโชกเลือดแน่นอน
คอลลินเรียกความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากเขาได้รับคำสั่ง เขาขอข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับแดนบาปจากวิหารกวงหมิงทันที จากตรงนั้น เขาได้รับความรู้อย่างเพียงพอถึงวิธีที่นักสู้แดนบาปใช้สู้กัน และหลังจากตรวจสอบพลังงานที่เบาบางในทวีปรกร้างแล้ว เขาคิดหาวิธีสองสามอย่างโดยเร็ว
เขาไม่เคยสู้โดยไม่เตรียมตัวมาก่อน
สิ่งที่คอลลินไม่รู้ก็คือเมื่อเขากวาดสายตาผ่านแดนบาป มีปลาใหญ่สองตัว
*****************
ตู้เค่อและน้องสาวสังเกตกองทัพใหญ่ของศัตรูอย่างรอบคอบ และเนื่องจากพวกเขาไม่มีการป้องกันรอบตัวพวกเขา ทำให้พวกเขาดูไม่แตกต่างจากหน่วยสอดแนมอื่น ทั้งสองคนได้รับการคัดค้านจากบริวารของพวกเขา แต่ตู้เค่อมีความมั่นใจและพลังของตนเอง
นักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาปในสภาพแวดล้อมที่ติดกับแดนบาป เขาสามารถปล่อยพลังได้ถึง 90%
“มันเป็นยังไงเล่า?” ตู้เค่อถาม
ในแง่กระบวนศึก เขาเชื่อถือน้องสาวของเขา ตู้ซินหวี่ตัดสินใจได้มากกว่า
“ไม่มีตำหนิ” ตู้ซินหวี่ส่ายศีรษะ นัยน์ตาของนางเปล่งประกายมีเสน่ห์ ขณะที่หัวใจนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
ในความรู้สึกบางอย่าง คงจะเป็นการรบครั้งแรกของกองทัพแดนบาปหลังจากที่ตู้เค่อและน้องสาวสร้างกองทัพขึ้นมาและได้รวมเอายอดฝีมือระดับสูงเกือบทั้งหมดในแดนบาป หลังจากเป็นพันธมิตรกับถังเทียนแล้ว กลุ่มที่บุกโจมตีประตูบาปก็คือกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียน นี่นำมาซึ่งสถานการณ์ที่น่าอาย เนื่องจากกองทัพแดนบาปถูกสร้างขึ้นมาแล้ว พวกเขายังไม่เคยผ่านการสู้รบจริง
การสู้รบครั้งแรกของพวกเขาเพียงพอจะทำให้ทุกคนตื่นเต้น และเพื่อต่อต้านกองทัพของทวีปกวงหมิง กองทัพแดนบาปทั้งหมดดูราวกับว่าคลั่งไคล้หลงใหลการสู้
จะมีอะไรมากไปกว่าได้สู้กับศัตรูคู่แค้นของพวกเขา?
ตู้เค่อหัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างเป็นศัตรูที่ทรงพลัง”
“ย่อมแน่นอน คอลลินเป็นหนึ่งใน 12 ผู้บัญชาการชั้นพลโทยังไม่นับห้าแม่ทัพใหญ่ เขาคือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบสองคน” ตู้ซินหวี่เตือน “การจัดตั้งค่ายของเขาระมัดระวังตัวมากไม่มีข้อบกพร่องให้เห็นชัดเจน ตามรายงานที่ถังเทียนส่งมา คอลลินเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมากจากที่เห็นดูเหมือนจะเป็นความจริง”
“ข้าสงสัยว่าห้าแม่ทัพใหญ่จะเป็นยังไง” ตู้เค่อเริ่มคิดนอกทาง
ตู้ซินหวี่ไม่สนใจเรื่องที่พี่ชายของนางมีความคิดของตนเองเป็นครั้งคราว นางไม่เคยละสายตาจากกระบวนทัพข้างหน้านางแม้แต่ชั่วขณะ ขณะที่นางพึมพำกับตัวเอง “ทหารศัตรูมีคุณภาพชั้นยอดไม่ด้อยไปกว่าเรา พวกเขามีความเชี่ยวชาญในกระบวนทัพของพวกเขา ถังเทียนมักจะพูดไว้ว่าการผสานพลังของพวกเขาจะถูกซ่อนเอาไว้ นี่คือกองทัพที่ทรงพลัง แต่คำถามตอนนี้ก็คือ เขาเตรียมจะจัดการกับเรายังไง?”
