ตอนที่แล้วตอนที่ 871 ความสับสนของสงครามในทุกทิศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 873 คอลลิน

ตอนที่ 872 วิหารกวงหมิง


(ขอแก้จากที่เรียกเป็นสภาอาวุโสเป็นวิหารกวงหมิงนะครับ เพราะตอนแรกจะเรียกวิหารกลัวจะซ้ำกับวิหารเซียนสวรรค์วิถีจนงงสับสนเลยเรียกให้ต่างออกไปแต่ตอนนี้ไม่สับสนแล้วครับ)

“สวะ!  มีแต่สวะทั้งนั้น!”

ลำแสงหนาเข้มข้นพุ่งลงมาจากท้องฟ้าไกลสีครามสถานที่ซึ่งพลังแสงเจิดจ้าคลุมไปทั้งตำหนักสีขาว ตำหนักสีขาวดังหิมะดูเหมือนกับสร้างขึ้นจากหยกขาวบริสุทธิ์   แสงสีขาวทะลักต่อเนื่องเข้าไปในตำหนักจากลำแสงขาว  เพียงแต่อัจฉริยะที่เคยมาเยือนก่อนนั้นจะรู้ว่าทั่วทั้งตำหนักสร้างขึ้นจากพลังงานแสง

วิหารกวงหมิงเป็นสถานที่ลึกลับที่สุด  เป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มาจากทั่วทั้งทวีปกวงหมิงและวิหารอื่นๆ

ประมุขผู้อาวุโสคำรามเสียงดังไปทั้งวิหารและแม้แต่ลำแสงก็ยังสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากเสียงที่ก้องกังวาน

ภายในตำหนักทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัวจนหน้าซีดขาว ที่ด้านหน้าพวกเขามีร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ซึ่งมีแสงสีทองคลุมรอบตัวหน้าของเขาคลุมเครือเพราะไฟป้องกันไม่ให้มองเห็น เสียงของเขาดังมาจากเปลวเพลิง  และดวงตาของผู้ใต้บัญชาทั้งหมดจับจ้องอยู่ที่เปลวเพลิงสีทองแสดงถึงความเคารพเทิดทูน

นี่คือเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด

ไม่มีใครเคยเห็นประมุขอาวุโสสูญเสียการควบคุมตนเองและตวาดออกมาอย่างนั้น  ในใจของพวกเขารู้สึกเหมือนกว่าแม้ว่าวิหารกวงหมิงจะหายไป ประมุขผู้อาวุโสก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ประมุขผู้อาวุโสไม่ถามไถ่กิจการทางโลกมาหลายปีแล้วใจของเขาเพ่งอยู่กับวิทยายุทธของสวรรค์วิถี เรื่องทั่วไปในวิหารมอบหมายให้ชาร์ลส์และผู้อาวุโสอีกสองสามคนทำงาน  ขณะที่ประมุขผู้อาวุโสดูเหมือนกับไม่ได้คงอยู่ต่อไปแล้วเนื่องจากผู้อาวุโสรุ่นใหม่ไม่เคยได้พบเห็นเขา

แต่ขณะนั้นเองทั่วทั้งวิหารกำลังเทิดทูนบูชาอำนาจที่สง่างามของประมุขผู้อาวุโสซึ่งทำให้แม้แต่อากาศก็สั่นสะเทือน

“ชาร์ลส์!”

ชาร์ลส์งอเอวตัวสั่นอยู่  สายตาที่มองมาจากประมุขผู้อาวุโสให้ความรู้สึกจริงจังทำให้ชาร์ลส์รู้สึกเหมือนกับว่าหลังของเขากำลังไฟไหม้  แต่ใบหน้าที่งดงามยังคงสงบเหมือนน้ำขณะที่เขาเรียนด้วยความเคารพ  “ท่านประมุขผู้อาวุโส”

“ข้ามอบหมายทุกอย่างให้เจ้าดูแล  ทำไมเจ้าถึงให้คำตอบข้าแบบนั้น?”  เพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองลุกโชน

ชาร์ลส์รู้ว่าการขออภัยหรือปัดคำตำหนิมีแต่จะทำให้ประมุขผู้อาวุโสโกรธมากขึ้น  เขาสูดหายใจลึก  “ท่านประมุขอาวุโส, โปรดสั่งลงโทษเถิด!”