ค่ายทหารมีความโอ่อ่าตระการตา แต่ในพื้นที่ 10กิโลเมตรจากค่ายทหารเป็นสนามรบที่เข้มข้นที่สุด
หน่วยสอดแนมของทั้งสองฝ่ายเริ่มมีส่วนร่วมรบ
พวกคนสอดแนมทั้งหมดเป็นคนฝีมือดีในกองทัพ เนื่องจากพวกเขาต้องทำภารกิจในกลุ่มเล็กและสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายและสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทุกรูปแบบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้พวกเขาแต่ละคนมีความแข็งแกร่งเฉพาะตน
จากที่เห็นหน่วยสอดแนมของแดนบาปจะกุมความได้เปรียบ
สิบห้าต่อสอง
หน่วยสอดแนของคอลลินสิบห้าคนตาย แต่ของแดนบาปเสียคนไปสองคนแสดงให้เห็นคามแตกต่างขนาดใหญ่
ตู้ซินหวี่ไม่ได้รับผลจากจำนวน น้ำเสียงนางยังคงชัดและเยือกเย็น “ทวีปกวงหมิงก็คือสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ถ้าเราไม่ได้ถังเทียนช่วยไว้ เราคงไม่มีโอกาสชนะ ทวีปกวงหมิงอาจจะมีกองทัพเช่นนั้นสิบสองกองทัพ แม่ทัพใหญ่ห้าคนก็มีพลังที่น่าทึ่ง อำนาจสั่งการของแม่ทัพใหญ่อย่างน้อยครอบคลุมสามกองพลเช่นนั้นขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่า ข้าไม่แน่ใจจริงๆว่าสัมพันธมิตรใต้ของถังเทียนจะสามารถต้านทานห้าแม่ทัพใหญ่ได้”
“นั่นก็ถูกแล้ว” ตู้เค่ออดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ “ตอนนี้เรารู้ความจริงว่าเราก็มีกองทัพอยู่ด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นทวีปกวงหมิงหรือถังเทียน พวกเขาทั้งสองก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์สำหรับเรา นับเป็นโชคร้ายที่ทวีปกวงหมิงมีศัตรูอย่างเรา แต่เป็นโชคดีของเราที่มีถังเทียนเป็นสหาย โชคดีที่เขาสามารถช่วยเราได้ แต่ชะตากรรมของเรา ตระกูลเรา เราจะต้องได้มาจากการสู้รบของเราเอง”
ประโยคสุดท้ายของเขาดูเหมือนเป็นการตอกย้ำ
ตู้ซินหวี่หันมามองพี่ชายนางผู้มีสีหน้ามุ่งมั่น
ตู้เค่อไม่ปิดบังสายตาจากตู้ซินหวี่ และพูดขึ้น“ไม่ว่าเราจะต้องทุ่มเทราคาเท่าใด เราต้องชนะสงครามครั้งนี้!”
ตู้ซินหวี่กัดริมฝีปากและกล่าว “เราจะชนะได้แน่นอน!”
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาฝึกกันหนักเพียงไหนเพื่อการสู้รบ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายินดีจะทุ่มเทมากเพียงไหนเพื่อการสู้รบ
ด้วยประสบการณ์ของเขา เมื่อคอลลินเห็นสภาพแวดล้อมของทวีปรกร้าง เขารีบร่างแผนอย่างรวดเร็ว
เมื่อสินค้าที่สำคัญที่สุดของสงครามส่งมาถึง เขาจะไม่ถอยและสั่งให้กองทัพเข้าทวีปรกร้าง เพื่อป้องกันเส้นทางถอยของเขาถูกตัดขาด เขาจัดให้กองทัพของโอลิเวอร์คุ้มกันอยู่ที่ประตูดวงดาว โอลิเวอร์ถูกกักขังอยู่ กองทัพของเขาเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติเนื่องจากเหตุการณ์ในกลุ่มการค้าตะวัตก แต่พวกเขาถูกวางกองทัพกลับไปรบ
เพียงเมื่อพวกเขาพบกับคอลลินทำให้พวกเขาถูกเห็นความสำคัญอีกครั้ง
สิ่งแรกที่คอลลินทำเมื่อเข้ามาในภูมิภาคตะวันตกก็คือนำพวกฝีมือดีมารวมกัน โอลิเวอร์ถูกคุมขังกองทัพของเขาเป็นเหมือนมังกรไร้หัว กำลังใจของทหารตกต่ำมาก แต่กำลังทั้งหมดไม่ได้รับอิทธิพลมากนัก เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างเป็นกองกำลังระดับสูง
เนื่องจากทหารเหล่านี้ไม่เห็นอนาคตความหวังพวกเขายินดีจะสู้เพื่อชีวิตพวกเขา
คอลลินไม่มีกำลังคนเพียงพอดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม กองทัพนี้จำเป็นต้องใช้และยังแข็งแกร่งมากกว่าทหารกระสุนมนุษย์ของกองกำลังท้องถิ่นทั้งหมด
ด้วยกองกำลังฝีมือดีนี้คอยคุ้มกันตัดทางถอย คอลลินค่อยสบายใจ โจรทวีปทองเพิ่งปรากฏตัวที่ทวีปหย่งหมิงซึ่งอยู่ห่างไกลไปมาก มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่ทวีปทุ่งขาวจะถูกโจมตี แต่เพื่อความรอบคอบ คอลลินยังคงประจำกองกำลังไว้เบื้องหลัง
หลังจากจัดการทางถอยไว้แล้ว คอลลินนำกองทัพใหญ่เข้าไปในทวีปรกร้างทันที
หลังจากเข้าทวีปรกร้างกองทัพใหญ่มุ่งหน้าตรงไปที่ป้อมที่แดนบาป แม้ว่าหน่วยสอดแนมของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับหน่วยสอดแนมของแดนบาป คอลลินยังคงส่งหน่วยสอดแนมออกไป แม้สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือตาย
จำนวนคนตายมากมายสำหรับหน่วยสอดแนมที่รวบรวมข้อมูลที่มีค่า ในทวีปรกร้าง นอกจากป้อมที่ประตูบาปแล้ว ชาวแดนบาปที่หลงเหลืออยู่ไม่ได้สร้างป้อมอื่น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องโจมตีป้อมที่แดนบาป และพวกเขาจะสามารถขังพวกเขาไว้ในแดนบาปได้อีกครั้งหนึ่ง
เรื่องนี้ทำให้คอลลินถอนหายใจโล่งอก
ในสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างนั้น เวลามีค่ามากและเขากลัวที่สุดกับการเทียวไปเทียวมา
หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ของแดนบาปบินอยู่รอบกองทัพใหญ่เหมือนแมลงวัน เมื่อเห็นว่าพวกเขาสามารถฉวยโอกาสได้ แต่คอลลินไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เมื่อไม่สนใจพวกเขาก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้า หน่วยสอดแนมมีพลังส่วนตัวที่ทรงพลัง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังระเบิดของกระบวนศึกพวกเขาไม่มีท่าทีคุกคาม
เพราะการสังเกตการณ์และสอดแนมพวกเขา คอลลินไม่มีสนใจจริงๆ เขาวางแผนไว้แล้วสำหรับการสู้รบโดยไม่ต้องใช้กลอุบายใดๆ
เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไป 10ลี้จากประตูแดนบาป กงอทัพใหญ่หยุดตั้งค่ายอยู่กับที่ ขณะที่หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ยังคงสังเกตพวกเขาจากระยะไกล
คอลลินลี่ย์ไม่ใส่ใจพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนหลายคน แต่การเคลื่อนไหวเสียงดังของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนมือสมัครเล่น ในสงครามขนาดใหญ่ ความแข็งแรงส่วนบุคคลไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก ไม่สำคัญว่าหน่วยสอดแนมจะแข็งแกร่งมากเท่าใดไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีกันกี่คน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกเขาไม่มีประโยชน์
สายตาของเขามองไปที่ป้อมประตูบาปในที่ไกลออกไป
แดนบาปเรียกมันว่าเมืองฮวงเฉิง แต่คอลลินเรียกว่าป้อมประตูบาปมันคือดินแดนของทวีปกวงหมิง พวกเดนตายจากแดนบาปมีสิทธิ์อะไรมาตั้งชื่อสถานที่นี้?