“ลงโทษ?  ข้าจะลงโทษเจ้าแน่นอน!” หน้าของประมุขผู้อาวุโสคลุมไปด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาพอใจหรือโกรธ  แต่ไหล่ขวาของเขายกขึ้นทันที เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองไหลไปตามแขนของเขาและยืดขยายไปที่มือและเปลี่ยนเป็นแส้สีทอง

ปัง!

แส้หวดลงที่หลังของชาร์ลส์ทำให้เขาสั่นสะท้าน ใบหน้าที่หล่อเหลาบิดเล็กน้อย เหมือนกับว่าแส้หวดใส่วิญญาณของเขาด้วย ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้ใจของเขาว่างเปล่า ขณะที่เขางอตัวเป็นกุ้ง

เสื้อผ้าที่หลังของเขายังเป็นปกติโดยไม่มีรอยแผลอะไร  ไม่มีแม้แต่รอยย่นบนเสื้อผ้า

ทุกคนหมอบงอหลังมากกว่าเดิม  วิหารกวงหมิงเงียบเป็นป่าช้ามีแต่เสียงหอบหายใจสูดอากาศเหมือนกับเสียงสัตว์ป่าเจ็บปวดฟังได้ยินชัดเจน ทุกคนรู้ว่าประมุขผู้อาวุโสโกรธอย่างแท้จริง  แส้วิเศษสำนึกบาปเป็นเครื่องมือลงโทษทางวิญญาณและทุกคนรู้ถึงความเจ็บปวดดี

ประมุขผู้อาวุโสจะลำเอียงเข้าข้างชาร์ลส์เสมอและมีแม้กระทั่งข่าวลือว่าชาร์ลส์คือลูกนอกสมรสของประมุขผู้อาวุโส ดังนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่ประมุขผู้อาวุโสลงโทษโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ และถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงโดยใช้แส้วิเศษสำนึกบาป

ทุกคนตะลึง

หลังจากนั้นห้านาทีต่อมาดวงตาที่ไร้ชีวิตของโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ก็กลับคืนมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแต่ฉายแววหวาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้ มันคือประสบการณ์ที่น่ากลัวมาก  แม้ด้วยความมุ่งมั่นของเขาเขาไม่ต้องการจะพบประสบการณ์นั้นเป็นครั้งที่สอง

“ค่ายทหารเจ็ดค่ายถูกสังหารหมดเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ”

ประมุขผู้อาวุโสไม่พูดเร็วนัก  แต่เสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจและราศี  ทุกคำก้องเหมือนค้อนหวดลงมาจากฟากฟ้า

“ไม่มีเหตุผลไม่มีข้อแก้ตัว มีแต่ผลลัพธ์เท่านั้น” ตาของประมุขผู้อาวุโสกวาดมองดูทั่วห้องประชุมใหญ่ช้าๆ

เมื่อคำพูดเหล่านั้นพูดออกมาก็ดังหึ่งๆอยู่ในหูของทุกคน

ทุกคนระงับความกลัวในใจและตอบพร้อมกัน  “ขอรับ”

กลุ่มเปลวเพลิงทองทะยานกลับไปในท้องฟ้าและหายไปโดยเปลี่ยนไปเป็นดาว  ความกดดันท่วมท้นหายไปทันที  และบรรยากาศที่หายใจไม่ออกกลับมีชีวิตอีกครั้ง

วิหารกวงหมิงเริ่มผ่อนคลาย

ทุกคนตะลึง พวกเขาทุกคนมองหน้ากันเองและฝืนยิ้ม พวกเขาทุกคนเป็นขุนนางที่ได้รับการยกย่องและนับถือ  แต่ในสถานการณ์เช่นนั้น  พวกเขาไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย  ประมุขผู้อาวุโสน่ากลัวมากอย่างแท้จริง

“ทีนี้เราจะทำยังไง?”  ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น

ทุกคนยังคงเงียบไปชั่วขณะ  หลายๆ คนเพิ่งจะหายตกใจ

“เจียย่าอยู่ในส่วนกลาง  คอลลินอยู่ในช่วงเดินทางไปทวีปทุ่งขาว  แลนซ์ตายแล้ว โอลิเวอร์ถูกจองจำมีการร่วมกำลังกันของห้าผู้บัญชาการระดับพลโทเตรียมเดินทางไปสนับสนุนที่ทวีปซางโจว  นี่เป็นเพียงระลอกแรก และพวกเขานำกองเรือรบใหญ่ไปให้โกวเฉิงเวิ่นเต้า นอกจากนั้นเส้นทางลำเลียงของเราต้องได้กำลังคนมากขึ้น  เส้นทางลำเลียงของเราไปได้ช้ามาก  ดังนั้นเราจำเป็นต้องเตรียมชุดที่สอง  อัศวินพิเศษกวงหมิงจะเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน  ข้าจำเป็นต้องหาทางเข้าสวรรค์วิถีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  ทหารธรรมดาจะอ่อนแอมากในทะเลน้ำเงิน  ตอนนี้ปัญหาก็คือใครจะรับมือโจรทวีปทอง?”

ผู้อาวุโสทั้งหมดมองหน้ากันเอง  ทุกคนมีอาการหงุดหงิด

เงียบ เป็นความเงียบที่แปลกประหลาด

หลังจากคำนวณและคิดแล้วผลลัพธ์ทั้งหมดทำให้ผู้อาวุโสแสดงท่าทางที่เหลือเชื่อออกมา

ทวีปกวงหมิงมีวันที่ตกต่ำจริงๆถึงขนาดที่ไม่กำลังคนและกองทัพเพียงพอ!  ทวีปกวงหมิงที่ทรงอำนาจทวีปกวงหมิงที่มีชื่อในเรื่องกำลังอำนาจทางทหาร ทวีปกวงหมิงที่มีแม่ทัพนายกองภายใต้ร่มธง กลับมีคนไม่เพียงพอจริงๆ!

ทุกคนมองหน้ากันเอง แสดงแววตาที่ตกใจ

ชาร์ลส์เองก็ตกใจพอกัน เขาไม่เคยคิดว่าวิหารจะยึดติดกับกองทัพอย่างนั้น  แต่เขายังคงรักษาความสงบและมั่นคงไว้ได้  “กองเรือที่เสริมกำลังไปที่ทวีปซางโจวให้เคลื่อนกำลังทันทีอย่ามัวชักช้า ท่านเจียย่าไม่อาจแตะต้องได้ เร่งให้คอลลินเร็วขึ้น  บอกเขาเขาต้องคลี่คลายปัญหาทวีปทุ่งขาวโดยเสริมกำลังระลอกสอง!  เราไม่มีเวลาจะเสียอีกแล้ว”

“แล้วเรื่องโจรทวีปทองจะเอายังไง?” หนึ่งในผู้อาวุโสถามอย่างกังวลใจและคนอื่นพยักหน้าตาม

ฉากภาพของประมุขผู้อาวุโสโกรธยังคงแจ่มชัดในใจของพวกเขา  ดังนั้นไม่มีใครกล้าปริปากในเวลาอย่างนั้น

“โจรทวีปทองมีความเชี่ยวชาญในการเล่นซ่อนหา  เราไม่อาจกังวลได้”  ชาร์ลส์พูดอย่างใจเย็น “สิ่งที่เราต้องทำก่อนก็คือจำกัดขอบเขตการทำงานที่พวกโจรทวีปทองจะเคลื่อนไหวได้  พวกมันเป็นแค่โจรเร่ร่อน  เมื่อพวกมันออกมานอกพื้นที่  พวกมันก็เหมือนกับปลาที่ขึ้นเขียงสี่พลโทของชุดที่สองจะเคลื่อนไหวจากสี่ทิศ เราจะกางข่ายและบีบพื้นที่โจรทวีปทอง ข้าต้องการให้พวกท่านทั้งหมดเตรียมกับดักสำหรับโจรทวีปทอง  เมื่อพวกมันติดกับเราสามารถทำให้พวกมันหมดแรงด้วยกองกำลังท้องถิ่นไม่กี่กองได้”