เทียบกับป้อมกวงหมิงที่โดดเด่นและสง่างาม ป้อมที่อยู่ต่อหน้าคอลลินดูน่าเกลียดมาก แต่เขาไม่ได้รีบโจมตี แต่เรียกทหารรักษาการณ์
หลายค่ายทหารถูกสร้างขึ้น
แม้เมื่อเขาคิดหาวิธีให้จบการสู้รบอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้พอการสู้รบเริ่มจริงๆ เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง คำสั่งถูกส่งลงไป และเขาลาดตระเวนไปรอบๆ เพื่อความแน่ใจในทุกสิ่ง
ในป้อมปราการ ตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองดูกองทัพที่ตั้งค่ายพักความเข้มงวดการตั้งกระบวนทำให้พวกเขาดูเหมือนกับอันตรายมาก
“เรามีศัตรูที่ทรงพลัง” ตู้วินหวี่ชื่นชม
แม้แต่ตู้เค่อก็สามารถมองเห็นมาตรฐานสูงส่งของคอลลิน จากการเคลื่อนไหวของพวกเขาเพื่อตั้งค่าย เพื่อสร้างค่ายของพวกเขา ตลอดทั้งกระบวนการราบรื่นและจัดเรียงอย่างเป็นระบบ พวกเขาทุกคนมีความมุ่งมั่นราวกับว่าทหารทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไร สำหรับหน่วยสอดแนมแดนบาปจ้องมองพวกเขาเหมือนกับพยัคฆ์ พวกเขาไม่สามารถหาโอกาสบุกเข้าไปได้และได้แต่จ้องมองจากระยะไกล
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหน่วยสอดแนมไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่ตู้ซินหวี่ก็ยังส่งหน่วยสอดแนมออกไปหลายคน
ในแดนบาป พวกเขามีทหารที่น่าสมเพช แต่พวกเขามีนักสู้ผู้ทรงพลังนับจำนวนไม่ถ้วน ซึ่งสามารถสอดแนม นางไม่หวังให้คนสอดแนมพวกนี้ได้รับความเสียหายจริงจัง แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูได้ นั่นก็นับว่าพอเพียงแล้ว
ตู้ซินหวี่รู้ว่านางยังเป็นมือใหม่ และไม่ลังเลจะใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่นางมี
แต่คอลลินเจ้าเล่ห์ไม่ได้กังวลกับนาง
ขณะนั้นเองหน้าของตู้ซินหวี่เปลี่ยน นางเงยหน้าขึ้นทันทีและจ้องมองศัตรูที่ข้างหน้าพวกเขา ตู้เค่ออยู่ข้างนางก็พลอยเคร่งเครียดไปด้วย
พลังงานหนาแน่นขยายออกมาจากค่ายศัตรู
สิบนาทีต่อมา พลังงานหนาแน่นคลุมไปทั้งค่ายของคอลลิน แต่ไม่กระจายสลายไป เหมือนกับว่าค่ายทหารเองมีพลังที่มองไม่เห็นที่แผ่พลังงานยึดกับค่ายไว้หนาแน่น
ทุกคนในป้อมเคร่งเครียด
การสู้รบคงจะไม่สู้กันง่ายๆ!