“ทำไมไม่จัดการกับพวกมันโดยตรงเล่า?”  หนึ่งในผู้อาวุโสถาม

“เวลา”ชาร์ลส์กอปรไปด้วยสติปัญญาที่ไม่ธรรมดา และตอบอย่างไม่อนาทร “เรามีเวลาจำกัด  ที่สำคัญมากกว่า กำลังคนของเรามีงานล้นมืออยู่แล้ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกฝีมือดี  เราต้องใช้กองทัพท้องถิ่นแทนในแง่ความอุดมสมบูรณ์ พลังต่อสู้ของพวกเขาไม่สามารถช่วยเสริมกำลังให้แนวหน้า  ในเมื่อเป็นอย่างนั้นทำไมเราต้องทอนกำลังของทหารฝีมือดีที่มีค่าของเราด้วยเล่า?”

ผู้อาวุโสทุกคนมองเห็นแสงสว่างและผงกหัวตาม

“อย่างนั้นทำไมเราต้องให้คอลลินเร่งมือด้วยเล่า?”  ใครบางคนถาม

ชาร์ลส์ตอบ “เมื่อกำลังเสริมระลอกที่สองจากไป เราจะมีเพียงท่านเจียย่าและคอลลิน ท่านเจียย่าขยับไปไหนไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้าคอลลินไม่คลี่คลายปัญหาทวีปทุ่งขาวให้ได้ก่อน  ก็หมายความว่าทวีปกวงหมิงจะว่างเปล่าสิ้นเชิง ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเราจะไม่มีคนสู้เพื่อเราเลย.”

ครั้งนี้ ไม่มีใครมีความเห็นอื่น

คอลลินได้รับคำสั่งจากวิหารก็ไม่พูดอะไรมาก  เขาเข้าใจชัดเจนดีถึงสถานการณ์ปัจจุบันของทวีปกวงหมิง  จากเท่าที่เห็นเขารู้ว่าทวีปกวงหมิงอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดและเป็นช่วงสำคัญและวิกฤติมากที่สุด

แม้ว่าคำสั่งของวิหารจะทำให้เขาลำบากมากขึ้นก็ตาม  แต่สถานการณ์บังคับเขาไม่ลังเลใจและเคลื่อนกำลังทันที

หน่วยสอดแนมที่ส่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องกลับมาส่งข่าว

เป็นพวกเดนตายในแดนบาปจริงๆ!  แต่ไม่ใช่ทวีปทุ่งขาว  กลับเป็นทวีปรกร้าง

สถานที่กองทัพแดนบาปตั้งอยู่นั้นมีป้อมรบสร้างขึ้นมีการรักษาความปลอดภัยหนาแน่น สิ่งที่ไม่มีใครคาดก็คือทวีปรกร้างถูกเปลี่ยนเป็นที่คล้ายกับแดนบาป  พลังงานทั่วทวีปรกร้างเบาบางมาก  และหน่วยสอดแนมที่เข้าไปไม่สามารถปรับตัวได้

สีหน้าของคอลลินเคร่งเครียดทันที

เขาคิดถึงสถานการณ์ทุกรูปแบบมาก่อน  แต่เขาไม่เคยคิดว่าแดนบาปจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของพลังงานได้

‘นี่จะไม่ใช่การสู้รบที่ดี

“เป้าหมายมุ่งสู่ทวีปทุ่งขาวเร่งความเร็วเต็มที่!”

คำสั่งถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว และกองทัพใหญ่เร่งความเร็วมุ่งหน้าสู่ทวีปทุ่งขาว คอลลินตันสินใจรักษาการณ์ในทวีปทุ่งขาวและดูว่าทวีปรกร้างเปลี่ยนไปยังไง  ถ้าพลังงานเบาบางจริงๆ อาจเป็นปัญหาใหญ่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติ

เมื่อกองทัพใหญ่ของคอลลินมาถึงทวีปทุ่งขาว  เขาตะลึงกับฉากภาพที่ว่างเปล่าและรกร้าง

ดูเหมือนว่าไม่มีคนในทวีปทุ่งขาวแม้แต่คนเดียว  ทุกเมืองว่างเปล่า  หลังจากเหตุการณ์โจรทวีปทองบุก  ประชากรของทวีปทุ่งขาวเริ่มลดน้อยลง  และทวีปทุ่งขาวอยู่ใกล้กับทวีปรกร้าง  นักสู้แดนบาปหลายคนปรากฏตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้มีความแตกตื่นมากประชาชนเตรียมเป็นผู้ชมก็ยังเลือกที่จะจากไป และนี่คือภาพทั่วไปที่เห็นในที่ต่างๆ ของภูมิภาคตะวันตก

หน้าของคอลลินหมอง เขาไม่เคยเห็นภาพที่รกร้างตกต่ำในทวีปกวงหมิงมาก่อน

‘นี่ยังเป็นทวีปกวงหมิงที่เจริญรุ่งเรืองและปลอดภัยใช่หรือไม่?’

ทุกเมืองที่เขาพบมีแต่ความว่างเปล่า ทำให้กำลังใจของทหารได้รับผลกระทบและตกต่ำลง  ทวีปกวงหมิงไม่เคยย่ำแย่ภายใต้การโจมตีของโจรมาก่อน

อารมณ์ที่พวกสังเกตการณ์รู้สึกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ข้าไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนเลยจริงๆ!”

“ถูกแล้วครั้งสุดท้ายที่ข้ามาที่นี่ ยังมีเรือขุดแร่อยู่หลายลำ แต่ตอนนี้หลังจากบินมาเป็นเวลานาน ข้ายังไม่พบใครสักคน เหมือนกับเป็นทวีปว่างเปล่า น่ากลัวมากจริงๆ”

“เพราะเจ้าพูดอย่างนั้นทำเอาข้าหนาวสันหลังวาบ”

“พวกเจ้าทุกคนหุบปากซะ!”

หน่วยสอดแนมทั้งหมดหน้าเคร่งขรึมขณะที่มองหน้ากันเอง

“ข้าคิดว่าแค่นี้ก็มากเกินพอแล้วเรากลับกันเถอะ” หนึ่งในหน่วยสอดแนมอดส่งเสียงอย่างขลาดกลัวมิได้

“เรายังทำภารกิจสอดแนมไม่สำเร็จเลย...”  หัวหน้าหน่วยลังเล

“ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวยังมีอะไรให้สืบดู” หน่วยสอดแนมอีกคนหนึ่งหน้าซีดขาว หลังจากบินมาสามวัน  พวกเขาไม่เห็นแม้แต่วิญญาณหรือสิ่งมีชีวิต  ประสบการณ์แบบนั้นน่ากลัวแน่นอน

“ข้างหน้าคือสุสานเรือรบ” หนึ่งในหน่วยสอดแนมที่เข้ามาในทวีปทุ่งขาวพูดขึ้นก่อน  “เนื่องจากเมืองว่างเปล่า  ข้าเชื่อว่าคงไม่มีแม้แต่ผีอยู่ในสุสานแน่  เราน่าจะเพ่งความสนใจไปที่ทวีปรกร้างการรบครั้งนี้คงจะไม่ง่าย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวหน้ากลุ่มไม่พูดปฏิเสธ  “ก็ได้ เรากลับกันเราจะไปตรวจสอบส่วนที่สำคัญของเมืองระหว่างทางกลับนั่นเป็นที่ดีที่สุดสำหรับซุ่มโจมตี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด